ตอนที่ 4 คุณชายฉู่
จวนตระกูลหยางกำลังครึกครื้นไม่น้อย ความเป็นส่วนตัวนั้นเงียบหายไปหมด เพราะบรรดาเหล่าสี่สหายพากันกอดคอร่ำสุราตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันจะมืด
คาดว่าหากมืดค่ำแล้วก็คงจะพักที่จวนของนางกระมังคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีคือองค์ชายสาม เขาหนีพระชายามาที่จวนของสตรีที่เขาแอบรัก แอบรักฝ่ายเดียว
ผู้ตามมาอีกคนก็คือ พี่รองหรือท่านอ๋องโจว อีกสองคนนั้นปักหลักอยู่ที่จวนของนางอยู่แล้ว คือท่านรอง และท่านกุนซือ
“เอ้า ดื่ม ดื่ม ไม่เมาไม่เลิก” องค์ชายสามยกจอกสุราขึ้น สีหน้าของเขาแดงก่ำเพราะเริ่มมึนเมา สุราดีย่อมคู่กับสาวงาม
แต่สาวงามดันตั้งท้องมองดูพวกเขาดื่มกินจนนางเผลออยากจะยกขึ้นดื่มสักอึกบ้าง
“ภรรยารัก เจ้าดื่มไม่ได้นะ” ท่านอ๋องรีบห้ามปรามคนท้องทันที แต่ปากเขาช่างหวานนักอีกทั้งสีหน้าและท่าทางนั่นดูเป็นห่วงนางไม่น้อย ช่างเป็นบุรุษที่ละมุนละไมนักอ่อนโยนทีเดียว
หากเขามีภรรยา คงจะรักนางและเอาใจใส่นางไม่น้อยแน่ ๆ หลิวชิงคิดเช่นนี้ แต่ทว่าพี่ชายผู้นี้ยังไม่มีสตรีใดถูกใจ และมักจะอยู่ตัวติดกันกับนางเสมอ
“ข้าเคยพูดกับท่านไปกี่ครั้งแล้วว่า ข้ามิใช่ภรรยาท่าน” แม้ว่าอายุจะห่างกันสองสามปี ท่านอ๋องอายุมากกว่านาง
แต่..นางเติบโตมาพร้อมกับพวกเขา ท่านอ๋องเคยอุ้มนางและแอบหอมแก้มของนางอยู่บ่อยครั้ง ส่วนองค์ชายสามนั้นอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
ก็มีทะเลาะกันบ้าง ผู้ที่คอยห้ามปรามจะเป็นพี่ใหญ่หรือก็คือไท่จื่อโจวจิ้นหรง
“ก็เจ้าไม่บอกสามีสักที ใครทำเจ้าท้องกันแน่” ท่านอ๋องแอบอ้างตนเสียแล้ว เมื่อเขามึนเมาก็มักจะพูดจาเพ้อเจ้อเช่นนี้อยู่ร่ำไป อีกทั้งเขายังเป็นพี่ชายที่แสนดีด้วย
ผิดกับองค์ชายสามที่มักจะสร้างเรื่องวุ่นวายครั้งนี้ก็เหมือนกัน หนีพระชายายามมาที่จวนของนาง
เกรงว่าวันพรุ่งนี้บรรดาพระชายาของเขาคงจะมาฉีกอกนางเป็นแน่ แล้วท้องของนางก็ใหญ่และอึดอัดนัก จะลุกเดินและนั่งก็ลำบากยิ่ง
“ก็ข้าบอกท่านไปแล้วพี่ชาย” หลิวชิงวางจอกสุราลง พลางเปรี้ยวปากไม่น้อย เห็นพวกเขาดื่มกินสรวลเสเฮฮา
คนท้องก็อดที่จะร่วมวงไม่ได้ ด้วยความที่นิสัยมักจะคล้ายกับบุรุษมากกว่าสตรี
“ข้ายังไม่เคยได้ยินจากปากเจ้า หากเจ้าไม่บอกว่าใครข้าจะทึกทักแล้วกันว่าเขาเป็นลูกของข้า” ท่านอ๋องไม่ละความพยายาม น้องสาวตัวน้อยของเขาเติบโตช่างกล้าหาญ
