บท
ตั้งค่า

EP 3 [3-2]

พบ PART ?

วันนี้ผมมีนัดกับเพื่อนออกมานั่งดื่มกันก่อนจะลุยงานโปรเจคใหญ่ แต่ไม่ใช่โปรเจคของบริษัทเฮียอัลหรอกนะครับ รายนั้นต้องลองดูก่อนว่าน้องสาวตัวดีของเฮียอัลเขาจะทำอย่างที่ปากว่าได้หรือเปล่า

“คุณพบจะไม่เข้าไปทักทายเธอหน่อยเหรอครับ”

ผมหันไปจ้องหน้าปราบแทนคำตอบ ไม่คิดเหมือนกันว่ายัยตัวแสบจะมาเที่ยวที่ผับแถวนี้ด้วยทั้งๆ ที่พี่ชายตัวเองก็เปิดผับ แต่จริงๆ ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่คงจะกลัวอยู่กับพี่ชายแล้วไม่ได้ทำอะไรตามใจละมั่ง

“รู้จักเหรอวะ เห็นนั่งมองอยู่ตั้งนานแล้ว”

เพื่อนคนหนึ่งในโต๊ะถามขึ้น ผมหันมายิ้มมุมปากนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป หึ! ผมเผลอมองเธอโดยที่ไม่รู้ตัวอีกแล้วสินะ เวลาผ่านไปสักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาที่โต๊ะแต่ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันต้องการเดินเข้าไปหาเธอหรือว่าเพื่อนของเธอที่มาด้วย

กันแน่

“ไปดูหน่อย”

ผมหันไปพูดกับปราบ มันพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นไปตามคำสั่ง โต๊ะที่ผมนั่งอยู่ห่างจากเธอพอสมควรนั่นทำให้ผมไม่ได้ยินว่าเธอกำลังคุยอะไรกันแต่ภาพที่เห็นก็ทำให้ผมถึงกับกำหมัดแน่น ยังดีนะที่ยัยตัวแสบนี่สู้คนหน่อย แต่ยังไงเธอเป็นผู้หญิงมันก็อันตรายอยู่ดี

“กูกลับก่อนนะ”

“เฮ้ย! ทำไมรีบกลับจังวะ”

“พรุ่งนี้กูมีงานเช้า”

พูดจบผมก็ลุกขึ้นออกมาจากโต๊ะและเดินตามเธอมาจนถึงที่ลานจอดรถ เมื่อเห็นว่าเธอขับรถออกไปแล้ว ผมก็เดินกลับมาที่รถของตัวเอง

“เป็นไงบ้าง”

“เรื่องอะไรครับ”

ผมถามปราบหลังจากที่เราขึ้นรถมาด้วยกันแล้วแต่มันกลับตอบมาด้วยหน้าตายียวนกวนประสาท

“มึงอยากขับรถดีๆ แล้วหลับไปไหม”

“ไม่ดีกว่าครับ ผมขอไปนอนบนเตียงสบายๆ ดีกว่า”

“ตกลงว่าไง”

“เรียบร้อยดีครับ รับรองว่ามันคงไม่กล้าปากดีใส่ผู้หญิงไปอีกนาน”

ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปและเลือกที่จะมองออกหน้าต่างจนกลับมาถึงที่บ้าน

บริษัท ดับเบิ้ลแอล คอร์เปอเรชั่น

กริ๊งงงง ~

“ว่าไง”

“คุณเมเบลมาขอพบครับ”

ผมขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินประโยคของปราบ ยัยตัวแสบมาหาผมที่บริษัททำไมแต่เช้า คงไม่ได้วางแผนจะทำอะไรหรอกนะ

“ให้ไปรอที่ห้องประชุมเล็ก”

ผมตอบกลับไปก่อนจะก้มลงเซ็นเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะจนเสร็จ แล้วลุกขึ้นออกไปยังห้องประชุมเล็กซึ่งตอนนี้ก็เจอเจ้าตัวกำลังนั่งหน้ามุ่ยเพราะผมปล่อยให้รอนานนั้นเอง หึ!

“ขอโทษที่ต้องให้รอนานนะครับ”

ผมเปิดประตูเข้าไปทำให้คนที่นั่งรออยู่รีบปรับสีหน้าเป็นปกติทันที

“ไม่เป็นไรค่ะ ให้รอนานกว่านี้ฉันก็รอคุณได้”

ประโยคตอบกลับของเธอทำให้ผมชะงักเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะความหมายที่เธอพูดมันลึกซึ้งกินใจหรอกนะครับ แต่เพราะประโยคแบบนี้ที่ออกมาจากปากเธอมันทำให้ผมรู้สึกได้ว่าเธอกำลัง

ไม่ปกติ

“แล้วคุณมาหาผมวันนี้มีอะไรหรือเปล่า”

ผมพูดเข้าประเด็นเพราะไม่อยากโฟกัสกับสายตาและการแต่งตัวที่ดูเหมือนจะตั้งใจมายั่วยวนผมโดยเฉพาะ

“พอดีทางเฮีย เอ่อ คุณเบจะนัดประชุมแต่ละแผนกเพื่อรวบรวมข้อมูลเตรียมทำโปรเจคเข้าเสนอคุณแอลค่ะ ฉันก็เลยจะมาสอบถามความต้องการของว่าที่พาร์ทเนอร์ด้วยว่าคุณแอลมีอะไรที่ต้องการเป็นพิเศษไหมคะ”

เธอพูดพร้อมนั่งไขว้ห้างและเปิดสมุดเพื่อจะจดบันทึก

“ไม่รู้สิ จริงๆ แล้วผมก็ไม่ค่อยสนใจโปรเจคนี้สักเท่าไหร่”

ประโยคของผมทำเอาเจ้าตัวถึงกับเอามือกำเก้าอี้แน่น ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และส่งยิ้มหวานกลับมา

“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นดิฉันขอเสนองานคร่าวๆ ก่อนนะคะ สำหรับโปรเจคแอปพลิเคชันช้อปปิ้งออนไลน์ที่ทาง ที.เอส.เค กรุ๊ป กำลังจะเปิดตัวเป็นการรวบรวมสินค้ามากมายจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกและคัดกรองผู้ขายที่เชื่อถือได้เพื่อความปลอดภัยของทางลูกค้า ซึ่งภายในแอปจะมีสินค้าแนะนำประจำวัน ลูกค้าสามารถติดตามคำสั่งซื้อได้ตลอด ช่องแชทสำหรับให้ลูกค้าติดต่อกับผู้ขายได้โดยตรง ระบบชำระเงินที่ปลอดภัย ศูนย์บริการลูกค้าสำหรับให้คำแนะนำและตอบข้อสงสัยให้ลูกค้าค่ะ”

เธออธิบายพร้อมหยิบไอแพดประจำตัวขึ้นมาสไลด์ภาพประกอบไปด้วย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นเธอในมุมนี้มาก่อน คิดว่าจะแค่เที่ยวเล่นช้อปปิ้งเป็นอย่างเดียวเสียอีก

“ฟังดูแล้วก็เหมือนแอปพลิเคชันทั่วไปนะครับ ไม่ได้น่าสนใจกว่าแอปอื่นๆ หรือเชิญชวนให้ลูกค้ามาใช้ตรงไหน”

“นี่! เอ่อ.. ฉันจะเก็บข้อมูลนี้กลับไปทำการบ้านแล้วกันนะคะ นอกจากข้อนี้แล้วคุณแอลอยากเน้นตรงจุดไหนเป็นพิเศษอีกไหมคะ”

“ไม่มีครับ”

เธอที่ทำท่าทางเหมือนจะวีนผมรีบสงบสติอารมณ์ทันที ผมไม่รู้นะว่าทำไมเธอถึงยอมทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวของตัวเองขนาดนี้ ไม่แน่ใจว่าบรรดาพี่ชายของเธอจะแกล้งอะไรมาหรือเปล่า

“ว่าแต่ ทำไมห้องประชุมที่นี่ถึงได้ร้อนจังเลยละคะ”

“ร้อน? นะ..นี่คุณ”

อยู่ๆ เธอก็ถอดเสื้อสูทที่ใส่อยู่ออกเผยในเห็นเสื้อกล้ามสีดำด้านในตัดกับผิวขาวอมชมพูที่ทำเอาผมต้องลอบกลืนน้ำลาย

“ก็ฉันร้อนนี่คะ”

เธอตอบออกมาหน้านิ่งๆ พร้อมกับยกมือขึ้นรวบผมของตัวเองเพราะต้องการระบายความร้อน แต่การยกมือขึ้นของเธอทำให้ช่องแขนของเสื้อกล้ามนั้นเห็นไปถึงส่วนด้านใน

“เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้แล้วกัน”

ผมพูดพร้อมกับรีบลุกขึ้นเดินออกจากห้องประชุมเล็กมุ่งตรงไปยังห้องชงกาแฟทันที และดูเหมือนว่าตอนนี้คนที่รู้สึกร้อน

น่าจะเป็นผมมากกว่า

“ใจเย็นๆ ดิวะไอพบ!”

ผมพูดเตือนสติตัวเองพลางปลดเนคไทน์ออกหลวมๆ เพื่อระบายความร้อน

เมเบล PART ?

“ฮ่าๆๆๆ”

ฉันหลุดขำออกมาทันทีเมื่อเขารีบเดินออกไปจากห้องประชุม หน้าเขาตอนที่เห็นฉันถอดเสื้อสูทออกมันตลกมากเลยล่ะ อยู่ๆ เขาก็ตาโตอย่างกับไข่ห่านแถมยังหน้าแดงขึ้นมาอีกด้วย หึๆ ชอบขี้เก๊กดีนะ คอยดูนะฉันจะปั่นประสาทให้เข็ดเลยล่ะ

“น้ำครับ”

เขาเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับน้ำเย็นหนึ่งแก้วที่วางลงบนโต๊ะโดยไม่ได้หันมามองหน้าฉัน

“ขอบคุณนะคะ ว๊าย!”

เพล้ง!

“เฮ้ย!”

ฉันแกล้งยื่นมือไปจับแก้วโดยแกล้งสัมผัสกับมือของเขาแต่ไม่คิดว่าเขาจะสะดุ้งแรงถึงขนาดปล่อยแก้วน้ำตกลงแตก

“ทำอะไรของคุณเนี้ย!”

ฉันวีนออกมาอย่างสุดจะทนเพราะนอกจากแก้วจะตกลงแตกแล้วน้ำในแก้วยังกระเด็นในชุดของฉันด้วย อีกอย่างตอนนี้ฉันก็ใส่แค่สลีปเปอร์เพราะลูกน้องของเขาให้ฉันถอดรองเท้าเอาไว้หน้าห้องประชุม

“คุณอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ สลีปเปอร์มันบางเศษแก้วอาจจะบาดเท้าคุณได้”

“ฉันจะกลับแล้ว! เดี๋ยวค่อยๆ เดินออกก็แล้วกัน”

ฉันไม่อยากจะนั่งอยู่ต่อแล้ว ถ้าหงุดหงิดไปมากกว่านี้ฉัน

อาจจะเผลอกินหัวเขาแล้วทุกอย่างที่พยายามมาก็จบกันพอดี

“ว๊าย!”

“ผมบอกให้นั่งอยู่ก่อนทำไมไม่ฟัง!”

ฉันที่กำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แต่กลับโดนเขาดึงกลับมานั่งลงที่เก้าอี้อีกครั้งพร้อมเสียงกดต่ำที่เขาชอบทำเหมือนเดิม

“ฉันมีตานะ ไม่โง่ไปเดินเหยียบเศษแก้วหรอก”

“ค่อยดื้อก่อนได้ไหม!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel