บท
ตั้งค่า

ตอนที่11 บรรลุเป็นผู้ฝึกปราณ

ลี่ถังกลับเรือนโดยใช้วิชาเคลื่อนย้ายมิติเทพ เพียงพริบเดียวตานางก็กลับมาถึงห้องอันซ่อมซ่อของตัวเอง พอมองไปรอบๆ ห้องแล้วนางก็อดทอดถอนใจออกมาไม่ได้ "เอาเถอะ ตอนนี้มีเงินแล้ว ไว้ค่อยสร้างบ้านใหม่ก็แล้วกัน"

จากนั้นลี่ถังก็เดินไปเปิดประตู ทว่าทันทีที่แง้มบานประตูออกก็พลันเห็นใบหน้าที่คุ้ยเคยของพี่ใหญ่ "เอ๋ พี่ใหญ่หรือ"

ลี่ซือชะงัก เมื่อกี้ชายหนุ่มกะจะเคาะประตูทว่าก็เห็นน้องรองเปิดประตูออกมาพอดี

เขาเกาศีรษะพรางยิ้มแห้งๆ กล่าวว่า "แหะๆ พี่ใหญ่เอง เอ่อ..ว่าแต่เจ้าทำอะไรอยู่หรือ"

"ข้ากำลังเตรียมพร้อมอยู่อย่างไรเจ้าค่ะ" ลี่ถังยิ้ม

"เอ๋ เช่นนั้นหรือ? ฮ่าๆ โทษที พี่ใหญ่ตื่นเต้นไปหน่อย" ลี่ซือหัวเราะแห้งๆ

ลี่ถังส่ายหัว พอเห็นท่าทีของอีกฝ่ายแล้ว นางก็คาดเดาจุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ได้ทันที จากนั้นนางว่า "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ที่จริงตอนนี้ข้าก็พร้อมแล้ว เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ..แล้วท่านพ่อ ท่านแม่ น้องเล็กอยู่ด้วยหรือไม่?"

"รออยู่ด้านนอก" ลี่ซือตอบอย่างตื่นเต้น ในหัวมีแต่คำว่า 'ผู้ฝึกปราน' เต็มไปหมด

เมื่อวานลี่ถังได้บอกกับพวกเขาไว้ว่า..วันนี้จะเริ่มการฝึกฝนบ่มเพาะพลัง ครั้นได้ยินก็พากันตื่นเต้นยกใหญ่ โดยเฉพาะพี่ใหญ่ของนาง ไม่รู้ว่าไปกระเหี้ยนกระหือรือมาจากไหน ดูจากการมารออยู่หน้าประตูห้องของนางแล้ว ดูท่าว่าอีกฝ่ายแทบจะทนรอไม่ไหวเต็มที

เดินออกมาถึงลานเรียบๆ ด้านหน้าเรือน ลี่ถังก็เห็นผู้เป็นบิดากำลังทำท่าทางคล้ายกับกำลังฝึกวิชาต่อสู้ หากแต่ก็ดูเงอะงะท่วงท่าพิลึกอย่างยิ่ง ข้างๆ นางยังเห็นมารดาคล้ายกับกำลังชี้แนะสามี เห็นว่าไม่ถูกต้องปากก็ดุด่าว่าไปหลายคำ พรางทำท่าทางให้อีกฝ่ายทำตาม

"ตาแก่ เจ้ากำลังทำอะไรหนะ วิชาต่อสู้นะไม่ใช่วิชาหาบฟืน ดูข้าเป็นตัวอย่างซะบ้าง ข้าเห็นมากับตาว่าผู้ฝึกปรานเขาทำกันแบบนี้" ลี่จูออกกระบวนท่าด้วยการย่อตัวลงพร้อมกับปล่อยฝ่ามือเหยียดแขนตรงไปด้านหน้า ปากก็ชี้แนะสามีไปพราง "การออกกระบวนท่าต้องหนักแน่นและงดงามแบบนี้ แล้วค่อยปล่อยพลังปรานออกไป ปั้ง!"

