อนาถ
“ได้ซี้ข้าจะอาสาไปโยนศพเจ้าเอง ปกติไม่ใช่งานของข้าประหารแล้วก็จบ แต่ข้ากลัวว่าคนพวกนั้นจะไม่โยนศพของเจ้ากับหัวของเจ้าไว้ด้วยกันในสุสานไร้ญาติ ได้ยินว่าบิดากับพี่น้องเจ้าเอ่ยปากตัดพี่ตัดน้อง ตัดพ่อตัดลูกกับเจ้าแล้ว เพื่อเอาตัวรอด เจ้านี่มันชั่วช้าจนไม่มีใครคบจริงๆ”
ตีลี่เอินไม่ได้รู้สึกว่าเกินความคาดหมาย กับจุดจบที่สุสานไร้ญาติ แต่รู้สึกเจ็บใจนิดๆ เท่านั้น
ผู้คนมากมายต่างมาส่งลี่เอินพร้อมร่วมฟังคำสรรเสริญความชั่ว ที่บัดนี้ดังมาให้รำคาญใจผู้คนมากมายล้วนสาปส่ง ทั้งที่ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว
คนจะตายจะพิธีรีตองอะไรกันให้ข้าตายอย่างสบายใจเถิด
เสียงสาปแช่งดังมาตลอดเวลา ลี่เอินไม่อาจเถียงในใจได้อีกเพราะคำสาปส่งมากมายรายล้อม ทำได้เพียงยิ้มบางๆ จบแล้วคำสรรเสริญความชั่ว จบลงแล้ว ลี่เอินหลับตาลงช้า ขันทีข้างกายที่มาดูการประหารด้วยตัวเอง ความจริงน่าจะเป็นฝ่าบาทที่หล่อเหลาที่สุดในเจ็ดคาบสมุทร สวรรค์นรกและป่าเขา แต่ทว่าฝ่าบาทหาสนใจมดปลวกเช่นลี่เอินไม่ ตอนนี้ฝ่าบาทก็คงเฝ้าอาการประชวรของพระสนม ที่ต้องพิษร้ายและไม่มีวันจะฟื้นคืนมาคนนั้นสนมที่โปรดปรานที่สุดสนมฮุ่ย
“ประหาร”
เสียงตะโกนของขันทีข้างกายฝ่าบาทที่มาควบคุมการประหารด้วยตัวเอง นามหลี่ถงดังลั่น
ลี่เอินยิ้มอีกครั้ง
“วืดดดดดดดดดฉับ”เสียงคมดาบพันลงที่ลำคอขาว
เจ็บเท่าขี้เล็บ แล้วทุกอย่างก็จบลง ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของตีลี่เอินเสียใจที่ก่อนหน้านั้นไม่พยายามทำให้ดีกว่านี้
“ช้าก่อน” ลี่ซินวิ่งเข้ามาที่ลานประหาร ปาดน้ำตาที่ไหลริน
“ข้ามาช้าไปใช่หรือไม่”
ผู้คนรายล้อมต่างโศกเศร้ากับภาพน้องสาวฝาแฝดของลี่เอินที่ปล่อยน้ำตารินไหลมองร่างหัวขาดของพี่สาว ด้วยหยาดน้ำตานองหน้า ร่างสูงของลั่วต้านหยางยืนมองจากที่ไกลๆ
นาฬิกาแดดบอกเวลาบ่ายคล้อยวางไว้ที่ลานประหารหมุนวนถอยหลังราวกับมีมือวิเศษที่มองไม่เห็นจับมันหมุนย้อนไป
“ลี่เอิน กินยาเสียหน่อยตัวร้อนเหลือเกินแม่ขึ้นเขาเก็บสมุนไพรมาเคี่ยวยาให้แล้วอาจช่วยบรรเทาอาการไข้ได้บ้าง”
ลุกขึ้นกอดมารดาไว้แน่น
“แม่ยังอยู่ตรงนี้แม่ไม่ได้ไปไหนแม่ยังไม่ได้ทิ้งลี่เอินไป”สะอื้นอย่างแรง
“เด็กโง่ใครทิ้งเจ้า ข้าแค่ขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรป่วยไข้แบบนี้ไม่มียารักษาจะยิ่งแย่ เรียกหาท่านหมอก็ไม่มีเงินจ่ายเขา ท่านพ่อของเจ้าก็ไม่เคยถามไถ่เมื่อวานข้าบอกเขาว่าเจ้าป่วยเขาก็แค่ไล่ให้ไปเก็บสมุนไพร”
ตีลี่เอินสะบัดหัวไปมา ฝันไปหรอกหรือ หยิกตัวเองอย่างแรง
“ท่านแม่ เจ็บจัง”
หรูเหรินลูบที่ท่อนแขนให้ลี่เอินด้วยความรัก
“กินยาเสียเจ้าคงเพ้อจากพิษไข้”
“แค่พบท่านข้าก็ดีใจแล้วท่านแม่ ข้าหายป่วยแล้ว”หรูเหรินยิ้มบางๆ ยกถ้วยยาจ่อที่ริมฝีปากให้กับลี่เอิน
กินยาแล้วนอนแม่จะต้มข้าวต้มให้เจ้า ข้าวเราหมดถังแล้วได้เพียงต้มใส่มันเทศพอประทัง เจ้าหายป่วยข้าจะขึ้นเขาเก็บฟืนกับหาของป่าไปขายเพื่อซื้อข้าวมากิน”ลี่เอินซดยาในถ้วยจนหมด
“ท่านแม่เราหนีไปจากที่นี่กันเถอะ”หากว่าที่ผ่านมาคือฝันก้คือฝันร้ายหากมิใช่ฝันลี่เอินก็ควรแก้ไขไม่ให้ซ้ำรอยเดิม
มารดายิ้มเศร้าๆ ลุกเดินจากไปไม่เอ่ยคำใดอีกเลย
ลี่เอินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สวรรค์เมตตาให้ลี่เอินกลับมาอีกครั้ง คงต้องการให้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด
“นางลูกเป็ดขี้เกียจ วันนี้ยังไม่ได้ตักน้ำล้างเท้าให้ข้า”
เสียงเล็กแหลมของฮูหยินหยูซินหยูดังมาแต่ไกล นี่คือสิ่งที่ผิดพลาดกำลังเดินเข้ามาแล้ว
ร่างอ้อนแอ้นราวกับเพิ่งผ่านวัยสาวมาได้ไม่กี่ปีเดินสะบัดผ้าเช็ดหน้าในมือพร้อมสาวใช้อีกสองคน
“ลุกขึ้น อ่อแสร้งไม่สบายหรอกหรือ ดีเลยข้าอยากจะมาเห็นด้วยตาว่าเจ้าจะเสแสร้งได้แค่ไหนกัน พวกเจ้าลากนางให้ลุกไปตักน้ำล้างเท้าให้จ้าข้าอุตส่าห์ใจดีมาถึงที่ เจ้ายังกล้านอนไม่รีบไปตักน้ำอีกหรือ”
หรูเหรินรีบวิ่งเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นว่าลี่เอินถูกลากลงจากแท่นนอนเก่าๆ หรูเหรินรีบเข้าไปพยุงลี่เอินไว้
แต่กลับถูกฮูหยินรองซินหยูกระชากผมจนเกือบจนหงายหลังล้มทั้งยืน
“ท่านแม่”
ลี่เอินลุกขึ้น ผลักซินหยูอย่างแรงจนนางลงไปกองกับพื้นสาวใช้สองคนรีบเข้าไปพยุง นิ้วเรียวยาวชี้มาที่สองแม่ลูก
“พวกเจ้าจับมันไว้ข้าจะโบยนางเป็ดขี้เกียจด้วยมือข้าให้หน่ำใจ”
ตีลี่เอินหลับตาลงด้วยความเคยชิน
“ผลั๊ก”
ร่างของสาวใช้สองคนล้มลงไปกองกับพื้นไม่อาจเข้าใกล้ตีลี่เอิน
“นางปีศาจ”ฮูหยินรองสบถดังๆเมื่อไม่ทันเห็นว่าใครเป็นคนทำ
ตีลี่เอิน ลืมตาขึ้นจากที่หลับตาปี้สิ่งที่เห็นคือร่างสูงในอาภรณ์สีขาวบางเบาของ ของใครกันคนผู้นี้คือใครกัน ร่างสูงหันมายิ้มหยักคิ้วแผล่บๆ โลกหยุดหมุนในทันที
ทุกคนราวกับหุ่นไม้ไม่ขยับตัวยกเว้นตีลี่เอิน เฮ้ย หล่อเหลาเพียงนั้นเชียวหรือ แล้วคนผู้นี้คือใคร ฉับพลันนั้นเองคำอธิบายก็ผุดขึ้นในหัวของลี่เอินราวกับได้ยินความคิดของลี่เอิน
“ข้าคือปู่ทวดของปู่ทวดของปู่ทวดของเจ้า ที่อุตส่าหมดเคราะห์กรรมบำเพ็ญเพียรมานานกำลังจะถือกำเนิด แต่เจ้าดันมาถูกประหารเสียก่อนข้าเลยถูกคุมกำเนิด จนต้องลากเจ้ากลับมา แล้วช่วยเจ้า เพื่อให้ข้าได้กำเนิดในครรภ์ของเจ้า”
“หา” ตีลี่เอินเอ่ยปากได้เพียงเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