ตอนที่4 รักษาพิษหยิน
ลี่ถังหันกายกลับมา รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างกับปฏิกิริยาของชายชรา ดวงตาใส่ซื่อของเด็กสาวแสร้งแววงุนงง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ "เอ่ออ.. ข้าเดาชื่อของมันถูกด้วยหรือเจ้าค่ะ?"
เดา?
ชายชราคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินเช่นนั้น สมุนไพรปรานต้นนี้น้อยคนนักที่รู้จักชื่อของมันจริงๆ ไม่ต้องเอ่ยถึงเด็กสาวที่พึ่งจะลืมตาดูโลกได้เพียง 13-14 ปี ซึ่งสมุนไพรปรานชนิดนี้หายากเสียยิ่งกว่ายาก
ชายชราไม่เชื่อแม้แต่น้อยว่านังหนูคนนี้จะเดาชื่อของมันถูกจริงๆ นางจะต้องรู้อะไรเกี่ยวกับมันแน่นอน!
"เจ้าอย่ามาเล่นลิ้นกับข้า!" ชายชราตะวาดลั่นด้วยสีหน้าร้อนรนอย่างปิดไม่มิด พลังปรานอันแข็งแกร่งปะทุออกมาอย่างรุนแรงชั่วพริบตา คลื่นพลังกวาดเอาโอสถและสมุนไพรชนิดต่างๆ ที่อยู่ภายในร้านพลัดตกจากชั้นวางกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น
ลี่ซือเองไม่ทันได้ตั้งตัว ชายหนุ่มที่ไร้ซึ่งพลังปรานต่อต้านก็พลันหมดสติไปในทันที
ลี่ถังขมวดคิ้ว นางรู้สึกโกรธขึ้นมาแล้วจริงๆ ที่ชายชราตรงหน้าบังอาจทำให้พี่ชายของนางโดนลูกหลงไปด้วย "เถ้าแก่ ท่านจะใจร้อนเกินไปหน่อยกระมัง แค่เพราะข้าเดาชื่อของมันได้ ท่านก็ถึงกับต้องลงไม้ลงมือกับคนธรรมดาเชียวรึ?" ลี่ถังจ้องเขม็งพร้อมกับปลดปล่อยพลังปรานของตัวเองออกไปปะทะกับพลังปรานของชายชราเช่นกัน แม้ระดับพลังของนางไม่อาจเทียบเท่า แต่ลี่ถังก็รูู้สึกได้ว่าพลังปรานของชายชราช่างปั่นป่วนไม่มั่นคง นางจึงพอต้านรับได้อยู่บ้าง ก่อนจะเอ่ยอีกว่า "ข้าไม่สนใจหรอกนะว่าท่านร้อนรนด้วยเรื่องอันใด ข้าบอกได้เพียงว่า..หากท่านยังดื้อด้านใช้พลังปรานของตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ถึงครึ่งปี..ไม่สิครึ่งเดือนท่านก็จะตาย" ตอนที่ลี่ถังเข้ามาในร้านครั้งแรก ในฐานะของผู้ใช้อักขระที่เคยผ่านโรคภัยไข้เจ็บมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน นางสามารถสังเกตเห็นความผิดปกติภายในร่างกายของชายชราได้อยู่ก่อนแล้ว
คำกล่าวนี้จึงนับว่าขู่เข็นชายชราได้ไม่น้อยทีเดียว ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ
"จะ..เจ้า!" คำกล่าวของลี่ถัง ถึงกับทำให้ชายชรากายสั่นสะท้าน เซถอยหลังจนล้มไปกองอยู่กับพื้น พร้อมทั้งสีหน้าซีดเผือดราวกับเห็นผี พลังปรานที่เคยคลุ้มคลั่งของชายชราพลันมลายหายไป
เห็นดังนั้นลี่ถังก็สลายพลังปรานของตัวเองเช่นกัน พร้อมกับถอนหายใจโล่งอก เป็นไปได้นางก็ไม่อยากปะทะหรือต่อสู้เลยจริงๆ มันไม่ใช่นิสัยของนางเสียเท่าไหร่
มองดูชายชราที่บัดนี้หน้าซีด ตกใจแทบจะเปล่งวาจาพูดออกมาไม่ได้ ลี่ถังก็ถอนหายใจยาวเหยียดออกมาอีกครั้ง "เช่นนั้น ถ้าไม่มีธุระอันใดแล้วข้าคงต้องขอตัวลา" ลี่ถังผสานมือคำนับชายชรา ก่อนจะเดินตรงไปยังร่างของลี่ซือที่นอนคว่ำหน้าหมดสติ
"ดะ..เดี๋ยว นังหนู! ไม่สิ..คุณหนู ท่านอย่าพึ่งไป ชายแก่คนนี้ช่างหูตามืดบอดมองไม่เห็นผู้มีความสามารถเช่นท่าน การกระทำไร้มารยาทเมื่อครู่โปรดอภัยให้ข้าด้วย!" ชายชราตั้งสติได้ก็พลันเอ่ยออกมาอย่างร้อนรน ล้มลุกคลุกคลานไปหาลี่ถังอย่างทุลักทุเล ก่อนจะกอดรั้งขานางไว้แน่น
บัดนี้ท่าทีหยิ่งยโสของชายชราหายไปจนหมดสิ้นแล้ว
"เถ้าแก่ท่านจะทำอะไร?" ลี่ถังสะดุ้งเล็กน้อย ไม่คิดว่าชายชราจะทำถึงขนาดนี้
"ได้โปรดคุณหนู..ช่วยชายแก่คนนี้สักครั้งเถอะ หากท่านสามารถทำให้ต้นอสรพิษอัคคีต้นนี้ฟื้นขึ้นมาได้ เช่นนั้นข้าจะยอมทำทุกอย่างต่อให้ต้องเป็นทาสรับใช้ของท่านก็ตาม" ชายชรากล่าวพรางร้องไห้น้ำตาไหล แลดูไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำแม้แต่น้อย
ลี่ถังขมวดคิ้ว "ท่านแน่ใจได้อย่างไรเจ้าค่ะ ว่าข้าสามารถทำให้มันฟื้นกลับมาได้ แล้วหากข้าทำไม่ได้เล่า?" ที่จริงแล้วนางสามารถทำให้สมุนไพรปรานระดับต่ำเช่นนี้ฟื้นขึ้นมาได้ไม่ยากเย็นอะไร หากแต่นางก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าชายชราผู้นี้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
ชายชรารีบเอ่ย "ข้าก็ไม่แน่ใจ หากแต่ผู้ที่สามารถรู้ถึงชื่อของต้นอสรพิษอัคคี อีกทั้งยังรู้ถึงอาการป่วยของข้าได้อย่างลึกซึ้งเพียงแค่ชายตามองเช่นท่าน เช่นนั้นท่านย่อมต้องมีความสามารถมากพอแน่นอน ได้โปรดช่วยข้าด้วยคุณหนู สักเล็กน้อยก็ยังดี" ชายชราเอ่ยขอร้องอ้อนวอนและไม่สนใจสถานะของตัวเองเลยสักนิด ทราบดีว่าตนจะตายในอีกไม่ถึงครึ่งปีหากยังไม่รีบรักษา แม้ความเป็นไปได้มีเพียงน้อยนิดก็ตาม ชายชราก็ไม่อยากพลาดพลั้งโอกาสนั้น
ลี่ถังเข้าใจความคิดของอีกฝ่าย ด้วยประตูแห่งตายจะเปิดอ้าต้อนรับในอีกไม่ช้า เป็นใครก็ต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด ที่ชายชรามีท่าทีเช่นนี้ก็นับว่าไม่น่าแปลกใจอันใด
สรรพคุณของต้นอสรพิษอัคคี มันสามารถช่วยชะร้างพิษหยินของผู้ฝึกปรานได้ ซึ่งสอดคล้องกับพิษหยินในร่างกายของชายชราผู้นี้ ซึ่งมันจะไปปิดกั้นเส้นชีพจรลมปรานต่างๆ ในร่างให้แข็งตัว ไม่อาจเดินลมปรานได้สะดวก ทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดทรมานราวกับมีเข็มนับพันเล่มฝังอยู่ในร่างกาย หากปล่อยไว้นานๆ พิษหยินก็จะลุกลามจนถึงขั้นแช่แข็งร่างกายของชายชราให้กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งไปเลยทีเดียว เมื่อถึงตอนนั้นแน่นอนว่าชายชราย่อมต้องตายมิอาจรักษาได้อีก
ทว่าลี่ถังคิดต่างออกไป ต้นอสรพิษอัคคีแม้จะมีสรรพคุณชะล้างพิษหยินจริง แต่ผลข้างเคียงที่ตามมาก็เสี่ยงมากเช่นกัน ถึงขั้นไม่อาจฝึกปรือพลังปรานได้อีกต่อไป สำหรับผู้ฝึกปรานบางคนแล้ว การที่ไม่สามารถฝึกปรือพลังปรานได้ นับว่าหนักหนาแทบไม่ต่างจากคำว่า 'ตาย' เลยทีเดียว
ลี่ถังเอ่ย "เอาเถอะ..ข้ารู้แล้วว่าท่านกำลังคิดสิ่งใด ข้าสามารถรักษาท่านได้.. หากแต่ต้นอสรพิษอัคคีต้นนั้นท่านต้องยกให้ข้า ถือเสียว่าเป็นค่าตอบแทนก็แล้วกัน" เด็กสาวชี้นิ้วไปยังต้นอสรพิษอัคคี ก่อนจะเผยรอยยิ้มน้อยๆ
"จะ..จริงหรือ?" ได้ยินว่านางสามารถรักษาตนได้ ชายชราก็พลันตื่นเต้นแทบจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ แต่มีบางสิ่งที่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วสงสัย ก่อนจะเอ่ยถาม "คุณหนู.. ในเมื่อท่านจะรักษาข้า.."
"ท่านฟังไม่ผิดเจ้าค่ะ ข้าสามารถรักษาท่านได้ โดยไม่ต้องพึ่งต้นอสรพิษอัคคี" ลี่ถังรู้ดีว่าชายชราจะกล่าวอะไรออกมา นางจึงเอ่ยตัดบททันทีด้วยสีหน้าที่มั่นใจ
หากแต่ชายชรายังคงลังเล "เอ่ออ.. แบบนี้มัน..มันจะไม่เป็นไรหรือคุณหนู" เขามั่นใจว่าต้นอสรพิษอัคคีจะสามารถรักษาพิษหยินในร่างของตนได้ หากแต่เด็กสาวผู้นี้กล่าวว่าจะรักษาตนโดยไม่ต้องพึ่งต้นอสรพิษอัคคี ต่อให้เชื่อใจปานใดเรื่องนี้ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ กระทั่งปรมจารที่ได้ชื่อว่าเก่งกาจที่สุดในเมืองหลวง ก็จนปัญญาจะรักษาพิษหยินในร่างของตน ไหนเลยเด็กสาวตัวเล็กๆ ผู้หนึ่งจะสามารถทำได้
"เถ้าแก่ท่านอย่าได้กังวลเจ้าค่ะ การรักษาของข้าปลอดภัยยิ่งกว่าใช้ต้นอสรพิษอัคคีรักษาเสียอีก หากท่านยังไม่เชื่อ เช่นนั้นคงน่าเสียดายแล้ว" ลี่ถังถอนหายใจอย่างแสนเสียดาย ท่าทีดูจนปัญญายิ่ง
"กะ..ก็ได้คุณหนู ข้าเชื่อท่าน" ชายชรารีบเอ่ย
ลี่ถังคลี่ยิ้มน้อยๆ อย่างพึงพอใจ "เช่นนั้นก็ดีเจ้าค่ะ ข้ามีเวลาไม่มากนักในวันนี้" ลี่ถังท่าทางขบคิดเล็กน้อย มองร่างพี่ใหญ่ของนางที่นอนหมดสติอยู่ ก่อนจะเอ่ยกับชายชราอีกว่า "ดีละ เรามาเริ่มกันเลยดีไหมเจ้าค่ะ"
ตอนนี้นางไม่อยากให้พี่ชายและครอบครัวรู้เรื่องที่ตัวเองเป็นผู้ฝึกปรานไวนัก อย่างไรเสียเพียงการรักษาพิษหยินเท่านั้น ไม่ได้ใช้เวลานานอะไร แต่ค่าตอบแทนที่ได้ก็นับว่าคุ้มค่าอยู่บ้าง ต้นอสรพิษอัคคีแม้จะเป็นเพียงสมุนไพรปรานระดับต่ำในสายตาของนาง ทว่าหากเมื่อมันมาอยู่ในมือของนางแล้ว ใครในโลกนี้ย่อมไม่อาจประเมินค่าได้
"ดะ..ได้" ชายชรารับคำ
จากนั้นเขาก็พาลี่ถังขึ้นไปยังห้องบนชั้นสองของร้าน ซึ่งเป็นห้องที่่เรียกได้ว่าเงียบสงบตัดขาดจากโลกภายนอก ทั้งที่นี่ยังอบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพรมากมายหลากชนิด ชัดเจนว่าห้องนี้เป็นห้องที่ชายชราใช้ในการปรุงโอสถ
เมื่อลี่ถังเดินเข้ามาก็พรางสูดดมซึมซับกลิ่นหอมของสมุนไพร นางสามารถแยกแยะกลิ่นของสมุนไพรมันออกได้ไม่ยาก นางในชีวิตก่อนเองก็เคยปรุงโอสถเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นนักปรุงโอสถคนหนึ่งที่มีประสบการณ์โชกโชน อีกทั้งคนที่สั่งสอนนางคือ 'เทพโอสถหวางอวิ๋น' ความสามารถด้านการรับรู้กลิ่นสมุนไพรของนางจึงเป็นเลิศอย่างยิ่ง
"เช่นนั้นเรามาเริ่มกันเถอะเจ้าค่ะ" เมื่อเห็นว่าชายชราถอดเสื้อออกแล้ว จนเผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าท่อนบนที่เหี่ยวย่น ทว่าผิวหนังบางส่วนมีรอยปานคล้ายกับเกล็ดน้ำแข็งเท่าฝ่ามือขึ้นอยู่ทั่วบริเวณลำตัว ทั้งยังมีไอเย็นแผ่ออกมาอยู่เป็นระรอก แม้แต่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกได้ว่า ปานเกล็ดน้ำแข็งพวกนั้นกำลังกัดกินร่างกายของชายชราไปทีละนิด นับว่าอาการค่อนข้างหนักหนาทีเดียว
แม้จะเห็นเช่นนั้น ลี่ถังก็ไม่ได้รู้สึกเคร่งเครียดแต่อย่างใด "ต่อจากนี้ ไม่ว่าท่านจะพบเจอสิ่งใดอย่าได้ขยับตัวเป็นอันขาดนะเจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นการรักษาอาจจะผิดพลาดได้" ลี่ถังกำชับด้วยสีหน้าจริงจังกว่าทุกครั้ง
เห็นท่าทีและคำพูดนั้นของเด็กสาว ชายชรายิ่งสงสัยใคร่รู้ แต่แม้จะมีความสงสัยในใจมากมายเพียงใด เขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้จึงพยักหน้าตอบรับ "ข้าเข้าใจแล้ว"
ได้รับคำตอบจากชายชราแล้ว ลี่ถังไม่รอช้าก่อนจะสะบัดแขน พลันปรากฏเป็นพลังอักขระสีฟ้าอ่อนที่มีลวดลายอักขระโบราณแผ่ขยายออกปกคลุมไปทั่วห้องปรุงโอสถ เพื่อไม่ให้ไอเย็นจากพิษหยินเล็ดลอดออกไปขางนอกได้ ลี่ถังจึงสร้างอักขระป้องกันขึ้นมา
ชายชราที่จับจ้องการกระทำของลี่ถังทุกการเคลื่อนไหว เขาย่อมต้องเห็นเต็มสองตาถึงพลังลึกลับที่นางใช้ออก ทันทีที่พลังอักขระของลี่ถังปรากฏแก่สายตา ความตกตลึงก็เข้าครอบงำจิตใจชายชราทันที
'ความรู้สึกนี้..พลังเช่นนี้ เหมือนกับคนผู้นั้นไม่ผิดเพี้ยน!
ชายชราคร่ำครวญในใจ หากแต่ไม่กล้าเปล่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย ได้แต่จ้องมองอย่างตกตลึง มาตอนนี้เขายิ่งนับถือลี่ถังมากขึ้นหลายเท่าตัว ด้วยพลังและกลิ่นอายที่นางแผ่ออกมา ไม่ต่างจากผู้สูงศักดิ์คนนั้นเลยสักนิด ชายชราจึงมั่นใจอย่างยิ่ง..
ไม่ผิดแน่! นางคือผู้ใช้อักขระ!