9.แค่เอื้อม
ข่าวร้ายนั่นก็คือเควนและคาเมลจะต้องกลับไปที่คฤหาสน์เพราะที่อคาเด็มมี่ไม่ยินยอมให้มีผู้รับใช้หรือว่าผู้ติดตาม เธอจะต้องลงไปทานข้าวด้านล่างในทุกมื้อ ส่วนเสื้อผ้าและการทำความสะอาดห้องจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้
ตอนนี้เธออยู่ตัวคนเดียวอย่างแท้จริงแล้ว...
"ก๊อก! ก๊อก!"
เอลิซ่าไปเปิดประตูก็พบกับเด็กสาวที่ดูอายุมากกว่าเธอนิดหน่อย สาวงามทั้งสองมองเข้ามาด้วยแววตาที่เปล่งประกาย
"ยินดีต้อนรับสาวน้อย ข้าอาเรียอยู่ปีสามและนี่องค์หญิงเจเนซีสอยู่ปีสอง อาจารย์คงจะบอกเจ้าแล้วว่าที่นี่มีนักเรียนห้าคน ไม่สิตอนนี้มันเป็นหกคนแล้วเมื่อรวมเจ้าเข้าไปด้วย.."
เธอส่งยิ้มที่แสนจะเป็นมิตรให้กับพี่สาวทั้งสองคนนั้น
"ข้า เอลิซ่า คามิลค่ะ"
"ดีเอลิ คืนนี้จะมีการต้อนรับน้องใหม่ประจำอคาเด็มมี่แห่งนี้ เอาล่ะข้าไม่มีเวลาอธิบายมากมายจะอธิบายคร่าวๆว่าที่นี่มีทั้งหมดสี่ตึกที่เป็นหอพัก จอมเวท อัศวิน นักปกครอง และพวกชอบนอกกรอบอย่างวาณิช ในทุกตึกนอนจะมีคทาศักดิ์สิทธิ์ที่แตกต่างกันไป เมื่อถึงเวลาหนึ่งทุ่มเกมจะเริ่มต้น เราที่เป็นสตรีมีหน้าที่แค่ปกป้องคทาเอาไว้ ส่วนบุรุษจะไปแย่งชิงคทาที่ตึกอื่นมา...เข้าใจใช่ไหมสาวน้อย"
ไม่สักนิด...เธอแค่อยากจะมีวันแรกที่แสนสงบสุขเท่านั้น
"หน้าที่ของเรา สาวสวยทั้งสามคนก็แค่ปกป้องคทาของหอเวทเอาไว้ ฟังดูง่ายใช่ไหม? แต่ไม่เลยเพราะว่าคนพวกนั้นกระหายชัยชนะ ป่าเถื่อนและไร้อารยธรรมที่สุด!"
เจเนซิสกล่าวพร้อมกับนิ่วหน้า
"อ่า ข้าพึ่งจะเข้ามาใหม่เรื่องเวท ข้ายังใช้ไม่เป็นด้วยซ้ำ"
อาเรียและเจเนซิสมองหน้ากันก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา
"นั่นคือกฎเอลิ ห้ามใช้เวทเพราะฉะนั้น พวกเราควรจะใช้..ความสวยงามบนใบหน้านี้..ไปเปลี่ยนชุดเถอะ ใกล้ได้เวลาลงไปข้างล่างแล้ว อาจารย์พวกนั้นคงอยากจะพูดปราศรัยเต็มแก่..โต๊ะของเราอยู่มุมด้านซ้ายอย่านั่งโต๊ะผิดและอย่าไปช้าเพราะอาหารจะหมด"
อาเรียกล่าวพร้อมกับลูบผมของเอลิซ่าเบาๆด้วยความเอ็นดู นางพยายามแล้ว พยายามห้ามใจไม่ให้ยกมือขึ้นมาแต่ว่ามันไม่สามารถทำได้เพราะความน่ารักของเอลิซ่ามันยั่วยวนเหลือเกิน รูปลักษณ์ที่โดดเด่นเช่นนี้พอปรากฏตัวรับรองได้เลยว่าจะเป็นจุดสนใจได้อย่างไม่ยากเย็น
เอลิซ่ายกยิ้ม...บางทีอคาเด็มมี่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพราะพี่สาวสองคนนี่ดูเป็นมิตรมากๆเลย
ชุดนักเรียนที่นี่เป็นเดรสสีดำขลิบทองและเธอที่อยู่ตึกเวทมีเสื้อคลุมสีขาวด้านนอกอีกที ดูราวกับนักบวชยังไงอย่างนั้น
เอลิซ่าเลือกที่จะมัดผมยาวสลวยของเธอให้เป็นเปียสองข้างดูเรียบร้อยและน่ารัก เธอคว้ากระเป๋าถือใบเล็กก่อนจะเดินลงไปด้านล่าง และเมื่อเปิดประตูก็พบเจอชายหนุ่มสองคนที่กำลังเดินลงบันได
"ยินดีต้อนรับสาวน้อย คืนนี้เต็มที่เลยเข้าใจไหม?"
