ตอนที่ 14 ไม่ไว้ใจ
ทับทิมเบี่ยงหน้ารอรับแรงตบจากฝ่ามือของแพรวา ดวงตากลมหลับปี๋ทำใจเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าต้องได้รับความเจ็บ เพราะเธอโดนจับตัวเอาไว้จึงไม่สามารถสู้อีกฝ่ายได้ถนัดนัก หูกลับผึ่งได้ยินเสียงล้อรถยนต์มากกว่าหนึ่งคันเบรกดังเอี๊ยด และพบว่า...
หมับ! ฝ่ามือของแพรวากำลังจะง้างตั้งท่าจะฟาดลงมาบนซีกแก้มข้างหนึ่งของทับทิม แต่ช้ากว่าอีกคน เขาปรี่ตัวเข้ามาพร้อมกับเอื้อมฝ่ามือแข็งแกร่งมาจับข้อมือแพรวาเอาไว้แน่น พลางเพิ่มแรงกำแน่นขึ้นจนแพรวาเบ้หน้าเจ็บปวด
ทางด้านข้าวเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบปล่อยตัวทับทิมโดยอัตโนมัติ เพราะหล่อนได้รับสายตามาดร้ายจากเขา คนคนเดียวกันกับที่ฆ่าเพื่อนสนิทของพวกหล่อน และนั่นส่งผลให้หล่อนรู้สึกระแวดระวังเขาเป็นอย่างมาก มาเฟียหนุ่มตรงหน้าสามารถทำได้ทุกอย่างตามอำเภอใจ โดยไม่มีใครกล้าเอาผิด
"คะ...คุณเคเดน" เรียวปากอวบอิ่มพึมพำเรียกชื่อชายหนุ่มเจ้าของฝ่ามือแกร่งที่คว้าห้ามปรามสถานการณ์ไม่สู้ดีเอาไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะถูกทำร้าย
ดวงตาคมกริบราบเรียบของเคเดนตวัดมาทางเธอเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะตวัดไปหาอีกสองคนด้วยดวงตาแข็งกร้าวกว่าครั้งใด เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา กระชากตัวทับทิมให้มายืนข้างกัน ในขณะลูกน้องของเคเดนเข้ามาจัดการจับกุมตัวข้าวกับแพรวา
"เจ้านายจะเอายังไงกับพวกเธอต่อ" ทิศเหนือซึ่งเดินเข้ามาสมทบจึงเอ่ยขอความเห็น เตรียมรอรับคำสั่งจากเจ้านายหนุ่ม
"พวกมันสมควรตายตามเพื่อนของมัน!" เคเดนกดตามองพวกหล่อนอย่างไร้ความปรานี ความโกรธเกรี้ยวภายในอกด้านซ้ายของเขา ซึ่งไม่รู้สาเหตุ ว่าทำไมครั้งนี้เขาถึงโกรธจนไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้ และเผลอกำข้อมือเล็กของทับทิมแน่น
"คะ...คุณเคเดน ทิมเจ็บ" น้ำเสียงหวานจากคนตัวเล็กข้างกายร้องเจ็บ ข้อมือเธอจึงถูกคลายแรงลงแผ่วเบาเรื่อย ๆ
เคเดนไม่ได้ใส่ใจต่อความเจ็บของเธอนัก เขายังคงจดจ้องสองสาวตรงหน้าด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง หากเมื่อสักครู่เดินมาได้ยินพอดิบพอดี และถ้าเขาได้ยินไม่ผิด ในบทสนทนาประโยคที่พ่นออกมาจากปากหล่อนมีชื่อของเขาด้วย พวกหล่อนกำลังท้าทายอำนาจเขาอย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าอวดดีแบบนี้มาก่อน
เขาจะให้พวกมันได้ลิ้มลองรสชาติความตายไปจากโลกนี้เหมือนเพื่อนหล่อนคนก่อนหน้านี้ พอได้ยินน้ำเสียงทุ้มแค่นเสียงลอดไรฟันสั่งลูกน้อง
