ไม่ได้อกหัก
ชมจันทร์....
"ตกลงชมยอมเป็นแฟนกับผมแล้วนะ" หมอพีถามฉันอีกครั้งเหมือนเขายังไม่แน่ใจ
"ค่ะ แต่ใจจริงแล้วชมอยากบอกหมอว่าให้เราลองศึกษาดูใจกันก่อนก่อนที่เราจะคบหรือจะเรียกกันว่าแฟนแต่ชมก็พูดออกไปแล้วว่าชมตกลงจะคบกับหมอก็ตามนั้นเลยละกันค่ะ " ฉันเป็นคนติดนิสัยคิดเร็วพูดเร็วพอพูดออกไปแบบนั้นแล้วก็ไม่อยากถอนคำพูด
"ทำไมชมพูดเหมือนกับว่าชมยังไม่พร้อมที่จะคบกับผมเท่าไหร่"
"ก็อย่างที่ชมพอบอกหมอไปคือชมกลัวว่าเราจะไม่กันไม่รอด ชมบอกหมอตามตรงเลยนะคะว่าชมไม่เคยคบใครไม่เคยมีแฟนชมไม่รู้ว่าการมีแฟนเราต้องทำตัวยังไงจะเป็นตัวเองหรือต้องปรับตัวอะไรยังไงบ้าง"
"เป็นแบบที่คุณเป็นนั่นแล่ะดีที่สุดแล้วไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลยเพราะที่ผมชอบชมเพราะชมเป็นชม"
"ขอบคุณนะคะหมอ แต่...ถ้าเราคบกันไปแล้วแล้วมันไปกันไม่รอดเราก็ต้องยอมรับความจริงนะคะ" ถึงฉันจะชอบหมอพีแต่ฉันก็ต้องเผื่อใจไว้เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ดูอย่างพ่อกับแม่ของฉันสิอยู่กินด้วยกันมาเป็นสิบๆปีพ่อไม่เคยมีเรื่องนอกใจแม่เลยสักครั้งแต่จู่ๆพ่อก็ไปมีเมียใหม่มันเลยทำให้แม่เตรียมตัวเตรียมใจไม่ทันสุดท้ายก็มาตรอมใจ ฉันไม่อยากเป็นแบบแม่ฉันรู้ว่าแม่ทรมานใจมากแค่ไหนตอนที่รู้ความจริงเรื่องพ่อเพราะแบบนี้ฉันถึงเป็นคนที่รักใครยากมาก ในชีวิตของฉันที่ผ่านมาฉันชอบผู้ชายอยู่แค่สองคนเท่านั้นนั่นก็คือคิมหันต์กับหมอพีแต่ถึงแม้จะชอบมากแค่ไหนฉันก็จะเผื่อใจไว้ทุกครั้ง เหมือนตอนที่รู้ว่าคิมหันต์แต่งงานมีภรรยาแล้วฉันก็ทำใจไม่นาน หมอพีก็เหมือนกันถ้าวันหนึ่งเราไปกันไม่ได้ต้องเลิกรากันฉันคิดว่าฉันทำใจได้ไม่ยาก ถามว่าฉันมั่นใจมากแค่ไหนกับความรักครั้งนี้จะบอกว่าห้าสิบห้าสิบจะได้ไหมไม่ผิดใช่ไหมเพราะฉันต้องเผื่อใจเอาไว้อุปสรรคมันย่อมมีอยู่แล้วด่านแรก็คือแม่ของหมอพีนั่นเองถึงแม้หมอพีจะยืนยันกับฉันแล้วว่าแม่ของเขาจะไม่มาก้าวก่ายเรื่องของเราหรือว่ามาหาเรื่องฉันแต่คนเป็นแม่ยิ่งแม่ที่รักและหวงลูกชายอย่างแม่หมอพีฉันเชื่อว่าท่านไม่ยอมให้ฉันกับหมอพีคบกันได้ง่ายๆหรอกแต่ฉันก็อยากลองดูแค่นั้นเองฉันไม่อยากมาเสียดายภายหลังน่ะว่าทำไมตอนนั้นฉันไม่เลือกคบหมอพี สู้คบไปเลยดีกว่าจะรอดหรือจะร่วงให้มันเป็นเรื่องของอนาคต
"ผมมั่นใจว่าเราสองคนต้องไปกันรอด ผมวางแผนเรื่องของเราไว้แล้วนะชมผมอยากจะแต่งงานกับชมอยากสร้างครอบครัวที่มีความสุขด้วยกันมีลูกที่น่ารักแล้วผมสัญญาว่าผมจะไม่บังคับลูก ลูกอยากทำอะไรอยากเป็นอะไรผมจะตามใจแกทุกอย่าง" หมอพีพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแววตาของเขาดูมีความสุขแต่สำหรับฉันมันเป็นอะไรที่ไกลตัวมาก ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยฉันไม่เคยคิดเรื่องการมีครอบครัวเพราะอดีตมันทำให้ฉันกลัว ตั้งแต่ที่แม่จากไปแล้วฉันต้องอยู่คนเดียวในตอนนั้นเพราะน้าสาวของฉันต้องกลับไปทำงานที่เกาหลีฉันก็กลายเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นทั้งที่แต่ก่อนฉันเป็นคนอ่อนแอมากยอมคนมาตลอด
