3 ทักทาย
สิปปกรถึงร้านอาหารที่ชายนัดไว้ช้าไป 10 นาที เขารู้ว่าพี่ชายไม่ชอบนิสัยแบบนี้ แต่เขาก็พยายามมาไวที่สุดแล้ว
“ขอโทษครับพี่ มาช้าไปหน่อย”
“อือ ไม่เป็นไรพี่เองก็พึ่งมาถึงเมื่อกี้เอง จะกินอะไรสั่งเลยพี่มีเวลาไม่นาน” อนุตรส่งเมนูให้น้องชายด้วยใบหน้าเรียบเฉย
สิปปกรดูเมนูแล้วหันไปสั่งกับเด็กเสิร์ฟที่ยืนรออยู่แล้ว “ข้าวผัดกุ้งไม่ใส่ต้นหอมครับ”
เมื่อเห็นน้องชายสั่งอาหารแล้วเขาก็ชวนคุย “เป็นไงบ้างจัดของเรียบร้อยหรือยัง”
“ยังเลยครับ กำลังจัดห้องแล้วพี่รปภ. ก็ขึ้นมาเคาะห้องเค้าคิดว่าผมเป็นขโมย” เขาหัวเราะเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวัน
“พี่คงลืมแจ้งไปว่าจะมีคนย้ายมาเพิ่ม”
“อันที่จริงผมก็เข้าไปที่ห้องพี่ได้นั่นแหละ แต่ว่าผมคงเสียงดังไปหน่อย ข้างห้องเลยโทร. ไปตามเพราะคิดว่ามีขโมยเข้ามาที่ห้อง”
“ให้พี่เดานะ ว่าคงเป็นห้องที่อยู่ริมสุดใช่ไหม”
“ก็ห้องนั่นแหละพี่”
“เธอชื่อเอริน แล้วเธอว่าอะไรไหม”
“ก็ไม่ว่าอะไรครับ เธอบอกว่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขโมย พี่รู้จักเธอเหรอ”
“เราทำงานที่เดียวกัน” อนุตรตอบไปตามจริง เขากับพราววรินทร์นั้นรู้จักกันมาได้เกือบปีแล้วเธอพักอยู่ที่นี่ก่อนหน้าเขาไม่นาน ทำให้ได้มีโอกาสเจอกันและเมื่อรู้ว่าเธอเองก็ทำงานที่เดียวกับเขาก็เลยได้คุยกันมากขึ้นและเธอก็เป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เขาให้ความสนิทสนมด้วยนอกจากเพื่อนๆ ที่เรียนแพทย์มาด้วยกัน
“เธอเป็นหมอเหรอครับ” สิปกกรนึกอยากจะป่วยขึ้นมาทันทีเพราะถ้ามีหมอหน้าตาสวยขนาดนั้นเขาก็อยากจะป่วยบ่อยๆ
“เปล่า เธอเป็นเภสัชน่ะ”
“อ๋อ” เขาพยักหน้ารับรู้
เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วอนุตรก็บอกเขาว่าจะกลับไปทำงานต่อ
“ผมนึกว่าพี่จะกลับห้องด้วยกัน”
“ตอนแรกก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ แต่พอดีหมอเวรที่ห้องฉุกเฉินมาไม่ได้พี่เลยรับอาสาไปอยู่แทน”
“แล้วจะกลับกี่โมงครับ”
“เช้านั้นแหละ ถ้าห้องเล็กยังจัดไม่เสร็จ คืนนี้ก็นอนห้องพี่ก่อนก็ได้”
“ก็ดีเหมือนกันครับ เดี๋ยวทำเสียงดังจะโดนหาว่าเป็นขโมยอีก” สิปปกรหัวเราะ เขานึกไปถึงไปหน้าสาวสวยตัวเล็กข้างห้องแล้วก็รู้สึกว่าการมาอยู่ที่คอนโดมิเนียมของพี่ชายมีอะไรให้ตื่นเต้นขึ้นมาอีกเยอะ
ชายหนุ่มขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์คู่ใจเข้ามาจอดยังที่จอดรถหลังจากที่ทานข้าวกับพี่ชายเสร็จแล้วเขาก็ไปซื้อของกินอีกเล็กน้อยเพราะกะเอาไว้ว่าคืนนี้จะนั่งทำงานจนดึก เขารีบวิ่งเมื่อเห็นว่าประตูลิฟต์กำลังจะปิดลง
“ขอบคุณครับ” สิปปกรหันมากล่าวขอบคุณหญิงสาวที่เป็นคนกดลิฟต์รอเขา “อ้าว คุณนี่เอง” เขาทักทาย “กลับดึกเหมือนกันนะครับ” เขาชวนเธอคุย
“อือ” คนพูดน้อยหันมามอง
“ไปเที่ยวมาเหรอครับ” เพราะเธอบอกเขาเมื่อกลางวันว่าเป็นวันหยุดเขาเลยคิดว่าเธอน่าจะไปเที่ยวมาอย่างแน่นอนและชุดที่เธอใส่ก็เหมือนไม่ได้ได้ออกไปทำงาน
หญิงสาวตัวเล็กสวมกระโปรงผ้าสีม่วงพาสเทลยาวคลุมเข่ามาเล็กน้อยกับเสื่อเชิ้ตแขนสามส่วนพอดีตัวดูเหมือนเด็กมากกว่าจะเป็นคนวัยทำงาน ถ้าเขาไม่รู้มาจากพี่ชายก็คงคิดว่าเธอยังเรียนอยู่
“ไปทำงานมาค่ะ” พราววรินทร์รีบไขข้อเข้าใจผิด
“อ้าวไหนเมื่อตอนกลางวันบอกว่าหยุด” คนขี้สงสัยชวนคุย
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกเขาก็เดินตามเธอมาเพื่อรอฟังคำตอบแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเธอไม่ได้ตอบอะไรเขา หญิงสาวหันมายิ้มให้ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าห้องไปทิ้งให้สิปปกรยืนงงอยู่หน้าประตู
เขาไม่เคยถูกผู้หญิงที่ไหนทำท่าทีเมินเขาแบบนี้มาก่อน สิปปกรไม่รู้ว่าเพราะเธอเคืองที่เขาทำเสียงดังหรือเพราะว่าเธอเป็นคนพูดน้อยกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรคนอย่างเขาก็ไม่ยอมให้เรื่องนี้ต้องมาทำให้เสียความมั่นใจ เขาต้องหาทางทำลายกำแพงกั้นระหว่างเธอกับเขาให้ได้