ตอนที่ 5 มะลิไม่มีประสบการณ์
อุปกรณ์ทำความสะอาดถือมาแบบเต็มไม้เต็มมือ มะลิก็ตรงไปยังห้องนั้นทันที เปิดประตูเข้าไปในห้องส่วนตัวของเหมราช ด้านในก็มืดสนิทมองอะไรไม่เห็น แต่พอก้าวเท้าข้ามขอบประตูเข้าไป มะลิก็สะดุ้งเมื่อไฟในห้องสว่างอัตโนมัติเพราะเป็นระบบเซนเซอร์
“นึกว่าคุณเหมอยู่”
พูดคนเดียวแล้วพลางส่ายหัว ก่อนจะหยิบเครื่องดูดฝุ่นขึ้น เรียวคิ้วขมวดเข้าหากัน แอบงงเล็กน้อยแต่ทว่าก็พอเดาได้ว่ามันใช้ยังไง เมื่อกดปุ่มเปิด เริ่มการเก็บฝุ่นที่เหมือนว่ามันไม่มีเลยสักเม็ดแต่ก็ต้องทำ ห้องทั้งห้องก็ดังไปด้วยเสียงของอุปกรณ์ทำความสะอาด มะลิสังเกตเห็นว่ามีคราบเหนียวๆ ติดตามพื้นสองสามจุด ใช้ไม้ม็อบถูแล้วมันก็ไม่ออก ฉะนั้นคงต้องลงไปนั่งขัด หยิบผ้าผืนเล็กชุบน้ำถูแรงๆ มันก็ค่อยๆ หลุด แต่ก็ใช้เวลานานหลายนาที กระทั่งมะลิเห็นเงารางๆ หยุดอยู่ตรงหน้า เหมือนกับว่าโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ ภายในอกข้างซ้ายเริ่มสั่นรัวขึ้น ภาวนาไม่อยากให้เป็นเหมราชเพราะกลัวสายตาของมาเฟียหนุ่ม ก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาก็ยิ่งตกใจ
“ทำอะไร”
!!
ดวงตากลมเบิกโตเพราะความกลัว มือที่จับผ้าเช็ดพื้นกำแน่น นั่งพับเพียบบนพื้นนิ่งราวกับเป็นตุ๊กตาปูนปั้น เหมราชสวมรองเท้าที่ใส่เฉพาะในบ้าน ยืนเหยียดเต็มความสูงร้อยแปดสิบเก้าหลุบตาต่ำมองคนอายุน้อยนิ่งเหมือนจะไม่หายใจ พลันสังเกตเห็นว่ามะลิใส่เสื้อยืดตัวเก่า กางเกงขาสั้นแบบเดิมกับเมื่อวานแต่คนละสีและยังใส่ถุงเท้ายาวเหนือตาตุ่มอีกด้วย
“เท้าเน่าเหรอ”
“ปะเปล่าจ้ะ”
“ใส่ทำไมนักหนา”
“มะลิเป็นคนขี้หนาว บ้านคุณเหมเย็นอย่างกับชาตินี้จะไม่ให้ร้อน”
มะลิตอบออกอย่างซื่อๆ ไปตามประสา ทุนเดิมนั้นเป็นคนขี้หนาว พอมาเจออากาศในบ้านหลังของเหมราชก็หนาวยิ่งไปใหญ่ แต่ทว่าคนฟังแอบขัดหูเล็กน้อย
เหมราชมองคนที่เอาแต่นั่งก้มหน้า พูดจายังติดสั่นบ่งบอกว่ากลัวเขาสุดขีด ก่อนจะเลิกสนใจแล้วเดินไปนั่งบนโซฟา ไขว่ห้างแล้วจิบกาแฟดำที่ถือมาอย่างสบายใจ
“จะทำอะไรก็ทำสิ ไม่ต้องกลัวกันขนาดนั้น”
“...”