"ทำไมเงียบไปล่ะมีอะไรหรือเปล่า" หมอพีถามฉันเพราะฉันเงียบไปนาน
"ชมไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เอาเป็นว่าเราลองมาคบกันก่อนดีกว่านะคะเรื่องแต่งงานเอาไว้เป็นเรื่องของอนาคต"
"ก็ได้ครับชมว่าไงผมก็ว่างั้น ขอแค่ชมยอมคบกับผมผมก็พอใจแล้ว^^" หมอพียิ้มให้ฉันก่อนที่เราจะเริ่มลงมือทานอาหารกลางวันด้วยกัน
วันต่อมา....
"สรุปแกตอบตกลงเป็นแฟนหมอพีงั้นเหรอชม" ยัยพินถามฉันหลังจากที่ฉันบอกกับมันว่าฉันตอบตกลงเป็นแฟนกับหมอพี
"อื้มมมม"
"แกตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมชม" สีหน้ามันดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ฉันรู้ว่ามันไม่เคยเชียร์ให้ฉันคบกับหมอพีแต่ฉันชอบเขาไงเรื่องความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้
"อื้มมม ฉันไม่อยากปิดโอกาสตัวเอง แกก็รู้ว่าฉันชอบหมอพีมานานแล้วเขาเองก็ชอบฉันเหมือนกันฉันก็เลยอยากลองให้โอกาสทั้งตัวฉันและหมอพีดูฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันจะไปรอดไหมเพราะแม่ของหมอพีไม่ชอบขี้หน้าฉันแต่ฉันก็อยากลองดูอยู่ดีแล่ะ และที่สำคัญ....ใครบางคนจะได้เลิกมาตามตอแยฉันสักทีถ้ารู้ว่าฉันมีแฟนแล้ว" พอเอ่ยถึงคนๆนั้นใจฉันก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
"แกหมายถึงคุณอาร์ตเหรอ"
"ก็จะใครที่ไหนอีกล่ะมีอยู่คนเดียว"
"เห้ออ สงสารคุณอาร์ตจังตามจีบแกตั้งหลายปีสุดท้ายก็ต้องกินแห้ว" ยัยพินทำหน้าเสียดายจนฉันอดหมั่นไส้ไม่ได้
"แกไม่ต้องสงสารคนอย่างนายนั่นหรอกถ้าฉันเล่าให้แกฟังว่าฉันได้ยินอะไรมาแกจะเลิกสงสารนายนั่นทันที"
"ก็แกไม่เล่าแล้วฉันจะรู้ไหมล่ะว่าคุณอาร์ตเขาทำอะไรให้แกโกรธไม่พอใจ บอกตามตรงนะว่าฉันเสียดายคุณอาร์ต"
สุดท้ายฉันก็เล่าทุกอย่างที่ได้ยินมาให้ยัยพินฟังมันจะได้เลิกสงสารนายนั่นเสียทีเพราะฉันรำคาญที่ต้องฟังมันพูดว่าสงสารอย่างงั้นสงสารอย่างงี้
"แกแน่ใจเหรอว่าฟังมาไม่ผิด" ฉันถึงกับถอนหายใจแรงเมื่อยัยพินถามเหมือนมันไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด
"ฉันได้ยินเต็มสองรูหู คนดีของแกไม่ได้จริงจังกับฉันเขาแค่อยากเอาชนะฉันเท่านั้นเอง" คิดแล้วก็โกรธฉันว่าฉันจะเลิกคิดแล้วนะแต่ก็อดไม่ได้จริงๆทำไมฉันต้องแคร์คำพูดแคร์สิ่งที่นายนั่นทำด้วย
"เป็นไปได้เหรอฉันว่าคุณ...."
