ตอนที่9 ประมูล
รายการประมูลของรอบนี้ไม่เยอะเท่าไหร่นัก ส่วนมากจะเป็นอาวุธระดับต่ำถึงระดับกลาง หรือของใช้โบราณต่างๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกพ่อค้าหรือคนที่ชอบสะสมสิ่งของโบราณประมูลได้ไป แน่นอนว่าของพวกนี้เหล่าคนผู้ทรงอำนาจที่มาในวันนี้ล้วนไม่สนใจแม้แต่น้อย
เหล่าผู้จัดการโรงประมูลเองก็เข้าใจในเรื่องนี้เช่นกัน รายการประมูลที่ผ่านมาจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ชายวัยกลางคนผู้มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าอยู่ตลอดเวลาบนเวทีประมูล เอ่ยขึ้นเสียงดัง "เอาหละท่านทั้งหลาย ถึงเวลาที่เรารอคอยกันแล้ว นับจากนี้ต่อไป จะเป็นรายการสุดท้ายของวันนี้"
จากนั้นผู้ประกาศพลันปรบมือเสียงดัง
แปะ! แปะ!
หญิงสาวคนหนึ่งที่ในมือประคองกล่องไม้เล็กๆ อย่างทะนุถนอมเดินขึ้นบนเวที ก่อนจะมายืนหยุดอยูข้างกายของชายวัยกลางคน
ผู้คนพลันตื่นเต้นคึกคักขึ้นมาทันที
"มาแล้วสินะ"
"มาได้เสียที ข้ารอเวลานี้แหละ"
"ก็อยากจะเห็นจริงๆ ว่าโอสถไร้ตำหนิที่เขาล่ำลือกันมันจะมีหน้าตาเป็นยังไง"
จากนั้นผู้ประกาศชายกล่าวต่ออีกครั้ง
"เอาละ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราจะเปิดกล่องไม้นี้ให้ทุกท่านได้ชมสิ่งที่อยู่ภายในพร้อมกัน 3..2..1"
กล่องไม้ถูกเปิดออกโดยหญิงสาว
ทันทีที่เปิดออกก็พลันมีกลิ่นหอมของสมุนไพรอันบริสุทธิ์อบอวลไปทั่วโรงประมูล กลิ่นของสมุนไพรที่แทบจะทำให้ทุกคนที่อยู่ภายในนี้เมามายได้ ในขณะที่เม็ดโอสถสีขาวบริสุทธิ์เกือบจะโปร่งแสงนอนแน่น่ิงในกล่องไม้ที่ถูกรองด้วยผ้าผืนบางๆ สีแดง มีทั้งหมด 8 เม็ดด้วยกัน
ทุกสายตาจับจ้องอย่างไม่กระพริบตา มองไปยังโอสถในกล่องไม้ ดูว่ามันแตกต่างจากโอสถทั่วไปอย่างไร
ทว่าจ้าวสำนักโอสถทิพย์เซี่ยจินเย่ คราแรกที่เห็นเม็ดโอสถในกล่องไม้ นางก็ผุดลุกขึ้นยืนจากที่นั่งทันที สีหน้าไม่ได้สงบราบเรียบเช่นที่ผ่านมาอีกแล้ว "เป็นไปได้อย่างไร! นี่โอสถนั่นมีอยู่จริงๆ งั้นรึ? น่าเหลือเชื่อ!"
ท่านจ้าวเมืองเองก็มีท่าทีไม่ต่างกัน เขาหรี่สายตาแคบลงพรางครุ่นคิด จากนั้นก็เอ่ยพึมออกมาว่า.. "กลิ่นอายพลังนี้.. หรือว่า" เมื่อคิดถึงตรงนี้ดวงตาของชายชราก็เบิกกว้างแทบจะในทันที "ผู้ใช้อักขระ!"
แม้จะเสียงไม่ดังมากนัก หากแต่ก็ไม่อาจเล็ดลอดประสาทรับรู้และการได้ยินของผู้ฝึกปรานระดับที่แท้จริงอย่างพวกผู้นำตระกูลใหญ่ไปได้
ลู่หานเหินเบิกตาโต เขาปะติดปะต่อเรื่องราวได้อย่างรวดเร็ว "นั่นหนะหรือโอสถไร้ตำหนิ แถมยังเป็นฝีมือของผู้ใช้อักขระ!"
เหอเหลียงและเหอหยุนไห่ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง "นั่นเป็นฝีมือของผู้ใช้อักขระงั้นรึ"
ซื่อเฟิงนางที่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาก็ยังอดพึมพำออกมาไม่ได้ "จริงหรือนี่.."
ชินหรูอี้ก็ยังมีท่าทีจริงจังเช่นกัน เรื่องนี้เขาต้องรายงายต่อท่านพ่อโดยด่วนเสียแล้ว
เสียงฮือฮาของผู้คนดังกระหึ่มไปทั่วโรงประมูล
"สวรรค์ โอสถไร้ตำหนิไม่ใช่เรื่องเล่าในตำนานอีกต่อไป มันคือเรื่องจริง!"
"กลิ่นหอมนี่ช่างเหนือชั้นกว่าโอสถทั่วไปมากนัก"
"เยี่ยมจริงๆ ใครกันที่สามารถปรุงโอสถไร้ตำหนิออกมาได้เช่นนี้!"
จากนั้นเป็นผู้ประกาศชายคนเดิมเอ่ยขึ้น จนผู้คนเงียบเสียงลง "อย่างที่ทุกท่านได้เห็นและสัมผัส ไม่ผิด! นี่ก็คือโอสถไร้ตำหนิในตำนาน!"
ผู้คนเฮลั่นอย่างตื่นเต้น
เขากล่าวต่อพร้อมกับทำท่าทางประกอบอย่างมืออาชีพ "อย่างไรก็ตาม.. นี่เป็นโอสถทลวงปรานที่เป็นโอสถระดับต่ำที่สามารถเพิ่มความเป็นไปได้ให้แก่ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าระดับปรานก่อเกิดขั้นต่ำสามารถตัดผ่านไปยังระดับปรานก่อเกิดขั้นกลางได้ ทว่าด้วยที่มันเป็นโอสถไร้ตำหนิที่มีความบริสุทธิ์จนหาที่เปรียบไม่ได้ อย่างที่ทุกท่านเหล่านักปรุงโอสถทราบดีอยู่แล้ว หากโอสถทลวงปรานนี้ยิ่งมีความบริสุทธิ์มากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น ยิ่งเป็นโอสถไร้ตำหนิยิ่งไม่ต้องพูดถึง ประสิทธิภาพของมันกระทั่งสามารถทำให้ผู้ที่อยู่ขั้นกลางของระดับปรานก่อเกิดตัดผ่านไปยังขั้นสูงได้ทันที! ดังนั้นแล้วมันจึงไม่ด้อยไปกว่าโอสถระดับสูงเลยแม้แต่น้อย"
ผู้คนเฮลั่น!
"สุดยอด!"
"ที่ข้าร่ำเรียนฝึกฝนมา 10 กว่าปี หากเทียบกับโอสถไร้ตำหนินี่แล้ว โอสถของข้าก็ไม่ต่างอะไรจากเศษขยะ!"
"นี่แหละโอสถไร้ตำหนิ โอสถที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สมแล้วที่เป็นโอสถในตำนาน!"
ต้องรู้ว่าโอสถระดับสูงทั้งยังเป็นโอสถไร้ตำหนิในตำนานเช่นนี้ ย่อมต้องมีคุณค่ากว่าโอสถระดับสูงทั่วไปอย่างมหาศาล แม้จะนับว่าเป็นโอสถระดับต่ำ แต่หากมันคือโอสถไร้ตำหนิ เช่นนั้นคุณค่าของมันก็ย่อมประเมินไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะกับเหล่านักปรุงโอสถเองพวกเขาคือเหล่าผู้ที่เดินสู่เส้นทางสายนี้ โอสถไร้ตำหนิก็เป็นดั่งจุดหมายปลายที่พวกเขาไม่สามารถข้ามผ่านได้
ผู้ประกาศชายเอ่ยต่อเสียงดังฟังชัด "เอาหละทุกท่าน ได้เวลาเริ่มการประมูลแล้ว โอสถไร้ตำหนิมีทั้งหมด 8 เม็ด ทางเราจะประมูลรอบละหนึ่งเม็ด ราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่..." ทว่าเขายังเอ่ยไม่จบประโยค ก็มีคนเสนอราคามาก่อนแล้ว
"1,000 เหรียญทอง" เป็นเซี่ยจินเย่จ้าวสำนักโอสถทิพย์นั่นเอง
ทุกคนแทบหยุดชงัก โถงโรงประมูลเงียบสงัดไปในทันที
เริ่มมาก็ 1,000 เหรียญทองแล้ว!
ท่านจ้าวเมืองคลี่ยิ้มน้อยๆ "ศิษย์คนเล็กของข้าก็อยู่ที่คอขวดของปรานก่อเกิดขั้นกลางพอดี นับว่าเหมาะสมทีเดียว นังหนู..ข้าขอไปสักเม็ดก็แล้วกัน" จากนั้นชายชราเอ่ยเสนอราคา "3,000 เหรียญทอง"
เซี่ยจินเย่ปิดปากหัวเราะ "บังเอิญจริง ข้าก็มีศิษย์นับร้อยในสำนักที่ยังติดอยู่ที่คอขวดของระดับปรานก่อเกิดขั้นกลางเช่นกัน" นางเอ่ยเสนอราคาอีกครั้ง "5,000 เหรียญทอง!"
แท้จริงแล้ว ต่อให้โอสถนี่เป็นโอสถธรรมดาไม่ใช่โอสถไร้ตำหนิ นางก็ไม่กล้ายื่นโอสถระดับสูงที่มีราคาแพงเช่นนี้ให้กับศิษย์ในสำนักอย่างแน่นอน สู้เอาไว้ใช้เองเสียจะยังดีกว่า
มีคนตามแล้ว เป็นเหอเหลียงที่เสนอราคา "6,000 เหรียญทอง"
ลู่หานเหินยังคงไม่เสนอราคา ทั้งซื่อเฟิงและชินหรูอี้ก็เช่นกัน
จนสุดท้ายโอสถไร้ตำหนิเม็ดแรกก็เป็นท่านเจ้าเมืองหมิงเหรินได้ไปในราคา 10,000 เหรียญทอง!
เม็ดที่ 2 ก็ยังสู้ราคากันอย่างดุเดือด ไม่มีใครไว้หน้าใครสักนิด
"9,000 เหรียญทอง"
"12,000 เหรียญทอง"
จนสุดท้ายเม็ดที่ 2 ก็เป็นจ้าวสำนักโอสถทิพย์ได้ไปในราคา 13,000 เหรียญทอง
หลายคนที่หมายมั่นปั้นมือว่าตัวเองจะได้โอสถไร้ตำหนิมาครอบครองสักเม็ด แต่ว่ายังไม่ทันได้ยกมือเสนอราคาด้วยซ้ำ ก็พลันโดนตัวเลขราคาประมูลที่พุ่งสูงเสียดฟ้าตัดหน้าจนพวกเขาสะดุ้งโหยง
เป็นการเสนอราคาที่น่าหวาดกลัวโดยแท้!
การประมูลโอสถเม็ดที่ 3 ยิ่งทวีความดุเดือด ไม่มีใครยอมใคร กระทั่งจบลง..สุดท้ายเป็นเหอเหลียงที่ได้ชัยชนะไปในครั้งนี้ด้วยราคา 15,000 เหรียญเงิน!
เม็ดที่ 4 ซื่อเฟิงนางทุ่มสุดตัวแล้ว
"16,000 เหรียญทอง!"
ไม่มีใครสู้ราคาต่อ!
บัดนี้ผู้คนภายในโรงประมูลที่นิ่งเงียบดูการประชันราคาของพวกคนตระกูลใหญ่ ต่างก็ปากอ้าตาค้าง แค่คิดว่าเงิน 1,000 เหรียญทอง ที่ตัวเองกว่าจะหามาได้ก็ต้องใช้เวลาเป็นหลายปี แถมยังต้องเสียแรงเลือดตาแทบกระเด็นกว่าจะได้มา
ทว่าตอนนี้เพียงพริบตาก็ผลาญไปเป็น 10,000 เหรียญทองแล้ว!
"10,000 เหรียญทอง!"
"15,000 เหรียญทอง!"
"20,000 เหรียญทอง!"
เม็ดที่ 5 เป็นลู่หานเหินที่ได้ไปในราคา 20,000 เหรียญทอง!
หากแต่สีหน้าของผู้นำตระกูลลู่ และเหล่าผู้อาวุโสไม่ค่อยสู้ดีนัก ไม่รู้ว่าที่ลงทุนไปคุ้มค่ากับเงินมหาศาลที่เสียไปหรือไม่
จากนั้นก็เป็นเม็ดที่ 6...7 และสุดท้ายเม็ดที่ 8 ก็ประมูลเสร็จสิ้น!
เรียกได้ว่ายิ่งไกล้ถึงโค้งสุดท้าย ความดุเดือดจะยิ่งเพิ่มขึ้น และราคาเองก็จะพุ่งสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
กระทั่งเม็ดที่ 8 นี้..ราคาของมันทำให้ผู้คนแทบกลั้นหายใจ
เม็ดเดียวก็มีราคาสูงถึง 25,000 เหรียญทอง!
สรุปว่า ทั้งลู่หานเหิน ซื่อเฟิง เหอเหลียง ท่านจ้าวเมือง นายน้อยแห่งตระกูลชิน ชินหรูอี้ และจ้าวสำนักโอสถทิพย์เซี่ยจินเย่ ล้วนประมูลได้โอสถไร้ตำหนิไป
นอกจากท่านจ้าวเมืองและจ้าวสำนักโอสถทิพย์จะประมูลได้ไปคนละสองเม็ดแล้วนั้น คนที่เหลือก็ได้ไปคนละเม็ด
ผู้ประกาศชายรวมถึงเหล่าคนของโรงประมูลต่างยิ้มกริ่ม ยอดประมูลวันเดียวก็ทิ้งห่างรอบที่ผ่านมาไม่รู้กี่เท่า หากรวมกันแล้วการประมูลโอสถไร้ตำหนิไปเพียงแค่รายการเดียว ก็มีมูลค่ามากถึง 85,000 เหรียญทอว!
เรียกได้ว่ามากมายจนน่าตกใจ!
หลังจากการประมูลจบลงแล้ว ทว่าท่านจ้าวเมืองและจ้าวสำนักโอทิพย์ กระทั่งรวมถึงเหล่าผู้นำตระกูลใหญ่ล้วนยังค้างคาใจไม่หาย พวกเขาอยากทราบว่าผู้สูงศักดิ์คนใดกันที่ปรุงโอสถไร้ตำหนิเช่นนี้ได้ หากเป็นผู้ใช้อักขระจริงอย่างที่ท่านจ้าวเมืองว่า คงเป็นการเสียมารยาทยิ่งหากไม่แม้จะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่าย
บางคนส่งคนไปสืบข้อมูล
บางคนไปถามจากคนระดับสูงของโรงประมูลจันทร์เสี้ยวด้วยตัวเอง แต่ทว่าก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรกลับมา เนื่องจากโรงประมูลย่อมไม่อาจเปิดเผยความลับหรือตัวตนของผู้ที่นำสิ่งของมาประมูลได้อยู่แล้ว นอกจากจะได้รับอนุญาตจากฝ่ายนั้น
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ตาม แต่พวกเขาล้วนย่อมมีหนทางอื่นที่จะสามารถสืบรู้ข้อมูลของคนผู้นี้ได้
จะต้องรู้ให้ได้ว่าคนผู้นี้เป็นใคร!
นี่หมายถึงโอกาสอันหายากที่จะได้สานสัมพันธ์กับผู้ใช้อักขระเลยเชียว