ตอบตกลง
ชมจันทร์....
"วันนี้เวรหมอพีตรวจคนไข้แล้วแกก็เป็นพยาบาลผู้ช่วยแกเตรียมคำตอบไว้แล้วใช่ไหมยัยชมเพราะฉันว่าหมอพีต้องเอาคำตอบจากแกแน่ๆ " ยัยพินถามฉันขณะช่วยกันเตรียมชาร์ตคนไข้ที่ต้องตรวจวันนี้
"อื้มมม" ฉันตอบโดยที่มือยังจัดเรียงชาร์ต
"แกจะตอบตกลงหรือปฏิเสธอ่ะ"
"ไม่บอก" ฉันตอบหน้าตาย
"ยัยชมแกมีความลับกับฉันเหรอห๊ะ ฉันน้อยใจแกแล้วนะ"
"ไว้เดี๋ยวแกก็รู้เองนั่นแล่ะ"
"โอเคโอเคจ้าาาา"
เวลาต่อมา...
"สวัสดีค่ะหมอพีไม่เจอกันหลายวันเลยนะคะไปดูงานมาเป็นยังไงบ้างคะเรียบร้อยดีมั้ยคะ^^" ยัยพินทักหมอพีคนแรกเมื่อเขาเดินมาหาโดยที่มือของหมอพีมีถุงกระดาษหลายใบที่หิ้วมาถ้าให้เดาน่าจะเป็นของฝากเพราะทุกครั้งที่เขาไปดูงานไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศเขามักจะมีของฝากมาฝากทุกครั้ง
"สบายดีครับคุณก็สบายดีนะ"
"สบายดีค่า^^"
"แล้วคุณล่ะชมสบายดีมั้ยครับ" หมอพีหันมาถามฉัน
"สบายดีค่ะ"
"ดีแล้วครับ อ่ะนี่ของฝากสำหรับทุกคนผมเขียนชื่อกำกับไว้หมดแล้วว่าของใครเป็นของใคร ผมฝากคุณพินเอาไปให้กับทุกคนด้วยนะครับเพราะเดี๋ยวผมต้องไปตรวจคนไข้ต่อ" หมอพียื่นถุงกระดาษที่หิ้วมาให้กับยัยพินยัยพินก็รีบเอื้อมมือไปรับมาอย่างไว
"ได้ค่าขอบคุณนะคะสำหรับของฝาก เอ่อว่าแต่อีกถุงนั่นของใครเหรอคะ" ยัยพินถามหมอพีเพราะมันยังเหลืออีกหนึ่งถุงที่หมอพีไม่ได้ยื่นให้ยัยพิน"
"เอ่อถุงนี้ขอชมเค้าน่ะครับผมอยากมอบให้กับเขาเอง" หมอพีตอบอย่างอายๆ ก่อนจะยื่นมันมาให้ฉันฉันก็รับมาแต่ยังไม่ได้เปิดดู
"ขอบคุณนะคะ" ฉันกล่าวขอบคุณหมอพีเสร็จแล้วก็ฝากยัยพินเอาถุงใบนั้นไปเก็บที่ห้องเพราะเดี๋ยวฉันต้องไปตรวตคนไข้พร้อมกับหมอพี
"ฉันฝากแกเอาไปเก็บให้ทีนะ"
"อื้มมได้ได้" พอคล้อยหลังยัยพินไปซึ่งตอนนี้ก็เหลือแค่ฉันกับเขาสองคน หมอพีมองหน้าฉันเหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่างซึ่งฉันก็รู้แล่ะว่าเขาจะพูดอะไร
"เอ่อชมคือผม..."
