EP 1 [1-1]
“อะ...โอ๊ยยย”
ฉันรู้สึกปวดหัวทันทีที่ลืมตาขึ้นมา เพราะปาร์ตี้เลี้ยงฉลองที่ฉันได้เข้าเป็นหมอในโรงพยาบาลที่ใฝ่ฝันไว้เมื่อคืนนี้แท้ๆ พวกเพื่อนๆ ตัวดีถึงได้มอมเหล้าฉันจนนอนแฮงค์ปวดหัวอยู่ตอนนี้ ฉันค่อยๆ กระพริบตาเพื่อปรับโฟกัส ใครเอารูปอะไรมาติดไว้ที่ปลายเตียงของฉันเนี้ย แล้วทำไมผ่านม่านที่ห้องฉันถึงเปลี่ยนเป็นสีเทาเข้มแบบนี้ ฉันหันไปสังเกตรอบๆ ห้องที่เปลี่ยนไปตอนนี้ มะ...มันไม่ใช่ห้องของฉันนี่!
“เหี้ยยยย!”
ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อหันมาเห็นว่าฉันไม่ได้นอนอยู่บนเตียงคนเดียวและคนที่นอนอยู่ข้างฉันตอนนี้คะ..คะ...คือ แฟนเก่าของฉัน!
“เลือกคำทักทายได้ดีนี่”
เขาพูดขึ้นก่อนจะค่อยๆ ลืมตามองหน้าฉัน ซึ่งเขาไม่ได้ใส่เสื้อส่วนฉันรีบก้มลงมองตัวเองทันที ฉันใส่เสื้อเชิ้ตของใครอยู่ก็ไม่รู้
“นี่คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง! คุณทำอะไรฉัน! แล้วทำไมฉันถึงใส่เสื้อตัวนี้อยู่!”
ฉันรีบเด้งตัวขึ้นนั่งพลางจ้องหน้าเขาอย่างคาดคั้น บ้าเอ้ย! ทำไมฉันถึงเมาไม่ได้สติขนาดนี้นะ แล้วตื่นมาเจอใครไม่เจอ ดันมาเจอแฟนเก่าที่ฉันหนีมาตลอดหกปีอีกด้วย
“จะให้เฮียตอบข้อไหนก่อนดีล่ะ”
เขาพูดพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหมอน เผยให้เห็นผิวขาวๆ และกล้ามหน้าท้องที่ไม่ได้เป็นทรงมากหนักแต่ก็ทำให้ฉันถึงกับลอบกลืนน้ำลาย
“หึ! นี่มันห้องเฮียนะ หนูนั้นแหละคิดดูดีๆ ว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ห้ามเรียกฉันด้วยสรรพนามแบบนั้น ฉันไม่ชอบ”
ฉันตอบออกไปพลางหันกลับไปทบทวนความคิดของตัวเอง ทำไมอยู่ๆ ฉันถึงมาอยู่ที่ห้องของเขาได้วะเนี้ย
ย้อนไปสิบชั่วโมงที่แล้ว
Line ?
Again: ฉันได้ทำงานที่รพ. PLKแล้วนะ
NNN: ดีเลยฉันจะได้มีเพื่อน
SM?: กรี๊ดดดดดดดด
SM?: ดีใจด้วยนะ
SM?: แต่แกนี่นะ พ่อเป็นเจ้าของโรงพยาบาลแต่ไม่ยอมไปทำงานกับพ่อตัวเอง
Again: ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่ชอบคนมานินทา
NNN: ไปฉลองกันวันนี้ฉันเลี้ยงเอง
Again: ชาบูมั้ย
NNN: เดี๋ยวแม่จับบูชายัน
NNN: มาชาบงชาบูอะไร โซลิสสี่ทุ่มสิจ๊ะ
SM?: แกมาคอนโดฉันนะเกน
ฉันได้แต่นั่งมองโทรศัพท์แล้วถอนหายใจ จะบอกเลยนะว่าตั้งแต่เกิดมาจนเรียนจบฉันไม่เคยเข้าผับเลยสักครั้ง ชีวิตของฉันส่วนใหญ่วนเวียนอยู่กับการเรียน อ่านหนังสือ ขึ้นวอร์ด จนใครๆ ก็ต่างพากันเรียกฉันว่า ‘หนอนหนังสือ’ อาจจะเป็นเพราะว่าฉันเป็นลูกสาวของคุณทักษกร ณพรรนบ เจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง ที่ทำอะไรก็ต้องระมัดระวังอย่าให้คุณพ่อเสียชื่อเสียง นี่คือคำที่ฉันฟังมันจนทะลุเข้าไปในเซลล์สมอง
ผับ Solizz
“แกถอดเสื้อออกได้แล้ว”
สมายเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของฉันตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อ
“ไม่เอาอะ หนาวจะตาย”
“แกจะบ้าเหรอ ฉันอุตส่าห์ให้แกยืมชุดที่สวยที่สุดของฉันเลยนะ”
“กะ ก็ ฉันไม่มั่นใจนี่”
“ถอด!”
สมายพูดพร้อมกับเดินเข้ามารูดซิปเสื้อของฉันออก ตอนนี้ฉันก็เลยยืนมองตัวเองหน้ากระจกอีกครั้งด้วยความไม่มั่นใจ ชุดมินิเดรสคล้องคอสีดำกริตเตอร์ด้านหลังเว้าโชว์ทรวดทรงไปจนถึงเอว แต่ดีหน่อยที่ผมฉันก็ยาวจนเกือบถึงบั้นท้าย ยังพอช่วยจะปกปิดแผ่นหลังของฉันได้บ้าง
? หมอนนนี่
“ว่าไงนน”
“นนนี่สิยะ เดี๋ยวตีปาก”
“ค่า~ นนนี่ค่ะ”
“พวกหล่อนอยู่ไหน ฉันอยู่ที่โต๊ะแล้ว”
“เราอยู่ในห้องน้ำ เดี๋ยวเดินออกไป”
ฉันกดวางสายพร้อมกับไปมองหน้าสมายที่กำลังเติมลิปสติกสีส้มของตัวเองอยู่
“ไปกัน คืนนี้เราจะสนุกสุดเหวี่ยงไปเลยยย”
สมายพูดพร้อมกับจับมือฉันเดินออกจากห้องน้ำหญิงของผับซึ่งระหว่างทางเริ่มมีชายหญิงบางคู่กำลังนัวเนียกันบ้างแล้ว เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มทำให้เหล่านักท่องเที่ยวต่างก็เต้นโชว์ลวดลายกันยกใหญ่ ฉันเดินเบียดตามสมายไปเรื่อยๆ จนถึงโต๊ะก็เจอนนนี่ นนนี่เป็นเพื่อนที่เรียนหมอกับฉันและพี่พิชเป็นหมอเหมือนกันและก็เป็นแฟนของนนนี่ด้วย
“กรี๊ดดด หล่อนแซ่บ”
“เป็นยังไงบ้าง ฉันไม่มั่นใจเลย”
“สวยนะเกน ดูแปลกตาดี”
พี่พิชพูดเสริมขึ้น แต่มันฟังดูแปลกๆ นะ
“เอ่อ มันดีใช่ไหมคะ”
“ดีสิ แกไม่เชื่อมือฉันเหรอ”
สมายพูดขึ้นอีกคน ฉันได้แต่ยิ้มตอบกลับไป เอาวะ! ตอนนี้ฉันอายุยี่สิบห้าแล้วนะ! ฉันไม่ใช่เด็กน้อยไร้เดียงสาแล้วสักหน่อย
“ขอแสดงความยินดีกับคุณหมออเกนด้วยค่า~”
เชียร์!!
หลังจากนั้นสารพัดเครื่องดื่มก็ทยอยเข้ามาเสิร์ฟที่โต๊ะของเราเต็มไปหมด ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองมีความสุขง่ายขึ้น แค่ได้ยินเสียงเพลงหรือพูดคุยอะไรกันก็สามารถหัวเราะออกมาได้แล้ว
“ปายเต้นกานม้ายยย~”
“ปายๆๆๆ”
“ระวังตัวเองกันด้วยนะ”
พี่พิชพูดเตือนเมื่อเห็นว่าฉันกับสมายเริ่มจะไม่ไหวกันแล้ว
“ตัวเองไม่ออกไปเต้นกับเขาเหรอ”
“ตัวเองเมามากแล้วนะ เต้นกับเขาตรงนี้แหละ”
สมายดึงมือฉันเดินไปที่หน้าเวที ซึ่งตอนนี้ก็มีสาวน้อยสาวใหญ่ยืนเต้นกันอยู่เต็มไปหมด
“วู๊ววววว~ เต็มที่ไปเลยเพื่อน”
“แกรู้ม่ายยยย~ ฉันไม่เคยสนุกแบบนี้มาก่อนเลย”
“ทำไมจะไม่รู้ พ่อแกดุจาตายย”
“เพราะฉะนั้น วันเน้~ เอาให้เต็มเท่~”