เอลิซ่าส่งยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปหาพี่ชายทั้งสองคน
"เอลิซ่าค่ะ"
"รู้แล้ว ข้าชื่อโจชัวร์ ส่วนเจ้านี่ชื่อชาร์ล เราสองคนอยู่ปีสาม จะลงไปทานข้าวใช่ไหม ไปพร้อมกันสิ"
ดีเลยเพราะว่าเธอไม่รู้จักเส้นทาง และพอเดินมาได้สักพักเอลิซ่าก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่...เพราะสายตาของเหล่าสตรีมองมาที่เธอ มันเต็มไปด้วยสายตาความเกลียดชังสุดๆ แสดงว่าชายเบื้องหน้าทั้งสองคนนี้จะต้อง..ได้รับความนิยมสุดๆไปเลยสินะ
โต๊ะอาหารของตึกเวทนั้นอยู่ด้านหน้าสุด อาจจะเป็นเพราะว่าจอมเวทนั้นได้รับความนับถือจากทุกคนในจักรวรรดิ ทำให้พวกเราได้รับอภิสิทธิ์ที่มากกว่าคนอื่นๆในโรงเรียน..
แค่มองดูอาหารและโต๊ะก็รู้ว่าต่างกันมากทีเดียว เพราะอาหารมีทั้งขาแกะ เนื้อสันชั้นเยี่ยมรวมไปถึงนม ขนมเค้ก เหล้ารัม ไวน์...
โต๊ะอื่นๆก็เรียงลำดับตามกันไป..ที่ดูน่าหดหู่ที่สุดคงเป็นวาณิช เพราะเป็นโต๊ะที่มีขนมปังและซุปเท่านั้น
นี่คือความไม่เท่าเทียมเลยแม้แต่น้อย ไม่เท่าเทียมสักนิดเลย...เอลิซ่าได้แต่นึกในใจเพราะว่าเธอนั้นเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ ตอนนี้ยังมิได้มีกำลังมากพอที่จะเปลี่ยนความไม่เท่าเทียมพวกนี้ให้มันเกิดเป็นความเท่าเทียมได้
"ทำไมพวกเจ้าไม่พาเสด็จพี่ลงมาด้วยล่ะ..."
"บาร์ตันอ่านหนังสืออยู่ เจ้าก็รู้ว่ารัชทายาทนั้นกินหนังสือแทนข้าว"
โจชัวร์กล่าวพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
"ยังไงวันนี้...เราจะต้องชนะหลังจากที่ไม่เคยชนะเลยสักปี เลดี้ผู้งดงามทั้งสามกรุณารักษาคทาของตึกเวทเอาไว้ดีๆด้วยนะ เพราะแค่คทาไม่ถูกชิงไปเราก็เข้าใกล้เส้นชัยแล้ว"
"เหอะ! ข้ามีสามคน ในขณะที่คนที่มาชิงมีห้าสิบคน เอาอะไรไปเหนี่ยวรั้งไว้ได้เล่า"
อาเรียส่ายหน้าเบาๆก่อนที่เธอจะตักเนื้อสเต๊กใส่จานให้กับเอลิซ่า
"กินเยอะๆ เจ้าผอมมากเลยรู้ไหม"
ริมฝีปากบางหยักยิ้มขึ้นมาเมื่อได้รับการเอาใจใส่เล็กๆน้อยๆจากพี่สาวผู้แสนดี เดิมทีเอลิซ่านั้นเป็นคนพูดน้อย ก็เลยกลัวว่าคนจะมองว่าเธอหยิ่งหรือว่าเป็นพวกไม่สนใจผู้อื่น แต่ว่าท่านพี่อาเรียกลับใส่ใจและส่งยิ้มให้เธอเสมอ
"ให้ตายสิเลเซน นั่นจะต้องเป็นนางฟ้าแน่ๆ น่ารักอะไรขนาดนั้นกันนะเลดี้จากตึกเวทที่เข้ามาใหม่น่ะ..."
ดวงตาของเลเซนมองไปยังเจ้าของเรือนผมสีชมพู...ด้วยใบหน้าที่ขึ้นเป็นสีชมพูระเรื่อ ที่สหายของเขากล่าวมานั้นไม่เกินจริงเพราะว่านาง...งดงามมากทีเดียว ความงามที่เจิดจ้าและเปล่งประกาย
เอลิซ่า คามิล
ความน่ารักและงดงามราวกับว่าไม่มีอยู่จริง ยามที่นางยิ้มนั่นพลันทำให้โลกที่หม่นหมองของเขาสดใสขึ้นมาเลย
โชคดีจริงๆที่โต๊ะกินข้าวของอัศวินนั้นอยู่ใกล้โต๊ะกินข้าวของนักเวท มันทำให้เขาสามารถมองเห็นเอลิซ่าได้อย่างชัดเจน
"...."
เอลิซ่าเลิกคิ้วมองเลเซนที่กำลังจ้องหน้าเธอ... เขาจ้องมองใบหน้าของเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาอีกแล้ว
เรานั่งอยู่ห่างกันเพียงแค่หนึ่งช่วงแขนเท่านั้น
"...ได้พบกันอีกแล้วนะคะ ท่านพี่เลเซน"
เสียงทักทายที่มันดังเข้าไปถึงหัวใจของเขา...ทั่วทั้งโต๊ะอัศวินต่างหรี่ตามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม...
"อะ..อื้ม"
อาเรียหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นท่าทีของโต๊ะอัศวิน เสน่ห์ของเอลิซ่านี่ช่างมีผลร้ายแรงจริงๆ
"คืนนี้ข้ากำลังหวั่นใจอยู่พอดีเลย อยากจะขอแรงอัศวินอย่างพวกเจ้ามาช่วยเลดี้ที่อ่อนแออย่างพวกเราทั้งสามคนปกป้องคทา.."
อาเรียกล่าวพร้อมกับสะกิดเอลิซ่าเบาๆเพื่อให้นางกล่าวกับเลเซน อาเรียคิดว่านางมองไม่ผิดเพราะเจ้าหนุ่มเย็นชานั่นเสียอาการสุดๆไปเลยเมื่อเอลิซ่ากล่าวทักทาย
"ขะ..ข้าคงจะดีใจมากถ้าหากท่านพี่เลเซนมาช่วยที่ตึกเวท..."
เสียงโห่ร้องดังขึ้นมาพร้อมกับเหล่าอัศวินที่เขย่าตัวเลเซนเพื่อให้เขาตอบตกลง
"ตกลงสิเลเซน...ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เข้าใกล้เจ้าหญิงเจเนซีสและเลดี้อาเรีย...ยังจะสตรีผู้งดงามอย่างท่านหญิงเอลิซ่านั่นอีก..."