"พอๆเลิกพูดเรื่องนายนั่นฉันขี้เกียจได้ยินฉันจะทำงานต่อ" ฉันเลิกสนใจยัยพินแล้วนั่งก้มหน้าก้มตาตรวจแฟ้มประวัติคนไข้
"แต่ฉันว่าฉันดูคนไม่ผิดนะคุณอาร์ตเค้าดูชอบแกจริงๆนะชมฉันว่าเขาไม่ได้หลอกอะไรแกหรอก อะ เอ่อฉันเลิกพูดถึงคุณอาร์ตก็ได้" พอฉันทำตาขวางใส่ยัยพินมันก็ยิ้มแหยๆก่อนจะยอมเงียบแล้วเลิกพูด
อีกด้านหนึ่ง...
"หึ คิดไว้ไม่มีผิด" น้ำเสียงแข็งกร้าวเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินหญิงสาวทั้งสองคนคุยกันสายตาคมจ้องไปที่ร่างบางที่ยืนยิ้มให้เพื่อนด้วยความรู้สึกโกรธและไม่พอใจ
อาร์ต....
"ไอ้อาร์ตมึงรู้ตัวป่ะว่ามึงอ่ะสภาพเหมือนคนอกหัก" ไอ้แมคถามผม
"กูเนี่ยนะอกหัก??" ผมชี้มาที่ตัวเองโดยที่มืออีกข้างถือแก้วเหล้าอยู่
"เออดิสภาพมึงแม่งคนอกหักชัดๆ"
"คนอย่างกูไม่เคยอกหัก"
"แล้วที่มึงแดกเหล้ามาสามสี่วันติดนี่คือยังไงปกติมึงไม่แดกขนาดนี้"
"กูอยากแดกกูก็แดก กูแดกกูก็จ่าย"
"กูไม่ได้หมายถึงจ่ายหรือไม่จ่ายถึงมึงจะแดกจนหมดร้านกูก็ไม่ว่าแต่กูสงสารตับมึงเล่นแดกข้ามวันข้ามคืนเมาละก็หลับตื่นมาก็แดกเหล้าต่อกูถามจริงมึงอกหักใช่ไหม"
"กูบอกว่ากูไม่ได้อกหักมึงนี่พูดมากจังวะ อ่ะแดกซะจะได้เงียบ ลำคาญ" ผมเทเหล้าใส่แก้วแล้ววางไว้ตรงหน้าไอ้แมคเพื่อที่จะให้มันกินแล้วจะได้หุบปากเลิกถามมากสักทีผมบอกไม่ได้อกหักก็เสือกไม่เชื่อ
"กูว่ามึงอกหักจากพยาบาลคนสวยชัวร์พันเปอร์เซ็นต์" พอมันพูดจบผมก็มองหน้ามันทันที
"คำว่าอกหักไม่เคยอยู่ในพจนานุกรมชีวิตกูจำไว้ไอ้แมค" ระดับผมสะกดคำนั้นไม่เป็นอยู่แล้วเพราะผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับชมจันทร์ขนาดนั้น ผมแค่...รู้สึกว่าชีวิตเหมือนขาดอะไรไป ปกติผมต้องได้เจอหน้าชมจันทร์ทุกวันแต่นี่ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วที่ผมไม่ได้เจอหน้าเพราะเธอสั่งห้ามไม่ให้ผมไปหาห้ามเสนอหน้าให้เห็นซึ่งผมก็ทำตามที่เธอต้องการไม่ให้ไปเจอก็ไม่ไป
"พี่อาร์ตขาาาามิเกลมาแล้วค่าาาา" มิเกลหญิงสาวคนล่าสุดที่ผมเพิ่งซื้อคอนโดให้มาพอดีเพราะผมนัดให้มาหา เธอเดินมานั่งบนตักก่อนจะโน้มตัวเข้าหาแล้วจูบซึ่งผมก็สนองความต้องการของเธอ นี่แล่ะคนที่จะทำให้ผมลืมใครบางคน
พี่อาร์ตคนดีใครเชียร์อยู่บ้าง อิอิ
ปล.เรื่องนี้จะไม่ยืดเยื้อมากไรท์จะเดินเรื่องไวนิดนึงนะคะ อ่านฟรีอัพจบติดเหรียญเหมือนเดิม
ปล. ช่วงนี้ไรท์ยังทำงานอยู่น๊าาอาจจะมาๆหายๆแต่อีกไม่นานไรท์จะกลับมาอัพรัวๆทุกวันเหมือนเดิม รอหน่อยน๊าาา
ชมจันทร์....