ลี่หลินที่อยู้ไกล้ๆ แหงนหน้ามองมารดาด้วยแววตาเลื่อมใส จากนั้นเด็กสาวทำตามด้วยสีหน้าจริงจัง ย่อตัวลงแล้วปล่อยฝ่ามือเล็กๆ ของตนออกไปพร้อมกับทำเสียงประกอบ "ปั้ง!"

ลี่จูกพยักหน้าให้กับบุตรสาวคนเล็กอย่างพึงพอใจ "แบบนั้นแหละหลินเอ๋อ สมแล้วที่เป็นลูกแม่ เจ้านับว่ามีพรสวรรค์กว่าพ่อเจ้าหลายขุมนัก"

ลี่หยางหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก

ทว่าพอเขาเหลือบไปเห็นเด็กสาวที่กำลังเดินมา ลี่หยางก็ผุดสีหน้าตื่นเต้นขึ้นทันที "โอ้ ถังน้อยเจ้ามาแล้ว!"

ลี่ถังอดหัวเราะออกมาไม่ได้ "ดูท่าว่าทุกคนคงเตรียมตัวพร้อมแล้วสินะเจ้าค่ะ"

ลี่จูว่า "แม่พร้อมแล้ว"

ลี่หลินยกมือแล้วว่า "หลินเอ๋อก็พร้อมแล้ว!"

ลี่หยางหัวเราะเสียงดัง "ฮ่าๆ พ่อพร้อมตั้งแต่เมื่อวานแล้วนังหนู"

ลี่ซือที่อยู่ข้างๆ เอ่ยอย่างรีบร้อน "น้องรองเจ้าบอกมาได้เลยว่าพวกเราต้องทำอะไรบ้าง" ชายหนุ่มแววตาตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด

ลี่ถังพยักหน้ายิ้มๆ "ในเมื่อทุกคนพร้อมกันแล้ว ถ้าอย่างนั้น..."

นางเดินไปอีกสองสามก้าวแล้วค่อยหยุดฝีเท้าลง ก่อนจะสะบัดมือไปด้านหน้า

ทันใดนั้นก็พลันปรากฏเป็นข่ายอาคมอักขระสีเขียวรูปทรงสี่เหลี่ยมขึ้น โดยที่ขนาดของมันพอๆ กับเรือนเล็กๆ หลังหนึ่งได้เลย

อีกทั้งด้านในยังเต็มไปด้วยอักษรและลวดลายอักขระโบราณล่องลอยไปมาราวกับมีชีวิต

ทั้งลี่หยาง ลี่จู และลี่ซือต่างก็พากันผุดสีหน้าตกตลึง

นี่หรือพลังของผู้ฝึกปราน ช่างเหนือจินตนาการยิ่งนัก!

ลี่ถังเอ่ยพรางชี้นิ้วไปยังข่ายอาคมอักขระ

"เอาละ ให้ทุกคนเข้าไปในนี้และนั่งลงนะเจ้าค่ะ จากนี้ข้าจะเริ่มขั้นตอนฟื้นฟูเส้นชีพจรลมปรานของทุกคนก่อนเป็นอันดับแรก"

ลี่หลินพยักหน้าหงึกๆ ราวกับเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย ใบหน้าจิ้มลิ้มแลดูร่าเริงพรางมองดูข่ายอาคมด้วยความสนใจ ดวงตากลมโตใสแป๋วของนางทอประกายระยับราวกับได้เจอของเล่นชิ้นใหม่ ก่อนจะสาวเท้าฉับๆ เข้าไปภายในข่ายอาคมเป็นคนแรกอย่างไม่อาจข่มกลั้นความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้

ลี่ซือเองก็ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย ชายหนุ่มตามหลังน้องเล็กเข้าไปติดๆ

ทว่าทันทีที่เข้ามาด้านในข่ายอาคม ลี่ซือก็พลันรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ราวกับอากาศโดยรอบเป็นพลังงานอันไม่มีที่สิ้นสุด ประหนึ่งว่ามันกำลังพยายามแทรกซึมผ่านรูขุมขนเข้าไปภายในร่างกาย ทว่าก็ไม่ได้รู้สึกระคายเคืองอันใด ตรงกันข้ามลี่ซือกลับรู้สึกว่าร่างกายเบาสะบายราวกับจะลอยได้ ทั้งยังรู้สึกกระปี้กระเป่าและเปี่ยมไปด้วยพลัง

"ถะ..ถังเอ๋อ นี่คือ.." ลี่จูเอ่ยอย่างลังเล

"ไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะท่านแม่ นี่เรียกว่าข่ายอาคม มันจะทำให้พวกท่านบรรลุเป็นผู้ฝึกปรานได้ง่ายขึ้น" ลี่ถังตอบมารดาด้วยรอยยิ้ม

ได้ยินเช่นนั้น ลี่หยางก็พลันหัวเราะร่า "หากข้าก้าวเข้าไปในนี้ ข้าก็จะกลายเป็นผู้ฝึกปรานแล้วสินะ" จากนั้นเขาก็เดินเข้าเป็นคนที่สาม

ลี่จูสูดหายใจลึก และเดินตามสามีเข้าไปในข่ายอาคมเช่นกัน

เวลาผ่านไปจนทุกคนในครอบครัวนั่งลงเข้าที่จนหมด ลี่ถังก็นั่งลงตรงจุดกึ่งกลางในขณะที่อีกสี่คนนั้งล้อมรอบ นางหยิบขวดหยกออกมาจากสาบเสื้อแล้วเปิดฝา เม็ดโอสถทั้ง 4 เม็ดก็ลอยออกมาทันที

"รับโอสถนี่ไว้นะเจ้าค่ะ" นางสะบัดแขนส่งเม็ดโอสถเสริมรากปรานลอยไปอยู่ต่อหน้าพวกเขา

"นะ..นี่โอสถอะไรหรือน้องรอง" ดวงตาของลี่ซือทอประกาย

"โอ้ หอมดีจัง นี่หรือโอสถของผู้ฝึกปราน" ลี่หยางกล่าวอย่างประหลาดใจ

ลี่จูสังเกตอยู่ครู่ ก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยกับสามีที่เห็นได้ยากยิ่ง

ลี่หลินกระพริบตาปริบ ก่อนจะสูดดมกลิ่นของโอสถตรงหน้าแล้วสีหน้าเด็กสาวก็เปลี่ยนสีไปทันที

ลี่ถังหัวเราะ น้องเล็กชอบกินจุก็จริง แต่กับเรื่องยาเห็นทีนางจะไม่ชอบเอามากๆ "ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น หากเจ้ากินยานี่ได้ พี่รองจะพาเจ้าไปซื้อขนม เจ้าอยากกินอะไรพี่รองก็จะซื้อให้ ดีหรือไม่?"

ลี่หลินดวงตาทอประกายขึ้นทันที "จริงๆ นะ พี่สาวรองไม่ได้โกหกหลินเอ๋อใช่หรือไม่"

ลี่ถังยิ้ม "พี่รองเคยโกหกเจ้าหรือ"

"เย่ๆ งั้นก็ได้ หลินเอ๋อจะกินยาเหม็นๆนี่ก็ได้"

ยาเหม็นๆ

ลี่ถังมุมปากกระตุก

"เดี๋ยวเถอะนังหนูนี่" ลี่จูถลึงตาใส่บุตรสาวคนเล็กอย่างอดไม่ได้

ลี่ถังเพียงยิ้มว่า "เอาละเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นทุกคนก็กินโอสถได้เลย" นางพยักหน้าให้กับพวกเขา

จากนั้นลี่ซือ ลี่หยาง ลี่จู ก็กลืนเม็ดโอสถลงท้องไปรวดเดียวพร้อมกันอย่างไม่ลังเล

ส่วนลี่หลินลังเลอยู่เล็กน้อย แต่เพื่อขนมแล้วเด็กสาวกระทั่งทำได้ทุกอย่าง ก่อนจะกลั้นหายใจยัดเม็ดโอสถเข้าปากไปอย่างรวดเร็ว

ในระหว่างนี้นัยน์ตาของลี่ถังเปลี่ยนเป็นสีเขียว พรางมองทุกการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของทุกคนอย่างไม่ละสายตา อย่างไรนี่ก็เป็นครั้งแรกกับการบรรลุเป็นผู้ฝึกปรานของพวกเขา นางย่อมไม่ปล่อยให้เกิดข้อผิดพราดได้แม้แต่จุดเดียว

ลี่ถังสลับสายตามองการเปลี่ยนแปลงของแต่ละคนอย่างตั้งใจ หากมองจากมุมมองของนางแล้ว เวลานี้โอสถได้ละลายกลายเป็นหมอกสีขาวและเริ่มแทรกซึมผ่านทุกอนูของร่างกายเรียบแล้วร้อย

ลี่ซือรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด

พลังงานอุ่นๆ กำลังแผ่ซ่านไปทั่วทุกซอกทุกมุมของร่างกายอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง หากให้ทุบหินใหญ่สักก้อนตอนนี้ เขาก็มั่นใจอย่างยิ่งว่าจะทำได้

ลี่หยางกับลี่จูเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน

ผ่านไปไม่นานนัก ทันใดนั้นกลิ่นอายพลังปรานก็ปะทุออกมาจากร่างของทั้งสามคน ริ้วลมปรานสีขาวหลายสายพวยพุ่งออกมาราวกับสายน้ำ

ลี่ถังเพ่งสายตามองอีกครั้ง เวลานี้นางเห็นว่าเส้นชีพจรลมปรานของพวกเขามีพลังสีขาวบริสุทธิ์ไหลเวียนอยู่ทั่วร่าง จุดกึ่งกลางท้องน้อยยังมีพลังแบบเดียวกันหมุนวนเป็นเกลียวคลื่นขนาดเท่ากำปั้นอยู่ ชัดเจนว่าพวกเขาบรรลุเป็นผู้ฝึกปรานเรียบร้อยแล้ว

เนื่องจากอยู่ภายใต้ข่ายอาคม แม้จะพึ่งบรรลุกลายเป็นผู้ฝึกปราน หากแต่รากฐานพลังของทั้งสามคนเรียกได้ว่ามั่นคงอย่างยิ่ง

แม้กระทั่งพลังบ่มเพาะยังเพิ่มขึ้นมา จนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการบรรลุครั้งแรก อีกเพียงนิดเดียว ทั้งลี่ซือ ลี่หยาง และลี่จูก็จะตัดผ่านไปยังระดับปรานก่อเกิดขั้นกลางได้แล้ว

ทว่าลี่ถังนางต้องขมวดมุ่น เนื่องจากน้องเล็กของนางแตกต่างจากคนอื่น ภายในร่างของเด็กน้อยตอนนี้เกิดเป็นกลุ่มก้อนพลังสีเหลืองอ่อนที่จุดกึ่งกลางท้องน้อย ดูราวกับเปลวเทียนที่วูบไหวไปมา เส้นชีพจรลมปรานทั่วร่างเองก็ล้วนถูกเติมเต็มด้วยพลังสีเหลืองนี้เช่นกัน

ลี่ถังค้นความทรงจำของตัวเองทันที

ลักษณะพลังแบบนี้ แน่นอนว่านางย่อมเคยเห็นมาก่อน

ทว่าทันทีที่นึกขึ้นมาได้ สีหน้าและแววตาของนางก็เปลี่ยนไปทันที

"หรือว่า.."

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel