10.ไม่คู่ควร
ถ้าหากว่าเขาตอบตกลง เจ้าพวกหมาล่าเนื้อพวกนี้จะต้องติดตามไปด้วยอย่างแน่นอน ถึงแม้อยากจะช่วยสาวน้อยที่น่ารักในดวงใจแต่ทว่าเลเซนไม่อาจฉุดรั้งนางให้ลงมาตกต่ำเพียงเพราะเขา..
"ข้าเองก็จะต้องปกป้องไม้คทาของตึกอัศวินเช่นกัน มิสามารถช่วยเหลือตึกเวทได้หรอกนะ.."
แทนที่เอลิซ่าจะโกรธเคือง ริมฝีปากบางนั่นกลับหยักยิ้มขึ้นมา นางลุกขึ้นพร้อมกับถือแอปเปิลขึ้นแล้ววางเอาไว้เบื้องหน้าของเลเซน
"ไม่เป็นไรเลยค่ะท่านพี่ ขอให้คืนนี้ตึกอัศวินชนะการแข่งนะคะ"
แม้แต่ในยามนี้นางก็ยัง..น่ารัก
คำกล่าวที่เป็นดังคำอวยพรนี้ มันสลักลึกลงไปในดวงจิตของเขา รอยยิ้มที่งดงามราวรูปปั้น นั่นก็แจ่มชัดอยู่ในความทรงจำถึงแม้ว่านางจะเดินไปนั่งที่ของตัวเองแล้ว มันก็ราวกับว่านางยังยืนอยู่ตรงนี้
เกิดอะไรขึ้น..กับเขา เหตุใดถึงไม่สามารถห้ามหัวใจ ที่กำลังเต้นแรงนี้ได้เลย...
"สายัณห์สวัสดิ์นักเรียนทุกคนของอคาเด็มมี่ พิธีเปิดภาคเรียนจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในวันพรุ่งนี้ คืนนี้ขอให้ทุกคนสนุกไปกับงานเลี้ยงและพิธีอัญเชิญคทาที่ทรงเกียรติของอคาเด็มมี่นะ และยินดีต้อนรับนักเวทอนาคตไกลคนใหม่ของตึกเวท ท่านหญิงเอลิซ่า คามิล ไม่บ่อยนักที่จะมีเด็กน้อยน่ารักสอบเข้าตึกเวทได้ ขอให้ทุกคนให้ความเคารพและ...ดีต่อท่านหญิงคามิลให้มากๆด้วยนะ"
เอลิซ่ามองไปยังอาจารย์ที่กำลังกล่าวปราศรัย เขาส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตรซึ่งเธอเองก็ส่งยิ้มกลับไป...และเบื้องหลังท่านอาจารย์ทั้งหมด
เขาโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ดูราวกับเทพเจ้า เย่อหยิ่งและทรงอำนาจ ชุดนักบวชสีขาวบริสุทธิ์นั่นยิ่งดึงภาพลักษณ์ของเขาให้ดูสูงส่งจนดูราวกับว่ามิใช่มนุษย์
คาดินันอาเชน่า อีวาน
ดวงตาสีนิลที่ฉายแววลึกล้ำมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกดดันมากมายจนเอลิซ่าต้องหันมองไปทางอื่นเพราะว่าเธอแบกรับสายตานั่นไม่ไหว
เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่อาเรียและท่านพี่เจเนซีส
ราชวงศ์และคามิลไม่ถูกกัน แต่ทว่าไม่ใช่กับองค์ชายและองค์หญิง เพราะว่าท่านพี่เจเนซีสนั้นดีกับเธอมากเทียบเท่าท่านพี่อาเรียเลย ไม่มีช่องว่างหรือว่าไม่มีทีท่าจะแสดงความไม่พอใจใดๆให้เห็น
"น่าเบื่อชะมัด ข้าอยากจะเดินทางไปแย่งชิงไม้คทาบ้าง มานั่งเฝ้าเช่นนี้น่าเบื่อจนแทบจะหลับอยู่แล้ว"
อาเรียกล่าวพร้อมกับล้มตัวนอนลงบนโซฟา ที่นี่คือชั้นสอง เป็นห้องที่เรียกได้ว่ามันคือห้องนั่งเล่นของคนในตึกเวท มีห้องสมุด และขวดหินเวทมากมาย รวมไปถึงมีที่นอนและที่นั่งเอาไว้พักผ่อนหย่อนใจ
"เชื่อเถอะว่าพี่จะต้องกล่าวเช่นนี้ไปอีกสามปีจนกว่าพี่จะจบการศึกษาจากที่นี่ เพราะไม่ว่ายังไงเจ้าผู้ชายพวกนั้นไม่มีทางยินยอมให้เราไปแย่งชิงไม้คทาหรอก"
"แต่ถ้าเราปกป้องมิได้ เจ้าพวกนั้นก็ชอบจะมาบ่น น่าเบื่อจริงๆเสียเวลาการอ่านนิยายของข้าสุดๆไปเลย"
บรรยากาศสบายๆมากกว่าที่คิด พี่อาเรียโยนขนมมาใส่มือเธอพร้อมกับหนังสือนิยายรักโรแมนติก
"รับรองได้เลยเจ้าจะวางไม่ลงแน่นอน ลองอ่านดูสิเอลิ"
นิ้วมือเรียวยาวนั่นลูบที่หน้าปกหนังสือเบาๆ
"ขอบคุณมากนะคะ"
อาเรียโบกมือไปมาเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร
"ว่าแต่รัชทายาทยังไม่ลงมาอีกงั้นเหรอ ที่ห้องอาหารก็ไม่เห็นเขาลงไป..ไปดูเขาหน่อยไหมเจเนซิส"
"อ่า..ไม่ล่ะ พี่ของข้าเอาใจยากยิ่งนัก หากลองเขาได้ทุ่มเททำอะไรสักอย่างแล้วละก็ เขาไม่มีทางที่จะยอมรามือถ้ามันยังไม่เสร็จ ถ้าท่านพี่อาเรียเป็นห่วงก็ขึ้นไปตามเองสิ"
"ไม่มีทาง ข้ามิได้เป็นห่วง เพียงแต่สงสัยก็เท่านั้น"
เจเนซีสหรี่ตามองอาเรียที่ดูเสียอาการเล็กน้อย
"อย่าเชียวนะเอลิ เห็นพี่อาเรียรึเปล่า ถ้าหากว่าเจ้ามีความรักเจ้าจะเป็นเช่นนี้แหละ เพราะฉะนั้นจงเล่นสนุกกับบรรดาบุรุษรูปงามให้พอใจ มากกว่าการจะรักใครสักคน"
อาเรียรีบยกมือขึ้นมาปิดหูของเอลิซ่าอย่ารวดเร็ว
"นี่เจ้าสอนเรื่องอะไรกันให้เอลิเนี่ย ขอร้องล่ะเจเนซิส เอลิไร้เดียงสามากกว่าจะเป็นแม่เสือสาวเช่นเจ้า"
พี่อาเรียอายุสิบหกและพี่เจเนซีสอายุสิบห้า แต่ทว่าทั้งสองคนกับดูโตมากทีเดียว...
ความรักอย่างนั้นหรือ...สิ่งที่จับต้องมิได้เช่นนั้นสามารถทำให้ผู้คนเจ็บปวดเจียนตายมานักต่อนัก แต่ทว่าเอลิซ่าก็อยากจะลองสัมผัสมันดูสักครั้ง
บางทีเธอเองก็ควรจะรีบหาคู่ครองสักคนเพื่อแต่งงานแล้วเดินออกไปจากคฤหาสน์คามิลอย่างมีเกียรติมากกว่าการถูกขับไล่ออกไปในฐานะลูกสาวตัวปลอม
นี่คือ..ทางเลือกและทางออกที่ดีมากทีเดียว
ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามา เขายกมือขึ้นเสยผมสีทองสว่าง ใบหน้าที่งัวเงียราวกับพึ่งตื่นนั่นเดินเข้ามาหาท่านพี่อาเรียก่อนจะล้มตัวนอนบนตักของนางด้วยท่าทีที่คุ้นเคย
"ง่วง..."
"เจ้านอนทั้งวันแล้วบาร์ตัน"
เขายกมือขึ้นมากุมใบหน้าของท่านพี่อาเรียเอาไว้
"พูดมาก.."
อาเรียถอนหายใจก่อนจะลูบหลังของเขาเบาๆราวกับว่ากำลังทำการขับกล่อม พี่เจเนซีสลุกขึ้นเพื่อจะเดินออกไปและเธอเองก็เดินตามพี่เจเนซีสไปติดๆเพราะไม่ต้องการอยู่ขัดขวางความรักของคนทั้งสอง
"ข้ายินยอมและยินดีมากถ้าหากว่าพี่อาเรียจะมาเป็นพี่สะใภ้.."
เอลิซ่าเดินตามออกมาเงียบๆโดยที่มิได้กล่าวคำใด ทั้งสองคน...ดูเหมาะสมและคู่ควรเป็นอย่างมาก สาวงามกับบุรุษที่หล่อเหลา
"ท่านพี่เจเนซีสเอง ก็มี..ความรักที่งดงามเช่นนั้นเหมือนกันใช่ไหมคะ"
ชั่ววูบหนึ่งดวงตาคู่สวยนั่นฉายแววเศร้าสร้อย เจเนซีสส่งยิ้มเศร้าๆให้กับเอลิซ่าก่อนที่นางจะยกมือขึ้นมาลูบผมของเอลิซ่าเบาๆ
"พี่..มิได้ศรัทธาในความรักเลยเอลิ ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวเดียวของความคิดที่พี่จะสามารถมีความรักได้ เพราะการเกิดเป็นองค์หญิงหน้าที่ของพี่มันชัดเจนอยู่แล้วว่าจะต้องแต่งงานทางการเมืองกับใครสักคน เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดที่จะได้รับในอนาคต สิ่งที่จะทำให้พี่มีความสุขที่สุดนั่นคือการไม่รักใคร มีความสุขกับ...ค่ำคืนที่เร่าร้อนเพียงแค่นั้นก็พอแล้ว..เด็กน้อยความรักน่ะมันมีเอาไว้ให้คนที่คู่ควรจะได้รับมันเท่านั้นและพี่..ไม่ใช่คนที่คู่ควร"
สายลมในยามค่ำคืนพัดผ่านเราไปพร้อมกับหัวใจของเอลิซ่าที่เจ็บปวดไปตามคำกล่าวขององค์หญิงผู้นี้ ทั้งที่พี่ชายสามารถเลือกคนรักได้แต่ทว่าพี่เจเนซีสกับเลือกบุรุษที่รักมิได้
นี่คือความแตกต่างและความไม่เท่าเทียม ทุกคนควรจะได้รับความรักสิ ไม่มีใครที่ไม่สมควรได้รับความรัก