"ตกลงชมยอมเป็นแฟนกับผมแล้วนะ" หมอพีถามฉันอีกครั้งเหมือนเขายังไม่แน่ใจ
"ค่ะ แต่ใจจริงแล้วชมอยากบอกหมอว่าให้เราลองศึกษาดูใจกันก่อนก่อนที่เราจะคบหรือจะเรียกกันว่าแฟนแต่ชมก็พูดออกไปแล้วว่าชมตกลงจะคบกับหมอก็ตามนั้นเลยละกันค่ะ " ฉันเป็นคนติดนิสัยคิดเร็วพูดเร็วพอพูดออกไปแบบนั้นแล้วก็ไม่อยากถอนคำพูด
"ทำไมชมพูดเหมือนกับว่าชมยังไม่พร้อมที่จะคบกับผมเท่าไหร่"
"ก็อย่างที่ชมพอบอกหมอไปคือชมกลัวว่าเราจะไม่กันไม่รอด ชมบอกหมอตามตรงเลยนะคะว่าชมไม่เคยคบใครไม่เคยมีแฟนชมไม่รู้ว่าการมีแฟนเราต้องทำตัวยังไงจะเป็นตัวเองหรือต้องปรับตัวอะไรยังไงบ้าง"
"เป็นแบบที่คุณเป็นนั่นแล่ะดีที่สุดแล้วไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเลยเพราะที่ผมชอบชมเพราะชมเป็นชม"
"ขอบคุณนะคะหมอ แต่...ถ้าเราคบกันไปแล้วแล้วมันไปกันไม่รอดเราก็ต้องยอมรับความจริงนะคะ" ถึงฉันจะชอบหมอพีแต่ฉันก็ต้องเผื่อใจไว้เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ดูอย่างพ่อกับแม่ของฉันสิอยู่กินด้วยกันมาเป็นสิบๆปีพ่อไม่เคยมีเรื่องนอกใจแม่เลยสักครั้งแต่จู่ๆพ่อก็ไปมีเมียใหม่มันเลยทำให้แม่เตรียมตัวเตรียมใจไม่ทันสุดท้ายก็มาตรอมใจ ฉันไม่อยากเป็นแบบแม่ฉันรู้ว่าแม่ทรมานใจมากแค่ไหนตอนที่รู้ความจริงเรื่องพ่อเพราะแบบนี้ฉันถึงเป็นคนที่รักใครยากมาก ในชีวิตของฉันที่ผ่านมาฉันชอบผู้ชายอยู่แค่สองคนเท่านั้นนั่นก็คือคิมหันต์กับหมอพีแต่ถึงแม้จะชอบมากแค่ไหนฉันก็จะเผื่อใจไว้ทุกครั้ง เหมือนตอนที่รู้ว่าคิมหันต์แต่งงานมีภรรยาแล้วฉันก็ทำใจไม่นาน หมอพีก็เหมือนกันถ้าวันหนึ่งเราไปกันไม่ได้ต้องเลิกรากันฉันคิดว่าฉันทำใจได้ไม่ยาก ถามว่าฉันมั่นใจมากแค่ไหนกับความรักครั้งนี้จะบอกว่าห้าสิบห้าสิบจะได้ไหมไม่ผิดใช่ไหมเพราะฉันต้องเผื่อใจเอาไว้อุปสรรคมันย่อมมีอยู่แล้วด่านแรก็คือแม่ของหมอพีนั่นเองถึงแม้หมอพีจะยืนยันกับฉันแล้วว่าแม่ของเขาจะไม่มาก้าวก่ายเรื่องของเราหรือว่ามาหาเรื่องฉันแต่คนเป็นแม่ยิ่งแม่ที่รักและหวงลูกชายอย่างแม่หมอพีฉันเชื่อว่าท่านไม่ยอมให้ฉันกับหมอพีคบกันได้ง่ายๆหรอกแต่ฉันก็อยากลองดูแค่นั้นเองฉันไม่อยากมาเสียดายภายหลังน่ะว่าทำไมตอนนั้นฉันไม่เลือกคบหมอพี สู้คบไปเลยดีกว่าจะรอดหรือจะร่วงให้มันเป็นเรื่องของอนาคต
"ผมมั่นใจว่าเราสองคนต้องไปกันรอด ผมวางแผนเรื่องของเราไว้แล้วนะชมผมอยากจะแต่งงานกับชมอยากสร้างครอบครัวที่มีความสุขด้วยกันมีลูกที่น่ารักแล้วผมสัญญาว่าผมจะไม่บังคับลูก ลูกอยากทำอะไรอยากเป็นอะไรผมจะตามใจแกทุกอย่าง" หมอพีพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแววตาของเขาดูมีความสุขแต่สำหรับฉันมันเป็นอะไรที่ไกลตัวมาก ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยฉันไม่เคยคิดเรื่องการมีครอบครัวเพราะอดีตมันทำให้ฉันกลัว ตั้งแต่ที่แม่จากไปแล้วฉันต้องอยู่คนเดียวในตอนนั้นเพราะน้าสาวของฉันต้องกลับไปทำงานที่เกาหลีฉันก็กลายเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นทั้งที่แต่ก่อนฉันเป็นคนอ่อนแอมากยอมคนมาตลอด
