9
“มุก...มุก...ไม่รู้คะ” หนูมุกตอบกลับด้วยอาการสับสนอย่างเห็นได้ชัด และเลือกที่จะตรึงร่างกายของตัวเองที่เสื้อยังคงถูกเลิกขึ้นเปิดเผยอกอิ่มที่บราเปียกชื้น และยอดเกสรก็ยังชูชันตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นยังคงไหลเวียนไปทั่วร่างกาย
“ถ้า...หนูมุกยังตัดสินใจไม่ได้...พี่คงต้อง‘หยุด’...แต่จงเชื่อเถอะว่าพี่ไม่ได้ต้องการเส้นทางนี้...แต่พี่ต้องการหนูมุกที่โตเป็นผู้ใหญ่...เพราะเราไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว...เรื่องแบบนี้มีแต่ผู้ใหญ่เท่านั้นที่เขาจะทำกัน” อลันเมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาวก็ขยับตัวขึ้นมาและดึงร่างบางเข้าแนบกาย
ทั้งสองร่างต่างหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างและลมหายใจที่ต่างฝ่ายหายใจเข้าออกด้วยหัวใจที่เต้นรัวก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่ยังคงแนบชิดเบียดกายไม่มีทีท่าว่าฝ่ายใดจะถอยออก อลันดวงตาที่มองอยู่ที่ฝ้าเพดานห้องก็ยังคงนิ่ง หนูมุกที่มองเห็นเพียงเสื้อยืดสีดำเข้ารูปของพี่อลันก็ยังคงนิ่งจ้องอยู่ที่เดิม
“ครืด...ครืด...ครืด” เสียงโทรศัพท์ของอลันที่ดังขึ้นเป็นเสมือนระฆัง หนูมุกผละออกจากอลันและเอาเสื้อลงกลับคืนสภาพดั่งเดิม อลันล้วงโทรศัพท์และแสดงใบหน้าผู้ที่โทรเข้ามาเขาก็ลุกออกจากเตียง
“อดัม....” อลันคุยโทรศัพท์บอกถึงหน้าที่ที่อดัมต้องไปทำ เพราะการเซ็นสัญญาครั้งนี้ลูกค้าจะเป็นฝ่ายเดินทางมาที่ ‘ซาวันเดอร์กรุ๊ป’ คริสติน่าเธอไม่ใช่ ผู้หญิงธรรมดา ถึงแม้เธอจะเป็นนักล่าสวาทชายที่เธอพึงพอใจ แต่เธอก็ฉลาดเป็น กรดเธอมีอายุไล่เลี่ยกับเขา ตอนที่เขาได้เจอกับเธอครั้งแรกเธอแสดงออกถึงความพึงพอใจเขาอย่างเห็นได้ชัด แต่อลันไม่แม้แต่จะเคยปฎิบัติกับเธอมากกว่าคู่ค้า และในบางครั้งงานต้องล่าช้าออกไป ก็เพราะเธอคนนี้ที่พยายามจะบีบให้เขาตอบสนองสวาทกับเธอจนบางครั้งอลันต้องลงทุนหาเด็กหนุ่มที่มีอาชีพด้านนี้เป็นตัวล่อเธอ เพื่อให้มาตอบสนองความต้องการของเธอและเขาเองก็ไม่โง่ที่จะเอาเรื่องของเธอไปป่าวประกาศ เพราะถ้าเขาหาวิธีจัดการกับเธอถูกวิธีนั้นก็เป็นการเดินหน้าทางธุรกิจได้อีกมาก “พี่ไม่ห้ามอดัมหรอกเรื่องของคริสติน่า...เพราะพี่รู้ว่าอดัมสามารถจัดการได้อยู่แล้ว...ขอดีของคริสติน่าคือเธอจะไม่ติดตามนายแน่นอน...”อลันวางสายหลังจากที่คุยกับอดัมเป็นที่เข้าใจ และเขาก็ไม่คิดว่าจะต้องมีปัญหา เพราะอดัมมีอะไรในตัวมากมายเกินกว่าที่คนวัยเดียวกันจะมี สาเหตุและเหตุผลในความสามารถของอดัมนั้นคนในครอบครัวทุกคนจะรู้ดี ไม่งั้นอายุเพียงยี่สิบปีอดัมสามารถเข้ารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าแก็งมาเฟียคุมคนที่อยู่วงการนี้มานานกว่าอายุเขากับอดัมรวมกันเสียอีก
ณ สนามบิน ภูเก็ต :
“สวัสดีครับคุณอาวุฒิ” เอกวุฒิหันไปตามเสียงทักทาย
“อ้าว...คุณเขตต์...เป็นไงมาไงครับ” เอกวุฒิทักกลับผู้ที่อ่อนวัยกว่า
“ผมมาทำธุระด่วนนะครับ...แล้วคุณอากำลังไปไหนเหรอครับ”
“อืม...ไปกรุงเทพนะ...พอดีลูกสาวอากำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศนะ” เขตต์พยักหน้ารับทราบ และก็ทักทายบุตรสาวของคนรู้จักของนายบวร พ่อเลี้ยงของเขา
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับคุณอลัน” เขตต์จับมือทักทายกับอลัน ตามที่เอกวุฒิแนะนำ ส่วนหนูมุกยกมือไหว้ตามธรรมเนียมของผู้ที่อ่อนวัยกว่า
“ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” เขตต์กล่าวลาทุกคนและเดินจากไป เพราะเขาพึ่งลงมาจากเครื่องที่มาจากกรุงเทพฯปลายทางคือจังหวัดภูเก็ต
“คุณพ่อคะ...เขาใช่คนของตระกูล ‘ศิริสินธร’ ใช่มั้ยคะ?” เอกวุฒิพยักหน้าตอบรับลูกสาวและทุกคนรวมถึงอลันก็รู้ทันทีว่าเป็นคนในตระกูลที่พ่อของหนูมุกและพ่อของอลันซื้อเกาะมา
“อืม...เราอย่าไปสนใจกับคนคนนี้มากนัก...เพราะคนในสังคมเขาจะรู้ดีว่านายเขตต์ลูกเลี้ยงคุณบวรติดการพนันไม่ต่างกับผู้เป็นแม่คุณแขไขเลย” อลันที่ยืนอยู่ข้างๆเพียงแค่ฟังเฉยๆ ไม่มีความเห็นใดๆ และทั้งสามคนพร้อมมือขวาและการ์ดของอลันก็ขึ้นเครื่องตามประกาศของสนามบิน
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ :
“คุณพ่อ...มุกต้องไปแล้วนะคะ” สองพ่อลูกสวมกอดกัน
“เดินทางปลอดภัยนะ...แล้วอย่าดื้อกับพี่เขานักนะ” เอกวุฒิที่ยืนส่งบุตรสาวเพียงคนเดียว เพราะนีออนผู้เป็นแม่ขอส่งตั้งแต่ที่บ้าน เพราะเธอไม่อาจทำใจไม่ให้ร้องไห้ได้ จึงไม่ได้ติดตามมาส่งที่นี่
“ผมไปก่อนนะครับคุณพ่อ” อลันกล่าวลาพร้อมยกมือไหว้ เอกวุฒิสวมกอดอลันที่เขารักไปไม่น้อยกว่าบุตรสาวของตัวเอง
“ต่อจากนี้ไป ‘ปิ่นมุก’ เป็นของอลันแล้วดูแลน้องให้ดี ถ้าเจ้าตัวแสบดื้อมากนักก็อดทนหน่อยนะ” เอกวุฒิกล่าวฝากฝังบุตรสาวเพียงคนเดียวที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา และเอกวุฒิก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเพราะบุตรสาวอยู่ในมือคนที่เขาไว้วางใจเท่ากับที่เขาไว้วางใจตัวเอง
