15 หัวใจพองโต
หญิงสาวรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเคย ตอนนี้เธออยู่ในชุดสบายๆ กางเกงผ้าสีเขียวเข้มยาวเหนือเข่าเล็กน้อยกับเสื้อแขนกุดสีครีม เธอพยายามเงี่ยหูฟังว่าหนุ่มข้างห้องจะกลับมาตอนไหน
เสียงฝีเท้าเดินมาหยุดที่หน้าห้องของนายแพทย์หนุ่ม พราววรินทร์รีบเปิดประตูออกไปทันที
“อ้าว...เอริน จะไปไหนเหรอ” อนุตรถามหญิงสาวข้างห้องที่เปิดประตูออกมา
“คือ...ฉันจะลงไปร้านข้าวที่หน้าคอนโดฯ ค่ะ” เธอชะงักไปเล็กน้อยก่อนตอบคำถาม
“รีบหรือเปล่า รอผมแป๊บหนึ่งได้ไหมครับ ผมก็ยังไม่ได้ทานอะไรมาเหมือนกัน” อนุตรรีบบอก วันนี้เขาทำงานทั้งวันจนไม่มีเวลาทานอาหารกลางวัน
“ได้ค่ะ” เหมือนตกกระไดพลอยโจน พราววรินทร์ไม่คิดว่าการตอบเขาไปแบบนั้นจะกลายเป็นว่าเธอต้องไปทานข้าวกับเขา
หญิงสาวกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งเธอหยิบกระเป๋าเงินกับกุญแจห้องแล้วก็ไม่ลืมที่จะหยิบโทรศัพท์และตรวจสอบว่าไม่ได้ปิดเสียงไว้
พอออกมาจากห้องอีกครั้งก็พอดีกับชายหนุ่มข้างห้องเปิดประตูออกมา
“ไปกันเลยนะครับ” อนุตรเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว ตอนนี่เขาสวมกางเกงผ้าขา 3 ส่วนสีเทากับเสื้อยืดคอปกสีขาว
“ค่ะ” พราววรินทร์เดินเคียงคู่ไปกับเขา เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาใส่รองเท้าแตะทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายลงกว่าครั้งก่อนที่ไปทานอาหารด้วยกันที่ร้านของหมอกุลจิรา
ร้านอาหารหน้าคอนโดฯ เป็นร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ กรุกระจกใส่ตั้งแต่ขอบหน้าต่างถึงเพดาน สามารถมองเห็นบรรยากาศนอกร้านได้เป็นอย่างดี
พราววรินทร์มองออกไปข้างนอกอย่างเหม่อลอย
“เอริน เป็นอะไรหรือเปล่า”
“คะ?”
“ผมเห็นนั่งมองข้างนอกนั่นนานแล้วมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ” เธอพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองนั้นเสียมารยามากแค่ไหน
“ครับ แล้วงานปีใหม่ของโรงพยาบาลปีนี่คุณต้องอยู่เวรหรือเปล่าล่ะ”
“ไม่ค่ะ วันนั้นเวรเช้า หมอล่ะคะ”
“ผมก็ไม่ต้องอยู่เวรเหมือนกันครับ ปีนี้งานจัดที่ไหนเอรินรู้ไหมครับ”
“จัดที่โรงแรมเดิมนั่นแหละค่ะ ปีที่แล้วหมอได้ไปร่วมงานปีใหม่หรือเปล่าคะ”
“ปีที่แล้วพึ่งผมพึ่งมาทำงานได้แค่ 3 เดือนยังไม่ค่อยรู้จักใครก็เลยอาสาอยู่เวรครับ”
“ถ้าอย่างนั้นปีนี้ก็ถือเป็นงานปีใหม่แรกเลยใช่ไหมคะ”
“ครับ ผมยังไม่รู้เลยว่าต้องเตรียมอะไรไปด้วยไหม”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่แต่งตัวไปตามธีมที่กำหนดก็พอแล้วค่ะ”
“ครับ เอรินไปเป็นเพื่อนผมหาซื้อกางเกงยีนหน่อยได้ไหม”
“อะไรนะคะ” เธอคิดว่าตัวเองคงหูฝาดไป
ปีนี้ที่โรงพยาบาลเข้าใจถึงภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างดี จึงจัดงานปีใหม่ในธีมเสื้อยืดกางเกงยีน เพราะไม่อยากให้พนักงานต้องไปเสียเงินซื้อเสื้อผ้าเพื่อมาใช้ที่งานปีใหม่แค่งานเดียว กางเกงยีนกับเสื้อจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะผู้บริหารคิดแล้วว่าทุกคนคงต้องมีกันทุกคน
“ผมอยากให้คุณไปเป็นเพื่อนซื้อกางเกง เพราะครั้งสุดท้ายที่ผมใส่กางเกงยีนก็ตั้งแต่ตอนเรียนแล้วล่ะครับ”
“ได้ค่ะ หมอจะไปวันไหนก็บอกนะคะ”
“วันนี้เลยดีไหม เอรินมีธุระต้องไปที่ไหนหรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ แต่ก่อนไปขอขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ” พราววรินทร์ยินดีที่จะไปช่วยเขา
“เป็นไงบ้างครับ” หมอหนุ่มลองกางเกงแล้วเดินออกจากห้องมาให้เธอดู
“ฉันว่าหมอใส่ยีนก็ดูเท่ไปอีกแบบนะคะ” หญิงสาวเอ่ยชม เขาดูอายุน้อยลงกว่าเดิมอีกหลายปี
“อย่างหลอกกันนะครับ” หมออนุตรไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองนัก
“ฉันจะหลอกหมอทำไมคะ หมออาจเคยชินกับการแต่งตัวแบบเดิม พอได้ใส่อะไรที่ไม่เคยใส่ก็เลยไม่มั่นใจ แต่เชื่อฉันเถอะค่ะ มันดูดีเลยแหละ”
อนุตรยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาที่แสดงถึงความจริงใจจากเธอ เขาได้กางเกงแบบเดียวกันแต่คนละสีมา 3 ตัว
“ปกติคุณมาซื้อของที่นี่บ่อยไหมครับ” เขาชวนหญิงสาวคุยขณะที่ออกมาจากร้านขายกางเกง
“ก็ไม่บ่อยหรอกค่ะ ถ้าเป็นพวกของใช้อื่นๆ ก็ซื้อที่ซุปเปอร์ใกล้ ๆ คอนโดฯ นั่นและค่ะ หมอล่ะคะ”
“ผมไม่ค่อยซื้อเองหรอกครับ ส่วนใหญ่แม่จะซื้อมาให้บ้าง ฝากแม่บ้านที่ดอนโดฯ ซื้อมาบ้าง”
“หมอคงไม่ค่อยมีเวลา” เธอพยายามหาเหตุผลเพื่อให้เขาดูดี
“จริงๆ ก็พอมีเวลานะครับ แต่เดินซื้อของคนเดียวมันดูแปลกๆ เอาไว้วันหลังผมชวนเอรินมาด้วยดีกว่า ถ้าเราว่างตรงกัน”
“ค่ะ” พราววรินทร์ยิ้ม
“ขอบคุณมากนะเอริน” เขาส่งยิ้มตอบมาให้ อนุตรรู้สึกว่าเวลาผู้หญิงคนนี้ยิ้มโลกดูจะสดใสขึ้นอีกมาก
“ไม่เป็นไรค่ะ” แล้วเธอก็เดินเข้าห้องไป
“อนุตรมองตามหลังหญิงสาว พอได้ยินเสียงล็อกประตูแล้วเขาก็เข้าห้องของตัวเองบ้าง
ทั้งห้องมืดสนิท น้องชายของเขาคงยังไม่กลับมา แต่เมื่อเช้าสิปปกรก็บอกเขาแล้วว่าจะไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาล อนุตรไม่เป็นห่วงน้องชายมากนักเพราะตอนนี้สิปปกรก็เลิกใช้รถจักรยานยนต์แล้ว
ชายหนุ่มเข้าห้องนอนใหญ่ของตัวเองแล้วหยิบกางเกงที่พึ่งซื้อมาลองสวมอีกรอบ ชายหนุ่มมองตัวเองหน้ากระจกก็รู้สึกว่าแปลกตาไปบ้าง แต่เขาก็เชื่อที่พราววรินทร์บอก
หมออนุตรยอมรับกับตัวเองว่าวันนี่เขามีความสุขที่ได้ไปทานข้าวกับพราววรินทร์แม้จะเป็นร้านเล็กๆ ที่เคยทานด้วยกันหลายครั้งแล้ว แต่เหมือนว่าทั้งเขาและเธอเริ่มพูดคุยกันมากขึ้น บรรยากาศไม่ได้เป็นทางการ คงเพราะว่าวันนี้เขาทำงานเครียดมาทั้งวันพอได้พูดได้คุยกับพราววรินทร์ทำให้เขาหายเหนื่อย ยิ่งเวลาที่เธอช่วยเลือกซื้อกางเกง เขายิ่งรู้สึกดี เพราะเธอตั้งใจเลือกและใส่ใจ ไม่ใช่แค่เลือกให้มันจบๆ ไปเท่านั้น
ทางด้านพราววรินทร์เข้านอนด้วยหัวใจพองโตวันนี้เธอได้เห็นรอยยิ้มขอหมออนุตรหลายครั้ง นับว่าเป็นรอยยิ้มที่เธอไม่เคยเห็นมากนัก