"ทำไมเงียบไปล่ะมีอะไรหรือเปล่า" หมอพีถามฉันเพราะฉันเงียบไปนาน
"ชมไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เอาเป็นว่าเราลองมาคบกันก่อนดีกว่านะคะเรื่องแต่งงานเอาไว้เป็นเรื่องของอนาคต"
"ก็ได้ครับชมว่าไงผมก็ว่างั้น ขอแค่ชมยอมคบกับผมผมก็พอใจแล้ว^^" หมอพียิ้มให้ฉันก่อนที่เราจะเริ่มลงมือทานอาหารกลางวันด้วยกัน
วันต่อมา....
"สรุปแกตอบตกลงเป็นแฟนหมอพีงั้นเหรอชม" ยัยพินถามฉันหลังจากที่ฉันบอกกับมันว่าฉันตอบตกลงเป็นแฟนกับหมอพี
"อื้มมมม"
"แกตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมชม" สีหน้ามันดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ฉันรู้ว่ามันไม่เคยเชียร์ให้ฉันคบกับหมอพีแต่ฉันชอบเขาไงเรื่องความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้
"อื้มมม ฉันไม่อยากปิดโอกาสตัวเอง แกก็รู้ว่าฉันชอบหมอพีมานานแล้วเขาเองก็ชอบฉันเหมือนกันฉันก็เลยอยากลองให้โอกาสทั้งตัวฉันและหมอพีดูฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันจะไปรอดไหมเพราะแม่ของหมอพีไม่ชอบขี้หน้าฉันแต่ฉันก็อยากลองดูอยู่ดีแล่ะ และที่สำคัญ....ใครบางคนจะได้เลิกมาตามตอแยฉันสักทีถ้ารู้ว่าฉันมีแฟนแล้ว" พอเอ่ยถึงคนๆนั้นใจฉันก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
"แกหมายถึงคุณอาร์ตเหรอ"
"ก็จะใครที่ไหนอีกล่ะมีอยู่คนเดียว"
"เห้ออ สงสารคุณอาร์ตจังตามจีบแกตั้งหลายปีสุดท้ายก็ต้องกินแห้ว" ยัยพินทำหน้าเสียดายจนฉันอดหมั่นไส้ไม่ได้
"แกไม่ต้องสงสารคนอย่างนายนั่นหรอกถ้าฉันเล่าให้แกฟังว่าฉันได้ยินอะไรมาแกจะเลิกสงสารนายนั่นทันที"
"ก็แกไม่เล่าแล้วฉันจะรู้ไหมล่ะว่าคุณอาร์ตเขาทำอะไรให้แกโกรธไม่พอใจ บอกตามตรงนะว่าฉันเสียดายคุณอาร์ต"
สุดท้ายฉันก็เล่าทุกอย่างที่ได้ยินมาให้ยัยพินฟังมันจะได้เลิกสงสารนายนั่นเสียทีเพราะฉันรำคาญที่ต้องฟังมันพูดว่าสงสารอย่างงั้นสงสารอย่างงี้
"แกแน่ใจเหรอว่าฟังมาไม่ผิด" ฉันถึงกับถอนหายใจแรงเมื่อยัยพินถามเหมือนมันไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด
"ฉันได้ยินเต็มสองรูหู คนดีของแกไม่ได้จริงจังกับฉันเขาแค่อยากเอาชนะฉันเท่านั้นเอง" คิดแล้วก็โกรธฉันว่าฉันจะเลิกคิดแล้วนะแต่ก็อดไม่ได้จริงๆทำไมฉันต้องแคร์คำพูดแคร์สิ่งที่นายนั่นทำด้วย
"เป็นไปได้เหรอฉันว่าคุณ...."
