ตอนที่ 9 สิ่งที่ไม่คาดฝัน
สามคนลงจากรถประจำทางเดินจากซอยเข้าสู่ตัวบ้าน เวธัสหยุดยืนหน้ารั้วมองเข้าในตัวบ้านด้วยความสงสัย เมื่อเห็นรถไม่คุ้นเคยกำลังจอดอยู่ มีชายสองสามคนยืนคุ้มกันด้านหน้า เด็กหนุ่มรู้สึกงุนงงใครกันมามากมาย
“พี่เวย์ นั่นใครเหรอ”มิรินเอ่ยถาม
“พี่ไม่รู้เหมือนกันเพื่อนพ่อหรือเปล่า”
พลอยภัทราชะเง้อมอง รู้สึกในอกมันสั่นไหวชอบกล
“พลอยกลับก่อนนะ”เธอบอกแล้วเดินแยกออกมา วันนี้คงเข้าบ้านนั้นไม่ได้
พี่น้องเปิดรั้วเข้าสู่ตัวบ้านเห็นชายฉกรรจ์หันมามองครู่หนึ่ง เวธัสไม่สนใจจับมือน้องไว้มั่นแล้วเดินเข้าด้านใน เห็นพ่อและแม่กำลังนั่งรวมกับแขกในห้อง จารุนีลุกยืนทันทีที่เห็นลูก
“กลับมาแล้วเหรอลูก”
สองคนยกมือไหว้บิดามารดามองเลยไปยังชายรูปร่างสันทัด ผิวเนื้อดำแดง ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม กำลังหันมาแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“นั่นลูกชายเหรอรุตม์”
“ใช่ครับ”
“โตไวนี่ เมื่อก่อนยังเห็นตัวเล็กนิดเดียว”
“ก็พี่เทพไม่ได้มาเยี่ยมผมหลายปีแล้ว”วิรุตม์บอกแล้วยิ้มกว้าง
จารุนีจูงบุตรชายและบุตรสาวเข้าไปด้านหลังครัว ก่อนตักอาหารใส่ถ้วยให้พร้อมข้าว
“ใครเหรอครับแม่”เวธัสถามแววตาสงสัย
“เพื่อนพ่อน่ะลูก”
“เวย์จำไม่เห็นได้เลย”
“ตอนนั้นลูกยังเล็กอยู่จำไม่ได้หรอก”คนเป็นแม่ตอบ แล้วยกกับข้าวอีกจานมาเสริฟ์ “กินข้าวซะ แม่จะไปคุยธุระต่อ”
“ครับแม่” “ค่ะแม่”
จารุนีออกมาสมทบกับสามีด้านนอก เห็นการพูดคุยค่อนข้างเคร่งเครียดทีเดียว เป็นครั้งแรกที่เห็นพ่อทำหน้าเหมือนมีความทุกข์บางอย่าง
“ตกลงทำให้พี่ได้ไหมรุตม์ แค่ไม่ต้องยุ่งก็พอ”เทพยุทธถาม
“มันคงไม่ดีหรอกครับพี่เทพ ผมไม่อยากทำแบบนั้น”
“ทำเถอะถือว่าพี่ขอ แค่ครั้งเดียวเท่านั้น”
วิรุตม์หลุบตามองพื้นขบกรามแน่น เขาควรทำยังไงดีการตัดสินใจครั้งนี้มันส่งผลถึงหน้าที่การงาน และจรรยาบรรณในวิชาชีพตนเอง
“ผมขอคิดดูก่อนได้ไหมพี่”
“ได้ พี่จะให้คิดดูก่อนอย่าช้าก็แล้วกันนะ”เทพยุทธลุกยืน
เจ้าบ้านรีบตามออกมาเพื่อส่ง ไม่นานรถแล่นผ่านรั้ว วิรุตน์โอบไหล่ภรรยาสีหน้าเคร่งเครียด
“ตกลงกันไม่ได้เหรอคะ”จารุนีถามแววตากังวล
“พี่ไม่อยากทำ มันผิด”
“เอาที่สบายใจดีกว่าค่ะ อย่าทำอะไรที่มันขัดใจตัวเองเลย”
“ขอบใจนะที่คุณเห็นด้วยกับผมทุกอย่าง”เขามองภรรยาแล้วยิ้มอ่อนโยน
สองสามีภรรยาเดินกลับเข้าบ้านเห็นลูกต่างแยกย้ายกันทำการบ้านของตนเอง ครอบครัวของเขาไม่ต้องการเงินทองมากมายเพียงแค่มีความสุขตามฐานะมันก็พอแล้ว เขาคงไม่อาจตอบรับผลประโยชน์มหาศาล ที่ต้องแลกมาด้วยการทรยศต่อชาติเด็ดขาด