อีกทั้งเขายังกินเต้าหู้นางมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ บัดนี้นางกลายเป็นของชายอื่น มีหรือเขาจะยอม อุตส่าห์เฝ้าแอบมองมาตั้งนาน
“หากท่านทึกทัก เจ้าพวกนั้นก็คงจะทึกทักไม่ต่างกัน ลูกของข้าเกิดมาโชคดีนัก มีบิดาสี่ห้าคนคงมีแต่คนหัวเราะเย้ยหยันมากกว่าชื่นชมเขากระมัง” หลิวชิงนางยกน้ำผลไม้ขึ้นดื่มแทนสุราสาวใช้สองยกทั้งสุราและน้ำผลไม้มาให้
หลังจากนั้นก็กลับเข้าเรือนนอนไปเพราะมิคุ้นชินกับบุรุษรูปงามทั้งหลาย ใครเห็นก็ต้องหลงใหล โดยเฉพาะท่านอ๋องนั้น รูปงามนัก
“เอาล่ะ ต่อไปข้าไม่ถามเจ้าแล้ว แต่ข้าขอเสนอตัวเป็นพ่อของเด็ก ๆ ก็แล้ว” ท่านอ๋องหวังดี แต่ก็หวังอยากจะครอบครองนางด้วย ใครจะรู้เล่าว่าสตรีผู้นี้หัวใจของนางแข็งอย่างกับเหล็กกล้าเนื้อดี
“ไม่จำเป็น” หลิวชิง ไม่แสแยต่อคำพูดของเขา แม้ว่าจะรู้สึกขอบใจเขาก็ตาม แต่ลูกของนาง
นางยังยืนยันว่าอย่างไรก็จะเลี้ยงพวกเขาเอง เงินทองของนางก็มากมายแทบจะท่วมจวน
อีกทั้งท่านลุงฮ่องเต้ก็พระราชทานรางวัลมากมายนัก ดีที่ไม่พระราชทานสามีมาให้ มิเช่นนางก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“ฮูหยินเจ้าง่วงหรือยัง กลับเรือนไปนอนเถิด” เจ้ากุนซือตัวดี เห็นท่านอ๋องเกี้ยวท่านแม่ทัพ เขาจึงอดใจไม่ไหว
เขาก็คือหนึ่งในนั้น แต่ท่านอ๋องกลับคิดว่าเป็นตนเอง เข้าข้างตนเอง
“ข้าละระอาใจพวกเจ้าจริง ๆ เหตุใดถึงวุ่นวายนัก มิชอบหรือที่สตรีมิเรียกร้องให้รับผิดชอบ” หลิวชิงคร้านจะพูดกับคนเหล่านี้นัก
พวกเขาไม่อยู่นางก็เหงา ยามอยู่กันครบเช่นนี้ก็ทำให้นางปวดหัวยิ่งนัก ไม่เข้าใจคนท้องหรืออย่างไรกัน
หลิวชิงจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง คนที่พูดน้อยอย่างเช่นท่านรองนั้น เมื่อเห็นว่านางทำท่าจะเข้าห้องไปพักผ่อน
เขาก็เข้ามาประคอง แต่ถูกมือหนาของท่านอ๋องปัดท่านรองไม่สบอารมณ์อย่างแรง เพราะท่านอ๋องทำเช่นนี้ช่างไม่ไว้หน้าเสียจริง
แต่ก็คร้านจะชวนทะเลาะกับเขา เพราะท่านแม่ทัพมิชอบเรื่องเช่นนี้
“ชิงเอ๋อร์ เข้าห้องพักผ่อนเถิด” ท่านอ๋องประคองนางแล้วพากลับเข้าห้องนอน
สิบวันถัดมา
การมาเยือนของใครบางคนก็มาเป็นแบบเงียบ ๆ มิได้แจ้งให้ใครรู้ เขามากับองครักษ์เพียงสามคนเท่านั้น ด้วยหัวใจที่คิดถึง
อีกอย่างอยากจะมาให้เห็นกับตาว่านาง ท้องจริงใช่หรือไม่ หากนางท้องกับเขาจริง ๆ เหตุใดนางจึงมิได้เรียกร้องให้เขารับผิดชอบ
นางทำได้อย่างสบายมาก เรื่องนี้ช่างมีลับลมคมในนัก อีกทั้งเขารู้สึกว่าตนเองที่ไร้ค่า ทำให้นางมิเคยสนใจเขาสักนิด
“นายท่านถึงแล้วขอรับ” องครักษ์รีบเอ่ยขึ้น เมื่อมาถึงจวนของท่านแม่ทัพ เรื่องราวนั้นเป็นอย่างไรกันแน่ พวกเขาหารู้ไม่ ร่างผู้สูงศักดิ์ กระโดดลงจากม้าตัวใหญ่
เขาเร่งมาทั้งวันทั้งคือนเพื่อจะมาหานางให้เร็วที่สุด ตอนนั้นเขาเพียงแค่น้อยใจนางเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาอยากจะฟังความจริงจากปากของนาง ว่าใช่เขาหรือเป็นคนพวกนั้น
ประตูบานใหญ่หน้าจวนเปิดแง้มเอาไว้ เขาถือวิสาสะเดินเข้าไปด้านในอย่างองอาจ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากข้างใน เป็นเสียงของสตรีที่ทะเลาะกันเรื่องแย่งบุรุษผู้หนึ่ง
“องค์ชายกลับตำหนักเถิดเพคะ อย่างอยู่ที่นี่เลย”
พระชายารองวันนี้เป็นอีกวันที่นางเดินทางมาตามสามีของนางกลับพระตำหนัก เพียงแค่อยากอยู่ใกล้ชิดกับเขาให้มาก
นางหวังว่าสักวันหนึ่งอาจจะตั้งครรภ์เหมือนหยางหลิวชิงก็เป็นได้ ยามนั้นสามีจะได้ดูแลนางให้ดีกว่านี้
หลิวชิง นั่งที่ตั่งไม้ตัวยาวพลางเอนกายพักผ่อนและรับผลไม้จากสาวใช้
เสี่ยวอ้ายค่อย ๆ ป้อนผลองุ่นให้นายสาวอย่างใจเย็น เสี่ยวอวี้นั้นคอยโบกพัดไล่ความร้อนให้นายสาวเช่นเดียวกัน
พวกนางหาได้สนใจเสียงนกน้อยที่ร่ำร้องเรียกให้สามีกลับรังรักไม่ และนั่นทำให้คนท้องรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจไม่น้อย
“ข้าไม่กลับ เจ้าจะมาหาทำไมกัน กลับไปเถิดชายา ข้าอยากอยู่ที่นี่ดูแลนาง” องค์ชายสามมองไปที่หลิวชิงเพื่อขอความช่วยเหลือ
แต่กลับถูกกำปั้นของนางยกขึ้นทำท่าเหมือนจะซัดเขาเข้าให้ เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงได้ยืนกรานว่าไม่กลับ
“องค์ชายไม่กลับ ข้าก็ไม่กลับ” พระชายารองอยากจะทึ้งมวยผมของสตรีคนนั้นเสียเหลือเกิน หากไม่ติดว่านางเป็นถึงแม่ทัพ
ป่านนี้คงจะถูกพระชายารองผู้ที่เอาแต่ใจลงมือฟาดเข้าที่ใบหน้าไปแล้ว
“องค์ชาย สตรีคนนี้มีดีอะไรนักหนา ท่านถึงได้ละทิ้งพวกข้ามาเสพสมกับสตรีท้องโตเช่นนี้” พระชายาเอก นางนั่งอยู่ก่อนพระชายารองจะเข้ามา
เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่ทว่าหัวใจของนางนั้นปวดร้าวเหลือเกิน น้ำเสียงที่ดูจะสั่นเครือไม่น้อย
“นางมีดี ดีมากกว่าที่พวกเจ้าคิดก็แล้วกัน” องค์ชายสามเอ่ยขึ้น ส่งยิ้มให้หลิวชิง นางไม่เพียงยิ้มตอบกลับแถมยังปั้นหน้านิ่งอยู่เช่นนั้น
“มาถึงไยไม่เข้ามา หรือจะรอให้ข้าที่ท้องโตออกไปต้อนรับเล่า” หลิวชิงรู้ดีว่าใครมา แต่เขาไม่แสดงตัวเพียงแค่ยืนฟังพวกสตรีทั้งหลาย
คนที่ถูกพูดถึงหน้านิ่งเดินเข้ามาอย่างองอาจนัก สีหน้านั้นดูราบเรียบเหมือนเช่นเคย นางคุ้นชินดีกลิ่นกายของเขาที่นางหลงใหล
อีกทั้งยังชอบนักยามที่เขาแสดงสีหน้ามิพอใจอีกฝ่าย โดยแสร้งตีสีหน้าเฉยชาเช่นนี้
“เจ้าคงจะมีความสุขไม่น้อยสินะ มีองค์ชายสามมาอยู่ที่จวนด้วยเช่นนี้” ไท่จื่อเอ่ยประชดประชัน เขามิพอใจนัก
“ข้ามีความสุขไม่น้อย แล้วท่านเล่ามีความสุขหรือไม่ ที่จวนของข้ามิเคยขาดชายสักคน วันนี้อยู่กันพร้อมหน้าทีเดียวละ ท่านอยากจะพบพวกเขาหรือไม่เล่า” หลิวชิงก็ประชดเข้าให้ ทำนางท้องมิถามสักคำว่าเป็นเช่นไร
ยามมาพบหน้าก็เอ่ยวาจาดูถูกถากทางเช่นนี้ มิรักษาน้ำใจกันสักนิด มันหน้าให้ตอกกลับเสียจริง ๆ พลางนึกว่าคนเช่นหรือที่จะเป็นบิดาของเจ้าก้อนแป้งของนาง
ไม่มีทางเสียหรอก
บุรุษทั้งสี่นั้นอยู่ที่นี่เพราะพวกเขามาร่ำสุรามิกลับจวนกลับตำหนัก หนักเข้าก็พากันมาสิงอยู่นี่เสียเลย มารดาของท่านรองหรือก็ส่งมาสื่อมาสู่ขอนาง
เพราะว่าบุตรชายของเขาทำนางท้อง นางรึก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้
นางจึงได้บอกว่า พวกเขามิเคยเห็นขาอ่อนข้า ไยจะตั้งท้องได้เล่า
แม่สื่อก็เสียหน้ากลับไปใครกล้ามีปากเสียงกับนางกัน แต่คนพวกนี้ยังหน้าด้านอยู่สร้างความรำคาญใจให้นาง
แต่ก็ดีที่พวกเขาอยู่ด้วย ช่วยเหลือนางได้เยอะเหมือนกัน ยามหิวอะไรตอนดึก ๆ จะเป็นท่านอ๋อง ยามปวดท้องเข้าห้องน้ำจะเป็นท่านกุนซือยืนรอด้านนอกเผื่อว่านางล้ม
ท่านรองก็มีฝีมือการทำอาหารชั้นเลิศ องค์ชายสามก็ป่วนนางเสียจนอดที่จะหัวเราะไม่ได้ สตรีสองนางไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหนพวกนางเพียงแค่เงียบปากแล้วมองดูบุรุษที่หล่อเหลาปานล่มแคว้น
“พี่ชาย มาเหนื่อย ๆ ก็เชิญนั่งพักเถิด เสี่ยวอวี้ ยกน้ำมาให้คุณชายฉู่หน่อย” องค์ชายสามเอ่ยขึ้น เพราะมาที่นี่แล้วยังอยู่ที่นี่ด้วยและอีกอย่างคาดว่าการมาของไท่จื่อแคว้นฉู่จะเป็นความลับไม่น้อย
พวกเขาไม่รู้เรื่องการมาครั้งนี้ แน่นอนว่า หลิวชิงย่อมรู้แน่ .....หรือว่าเขาคือคนที่ทำนางท้องกัน องค์ชายสามได้แต่ครุ่นคิด หากพี่รองรู้เข้ามีหวังจวนของหลิวชิงลุกเป็นไฟแน่
“หึ!!! ดูท่าว่าองค์ชายคงจะเป็นสามีของนาง” ไท่จื่อนั่งลงเคียงข้างกับสตรีตั้งท้อง พลางสำรวจเห็นท้องของนางที่ใหญ่โตผิดปกติ
เสี่ยวอวี้จัดการจะรินน้ำชาใส่ถ้วยให้ แต่เขายกมือขึ้นเหมือนไม่ต้องการ หลิวชิงเมื่อเห็นเขาพูดจาเช่นนั้น แถมยังกล้าดีถากถางนางอีกด้วย
ว่านางมากสามีหรือ มันน่าฟาดเข้าให้เสียจริง
“ไม่ใช่ใครทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่ท่านด้วย คุณชายฉู่”