5.นั่นมันหมี
ลิขิตรักสามีเถื่อน/05.นั่นมันหมี ....
"เชอะ ไม่อยากบอกก็ไม่อยากรู้ก็ได้"
หญิงสาวบุ้ยปากน้อยๆ เรื่องแค่นี้บอกกันสักนิดก็ไม่ได้ ในขณะที่สาวเจ้ากำลังเซ็งๆอยู่นั้นสายตาก็พลันหันไปเห็นสิ่งที่เธอรอคอยมาทั้งชีวิต
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด"
ชญาพัตรกรี๊ดซะจนห้างแทบแตก ก็ทำไงได้เห็นของพวกนี้ทีไรเธอเสียสติทุกทีสิ
"เฮ้ยยย! อะไรเห็นผีเรอะ"
คาวิวล์ตกใจตามเสียงกรี๊ดระเบิดแตกของคนตัวเล็กข้างๆ และนิ้วเรียวสวยของชญาพัตรก็ชี้ไปยังสิ่งที่ตนเองต้องตาทันที
"นั่นมันน หมี......กรี๊ดดดด อยากได้อะ"
คนตัวเล็กยังคงดี๊ด๊าไม่เลิก ทำเอาชายหนุ่มต้องเกาหัวแกรกๆ
"ยัยบ้า!!"
ชายหนุ่มจะโกนใส่หน้ายัยสมองใส อย่างอารมณ์เสีย จากนั้นขาแกร่งก็เตรียมจะก้าวไปทางอื่น แต่ทว่ามือน้อยๆของชญาพัตรกลับเกาะเขาไว้แน่น
"จะไปไหนอ่าา"
ชญาพัตรทำตาปริบๆใส่เขารัวๆ นี่อย่าบอกน่ะว่าจะให้ซื้อตุ๊กตานั่นให้ โว๊ะ
"จะไปร้านอื่น"
ชายหนุ่มหรี่ตาลงเพื่อดูปฎิกิริยาของยัยบ๊องนี่
"ง่าาา ขอไรอย่างดิ"
ชญาพัตรรีบกอดเเขนชายหนุ่มไว้ทันที ดั่งคนอยากได้ตุ๊กตา
"อะไร"
หญิงสาวยิ้มยิงฟันให้เขาจากนั้นก็ชี้ไปยังเจ้าหมีตัวยักษ์ขนปุยสีน้ำตาลละมุนตัวนั้น
"ได้ แต่ต้องมีขอแลกเปลี่ยน"
คาวิวล์เผยยิ้มร้าย เขามั่นใจว่าชญาพัตรต้องตกหลุมที่เขาขุดไว้เป็นแน่
"อะอะไรอ่า"
หญิงสาวเริ่มทำหน้าไม่พอใจเมื่อเจอคนเรื่องมาก
"ฉันอยากจูบเธอ!"
เขาลอยหน้าลอยตาพูด
"จะบ้าเรอะ ใจดำ"
หญิงสาวโพร่งออกไป หน้าแดงแจ๋กับคำพูดเมื่อครู่
"แล้วแต่ งั้นไปกันเถอะ"
ชายหนุ่มคว้าแขนเล็กๆนั่นไว้แล้วทำท่าจะเดินต่อไป
"เออๆๆๆ ก็ได้ แต่ต้องเป็นที่คอนโดน่ะ"
ชญาพัตรกัดฟันพูด แค่จูบ! คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เธอเห็นในหนังอยู่ร่ำไปนางเอกก็ไม่ตายนิ!
"ค่อยว่าง่ายหน่อย"
คาวิวล์ยิ้มอย่างอารมณ์ดีจากนั้นก็จูงแขนชญาพัตรเข้าไปในร้านขายหมียักษ์อย่างว่าง่าย
"กรี๊ดดด ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้มานั่งกอดหมีอย่างนี้ นับว่าเป็นลางดีสำหรับวันแรกที่มาอยู่ต่างถิ่น"
ชญาพัตรนั่งกอดหมีตัวยักษ์ราคาหลายตังบนเตียงนอน หากจะให้เธอซื้อเองเห็นทีคงจะได้ชาติหน้าเพราะกว่าจะเก็บเงินได้ต้องรอหลายยุค
"ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะคะ ที่ซื้อเจ้าแบร์ตัวยักษ์ให้ฉัน เอ้อ แล้วก็เสื้อผ้าพวกนั้นด้วย"
หญิงสาวหันไปขอบคุณคนที่ยืนพิงหลังที่ประตู เพราะหลังจากซื้อหมีเสร็จเขาก็พาเธอไปช๊อปกระจาย ใช้ตังค์ราวกับมันเป็นกระดาษ งี้แหละน่า พวกมาเฟียรวยล้นโลก
"ฉันไม่อยากได้คำขอบคุณ"
คาวิวล์เอ่ยหน้าเรียบ เขาไหวไหล่เล็กน้อยจากนั้นก็ก้าวช้าๆมาหาคนบนเตียง ทำให้ชญาพัตรตกใจน้อยๆ
"อะเอ่อ คือฉันยังไม่พร้อม"
ถ่วงเวลาชญาพัตรต้องการถ่วงเวลา แค่เห็นหน้าหล่อๆก็ขาดใจจะแย่ นี่ถ้าเขาจูบเธอเลือดกำเดาจะไม่กระพุ่งเลยรึ
"ไม่มีข้อแม้"
คาวิวล์พูดจบก็ผลักเบาๆให้หญิงสาวนอนราบไปบนเตียง
"งื้อออ งั้นจะทำอะไรก็รีบทำ!"
หญิงสาวหลับตาปี๋ กัดฟันตอบกลับเขาไปแค่ได้ยินเสียงลมหายใจของเขาเธอก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงพูดตัวเองแล้ว คาวิวล์ยิ้มให้ความน่าเอ็นดูนั้นน้อยๆ
"อ๊ะ จะทำอะไรน่ะ"
คนที่หลับตาอยู่ลืมตาขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกว่าเสื้อเชิ้ตที่ตนใส่อยู่มันกำลังถูกปลดกระดุมออกทีละเม็ด
"ก็จะจูบไง"
คาวิวล์ตอบกลับหน้าตายเช่นเดิม เขาทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าสังเกตดีๆเธอจะเห็นว่าเขามือสั่น แค่สัมผัสเล็กน้อยเขายังถึงกับสั่นทั้งๆที่ไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แล้วถ้าเขาสัมผัสเธอแบบแนบชิดเขาจะไม่ระเบิดไปเลยหรือไง
"บะบ้า แค่จูบทำไมต้องถอดเสื้อ"
ชญาพัตรตอบกลับเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้าร้อนผ่าวเพราะเผลอไปจ้องตากับเขา
"ก็ไม่ได้บอกนี่ว่าจะจูบปาก!"
เหวอสิครับ! คำพูดที่ได้ยินทำเอาหญิงสาวแทบหงาย ไม่ได้จะจูบปาก? ละละแล้วเขาจะจูบอะไรล่ะเล่นถอดเสื้อเธอแบบนี้ โอ้ยย! อกอีแป้นจะแตก
"ขี้โกงอ่ะ! ตาบ้า"
เขาทำให้เธอไปไม่เป็นเลย มือน้อยๆรีบจัดเสื้อเชิ้ตตัวเองยัดใส่กระดุมอย่างรวดเร็ว แต่ไอ้มือปลาหมึกของเขาก็เร็วกว่าเธออยู่ดี
"ใครกันแน่ที่ขี้โกง รับปากแล้วยังมาโวยวายอีก นี่ถ้าไม่หยุดติดกระดุม ฉันจะทำมากกว่าจูบน่ะ"
เขาขู่เธอ ก้อนเนื้อสองข้างของเธอตอยนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุด วันนี้เขาต้องได้เอาหน้าไปซุกไว้ที่นั่น!
"แล้วที่จะถอดเสื้อฉันนี่ มันไม่ได้หมายความว่าทำมากกว่าจูบเรอะ"
หญิงสาวตะโกนกลับไป ไอ้หื่น! นิสัยติดลบ!
"เปล่านี่ ฉันแค่จะจูบไอ้นี่เธอ!"
พูดจบคุณชายหน้านิ่งก็ใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าอกอวบๆอย่างถือวิสาสะ ทำเอาคนโดนแกล้งถึงกับสะดุ้ง
"ไอ้บ้า อุ๊บบ!"
สิ้นเสียงด่าถอลิ้นร้ายก็ฉกเข้าที่ริมฝีปากได้รูปทันที คาวิวล์ตวัดลิ้นรัวๆเพื่อตักตวงเอาความหอมหวานมาเชยชม มือแกร่งยังทำหน้าที่ได้ดีตามเดิม มันค่อยๆแกะกระดุมออกไปที่ละเม็ดจากนั้นก็กดตะขอบราเซียออกอย่างว่าง่าย เผยให้เขาได้เห็นลักษณะของอิสตรีที่งดงามของเธอ ส่วนคนที่ถูกฉกจูบแรกไปนั้นได้แต่นอนสั่นกับสัมผัสพิศวงที่มาพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆที่ไม่อาจทันท้านได้ เพราะเธอมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เขากำลังซุกหน้าอยู่ตรงหน้าอกเธอแถมยังใช้ปากงับหน้าอกเธอเล่นอีก ยิ่งเห็นภาพยิ่งสยิว
"อ๊าา คะคุณ มะมากเกินไปแล้วน่ะ อ๊ะ ปล่อย!"
ชญาพัตรดิ้นสุดกำลังกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่เธอไม่อาจรับได้
"อยู่นิ่งๆ ฉันขออีกสองนาที"
พูดจบชายหนุ่มก็กลับไปเล่นที่ดอกบัวตูมที่เขาโปรดปรานดังเดิม คนถูกแกล้งก็ได้แต่ทำหน้าเหยเกและครางออกมาอย่างสุขสมอย่างช่วยไม่ได้
และแล้วก็ครบกำหนดสองนาที ชายหนุ่มจำต้องผละจากร่างนวลไปเพราะเหตุยามวิกาล เดวิดโทรมาหาเขาเพื่อบอกอะไรบางอย่างจากนั้นชายหนุ่มก็รีบผละจากตัวเธอไปพร้อมบอกว่าเดี๋ยวจะรีบกลับมา ทำให้คนที่อาการค้างติงอยู่ต้องนั่งหน้าร้อนฉ่าอยู่คนเดียวยามนึกถึงปากแดงๆที่ดึงดูดหน้าอกเธอราวกับดูดนม
"ชื่ออะไรดีล่ะเรา"
ชญาพัตรรีบขจัดความคิดแปลกประหลาดออกจากสมองจากนั้นก็หันไปคุยกับหมียักษ์ตัวโปรด
"เอ้! เขาชื่อคาวิวล์ ส่วนนายจะชื่ออะไรดีน้าาา"
หญิงสาวนั่งคิดไปมาจากนั้นก็ยิ้มออก
"งั้นแกชื่อวิววี่ดีกว่าเน้อะ"
หญิงสาวยิ้มชอบใจกับชื่อที่ตนชอบจากนั้นก็ดึงหูมันเล่นอย่างสนุกสนาน เธอชอบหมียิ่งกว่าอะไรดี เคยบอกไปแล้วว่าถ้าเจอหมีเมื่อไรแม่พร้อมจะกระโจนไปในกรงหมีได้ทุกเมื่อนาจา
19:20 น. เวลาล่วงเลยไปจนถึงตอนค่ำ ชายหนุ่มก็ไม่มีท่าทีว่าจะกลับมา คนตัวเล็กที่นั่งรอจนท้องร้องจ๊อกๆจำต้องแบกร่างกายอันหิวโซของตนเองไปในครัว แล้วชญาพัตรก็ค้นหาอาหารที่เธอสามารถทำกินเองได้ แต่เธอคงจะคิดผิดมหันต์นอกจากจะลืมว่าตัวเองทำอาหารไม่เป็นแล้ว ยังหุงข้าวไม่เป็นอีกด้วยซ้ำ ชญาพัตรจึงนึกหาอาหารที่มันสามารถทานแทนข้าวได้ แล้วก็แจ๋ว เมื่อสายตาแสนคมของเธอหันไปปะทะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่แล้วความฝันอันงดงามก็ต้องทลายลงเมื่อต้มบะหมี่ใส่น้ำเรียบร้อยแล้วเธอซุ่มซ่ามหวังว่าจะไปหยิบน้ำแต่มือแสนสวยกลับไปปัดมาม่าที่หลงเหลืออยู่ถ้วยเดียวในครัวหกลงพื้นไปเสียหมด
"ม้ายยยยยยยยยย!"
เสียงโหยหวนของคนหิวข้าวราวจะขาดใจดังไปทั่วห้อง ทำให้คาวิวล์ที่เพิ่งกลับมาถึงต้องชะงัก ยัยตัวแสบนั่นเป็นอะไรอีกล่ะ หมีถูกขโมยหรือไง
"โอ้วว! ไม่น้าา มาม่าสุดที่รักของช้านน ฮืออ แล้วฉันจะกินอะไรล่ะทีนี้ อิตาคาวิวล์บ้า หายไปไหนกันตั้งนานสองนาน รู้มั้ยว่าฉันหิวข้าวมากแค่ไหน คอยดูน่ะถ้ากลับมาเมื่อไรแม่จะด่าให้ยับเลย งื้อออ"
หญิงสาวบ่นอุบออกไปตามประสาคนพาล แต่หารู้ไม่ว่าคนที่ตนด่าฉอดๆๆเสียงดังฟังชัดแบบนั้นบัดนี้ได้มายืนอยู่ข้างหลังเธอแล้ว
"ได้ยินว่าจะด่าใครให้ยับหรอ?"
เสียงคมที่แสงราศีอำมหิตอยู่เอ่ยออกมาพร้อมกับร่างสง่าที่เดินตรงมาขางหลัง คนที่ถูกจับได้ว่าแอบนินทาเจ้าของห้อง เปลี่ยนสีหน้าเกือบไม่ทัน
"เปล๊า! เออคือฉันบอกว่า ถ้าคุณกลับมาเมื่อไรฉัน ฉันจะกระโดดกอดให้คอเสื้อยับเลยอะ แฮร่ๆ"
ชญาพัตรยิ้มเก้อๆ ตายยากจริงเชียวผู้ชายโรคจิต
"อื้มเหรอ! สงสัยเมื่อกี้ฉันคงหูฝาดไปเองสิน่ะว่าธอจะด่าฉันให้ยับไปเลย แต่นี่ฉันก็กลับมาแล้วน่ะ ไหนอยากกระโดดกอดล่ะ มาสิ"
เขายิ้มเจ้าเล่ห์ทำเอาคนที่เผลอพูดสิ่งร้ายแรงออกไปกัดปากตนเองแน่น ไม่น่าหาเหาใส่หัวเลยพัตรเอ้ย จากนั้นหญิงสาวก็ต้องจำใจเดินไปกอดเขาอย่างที่พูดไว้ ร่างกำยำจงใจเบียดเสียดตัวให้ชิดกับเธอมากที่สุด แถมกว่าจะยอมปล่อยก็ต้องรอให้ท้องเธอร้องประท้วงเสียก่อน
"หิวข้าวหรอ!"
คาวิวล์เลิกคิ้วถาม พร้อมส่งสายตาไปมองเส้นมาม่าที่นอนอืดอยู่บนพื้น
"อื้อ มากก"
"แล้วทำไมไม่หุงข้าวทำอาหารกินล่ะ ของสดก็มีในตู้เย็น"
คาวิวล์ถามอย่างสงสัย และเขาก็ต้องเขกกระบานตัวเองเฉดใหญ่เมื่อแม่บ้านคนสวยของเขาบอกว่าทำอาหารไม่เป็น!
"ถามจริงเหอะ โตเป็นสาวแล้วยังทำอาหารไม่เป็นสักอย่างนี่หมายความว่าไง"
ชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้เลยจริงๆ เพราะเจ้าหล่อนบอกว่าขนาดทอดไข่ยังทอดไม่เป็น
"ก็ฉันเคยพยายามแล้วแต่ฉันก็ไม่เคยซักครั้งที่จะทอดไข่ไม่ไหม้อ่ะ แม่ก็เลยสั่งห้ามฉันเขาครัว เพราะแม่เสียค่ากระทะไปหลายตังค์แล้ว แฮะๆ"
ชญาพัตรนั่งใช้มือเกยคางแล้วยิ้มอย่างชอบใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า ผู้ชายตัวบึกบึนใส่ผ้ากับเปื้อนสีชมพู ฮิฮิ น่าชัง
"ก็มัวแต่ยึดติดกับอดีตอยู่แบบนั้นแล้วเมื่อไรจะทำเป็นล่ะ อยากลองทำมั้ยเดี๋ยวฉันสอนเอง"
เขาเลิกคิ้วถามเป็นเชิงชวน ก็ไม่ใช่ว่าเธอเกลียดการทำอาหารหรอกน้า แต่คนมันไม่เคยก็เลยไม่รู้ว่าต้องเริ่มยังไง เมื่อเจอสายตาเชิญชวนแบบยั่วยวนของชายหนุ่มหญิงสาวก็กระปรี้กระเปร่าอยากจับตะหลิวขึ้นมาทันควัน
"ใส่เสร็จหรือยัง อย่างแรกเราต้องมาแกะกุ้งกันก่อน"
ชายหนุ่มหันไปมองคนที่อยู่ในผ้ากันเปื้อนสีขาวแล้วก็บอกความคิดว่าวันนี้เชฟจำเป็นแบบเขาจะสอนให้เธอทำอะไร
"วันนี้คุณจะทำเมนูอะไรหรอ"
หญิงสาวเอ่ยถามแล้วเดินมาใกล้ๆชายหนุ่ม
"ข้าวผัดกุ้ง วันนี้ผมจะสอนทำเมนูง่ายๆก่อนแล้วกัน"
***ขอเม้นต์รัวๆ***