"พอๆเลิกพูดเรื่องนายนั่นฉันขี้เกียจได้ยินฉันจะทำงานต่อ" ฉันเลิกสนใจยัยพินแล้วนั่งก้มหน้าก้มตาตรวจแฟ้มประวัติคนไข้
"แต่ฉันว่าฉันดูคนไม่ผิดนะคุณอาร์ตเค้าดูชอบแกจริงๆนะชมฉันว่าเขาไม่ได้หลอกอะไรแกหรอก อะ เอ่อฉันเลิกพูดถึงคุณอาร์ตก็ได้" พอฉันทำตาขวางใส่ยัยพินมันก็ยิ้มแหยๆก่อนจะยอมเงียบแล้วเลิกพูด
อีกด้านหนึ่ง...
"หึ คิดไว้ไม่มีผิด" น้ำเสียงแข็งกร้าวเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินหญิงสาวทั้งสองคนคุยกันสายตาคมจ้องไปที่ร่างบางที่ยืนยิ้มให้เพื่อนด้วยความรู้สึกโกรธและไม่พอใจ
อาร์ต....
"ไอ้อาร์ตมึงรู้ตัวป่ะว่ามึงอ่ะสภาพเหมือนคนอกหัก" ไอ้แมคถามผม
"กูเนี่ยนะอกหัก??" ผมชี้มาที่ตัวเองโดยที่มืออีกข้างถือแก้วเหล้าอยู่
"เออดิสภาพมึงแม่งคนอกหักชัดๆ"
"คนอย่างกูไม่เคยอกหัก"
"แล้วที่มึงแดกเหล้ามาสามสี่วันติดนี่คือยังไงปกติมึงไม่แดกขนาดนี้"
"กูอยากแดกกูก็แดก กูแดกกูก็จ่าย"
"กูไม่ได้หมายถึงจ่ายหรือไม่จ่ายถึงมึงจะแดกจนหมดร้านกูก็ไม่ว่าแต่กูสงสารตับมึงเล่นแดกข้ามวันข้ามคืนเมาละก็หลับตื่นมาก็แดกเหล้าต่อกูถามจริงมึงอกหักใช่ไหม"
"กูบอกว่ากูไม่ได้อกหักมึงนี่พูดมากจังวะ อ่ะแดกซะจะได้เงียบ ลำคาญ" ผมเทเหล้าใส่แก้วแล้ววางไว้ตรงหน้าไอ้แมคเพื่อที่จะให้มันกินแล้วจะได้หุบปากเลิกถามมากสักทีผมบอกไม่ได้อกหักก็เสือกไม่เชื่อ
"กูว่ามึงอกหักจากพยาบาลคนสวยชัวร์พันเปอร์เซ็นต์" พอมันพูดจบผมก็มองหน้ามันทันที
"คำว่าอกหักไม่เคยอยู่ในพจนานุกรมชีวิตกูจำไว้ไอ้แมค" ระดับผมสะกดคำนั้นไม่เป็นอยู่แล้วเพราะผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับชมจันทร์ขนาดนั้น ผมแค่...รู้สึกว่าชีวิตเหมือนขาดอะไรไป ปกติผมต้องได้เจอหน้าชมจันทร์ทุกวันแต่นี่ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วที่ผมไม่ได้เจอหน้าเพราะเธอสั่งห้ามไม่ให้ผมไปหาห้ามเสนอหน้าให้เห็นซึ่งผมก็ทำตามที่เธอต้องการไม่ให้ไปเจอก็ไม่ไป
"พี่อาร์ตขาาาามิเกลมาแล้วค่าาาา" มิเกลหญิงสาวคนล่าสุดที่ผมเพิ่งซื้อคอนโดให้มาพอดีเพราะผมนัดให้มาหา เธอเดินมานั่งบนตักก่อนจะโน้มตัวเข้าหาแล้วจูบซึ่งผมก็สนองความต้องการของเธอ นี่แล่ะคนที่จะทำให้ผมลืมใครบางคน