“ฉันไม่ฆ่าใครถ้าไม่จำเป็น”
ได้ยินก็ใจวูบราวกับตกจากหน้าผาบนเขาท้ายหมู่บ้าน ทำอะไรไม่ถูกใจไม่ฆ่าแกงกันเลยหรือนี่ แรงที่จะขัดพื้นก็แทบไม่มี ได้แต่นั่งเกร็งแล้วขยับมือกำผ้าเปียกไปเบาๆ ขณะที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจลูกหนี้เสียเท่าไหร่ มาเฟียหนุ่มหยิบไม้สนุ๊กที่เก็บไว้อย่างดี เดินมายังโต๊ะที่วางลูกกลมๆ หลากสี จากนั้นก้มตัวราบลงไป ดวงตาก็เล็งสิ่งที่อยู่ตรงหน้า กระทุ้งไม้แทงจนเกิดเสียงดังปั๊ก เป็นจังหวะที่มะลิเองก็ตกใจจนสะดุ้ง เมื่อเหมราชยิงลูกสนุ๊กอย่างแรงแล้วกระเด็นออกนอกโต๊ะหล่นลงพื้น
“เก็บมา”
“...”
มะลิมองไปยังลูกกลมๆ ที่กลิ้งไปชนขอบประตู คลานเข่าเก็บกลับมาให้มาเฟียหนุ่มหน้านิ่งและยังโหด กำลังจะวางลูกกลมๆ ในมือลงที่เดิม ก็ต้องเบิกดวงตาโพลงอีกรอบ หากเป็นกระต่ายน้อยก็คงระเบิดตัวเองหูตั้งขึ้นมากะทันหัน เมื่อมะลิมองเห็นกล้ามหน้าท้องของเหมราชแบบเต็มตา ชายหนุ่มสวมเพียงเสื้อคลุมเหมือนเตรียมอาบน้ำ เปิดหน้าอกเห็นเม็ดไฝเม็ดใหญ่อยู่ข้างหัวนมด้านซ้าย หน้าท้องแข็งเป็นลอนแล้วยังมีขนเซ็กสีดำยาวขึ้นมาถึงสะดือประจักษ์ต่อดวงตาคู่ใสของเธอ ส่วนขอบเอวยังมีเชือกมัดเอวไว้แบบหลวมๆ ดีหน่อยที่เหมราชยังสวมบ็อกเซอร์เอาไว้ด้านใน
“มองอะไร"
“มะ...ไม่ได้มองเลยจ้ะ"
มะลิลนลานตอบอย่างประหม่า ใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อๆ ครั้นดวงตาอันไม่รักดีมองเห็นสรีระของชายหนุ่ม
“ไม่มองก็วางลง”
“จ้ะ วางลง”
มะลิเป็นเด็กซื่อๆ ครั้นให้วางก็ทิ้งดิ่งลงตรงหน้า โดยไม่รู้ว่ามันไม่ใช่ตำแหน่งที่ต้องอยู่บนโต๊ะ เหมราชจิ๊ปากคล้ายคนอารมณ์เสีย มองคนอายุน้อยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยอย่างหงุดหงิด
“แบบนี้จะเอาไปทำงานที่กาสิโนได้ยังไง”
“กาสิโน ที่เล่นการพนันน่ะเหรอจ๊ะ”
มะลิเอ่ยถามอย่างตกใจ ที่อบายมุขแบบนั้นไม่อยากไปยุ่ง แต่กระนั้นกาสิโนคือธุรกิจที่ทำเงินและกำไรให้เหมราชได้มากปีละเกือบร้อยล้าน
“การพนันแล้วยังไง”
“มันไม่ดี”
“หึ...ไม่เอาน่าสาวน้อย ฉันทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย แต่ต่างประเทศถูกต้องทุกอย่าง”
“...”
“ส่วนหนี้เธอ เอาไงดี”
มะลิได้ยินเช่นนั้นก็เชิดดวงตามองคนสูงกว่า พูดถึงหนี้ที่พ่อก่อไว้ก็ไม่รู้จะจัดการยังไงต่อดี ทำอะไรมันถึงจะหักล้างกันได้และอยากให้หมดเร็วที่สุด เหมราชเองที่ยืนแคะหูตัวเองด้วยปลายนิ้ว มองอีกฝ่ายด้วยแววตาไร้ซึ่งประโยชน์ ตัวแต่นี้จะทำอะไรได้
“ทำอะไรก็ได้จ้ะ ขออย่างเดียว”
“...”
“อย่าเอามะลิไปขัดดอกนะจ๊ะ มะลิเป็นเด็กไม่มีประสบการณ์”