"หมอพีอยากจะถามชมเรื่องนั้นใช่มั้ยคะ"
"ใช่"
"ไว้ทำงานเสร็จชมจะให้คำตอบนะคะตอนนี้เราไปตรวจคนไข้ก่อนดีกว่าค่ะ"
"ได้ครับ"
หลังจากนั้นฉันก็เดินตามหมอพีไปตรวจคนไข้ซึ่งช่วงนี้คนไข้จะเยอะมากเป็นพิเศษ ระหว่างที่ตรวจคนไข้แต่ละเตียงฉันมองดูเขาพูดคุยถามไถ่อาการของคนไข้แต่ละเตียงอย่างละเอียดและเอาใจใส่เขาไม่เคยปล่อยปละละเลยแม้แต่เตียงเดียวเขาให้ฉันจดรายละเอียดทุกอย่างอย่างถี่ถ้วน อยากจะบอกว่าหมอพีเป็นหมอที่เก่งและใจดีที่สุดในโรงพยาบาลตั้งแต่ฉันทำงานที่นี่มาฉันไม่เคยเห็นหมอพีอารมณ์เสียใส่คนไข้เลยแม้แต่คนเดียวแม้ว่าคนไข้จะเอะอะโวยวายแค่ไหนก็ตามเขาจะใจเย็นเวลาคุยกับคนไข้ ซึ่งถ้าคนไข้คนไหนไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาหมอพีก็จะเอาเงินส่วนตัวออกให้เองเพราะแบบนี้ฉันถึงได้ชอบเขาเขาทั้งเก่งทั้งเป็นคนดีสมแล้วที่เป็นทายาทเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้
และหลังจากตรวจคนไข้เตียงสุดท้ายเสร็จเรียบร้อยแล้วซึ่งมันก็เป็นเวลาพักเที่ยงพอดีหมอพีชวนฉันไปทานข้าวซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เขาชวนฉันแค่คนเดียวเพราะปกติหมอพีจะชวนคนอื่นไปด้วย
สุดท้ายเราก็เลือกมาทานข้าวที่คาเฟ่ใกล้โรงพยาบาลซึ่งสาเหตุที่เลือกที่นี่ก็เพราะที่นี่เงียบสงบบรรยากาศดีร่มรื่นคนไม่เยอะเหมาะแก่การพูดคุยเรื่องสำคัญ
"ชมคือผมอยากฟัง......" พอนั่งลงปุ๊บหมอพีก็เปิดประเด็นปั๊บแต่ฉันไม่ได้รอให้เขาถามจนจบประโยคเพราะฉันรู้ว่าเขาจะถามอะไรฉันก็เลยพูดในสิ่งที่เขารอฟัง
"ชมตกลงเป็นแฟนหมอค่ะ"
"ห๊ะ!!! คุณพูดว่าไงนะ" หมอพีทำหน้าเหวอตกใจเมื่อฉันตอบไปว่าฉันตกลงจะเป็นแฟนกับเขา
"ชมตกลงเป็นแฟนกับหมอค่ะ"
"คุณพูดจริงเหรอชม ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม คุณไม่ได้หลอกผมนะชม" หมอพีถามฉันเสียงสั่น
"ชมจะหลอกหมอทำไมคะ ชมพูดเรื่องจริง"
"ผมดีใจจังดีใจจนไม่รู้จะพูดอะไรยังไงต่อ เพราะตอนแรกผมคิดว่าคุณต้องปฏิเสธผมแน่ๆ ผมทำใจมาแล้วด้วยคุณรู้ไหม"
"ทำไมหมอถึงคิดว่าชมจะปฏิเสธล่ะคะ"
"ก็ในวันนั้นสายตาของคุณมันฟ้องว่าคุณผิดหวังในตัวผม" หมอพีตอบพร้อมทำหน้าเศร้าซึม
"วันนั้นก็ส่วนวันนั้นสิคะ แต่ชมมีเรื่องอยากจะตกลงกับคุณหมอก่อนที่เราจะเป็นแฟนกัน"
"ตกลงอะไรเหรอคุณพูดมาได้เลย"
"ถ้าเราคบกันแล้วแล้ววันนึงความรู้สึกของคุณหมอเปลี่ยนไปคุณหมออาจจะไปเจอคนที่ดีกว่าชมที่เหมาะสมกว่าชมถ้าวันนั้นมาถึงคุณหมอสามารถบอกชมมาตามตรงได้เลยนะคะไม่ต้องปิดบังชมยอมรับความจริงได้อยู่แล้วค่ะ"
"ทำไมคุณถึงคิดแบบนี้ล่ะ"
"จิตใจคนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ตลอดเวลาไม่ใช่เหรอคะวันนี้รักกันรู้สึกดีต่อกันแต่วันข้างหน้าเราอาจจะไม่รักกันเราอาจจะเกลียดกันก็ได้ใครจะไปรู้ แล้วอีกอย่างเราสองคนก็ไม่เคยศึกษาดูใจกันมาก่อนพูดง่ายๆ ก็คือเราเจอกันแค่ที่ทำงานเท่านั้นเราสองคนแทบจะไม่รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริงของแต่ละฝ่ายเลย ชมอาจจะมีนิสัยที่ไม่ดีที่หมออาจจะไม่ชอบอาจจะรับไม่ได้ก็ได้เพราะแบบนี้ชมเลยอยากทำข้อตกลงกันก่อน หมอเข้าใจที่ชมสื่อไหมคะ"
"ผมเข้าใจคุณกำลังจะบอกว่าเราสองคนยังไม่รู้จักกันดีพอใช่ไหม"
"ใช่ค่ะ"
"ก็ได้ครับผมตกลง ส่วนเรื่องแม่ของผมชมไม่ต้องเป็นห่วงนะเพราะผมพูดกับท่านแล้วว่าผมกำลังขอคุณเป็นแฟน"
"แล้วท่านว่าไงบ้างคะ"
"ก็อย่างที่คุณรู้นั่นแล่ะชมแม่ผมไม่ชอบให้ผมคบกับใครถ้าผมจะรักใครชอบใครคนๆ นั้นต้องเป็นคนที่ท่านเลือกให้เท่านั้นแต่เรื่องคุณเป็นเรื่องแรกที่ผมกล้าขัดใจท่านผมบอกกับท่านว่าผมตามใจท่านมามากพอแล้วแต่เรื่องนี้ผมขอตัดสินใจเอง แต่ถ้าท่านยังมาบงการหรือมาบังคับหรือมาก้าวก่ายทำให้คุณต้องเดือดร้อนผมไม่ยอมแน่ ถ้าผมทนไม่ไหวผมจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับพ่อและจะไม่กลับมาที่ไทยอีก คุณรู้ไหมชมมีหลายๆ ครั้งผมรู้สึกโกรธและเกลียดแม่ตัวเอง ผมมีคำถามในหัวมากมายว่าทำไมท่านต้องมาบังคับผมทุกอย่างทุกเรื่องด้วยท่านไม่เคยเข้าใจหรือรับฟังความต้องการของผมเลยสักครั้งท่านเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ใครขัดก็ไม่ได้ ผมบาปไหมชมที่เกลียดที่โกรธแม่ตัวเอง" หมอพีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแววตาของเขาดูน่ากลัวมากมือเขาเริ่มสั่นซึ่งฉันไม่เคยเห็นมาก่อน
"คุณหมอใจเย็นๆ นะคะ"
" ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของผมตั้งแต่ผมจำความได้ผมไม่เคยได้ทำตามใจตัวเลยสักครั้ง ผมต้องทำตามที่ท่านสั่งทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ รวมถึงเรื่องเรียนหมอด้วยทั้งที่ผมไม่ชอบไม่อยากเรียนเพราะมันเครียดมากๆ แต่สุดท้ายผมก็ขัดคำสั่งท่านไม่ได้ ผมไม่เคยเป็นตัวของตัวเองเลยชม"
"แต่สุดท้ายแล้วคุณหมอก็เป็นคุณหมอที่ดีนี่คะเป็นคุณหมอที่มีแต่คนรักคนไข้ทุกคนชมคุณหมอว่าคุณหมอทั้งเก่งทั้งใจดี"
"ใช่ครับเพราะกำลังใจจากพวกเขาถึงทำให้ผมอดทนมาได้ถึงทุกวันนี้ รวมถึงคุณด้วยนะชมคุณเป็นกำลังใจที่ดีของผมเลยรู้ไหม ผมรักคุณนะชมผมไม่เคยรักใครมาก่อน" หมอพีเอื้อมมือมาจับมือฉันไปกุมเอาไว้แววตาของเขาที่ตอนแรกแข็งกร้าวแต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นแววตาที่อ่อนโยนอย่างเฉียบพลัน