EP 3 [3-1]
โรงพยาบาล ?
“แม่เป็นยังไงบ้างคะ”
“คนไข้ติดเชื้อในกระแสเลือดครับ”
“ทำไมอยู่ๆ แม่ถึงติดเชื้อขึ้นมาล่ะคะ”
“เป็นธรรมดาของคนไข้ที่ใส่ท่อช่วยหายใจครับ บางครั้งก็จะมีเชื้อแทรกซึมเข้าไป”
“แล้วแม่จะเป็นอะไรมากไหมคะ หมอจะรักษาแม่ได้ใช่ไหม”
“จริงๆ ทางหมออยากให้คนไข้ทำใจไว้บ้างนะครับ ไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายตลอดสามปีที่ผ่านมา”
“เรื่องนั้นฉันจัดการได้ค่ะหมอ ขอแค่หมอรักษาแม่ให้เต็มที่ก็พอแล้วค่ะ”
หมอเดินออกจากห้องไป ส่วนฉันก็เดินเข้าไปนั่งลงข้างเตียงแม่พร้อมกับจับมือของแม่ขึ้นมา
“แม่ไม่ต้องกลัวนะ ยังไงไหมก็จะรักษาแม่จนหาย”
เพราะแม่เป็นคนพิเศษคนเดียวในชีวิตที่ฉันเหลืออยู่ตอนนี้ ถึงค่าจ้างพยาบาลพิเศษและค่ารักษาแม่จะแพงแสนแพงแค่ไหน ฉันก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาแม่ไว้ให้ได้
กริ๊งๆๆ
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าฉันร้องไห้จนเผลอนั่งหลับอยู่ข้างเตียงแม่ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ฉันต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปที่คอนโดของบอสก่อนจะสาย
“สวัสดีค่ะคุณไหม เอ่อ...ได้นอนบ้างหรือเปล่าคะ ทำไมตาบวมแบบนั้น”
พยาบาลพิเศษเปิดประตูห้องเดินเข้ามาก่อนจะเอ่ยทักฉัน สภาพของฉันตอนนี้คงดูไม่ได้เลยสินะ
“ไหมฝากแม่ด้วยนะคะ ตอนนี้ไหมกำลังจะสายแล้ว”
“ตีห้าครึ่งเนี้ยนะคะ”
ฉันหันไปส่งยิ้มบางๆ แทนคำตอบก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องคนไข้ เพราะกว่าฉันจะอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านเสร็จแล้วต้องนั่งรถไปคอนโดของบอสเพื่อเตรียมเสื้อผ้าให้เขาอีก จะไม่กลัวสายได้ยังไง
อัลฟ่า PART ?
วันนี้ผมตื่นขึ้นมาอาบน้ำตามเวลาปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือหลังจากอาบน้ำเสร็จเสื้อผ้าของผมกลับไม่ได้จัดวางอยู่บนเตียง นั่นหมายถึงเลขาของผมยังมาไม่ถึง
ติ๊ด ๆ
เสียงสแกนคีย์การ์ดดังขึ้นหน้าห้องทำให้ผมเดินออกไปที่หน้าประตูและเจอเลขาของผมกำลังรีบวางกระเป๋าเดินเข้ามา
“ขอโทษนะคะบอส ดิฉันจะรีบไปเตรียมชุดให้เดี๋ยวนี้ค่ะ”
เธอพูดพลางจะรีบเดินผ่านผมไปแต่ผมจับแขนของเธอเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อน”
เธอหยุดชะงักพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม ตาของเธอบวมผิดปกติน่าจะเหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักมากกว่าคนที่นอนไม่พอ
“เอ่อ ตะ ต่อไปดิฉันจะไม่มาสายอีกแล้วค่ะ”
“ผม..”
“บอสอย่าไล่ดิฉันออกเลยนะคะ”
เธอรีบพูดออกมาพลางยกมือไหว้ผมยกใหญ่
“นี่! ผมยังไม่ได้ว่าอะไรคุณสักคำเลย แล้วทำไมผมจะต้องไล่คุณออกด้วย”
ผมถามออกมาอย่างหัวเสียกับท่าทีของเธอ ปกติเธอไม่เคยเป็นแบบนี้และผมก็ไม่ค่อยชอบท่าทีที่เธอแสดงกับผมสักเท่าไหร่
“เอ่อ ดิฉันขอโทษค่ะ”
“คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“มะ ไม่มีค่ะ”
เธอโกหกอีกแล้ว เพราะเธอเป็นคนที่พูดจาชัดเจนมาตลอด แต่คราวนี้เธอหลบหน้าผม
“อืม รีบไปทำหน้าที่ของคุณเถอะ”
สายไหม PART ?
วันนี้ฉันไม่มีสมาธิทำงานเลยในสมองคิดแต่เรื่องของแม่ อีกอย่างดูเหมือนว่าเงินในบัญชีตอนนี้ของฉันมันก็เริ่มจะไม่พอแล้วด้วย
“ไหม!”
“คะ คะ บอส”
ฉันสะดุ้งทันทีที่มีมือยื่นมาจับแขนฉัน เงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับบอสที่ยืนถือแฟ้มเอกสารและขมวดคิ้วด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์อยู่
“ตามผมไปในห้อง”
ทำไมช่วงนี้ฉันถึงได้โดนเรียกเข้าห้องบ่อยขนาดนี้นะ
“คุณทำงานมาสามปี ไม่เคยมีประวัติการ ขาด ลาหรือมา
สาย เพราะว่าอะไร”
“เอ่อ เพราะว่าโดยปกติแล้วบอสเข้าทำงานที่บริษัททุกวันค่ะ ถ้าดิฉันลางานไปอาจจะทำให้งานมีปัญหาค่ะ”
“หึ! งั้นแสดงว่าคุณมองผมเป็นคนบ้างาน ใจดำ ที่ไม่รู้จักแบ่งแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวเลยใช่ไหม”
บอสพูดพลางยื่นเต็มความสูงก่อนจะก้าวขาเข้ามาหาฉัน
“ปะ เปล่านะคะ ดิฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น”
“แล้วทำไมคุณไม่สบายถึงไม่บอกผม คุณคิดว่าผมจะไม่ให้คุณลางานงั้นเหรอ”
มะ..ไม่สบายเหรอ ฉันรีบเอามือแตะที่หน้าผากตัวเองมันร้อนนิดหน่อยนะ เขารู้ได้ยังไงว่าฉันไม่สบาย
“แค่ตัวร้อนนิดหน่อยค่ะ ดิฉันก็เลยไม่อยาก..”
“นิดหน่อย ผมจับแขนคุณเมื่อกี้นี้ก็รู้แล้วว่าคุณตัวร้อนขนาดไหน”
แล้วทำไมเขาจะต้องมามีปัญหากับการไม่สบายของฉันด้วยเนี้ย หรือว่ากลัวฉันจะทำให้เขาไม่สบายไปด้วย
“เดี๋ยวดิฉันจะรีบออกไปกินยาแล้วกันค่ะ”
ฉันพูดพร้อมกับพยายามโฟกัสสายตาให้ปกติ เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนบอสมีสองคนเลยแหะ
“วันนี้คุณลางานกลับบ้านเถอะ ผมไม่มีงานอะไรแล้ว”
“เอ่อ.. ขอบคุณค่ะ”
อัลฟ่า PART ?
เธอโค้งคำนับผมแล้วหันหลังเตรียมจะเดินออกจากห้องแต่อยู่ๆ ก็เป็นลมล้มพับลงไปก่อน โชคดีที่ผมรีบรับเอาไว้ทัน
“คุณ! คุณไหม ได้ยินผมไหม”
ไม่สบายจนเป็นลมไปขนาดนี้ยังบอกว่าไม่สบายนิดหน่อยอีกเหรอ สุดท้ายผมก็อุ้มร่างบางขึ้นและไม่รู้ทำไมผมถึงยอมเปิดประตูห้องลับที่ใช้สำหรับพักผ่อนของผมคนเดียวเพื่อพาเธอเข้าไปนอนพักข้างใน ตัวเธอเองทำงานที่นี่มาสามปีก็ไม่รู้ว่ามันมีห้องลับอยู่ที่นี่เหมือนกัน
ผมค่อยๆ วางเธอลงบนเตียงก่อนจะถอดแว่นตาของเธอวางลงที่โต๊ะข้างๆ หึ! ทำไมถึงคิดว่าแค่แว่นตาอันเดียวหรือการแต่งตัวเชยๆ จะทำให้ตัวเองเปลี่ยนเป็นคนละคนได้นะ แต่ว่าคนไหนกันแน่คือตัวจริงของคุณ
? เบต้า
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเบี่ยงความสนใจของผมให้หันไปมองที่หน้าจอ ชื่อที่โทรเข้ามา ถึงผมจะไม่ค่อยอยากจะรับมันเท่าไหร่แต่ก็ต้องรับเผื่อว่ามันไปสร้างเรื่องเอาไว้ที่ไหนอีก ผมลุกขึ้นเดินออกมาคุยที่ระเบียง
“ไง”
“เสียงมึงดูไม่ดีใจเลยที่น้องโทรหา”
“มีไรก็พูดมา”
“ฮ่าๆ มึงหาเมียได้ยัง”
คำถามของมันทำให้ผมลอบถอนหายใจออกมา
“ทำไม”
“ก็มึงอ่ะเป็นพี่ชายคนโต อายุมึงก็ควรจะแต่งงานได้แล้ว”
“คิดว่าถ้ากูแต่งแล้วพวกมึงจะรอดหรือไง”
ผมพูดออกไปอย่างรู้ทันความคิดของมัน จริงๆ ผมก็คิดเรื่องนี้อยู่สักพัก แต่ผมยังไม่พร้อมจะมีครอบครัวและตอนนี้ผมยังไม่อยากจะดูแลใคร
“โธ่เฮีย~ ลองดูหน่อยสิ กูรู้ว่ามึงน่ะมีแผนไม่งั้นมึงไม่เงียบไปอย่างนี้หรอก”
ประโยคของมันทำให้ผมหันไปมองหน้าคนที่นอนอยู่บนเตียงอีกครั้ง
“เอาเวลาไปคิดหาทางรอดของตัวเองเถอะ หึ”
สายไหม PART ?
ฉันลืมตาขึ้นมามองเพดานห้องก่อนจะสำรวจไปรอบๆ ห้องเพราะไม่คุ้นเคย ฉันนอนอยู่ที่ไหนเนี้ย
“อ๊ะ!”
ทันทีที่ฉันลุกขึ้นนั่งก็มีผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวหล่นลงมาจากหน้าผากของฉัน ตอนนี้ถึงจะยังรู้สึกมึนหัวอยู่หน่อยๆ แต่ตัวก็ไม่ได้ร้อนเหมือนกับเมื่อตอนกลางวันแล้ว
“ตายแล้ว!”
ฉันก้มมองนาฬิกาข้อมือตอนนี้มันสี่ทุ่มแล้ว พยาบาลพิเศษที่เฝ้าแม่คงจะกลับไปแล้วแน่ๆ เลย ฉันรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
แอดดดด~
“ตื่นแล้วเหรอ”
“บะ..บอส ทำบอสอยู่ที่นี่ละคะ”
บอสเปิดประตูเข้ามาในห้องซึ่งมันปิดแนบสนิทกับกำแพงมากจนแทบจะดูไม่ออกเลยถ้าไม่สังเกต
“นี่มันห้องพักผม”
ห้องพัก? ที่นี่ไม่ใช่คอนโดของบอสสักหน่อย ฉันหันมองรอบๆ ห้องอีกครั้งฉันไม่เคยเห็นที่นี่มาก่อนเลย