บท
ตั้งค่า

บทที่6.ไม่รู้จักใคร

หญิงสาวตักโจ๊กเปล่าเข้าปาก นางแปลกใจกับรสชาติที่สัมผัสอยู่บ้าง ลองตักชิมไปอีกคำก็รู้สึกเช่นเดิม ทว่าเมื่อกวาดสายตามองผู้อื่นเห็นต่างคนต่างก้มหน้ากินโจ๊กของตัวเอง ไม่มีท่าทีผิดปกติแม้จะเป็นโจ๊กเปล่าก็ควรมีความกลมกล่อมมิใช่รึ? นางได้แต่ครุ่นคิดในใจแต่ก็ตักโจ๊กส่งเข้าปากตัวเอง ความอุ่นร้อนที่ผ่านลงคอไปยังกะเพาะทำให้นางรู้สึกดีขึ้น

ลอบกวาดตามองไปรอบๆ เห็นบ่าวชายหลายคนต่างวัยกัน แต่บ่าวหญิงกลับมีแต่คนอายุมากแล้วทั้งนั้น ไม่มีหญิงรับใช้วัยเดียวกับนางเลย

คนผู้นั้นคงเป็นคุณชายใหญ่ซินะ หญิงสาวถามตัวเองนึกถึงชายที่นางเจอในห้องคราวนั้น ดีจริงที่ตลอดการเดินทางไม่มีใครถามอะไรนางเป็นพิเศษ นอกจากถามเรื่องชื่อแล้วก็ไม่สอบถามอะไรอีก นางเองไม่กล้าถามด้วยซ้ำว่าที่นี่อยู่ที่ใด

ออกจากบ้านลุงจางฉวนได้แล้ว ที่เหลือนางต้องพาชีวิตตัวเองไปข้างหน้าด้วยสองขาและสองมือของตัวเอง นางไม่อยากหวนคิดถึงอดีต ตั้งแต่ลืมตาจนอายุสิบสาม ชีวิตนางมิเคยได้รับความลำบาก นางเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของทุกคนในตระกูล เป็นคุณหนูหลัวเสี้ยวเวยที่แสนน่ารัก นางฝึกหัดขีดเขียนได้ตั้งแต่ยังเด็ก ร่ายรำท่องโคลงกลอนกับบิดาอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตเรียกว่าไม่รู้จักคำว่าทุกข์จนกระทั้งคืนนั้น คืนที่คฤหาสน์หลังงามลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิง

“เวยเอ๋อร์ หนีไป ไปหาลุงจางฉวน อย่าคิดแก้แค้น รักษาชีวิตไว้ จงมีชีวิตอยู่ต่อไป”

คำสั่งเสียสุดท้ายของท่านแม่พาให้นางวิ่งจากมาไม่กล้าหันกลับไปมองด้านหลัง นางเคยไปเยี่ยมเยือนบ้านลุงจางฉวนทุกปีเพราะอยู่ถัดไปอีกหมู่บ้านหนึ่งเท่านั้น ทว่าการเดินทางของเด็กอายุสิบสามและเดินทางด้วยสภาพจิตใจบอบช้ำใช้เวลาร่วมห้าวันจึงไปถึง

ลุงจางฉวนและป้าสะใภ้หลินถิง ภายนอกดูเป็นคนดีโอบอ้อมอารี เห็นนางมาในสภาพน่าเวทนาก็โอบกอดและดูแลอย่างดี ท่านลุงกับท่านป้าให้เหตุผลว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นทางการประกาศแล้วว่าครอบครัวของนางตายหมดรวมทั้งตัวนางเอง ทั้งสองจึงให้นางอยู่ในบ้านสกุลจางในฐานะหญิงรับใช้เพื่อปกปิดร่องรอยของนางเอง ทว่านางกลับได้ทำงานทุกอย่างในบ้านลุงจางฉวนเช่นเดียวกับหญิงรับใช้จริงๆ

ลุงจางเป็นญาติทางมารดา แม้ลำดับญาติจะเป็นเพียงญาติห่างๆ แต่มีบ้านอยู่ใกล้กันเพียงคนละหมู่บ้าน ลุงจางเป็นเพียงเศรษฐีจางที่กินเงินเก่า ภายนอกเป็นเศรษฐีมั่งคั่งภายในกลวงว่างเปล่า ลูกสาวแต่งเข้าสกุลอื่นไปแล้ว ลูกชายเสเพลผลาญเงินเล่นไปวันๆ แม้เคยเกาะแกะนางอยู่บ้างแต่ไม่เคยล่วงเกิน อาจเพราะว่าอย่างไรก็ยังนับว่าเป็นคนสายเลือดเดียวกันอยู่บ้าง ทำให้นางอยู่รอดปลอดภัย

นางไม่รู้จักใครเป็นพิเศษ ไม่อาจรู้ได้ว่าเกิดเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของนางนั้นเป็นมาอย่างไร ไม่อาจสืบเสาะค้นหาความจริงในข้อนั้นได้ ลุงจางฉวนกับป้าสะใภ้เกลี้ยกล่อมให้นางไม่คิดสืบหาถึงเหตุร้ายในคืนนั้น แม้แต่ป้ายวิญญาณของบิดามารดาหรือเรื่องศพก็ไม่ได้ไปจัดการ เพราะนางคือคนที่ตายไปแล้ว

ผ่านมาสี่ปีที่นางอยู่ในฐานะสาวใช้ นางควรลืมไปแล้วว่านางเคยเป็นคุณหนูหลัวเสี้ยวเวย ใช่...นางควรลืมมันไป ถ้า...ถ้านางเลิกฝันร้ายเสียที

นางมักจะฝันถึงช่วงเวลาที่ตนเองถูกจับกดน้ำ ความหวาดกลัว ความเยียบเย็นของกระแสน้ำ หัวใจที่กำลังจะหยุดเต้นและสติที่กำลังจะหลุดลอย ก่อนที่นางจะผวาเฮือกขึ้นมาสูดอากาศอีกครั้ง

หญิงสาวเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง หลายคืนที่นอนในรถม้า นางไม่รู้ว่าตัวเองฝันถึงคืนนั้นหรือไม่ แม้มีคนเดินทางร่วมกันหลายสิบชีวิต แต่นางได้ยึดครองนอนในรถม้าเพียงผู้เดียว นางกลัวว่าตนเองเผลอร้องละเมอในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป

สี่ปีมันเหมือนยาวนานและแสนสั้นในคราวเดียว

สี่ปีที่ลุงจางฉวนกับป้าสะใภ้ใช้มันเป็นข้ออ้าง ขายนางเป็นอนุให้เพื่อนเศรษฐีของลุงจาง ทั้งคำอ่อนหวานหว่านล้อมจนกลายเป็นขู่บังคับให้นางเป็นอนุ หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็งยืนกรานที่จะไม่ยอมใช้หนี้บุญคุณด้วยการเป็นอนุอย่างเด็ดขาด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel