บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ขัดดอก

สะโพกหน้าเริ่มขยับเข้าออกเป็นจังหวะแผ่วเบา แล้วเริ่มหนักแน่น จนเกิดเสียงกระทบกับของผิวเนื้อ กรามถูกขบแน่นเมื่อความเสียวซ่านเข้าแทรก คนใต้ร่างส่งเสียงครางออกมาเป็นระยะ จนเขาผละห่างแล้วจับให้พลิกกายหันหลัง กดตัวตนแทรกผ่านอีกครั้ง ทำเอาร่างบางสะดุ้ง ส่งเสียงครางในลำคอ

ใบหน้าเรียวคมแหงนหงายด้วยความพึงพอใจ ก่อนขยับสะโพกเข้าออกเป็นจังหวะหนักเบา คนสวยกัดริมฝีปากแน่น มือกำผ้าปูเลือดสูบฉีดทั่วร่าง สะโพกขยับเร็วแรงขึ้น ทรวงงามกระเพื่อมไหวไปตามแรง เขาขบกรามกัดฟันแน่นขยับร่างกายกระแทกเข้าหาอย่างไม่อาจหยุดยั้ง

“ฉะ...ฉันไม่ไหวแล้ว อ๊า!” หญิงสาวกรีดร้องออกมา

ราวุฒิเร่งจังหวะหนักขึ้น ก่อนหยุดลงซุกซบใบหน้ากับแผ่นหลังแล้วผละห่าง นอนบนเตียงหอบหายใจ ร่างบางทรุดกายนั่งลงบนฟูกหนา แล้วเอนกายลงนอนเคียงข้าง

“คืนนี้ค้างที่นี่ไหม” เธอถาม เขาหันมา

“ไม่ล่ะ”

“ไม่เหนื่อยเหรอ”

“ไม่เหนื่อยหรอก” เขาตอบ แล้วสบตาอีกฝ่าย “นิดเอง ก็มีความสุขไม่ใช่เหรอ”

เธอยิ้มน้อย ๆ “อืม”

เขาขยับกายลุกนั่ง หย่อนขาลงข้างเตียง หญิงสาวชะงักจ้องมองแววตาหม่น

“จะกลับแล้วเหรอ”

“ใช่ พอดีพรุ่งนี้มีเรียนเช้า เดี๋ยวพี่บ่นเอาน่ะ” เขาลุกยืน ทว่ามือหนากลับถูกคว้าไว้เสียก่อน

“คือว่า..”

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “มีอะไรหรือเปล่า”

“ต่ออีกหน่อยได้ไหม”

ราวุฒิชะงัก หย่อนกายลงบนเตียงตามเดิม อ้าปากหมายปฏิเสธทว่าอีกฝ่ายกลับโน้มใบหน้า แนบริมฝีปาก แล้วเลื่อนไล้ไปตามลำตัว ผลักดันร่างให้นอนหงาย ตัวตนผงาดอีกครั้ง มันกำลังถูกส่งเข้าโพรงปาก ทำเอาเขาไม่อาจทานทนได้ ริมฝีปากหนากัดแน่น ความต้องการถาโถม ไม่อาจทานทนต่อความปรารถนาในส่วนลึกได้

เธอเงยหน้า สบตา คนที่กำลังมองมา ใบหน้าเขาแดงก่ำ สีหน้าบ่งบอกถึงความพึงพอใจอย่างที่สุด

“คืนนี้ยังอีกยาวนะวุฒิ” เธอบอก แล้วอมยิ้ม ก่อนก้มลงครอบครองตัวตนเข้าสู่โพรงปากอีกครั้ง

จันทร์รวีมองกระดาน หลังจากเข้ามาภายในห้อง เพื่อเรียนคาบต่อไป ข้างกายมีเพื่อนชายนั่งไม่ห่าง ทำเอาหนุ่มคนอื่นไม่กล้าเข้ามาใกล้ เพราะรู้จักชื่อเสียงชายคนนี้ดี นักศึกษาจากเอกอื่นกำลังเดินเข้ามาร่วม พนิดาเหลือบมองไปยังเจ้าของหัวใจ ริมฝีปากบางกัดแน่น ความรู้สึกเจ็บปวดตีตื้นขึ้นมา ต่อให้รู้ว่าเขามีคนที่รักแล้ว ทว่าเธอก็ไม่อาจตัดใจได้

หย่อนกายลงนั่ง โต๊ะด้านหลังเฝ้ามองสองคนตรงหน้า กำลังพูดคุยหัวเราะยิ่งสร้างความทรมานให้ ริมฝีปากบางเม้มแน่น กล้ำกลืนน้ำตาเอาไว้ภายใน

“เป็นอะไรหรือเปล่านิด” เพื่อนสนิทอย่างนฤมลเอ่ยถาม

เธอส่ายหน้า “เปล่าจ้ะ”

นฤมลระบายลมหายใจ เธอรู้เพื่อนแอบชอลราวุฒิมานานแล้ว แต่ดูเหมือนหมอนั่นจะมีใจให้กับดาวคณะอย่างจันทร์รวี

จังหวะนั้นราวุฒิหันมาสบตา ทำเอาคนตัวเล็กสั่นสะท้าน อยากเข้าไปพูดคุยอย่าสนิทสนม แบบที่ควรเป็นแต่มันกลับทำไม่ได้เลย เธอเป็นแค่เพียงคู่นอนของเขาเท่านั้นเอง จบคาบเรียนทุกคนแยกย้ายกันไป ออกจากห้องไหล่สองคนชนกัน พนิดาชะงักเหลือบมอง

“ขะ...ขอโทษนะ” เธอบอกเสียงเบา ทำเอาราวุฒิชะงัก

“ไม่เป็นไร” เขาบอก แล้วหันไปสนใจกับเพื่อนสาวต่อ “วีจะไปไหนต่อหรือเปล่า”

จันทร์รวีสังเกตอาการทั้งสอง รู้สึกสงสัย แต่ไม่อยากเข้าไปยุ่งวุ่นวาย

“ไปทำงานพาร์ทไทม์น่ะ”

“ให้เราไปส่งไหม”

“ไม่ต้องหรอกวุฒิ วีไปเองดีกว่า”

ทว่าชายหนุ่มกลับกุมมือบางเอาไว้ จันทร์รวีจ้องมอง พยายามดึงมือกลับเพราะขัดเขิน แต่กลับถูกจับไว้แน่น ภาพเหล่านั้นอยู่ในสายตาของหญิงสาวอีกคน พนิดารีบเดินเลี่ยงออกไปในทันที ก่อนหยุดตรงริมทางเดิม เมื่ออาการวิงเวียนเข้าแทรก ยกมือปิดปากแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ อาเจียนออกมาในทันที

นฤมลรีบเข้ามาลูบหลังให้ด้วยความเป็นห่วง แล้วหยิบยาดมส่งเพื่อให้เพื่อนคลายจากอาการป่วย

“เป็นไงบ้างนิด” สีหน้าคนถามค่อนข้างเครียด รู้สึกกังวลกับอาการของเพื่อน

“ดีขึ้นแล้วล่ะ”

“วันนี้ให้เราไปส่งที่บ้านดีกว่านะ”

คนป่วยพยักหน้าช้า ๆ แทนคำตอบ นฤมลพยุงเพื่อนออกจากห้องน้ำ แล้วเดินมายังรถ เป็นจังหวะเดียวกับที่ราวุฒิกำลังเปิดประตูให้ผู้หญิงอีกคนนั่ง เขาเหลือบมองสีหน้ากังวล นิดเป็นอะไรไปงั้นเหรอ ท่าทางเหมือนไม่สบายเลย แต่เขาคงไปหาไม่ได้ เปิดประตูแล้วทำหน้าที่คนขับ เคลื่อนรถออกไปเพื่อส่งเจ้าของหัวใจไปทำงาน

ระหว่างเส้นทาง มองใบหน้าสวยหวานหลายครั้ง ทว่าภาพกลับตัดไปที่ผู้หญิงอีกคน เพิ่งผ่านเรื่องบนเตียงกันมาหมาด ๆ แค่คิด หัวใจกลับเต้นโครมครามไม่หยุด เลือดในกายสูบฉีด

“เป็นอะไรหรือเปล่า หน้าแดงเชียววุฒิ”

