ตอนที่14 โดนลักพาตัว?
"หง่ำๆ อร่อยจัง"
"ท่านลุง หลินเอ๋อขออีกเยอะๆ เลย"
"เอ๋ อันนั้นน่ากินจริง พี่สาวรองข้าอยากกิน!"
เสียงของเด็กน้อยเอะอะวุ่นวาย จนผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาอดมองดูไม่ได้ เห็นเด็กสาวตัวน้อยคนหนึ่งในมือถือถุงขนมเต็มไม้เต็มมือไปหมด ราวกับกลับกลัวว่าใครจะแย่งมันไป กระพุ้งแก้มบวมเป่งในปากเต็มไปด้วยของกิน ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย
"น้องรอง ตามใจนางแบบนี้จะดีจริงๆ หนะหรือ แบบนี้เกรงว่ามีเท่าไหร่ก็คงไม่พอ" ลี่ซือยิ้มแห้งๆ อย่างจนใจ
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แบบนี้แหละดีแล้ว ข้าพอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินหรอกเจ้าค่ะ" ลี่ถังเอ่ยตอบยิ้มๆ
ลี่ซือสงสัย แต่ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมาอีก
ตั้งแต่ที่น้องเล็กบรรลุพลัง ลี่ถังนางก็สังเกตการเปลี่ยนแปลงของพลังในร่างของน้องเล็กอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้นางได้รู้ความลับบางอย่างที่น่าอัศจรรย์อย่างหนึ่งว่า พลังสายเลือดเผ่าโบราณของน้องเล็กนั้น.. ไม่จำเป็นต้องดูดซับไอปรานเหมือนผู้ฝึกปรานทั่วไป เพียงนางกินแล้วก็กิน ก็สามารถเพิ่มระดับพลังได้ เผลอๆ จะไวกว่าการกินโอสถเพื่อเพิ่มระดับพลังปรานด้วยซ้ำ
สรุปแล้ว การกินก็เป็นอีกวีธีหนึ่งและได้ผลที่สุด ที่จะสามารถเพิ่มระดับพลังของลี่หลินได้อย่างรวดเร็ว
ไม่จำเป็นต้องพึ่งสมาธิในการรวบรวมไอปราน และใช้โอสถในการเพิ่มพลัง
ทั้งสองอย่างนั้นลี่ถังรู้ว่าน้องเล็กคงยากจะทำได้
สมาธิหรือ?
กินโอสถหรือ?
นี่ย่อมต้องเป็นอะไรที่ยุ่งยากและน่าปวดหัวแน่นอน
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือความต้องการกินของนังหนูลี่หลินจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เรียกได้ว่ากระเพาะมิต่างจากหลุมดำ แต่ถึงอย่างนั้นลี่ถังก็ไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ ตราบใดที่ยังมีเงิน นางก็ยังสามารถสนองความตะกละตะกลามของน้องเล็กได้
"เราก็ไปซื้อของกลับเรือนกันเถอะเจ้าค่ะ อยู่นานเดี๋ยวท่านพ่อกับท่านแม่จะเป็นห่วง" ลี่ถังเอ่ยกับลี่ซือ ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะพยักหน้ากลับมา
ในขณะที่ทั้งสามเดินพลางเลือกซื้อของอยู่นั้น ก็เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายขึ้น มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบของม้าดังมาจากด้านหลัง เป็นรถม้าที่ดูหรูหราคันหนึ่งวิ่งมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่แม้จะชะลอ
ผู้คนที่เดินตามถนนหนทางต่างพากันวิ่งหนีคนละทิศละทางไปด้วยความแตกตื่น
เด็กน้อยคนหนึ่งที่พลัดหลงกับมารดายืนร้องให้ท่ามกลางความชุลมุนวุ่ยวายของผู้คนที่วิ่งหนีเอาตัวรอด
แค่เพียง 5 ก้าว รถม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงก็จะถึงตัวของเด็กน้อยคนนั้น
ไม่รู้เป็นเพราะสัญชาตญาณหรือเพราะเห็นภาพเด็กคนนั้นทับซ้อนกับน้องเล็กของตน ลี่ซือพลันรีบพุ่งตัวออกไป เพื่อหมายจะช่วยเด็กน้อยคนนั้นเอาไว้โดยไม่คิดชีวิต พลังปรานในร่างถูกเรียกใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกาย ไม่ทันไรชายหนุ่มก็ถึงตัวของเด็กน้อยคนนั้น ทว่านั่นก็ถึงระยะที่รถม้าจะกระแทกร่างของเขาแล้วเช่นกัน
"ไม่ทันแล้ว!" ลี่ซือร่ำร้องในใจ
ชายหนุ่มหลับตาพลางกอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น รอรับแรงกระแทกและความเจ็บปวดที่กำลังจะมาถึง
เสียง ตุบ! พร้อมกับเสียง โครม! ดังสนั่นหวั่นไหว
อีกทั้งยังมีเสียงผู้คนอุทานอย่างประหลาดใจ
ตอนนี้ลี่ซือไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ความเจ็บปวดที่ตนควรได้รับกลับกลายเป็นว่า มีเพียงสายลมรุนแรงสายหนึ่งพัดผ่านใบหน้าไปเท่านั้น
ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด
ชายหนุ่มค่อยๆ ลืมตาดูอย่างสงสัย ทันทีที่เห็นร่างอันคุ้นเคยยืนอยู่ตรงหน้า ลี่ซือก็ดวงตาเบิกกว้างขึ้นทันที "นะ..น้องรอง!"
ทว่าเขากลับนึกขึ้นมาได้ จึงหันมองซ้ายขวาอย่างร้อนรน หารถม้าที่เมื่อครู่มันวิ่งมาด้วยความเร็ว แต่ตอนนี้ไม่อยู่อีกแล้ว
หากแต่เพียงไม่นานสายตาของเขาก็ไปหยุดชะงักกับกลุ่มควันโขมงที่อยู่ไม่ไกล ปรากฏรถม้าหรูหราที่บัดนี้พลิกคว่ำอยู่ที่พื้น ม้าสองตัวร้องเสียงดังพร้อมกับดิ้นทุรนทุรายหมายจะหลุดออกจากเชือกที่พันธนาการมันเอาไว้
ลี่ซือมองน้องรองด้วยความตกตลึง นี่เป็นฝีมือของนางงั้นหรือ?
ลี่ถังถอนหายใจยาวเหยียด รู้สึกเจ็บที่ข้อมือจนนางอดขมวดคิ้วไม่ได้ แขนข้างขวาชาแทบจะไม่รู้สึกอะไร
เมื่อครู่ยังดีที่นางไหวตัวทัน สะกัดรถม้าเอ้าไว้ได้พอดี ไม่งั้นนางไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
"ไม่เป็นไรใช่หรือไม่เจ้าค่ะ?" นางหันไปเอ่ยถามกับพี่ใหญ่
"พี่ใหญ่ไม่เป็นไร แต่ว่า.."สายตาของชายหนุ่มมองรถม้าอย่างกังวล
ทันใดนั้น ก็มีเสียงไอ แค่กๆ ดังมาจากคนในรถม้า ชายหนุ่มแต่งตัวดูดีคนหนึ่งคลานออกมาจากรถม้าอย่างทุลักทุเล
ทันทีที่ตั้งตัวลุกยืนขึ้นมาได้ สีหน้าเขาก็ดุร้ายขึ้นมา พร้อมกับกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด "ใครกล้าบังอาจลอบทำร้ายข้าผู้นี้ รนหาที่ตายสินะ ไหน! ใครหน้าไหนมันทำร้ายข้า! เผยตัวออกมาซ่ะ"
ทั่วบริเวณพลันเงียบกริบไร้ซุ่มเสียง หากแต่สายตาของทุกคนมองไปยังร่างของเด็กสาวเป็นสายตาเดียวกัน
"เจ้าสินะ นังเด็กสารเลว!" ชายคนนั้นรู้ได้ทันที เขาตะวาดลั่นพร้อมกับชี้หน้าเด็กสาว สีหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงฝีเท้าของคนหลายสิบคนวิ่งตามมา ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายๆ กันวิ่งมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบ
"นั่น นายน้อยอู๋อยู่นั่น เกิดอะไรขึ้น?"
เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้พวกเขาสีหน้าเปลี่ยนไป
อู๋เหมินเมื่อเห็นผู้คุ้มกันของตนมาถึง เขาก็สั่งการออกไปทันที "พวกเจ้ามาก็ดีแล้ว" ชายหนุ่มชี้ไปทางลี่ถังและลี่ซือ "หักแขนหักขาพวกมันให้ข้าซ่ะ ทำยังไงก็ได้ให้พวกมันเจ็บปวดที่สุด"
"นายน้อย นะ..นี่มัน" ผู้คุ้มกันหลายสิบคนเกิดความลังเลใจ มาถึงไม่ทันไรก็ถูกสั่งให้ไปทำร้ายเด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ไม่มีทางสู้เสียแล้ว
"ทำไม พวกเจ้าจะขัดคำสั่งข้างั้นรึ?"
"ไม่กล้าขอรับ"
"งั้นก็รีบลงมือซ่ะ อย่าให้ข้าต้องอับอาย!"
ลี่ถังขมวดคิ้ว ไม่ว่าจะโลกไหนก็มีคนประเภทนี้อยู่จริงๆ
"พวกเจ้าคิดจะทำอะไร" ทว่าทันใดนั้น เสียงของหญิงสาวก็ดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน
ไม่นานก็มีร่างในอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์ของหญิงสาวเดินออกมาพร้อมกับผู้ติดตามสองคน ในขณะที่ฝูงชนหลีกทางให้อย่างรู้งาน
ทันทีที่เห็นใบหน้าอันงดงามของหญิงสาว ผู้คนต่างก็อุทานด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
"นั่นลู่เหยียนหนิ นางมาทำอะไรที่นี่?"
"บุตรสาวสุดที่รักของผู้นำตระกูลลู่ แถมยังเป็นศิษย์หลักของสำนักโอสถทิพย์ ไม่น่าเชื่อว่าข้าจะได้เจอนางที่นี่!"
ลู่เหยียนไม่สนใจเสียงของฝูงชน นางก้าวเดินเชื่องช้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าลี่ถังและลี่ซือ พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น
จากนั้นจึงหันไปมองอู๋เหมิน และผู้คุ้มกันอีกหลายสิบคนที่กำลังล้อมรอบ รอยยิ้มที่เคยประดับบนใบหน้าอันงดงามก็หายไปทันที
"ข้าถามว่าพวกเจ้าคิดจะทำอะไร?"
อู๋เหมินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที "ศิษย์พี่ลู่เหยียน เรื่องนี้ข้าอธิบายได้"
ลู่เหยียนโบกมือตัดบท "ข้าเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มจนจบแล้ว ไม่มีอะไรต้องมาอธิบาย หากเจ้าคิดจะแก้ตัว ก็ไปแก้กับผู้คุมกฎในสำนักเถอะ รู้ใช่หรือไม่ว่าตัวเองทำอะไรผิด"
อู๋เหมินนิ่งเงียบไปครู่ ก่อนจะกัดฟันตอบ "ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว"
ลู่เหยียนโบกมือ แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ "เข้าใจแล้วงั้นก็ไปเสีย แล้วอย่าทำอะไรแบบนี้อีกเด็ดขาด หากมีครั้งหน้าเจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
ก่อนจากไป อู่เหมินไม่วายจะส่งสายตาอาฆาตแค้นให้กับลี่ซือและลี่ถัง ราวกับจะจดทั้งสองไว้ไม่ลืม
เรื่องราวพลันจบลงอย่างรวดเร็ว
ลี่ถังถอนหายใจโล่งอก "ขอบคุณพี่สาวมากเจ้าค่ะที่ช่วยเหลือพวกเรา บุญคุณครั้งนี้ข้าจะจำไว้นางผสานมือขอบคุณอีกฝ่าย
"ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก" ลู่เหยียนเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะพยักหน้าให้กับลี่ซือ "ถ้าไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัวก่อน"
ลู่เหยียนเดินจากไปพร้อมกับผู้ติดตาม
เมื่อกี้นางพยักหน้าให้ข้าด้วย?
ลี่ซือยินดีอยู่ในใจ มองแผ่นหลังของหญิงสาวที่ค่อยๆ เดินจากไปอย่างเหม่อลอย
ทว่าขณะนั้นเอง น้ำเสียงตื่นตระหนกของน้องรองก็ได้ทำลายความคิดเพ้อฝันของชายหนุ่มไปจนสิ้น
"เดี๋ยวสิ แล้วน้องเล็กอยู่ไหน!" ลี่ถังใช้ดวงตาสีเขียวกวาดมองโดยรอบ แต่ไม่เห็นแม้แต่วี่แววพลังของอีกฝ่าย
"เห็นหรือไม่น้องรอง"
"ไม่เลย ข้าไม่เห็นหรือสัมผัสพลังของนางได้เลย"
สีหน้าของทั้งสองพลันตื่นตระหนกสุดขีด!
อย่าบอกเชียวว่าโดนลักพาตัว!