“ครับ” อลันรับคำ พร้อมชำเลืองไปมองหนูมุกที่น้ำตาคลอพร้อมจะไหลออกมา และก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้าไปด้านในหนูมุกก็วิ่งเข้าไปกอดเอกวุฒิอีกครั้ง และเนื่องจากหนูมุกยังไม่ยอมผละออกจากผู้เป็นพ่อ อลันจึงต้องเข้าไปและค่อยๆดึงหญิงสาวที่ยังกอดบิดาไว้แน่น เหมือนเด็กเล็กที่กำลังงอแงร้องตามพ่อกับแม่ยังไงยังงั้น
“พี่อลัน...ปล่อยมุกได้แล้ว” หนูมุกที่พยายามที่จะออกห่างจากอลันที่ยังคงเกาะเกี่ยวเอวเธอให้เบียดกับเขา
“เด็กดื้อ!” อลันไม่ปล่อยแถมยังหันไปกล่าวหาเธอ
“แล้วจะทำไม?...ปล่อยได้แล้ว” หนูมุกหันไปตอกกลับอย่างท้าทาย และยังไม่เลิกที่จะพยายามเอาตัวเองออกห่างจากอลัน เพราะเธอเริ่มรู้สึกว่าคนด้านในหันมามองเธอกับอลัน แต่คงจะเป็นอลันมากกว่าที่เป็นที่สนใจโดยเฉพาะสาวๆทั้งไทยและเทศ
“ไม่ปล่อย!...” อลันไม่สนใจยังคงดึงร่างบางเข้ามาเบียดตลอดการเดินที่จะไปขึ้นเครื่อง
“อลัน!” เสียงแหลมดังขึ้นมา เรียกความสนใจของคนในบริเวณใกล้เคียงให้หันมามองรวมทั้งหนูมุกด้วย และเมื่อเจ้าของเสียงกำลังเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาเจ้าของชื่อเธอก็ถูกขวางไว้ด้วยการ์ดของอลัน
“อ๊ะ!” ปกฉัตรร้องออกมาอย่างตกใจที่จู่ๆเธอถูกผู้ชายตัวใหญ่เข้ามาขวาง
“เพื่อนฉันเอง” อลันตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษให้คนของเขาได้รู้ และเป็นจังหวะเดียวกับที่หนูมุกหลบไปอยู่หลังอลันทันที ที่เธอเห็นว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นใคร ‘ปกฉัตร’ พี่สาวของจันทร์ฉายเพื่อนของเธอนั้นเอง
“เซอร์ไพร์มากเลยนะคะที่เจออลันที่นี่” ปกฉัตรขยับเข้าไปหาอลันทันทีที่การ์ดถอยออกไป
“ครับ...แต่ผมต้องขอตัวก่อนเพราะไฟรท์ที่ผมต้องเดินทางเขาเรียกแล้ว”
“อลัน...กำลังจะไปไหนเหรอคะ?”
“กลับอังกฤษ”
“อุ้ย!...เหรอคะดีจังเลย...เพราะฉัตรก็กลับวันนี้เหมือนกัน...อลันน่าจะบอกฉัตรนะคะว่าจะมาเมืองไทย”
“พอดีผมมาทำธุระด่วนนะครับ”
“ธุระด่วน!...อะไรคะ...บอกฉัตรได้มั้ย?”
“ผมมารับเจ้าสาวของผมนะครับ” อลันตอบด้วยเสียงราบเรียบ แต่ทำให้คนฟังตรงหน้าเขาถึงกับอึ้ง นิ่งไปแล้ว และรวมถึงคนที่หลบอยู่ด้านหลังเขาด้วยที่ตกใจไม่แพ้กันกับคำตอบของพี่ชายท้องชนกัน
“เอ่อ!...นะ...ไหนคะ?” ปกฉัตรที่เข้าสู่ภาวะช็อคก็ยังมีกำลังที่พยายามจะถามออกไป
“นี้ครับ!” อลันพูดพร้อมกับคว้าร่างบางที่อยู่ในอาการตกใจเข้ามาไว้ในอ้อมแขนเบียดสีข้างของทั้งคู่ หนูมุกที่ยังอยู่ในภาวะอึ้งๆ งงๆ ก็หันไปมองผู้หญิงตรงหน้าที่มองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แต่ก่อนที่คนที่สำรวจเธอจะได้ทันพูดอะไร...
“ขอตัวก่อนครับ!” อลันพูดตัดบทและเดินต่อไปโดยที่มีหนูมุกขยับเดินไปตามแรงลากของเขา