"ยะ...อย่าทำอะไรพวกฉันเลยค่ะ ฉะ...ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด!" แพรวากับข้าวก็เกิดอาการสั่นเป็นเจ้าเข้า รีบร้องวิงวอนขอความเห็นใจจากมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ หากแต่มันกลับเปล่าประโยชน์
เพราะนอกจากเขาจะไม่เห็นใจแล้วยังแค่นหัวเราะเยาะหยันพวกหล่อนอย่างสมเพช เมื่อครู่ยังอวดดีใส่คนของเขาอยู่หยก ๆ ยามนี้กลับเปลี่ยนสีเหมือนกิ้งก่า แพรวากับข้าวหมายจะเข้ามากอดขาอ้อนวอนเขาอีกครั้ง ทว่ากลับถูกลูกน้องของเขาจับกุมตัวเอาไวอย่างหนาแน่น
"อย่าให้กูต้องเจอหน้าพวกมันอีก!" ทันทีที่กลีบปากหยักของร่างสูงใหญ่เอ่ยเช่นนั้น สองสาวก็กำลังถูกบอดี้การ์ดอีกสี่นายลากตัวออกไปที่ใดสักที่ พวกหล่อนตัวอ่อนยวบ แข้งขาอ่อนแรงเมื่อรับรู้โชคชะตาแห่งความซวยของตนเอง น้ำตาเหมือนสั่งได้ ไหลพรากออกจากอย่างง่ายดาย
กับมาเฟียหนุ่มแล้วเขามองข้ามความน่าสงสารนั้น เพราะก่อนหน้านี้ยังปากดีใส่อยู่เลยด้วยซ้ำ และมากไปกว่านั้นหากปล่อยไปภายหลังก็จะแว้งกลับมาเป็นภัยต่อเขา
"คะ...คุณเคเดนหยุดเถอะ ทิมขอล่ะ" ทับทิมพอจะทราบสาเหตุขึ้นมา ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะเธอบางส่วน แต่ไม่อาจหลงตัวเองว่าเขาใส่ใจต่อเธอขนาดนั้น
"ฉันไม่ยกโทษให้กับคนที่นินทาว่าร้ายฉันลับหลัง ท้าทายฉันเกินไปนะ" ใบหน้าหล่อเหลาขึงขังเป็นเท่าตัวครั้นทับทิมเอ่ยปากขอร้องเขาให้ปล่อยตัวคู่อริของเธอ ชายหนุ่มไม่ลังเล ยืนกรานไม่ยอมไว้ชีวิตพวกหล่อน
"ตะ...แต่พวกเธอเป็นเพื่อนของทิม" หญิงสาวแววตาวูบไหวเล็กน้อย ครั้นอ้างว่าตัวเองเป็นเพื่อนกัน ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยญาติดีกันเลยสักนิด
"เพื่อนแบบไหนล่ะ เพื่อนที่คอยแต่จะเหยียบย่ำเธอให้ดูต่ำ ดูด้อยกว่าอย่างนั้นเหรอ" คิ้วเข้มดกดำกระตุกขึ้นเชิงถาม แววตาของเขาลุ่มลึกคาดเดายากมากกว่าเก่า ขยับสายตาปรายมองทับทิมสลับอีกหญิงสาวอีกสองคน
"คุณทำแบบนี้ไปทำไมคะ" ทับทิมสะอึกต่อคำพูดเขา หนำซ้ำยังอดไม่ได้อีกต่อไป เธอข่มความหวาดกลัวเคเดนเอาไว้ลึกสุดหัวใจ ก่อนจะโพล่งถามเขาอย่างใคร่สงสัย เขาต้องโกรธขนาดนั้นเชียวหรือเพียงเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร
"เธอจะถามทำไมในเมื่อก็เห็นอยู่ทนโท่" แต่กลับผิดคาด เขาไม่ได้โกรธพวกหล่อนเพราะถูกกล่าวหาว่าฆ่าคน คำตอบจากเขามีผลต่อทับทิมเป็นอย่างยิ่ง หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะฉับพลัน
ไม่แน่ใจว่าตื่นกลัว หรือหวาดระแวงต่อน้ำเสียงเรียบราบแต่แฝงความจริงจังที่เอ่ยออกมากันแน่
เขาเป็นคนหลายบุคลิกเกินกว่าเธอจะคาดเดาอะไรจากเขาได้ ประโยคที่ว่าเธอเป็นคนของเขา ฟังแล้วกลับรู้สึกแปลก ๆ เกินกว่าจะบรรยายสื่อสารเป็นคำพูดได้
ทับทิมอดยอมรับไม่ได้เลย เธอกลับรู้สึกอบอวลเต็มไปด้วยความรู้สึกอุ่นใจ และปลอดภัยหากมีเขาอยู่เคียงข้าง ถึงแม้เขาจะเป็นคนคนเดียวกับที่ทำร้ายเธอแต่กลับปกป้องเธอในคราวเดียวกัน
หญิงสาวเรียกสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง สะบัดหัวไล่ความประหม่าออกไปให้พ้น ถึงแม้เธอกับข้าวและแพรวา จะเป็นคู่อริกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอก็ไม่ได้อยากให้พวกหล่อนพบจุดจบน่าสงสารแบบนั้น และความใจร้อนวู่วามของเคเดนที่ลงมือปลิดชีวิตส้มเพื่อนร่วมคณะอีกคน
ทำให้ทับทิมรู้สึกขุ่นเคืองเขาในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เขาฆ่าทุกคนราวกับผัก ปลา อย่างกับเหยื่อพวกนั้นไร้ชีวิต ไร้ความรู้สึก
"คุณกำลังทำให้ทิมดูแย่ในสายตาคนอื่นมากกว่าเดิมอีกค่ะ" ทับทิมส่ายหน้าประกอบการพูดด้วยสีหน้าผิดหวังเต็มเปี่ยม ยิ่งรู้จักตัวตนเขา หญิงสาวจึงทราบได้ว่าเขาอันตรายเพียงใด เธอควรอยู่ให้ห่างจากเขา นั่นเป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำตั้งนานแล้ว
แต่เมื่อเธอพยายามจะถอยออกมาจากจุดสุ่มเสี่ยง เขากลับยัดเยียดความใกล้ชิดมากขึ้นให้แก่เธอ จนไม่สามารถเลี่ยงที่จะเผชิญหน้าร่วมชะตากับเขาได้
"แต่ใครจะสน ฉันไม่สน หึ!" มาเฟียแค่นหัวเราะหยันซึ่งทำเอาใครต่อใครที่ได้ยินน้ำเสียงหัวเราะนั้นขนลุกขนชัน เสี้ยวรอยยิ้มมุมปากบิดขึ้นสูงเพียงข้างเดียวส่อแววถึงความเจ้าแผนการ ก่อนเสี้ยวมุมปากน่าสยดสยองนั้นจะหายไป หลงเหลือเพียงสีหน้าตายด้านติดเย็นชาเฉกเช่นเดิม
"คุณเคเดน อึก" คิ้วเรียวสวยขมวดเข้ากัน ในขณะร่างสูงใหญ่เอื้อมมือขึ้นมาคว้าบีบเข้าที่ปลายคางเธอ พลางลูบไล้วนเบา ๆ อย่างอ้อยอิ่งครั้นเอ่ย
"ใครพูดไม่เข้าหูก็แค่ยิงพวกมันทิ้ง ไม่ต้องไปเห้นใจมัน ถ้าใจอ่อนแบบเธออยู่บนโลกนี้ได้ยากจริง ๆ!" ทับทิมเม้มปากแน่น เธอตกใจไม่น้อยที่ได้ยินแบบนั้น นับวันเขายิ่ง เห็นความทุกข์ และความตายของคนอื่นเป็นเพียงเรื่องสนุกสนาน ต่างกับเธอที่โดนตราหน้าถูกด่าไปด้วย จนสะเทือนจิตใจเธอคล้ายว่าหัวใจจะดิ่งลงเหว
"คะ...คุณเคเดนพวกเราขอร้องล่ะค่ะ ยกโทษให้พวกเราด้วยนะคะ ฮึก ฮื่อ!" เมื่อข้าวกับแพรวาโดนกระชากไปขึ้นรถตู้อีกคันซึ่งเป็นกระจกทึบ พวกหล่อนทั้งสองก็ร้องขอความเห็นใจจากเขาเสียงหลง รั้งตัวเอาไว้ เพื่อต้านแรงจากลูกน้องของเคเดนสุดพละกำลังผู้หญิงที่มีอยู่ แต่กลับไม่เป็นผล เคเดนไม่มีวันเปลี่ยนใจ คำสั่งเขาเป็นดั่งคำประกาศิตเด็ดขาด
ซึ่งคำพูดของทับทิมเองก็ไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะเธอไม่มีสิทธิ์ออกเสียง ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเธอด้วย หญิงสาวหลุบมองปลายเท้าตัวเองด้วยความรู้สึกผิดเกิดกว่าจะเปล่งเสียงร้องไห้ เธอเจ็บจนจุกอก ลำคอแห้งผาก เกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเสียอย่างนั้น เธอไม่สามารถช่วยเพื่อนเอาไว้ได้ แม้แต่ต่อต้านเขาเพื่ออิสระของตัวเองเธอยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
"เธอจะรู้สึกผิดกับทุกคนที่ฉันฆ่าไม่ได้หรอกนะ ไม่มีประโยชน์หรอดนะทับทิม!" เขาเอ่ยบอกเสียงนิ่งขรึม ถึงแม้เพิ่งจะออกปากสั่งฆ่าคนทั้งคนไปเมื่อครู่นี้ก็ตาม มันเป็นชีวิตปกติสำหรับเขา
ประสบการณ์ผาดโผนนับตั้งแต่เวลาเก้าปีนั้นถือว่าทำให้เขามีบทเรียนในชีวิต และแข็งแกร่งมากพอ เพราะการใจอ่อนไม่ใช่เรื่องที่ดีนักต่อตำแหน่งมาเฟียที่ควบคุมคนมากมายด้วยอำนาจ และความน่าเชื่อถือ เขาจึงไม่ยอมคืนคำ หากได้ออกปากสั่งไปแล้ว มันจะทำให้เขาเสียการควบคุมลูกน้องคนในแก๊งเขาได้
"แล้วเมื่อคืนคุณก็ฆ่าคุณคินน์ด้วยใช่ไหมคะ" ทับทิมถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ จนตัวสั่นเนื่องจากเริ่มกลัวท่าทีเขาเมื่ออีกฝ่ายเหลือบมองนิ่ง ๆ
"ฉันไม่ได้ฆ่ามัน ทำไมจะแอบติดต่อไว้ทำพันธ์ุมันหรือไง!" เขายังให้โอกาสมัน และรู้สึกคันยุบยิบในใจขึ้นมาเมื่อเธอเอ่ยถึงผู้ชายเมื่อคืนนั้น มันพาลให้เขาหัวเสียไม่น้อย ความรู้สึกในตัวเขาสั่นคลอนบ่อยครั้งอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
"เปล่าสักหน่อย ทิมแค่สงสัยค่ะ ทะ...ทำไมไม่ให้โอกาสข้าวกับแพรวาเหมือนคุณคินน์บ้างคะ"
"ฉันพูดแล้วไม่ควรคืนคำ ยิ่งอยู่ต่อหน้าลูกน้อง ฉันควรแสดงความไม่ว่อกแว่ก แต่เมื่อคืนถือว่ามันดวงดีพอสมควรที่ฉันไม่ได้พาลูกน้องติดตามมาด้วย" เขาบอกแค่นั้นแล้วเดินนำขึ้นไปรอในรถลีมูซีนคันเดิมที่จอดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักด้วยท่าทีฮึดฮัด ทำเอาทับทิมยืนงงเป็นไก่ตาแตก ปรับตัวไม่ทัน ต่ออารมณ์แปรปรวนบ่อยครั้งของเคเดน
ทว่ามาเฟียหนุ่มไม่ลืมทิ้งท้ายคำพูดที่สามารถข่มขวัญเธอได้เป็นอย่างดี
"ตามเข้ามาในรถซะ ถ้าเธอยังรั้นฉันจะค่อย ๆ ฆ่าเธอให้ตายอย่างทรมาน"
"ยังไงเหรอคะ" ทับทิมใคร่สงสัย ยิ่งกลัวเธอยิ่งอยากรู้
"ฉันจะเอาเธอให้ตายคาเตียง!" ทับทิมถึงกลับนิ่งอึ้ง ดวงตากลมเบิกกว้างมากกว่าเก่า เพราะตกตะลึง