EP 4 เยียด!
EP 4
...“ไอริน”...
ถึงแม้ว่าแม่จะทำลายชุดนักศึกษาของฉันโดยการเหยียบให้เปื้อน แต่ฉันก็ไม่ละความพยายามหรอก เพราะว่าฉันจะต้องสอบในครั้งนี้ให้ได้ ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันก็ต้องยืดเวลาในการเรียนออกไปอีกเป็นเทอม
“ไอริน ทำไมเสื้อเปื้อนแบบนี้”ฉันรู้จักกับเพื่อนคนหนึ่ง ที่ชื่อว่าน้ำหวานแต่ไม่ได้สนิทมาก เพราะว่าเธอดูมีฐานะไม่ใช่ว่าฉันหยิ่งหรอกนะ แต่ฉันกลัวว่าเธอจะรังเกียจฉันมากกว่า แต่ทุกครั้งที่เจอน้ำหวานจะเข้ามาคุยด้วยตลอด
“คือว่าเรา”ฉันก็ไม่รู้ว่าจะบอกกับน้ำหวานว่ายังไง ได้แต่อ้ำอึ้งๆ และในตอนนี้เป็นเวลาที่ใกล้ถึงชั่วโมงสอบของฉันแล้ว
“เราขอตัวขึ้นไปสอบก่อนนะ”ฉันรีบวิ่งหนีน้ำหวาน มาขึ้นห้องสอบ ฉันกับน้ำหวานไม่ได้ตอบตรงกันหรอก
เมื่อเข้ามาในห้องสอบสายตาผู้คนต่างพากันมอง รวมถึงอาจารย์ที่คุมสอบด้วยคือเขาก็คงมองเสื้อผ้าของฉันที่เปื้อนเนื้อตัวมอมแมมนั่นแหละ ถามว่าอายไหมอายแต่ก็ดีกว่าไม่ได้มาสอบ เลิกสนใจคนอื่นเถอะตั้งหน้าตั้งตาอ่านข้อสอบและทำให้ถูกก็พอฉันได้เพียงแต่เตือนสติตนเอง และก็ตั้งใจสอบ
“เห้อเหนื่อย”หลังจากที่สอบเสร็จฉันลงมาซื้อน้ำปั่น และนั่งดื่มอยู่คนเดียว ตรงม้าหินอ่อนในวิลัย ก็ยังคงมีคนเดินผ่านไปผ่านมาและหันมองฉันอยู่ตลอดนะ
“กินอะไรอยู่หรอ ขอนั่งด้วยคนนะ”ฉันหันไปตามเสียงที่พูดขึ้น ก็เป็นน้ำหวานนั่นแหละ ที่เดินเข้ามาพร้อมกับถุงขนมถึงเซเว่นแล้วก็น้ำปั่นอีก
“เชิญจ๊ะ แต่นั่งข้างเรากลิ่นเหม็นหน่อยนะ”
“ไม่เห็นหรอก นี่เราซื้อชาเขียวปั่นมาฝาก”รู้ไหมว่าชาเขียวแก้วนี้ราคา 60 บาทเลยเป็นชาเขียวปั่นร้านดังคือฉันจะกินน้ำปั่นในราคาแค่ 10 บาท 20 บาทเท่านั้น
“ไม่เป็นอะไร เราซื้อแล้วขอบคุณนะ”
“อันนี้มันน้ำส้มเกรดต่ำ คั้นเอามาปั่นมีแต่น้ำเชื่อมทั้งนั้น เลิกกินได้แล้วเอาชาเขียวไปกิน”น้ำหวานเธอหยิบแก้วน้ำส้มปั่นในมือของฉันออกและเอาชาเขียวที่เธอซื้อมานั้นใส่มือให้กับฉัน
“เท่าไหร่หรอ แต่เราให้เงิน”
“เราซื้อมาฝาก เราไม่ได้มาเอาเงิน กินด้วยกันนะเอาไว้รอบหน้าเธอค่อยซื้อมาฝากเรา”
“ทำไมถึงอยากคุยกับเราล่ะ ทั้งๆที่คนอื่นน่าคบกว่าเราอีกนะ”ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมน้ำหวานถึงอยากมาสนิทกับฉัน ทั้งๆที่ชีวิตของฉันนั้นไม่น่ามีคนมาคบด้วยหรอก
“ไม่รู้สิ เราคิดว่าเราถูกชะตากับเธอนะ เราพยายามคุยกับเธอหลายครั้งแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยอยากคุยกับเรา”
“เราไม่ได้หยิ่งนะน้ำหวาน คือเธอดูดีมีฐานะซึ่งแตกต่างจากเรา ที่เป็นลูกคนใช้”
“ไม่คิดแบบนั้นสิ ฉันเองก็เป็นคนเหมือนกันเธอเองก็เป็นคนเหมือนกัน เอาแบบนี้นะเราขอเป็นเพื่อนกับเธอ”น้ำหวานขยับมาใกล้ฉัน ก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างนั้นจับแขนของฉัน ดูเธอดีใจแล้วก็ตื่นเต้นไม่น่าเชื่อเนาะว่าฉันจะมีเพื่อนดีๆกับเธอด้วย
“เราไม่มีอะไรนะ”
“ไม่เอาสิไม่พูดคำว่าไม่มีอะไร เธอเป็นคนเราเป็นคน ก็มาเป็นเพื่อนกันมีอะไรก็ช่วยเหลือกัน”
“จ๊ะ!
“เย๊~อย่างนั้นวันนี้เราต้องไปฉลองต้อนรับเพื่อนใหม่แล้ว เราไปกินหมูกะทะกันไหมหรือว่าไปกินชาบูก็ได้เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”
“คือเราต้องกลับบ้าน ไปทำงานน่ะขอบคุณนะ เอาไว้มาสอบวันพรุ่งนี้แล้วค่อยซื้ออะไรมานั่งกินกัน”
“อย่างนั้นก็ได้ เราจะกลับบ้านเลยหรือเปล่าบ้านอยู่ตรงไหนหรอ”
“บ้านเราไม่มีหรอกมีแต่บ้านเจ้านาย”
“ป๊ะ! บ้านเจ้านายก็ไปตอนไหนเดี๋ยวเราไปส่งหน้าบ้าน”
“หึ้ย น้ำหวานไม่เป็นอะไรเดี๋ยวเราไปเอง”
“ห้ามปฏิเสธเพื่อนสิป๊ะ”นั่นแหละแล้วฉันก็ปฏิเสธน้ำหวาน เธออยากมาส่งฉัน ฉันก็เลยนั่งรถมากับเธอ จนมาถึงหน้าบ้านของคุณผู้ชาย
“เธอทำงานอยู่บ้านหลังนี้หรอ”
“ใช่ เราเป็นคนใช้อยู่ที่บ้านหลังนี้ ขอบใจมากๆนะ ที่มาส่งเรา”น้ำหวานพยักหน้าให้กับฉัน ก่อนที่ฉันจะเปิดประตูและลงจากรถกำลังจะเปิดประตูรั้วเข้าไปแต่น้ำหวานเรียกฉันก่อน
“ไอริน!”
“ห้ะ”
“เธอลืมสมุด”ฉันขี้ลืมจริงๆเลย ลืมสมุดไว้ในรถของน้ำหวานอีก เธอเดินลงมาจากรถและเอาสมุดยื่นให้กับฉัน ก่อนที่รถของคุณผู้ชายจะขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน มีรถของน้ำหวานจอดขวางอยู่ และคุณผู้ชายเขาก็เดินลงมาจากรถ พร้อมกับคุณสกาวเดือนน้องสาวของเขา
“พาเพื่อนมาบ้านหรอ! นี่บอกกับเพื่อนหรือเปล่าว่าเธอเป็นคนรับใช้ และบ้านหลังนี้ก็เป็นของฉัน ไม่ใช่บ้านของเธอนะ”คุณสกาวเดือนเขามักจะเหยียดฉันอยู่ตลอดเวลา สายตาตาที่จ้องและมองหน้าฉันทก่อนที่จะสลับไปมองน้ำหวาน
“ไอริน ไม่ได้พาเพื่อนมาบ้านค่ะ”
“พามาขนาดนี้แล้วยังแก้ตัวอีกหรอ”คุณผู้ชายมองหน้าของฉัน
“ไอ้ริน ไม่ได้พาน้ำหวานมาบ้านค่ะ แต่น้ำหวานแวะมาส่งไอริน เพราะว่าทางผ่านกลับบ้านพอดี”
“รับไม่ได้หรอ ที่บ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านเพื่อนของเธอ รู้ไว้นะเพื่อนของเธอเป็นเพียงแค่คนรับใช้”
“คนรับใช้แล้วยังไงหรอคะ ไม่ใช่คนเหมือนกันหรอ อย่าเหยียบคนอื่นให้มากนะ”
“แล้วมีสิทธิ์อะไรมาว่าน้องสาวของฉันถอยรถออกจากหน้าบ้านฉันได้แล้ว”คุณผู้ชายจ้องหน้าน้ำหวานและพูดในเชิงตะคอก
“น้ำหวานเราขอโทษนะ แต่เธอกลับบ้านไปก่อน”ฉันจับแขนของเพื่อน และบอกให้เพื่อนกลับบ้าน น้ำหวานพยักหน้าก่อนที่จะไปขึ้นรถ สตาร์ทรถออกไปฉันเปิดประตูรั้วให้กับคุณผู้ชายได้ขับรถเข้าไปในบ้าน
“รีบปิดประตูสิ แล้วเอาน้ำส้มคั้นมาให้ฉันด้วย”คุณหนูสกาวเดือนหันมาบอกกับฉันในขณะที่ฉันกำลังปิดประตูรั้ว แต่หน้าที่นี้ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน ต้องเป็นหน้าที่แม่บ้านอีกคน ที่เขาจะต้องเตรียมรอ
“หน้าที่นี้ไม่ใช่ของไอรินนะคะ”คุณผู้ชายพี่ชายของคุณน้ำหวานไม่เดินเข้าไปในบ้านแล้วแหละ
เพี๊ยะ! เพี้ย! ฉันสะดุ้งเพราะว่าแขนของฉันถูกตี เมื่อฉันหันไปคนที่ตีเป็นแม่ของฉันเองก่อนที่เขาจะใช้มือบิดหยิกที่แขนของฉันซ้ำ
“กล้าย้อนคุณหนูหรอ นังลูกชั่วห้ะ! กล้ามาก” เพี๊ยะ!!
“โอ้ยแม่หนูเจ็บฮึ๊ก”
“สมน้ำหน้า”คุณหนูสกาวเดือนเบะปากใส่ฉัน และก็หัวเราะก่อนที่จะวิ่งเข้าไปในบ้าน
“มานี่ ! มานี่ ! ”
“แม่อย่า! ฮื่อๆ” แม่ไม่ฟังฉันหรอก และฉันรู้ดีว่าในตอนนี้ แม่ของฉันโกรธมาก ฉันไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าทำไมแม่ของฉันถึงรักและแคร์คุณหนูสกาวเดือนมาก ไม่ใช่ครั้งนี้แค่ครั้งแรก แต่ทุกๆครั้งที่เขาเห็นคุณหนูสกาวเดือน ไม่พอใจฉันเขามักจะตีฉันต่อหน้าคุณหนู