“ปะ..เปล่าวี เราไม่ได้เป็นอะไร!” เขารีบปฏิเสธเสียงแข็ง

“จ้ะ ๆ ไม่เป็นอะไร ก็ไม่เป็น”

ราวุฒิเม้มริมฝีปาก แล้วเหลือบมองอีกครั้ง

“เรื่องที่วุฒิเคยบอกกับวี วีคิดไว้บ้างหรือยัง” ชายหนุ่มถามเสียงหนัก แววตาจริงจัง

จันทร์รวีชะงัก “เราเคยบอกวุฒิแล้วนี่ ว่าเรียนจบก่อน ตอนนี้ยังไม่อยากคิดอะไร”

ราวุฒิยิ้มแห้ง “เราเข้าใจแล้วล่ะ ถึงตอนนั้น วุฒิจะมาทวงสัญญากับวีนะ”

“ถึงตอนนั้นวุฒิอาจจะมีคนถูกใจมากกว่าวีก็ได้ล่ะมั้ง ถ้าวุฒิรอวีได้ขนาดนั้น วีจะยอมเป็นแฟนวุฒิเลยล่ะ” เธอหัวเราะ

“จริงนะ!” น้ำเสียงบอกถึงความดีใจ

“จริงสิ”

“วุฒิรอได้อีกแค่ปีเดียวเอง เราก็จะจบกันแล้ว”

“จ้ะวุฒิ รอให้ได้ก็แล้วกันนะ”

รถยนต์จอดเทียบ พนิดาก้าวลงแล้วโบกมือลาเพื่อน พลวัตรเดินมาถึงบันไดหน้าบ้าน มองน้องสาวสีหน้าไม่เข้าใจ พนิดาสาวเท้าเดินมาหาพี่ชาย

“ไม่ไปทำงานเหรอคะพี่วัตร”

“วันนี้หยุดน่ะ”

“แล้วทำไมไม่ขับรถกลับมาล่ะนิด”

“พอดีนิดไม่สบายค่ะ ยัยมลเลยมาส่ง”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ “ไม่สบายเป็นอะไรล่ะ หาหมอไหม”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ พักผ่อนเดี๋ยวก็หาย”

“ไปพักเถอะ”

เธอเดินผ่านพี่ชาย ขึ้นชั้นสองเข้าห้องนอน หย่อนกายลงบนเตียงแววตาเหม่อลอย ริมฝีปากบางเม้มสนิทน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมา เปิดกระเป๋าสะพาย หยิบที่ตรวจการตั้งครรภ์ออกมา สีหน้ากังวล อาการแบบนี้เป็นมาเกือบอาทิตย์แล้ว

ตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำ หยดปัสสาวะลงในถาด เฝ้ารอผล ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างสีหน้าเผือดลง เธอไม่ควรพลาดแบบนี้เลย เพราะระหว่างเธอกับราวุฒิ เป็นความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดกันและกัน หากเธอท้องขึ้นมา จะทำเช่นไร พี่คงไม่มีวันยอมแน่ หรือควรเอาเด็กออก มือลูบหน้าท้องแผ่วเบา

ถึงเขาไม่ได้รักเธอ แต่เธอรักเขามาตลอด เด็กคนนี้จะเป็นตัวแทนของชายที่เธอรัก

หากต้องการให้เด็กเกิดมา จะหาทางหลบเลี่ยงเช่นไร ไม่ให้ใครล่วงรู้ เดินออกมาจากห้องน้ำ ทิ้งกายลงบนเตียง ชันเข่าสบหน้า น้ำตาเอ่อคลอ วุฒิกำลังรักอยู่กับผู้หญิงอีกคน ซึ่งเธอรู้แก่ใจว่าใคร ทว่าอีกใจกลับไม่ยอมแพ้ หากยังไม่ได้เริ่ม อย่างไรเสียก็ต้องหาทางบอกเรื่องนี้กับเขา ถ้าหากวุฒิไม่เลือกลูก เธอจะเก็บเด็กคนนี้ แล้วเลี้ยงดูด้วยตัวเอง พร้อมทั้งตัดขาดจากเขา เพื่อให้ทุกอย่างมันจบลง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel