4.ข้อต้องห้าม
ลิขิตรักสามีเถื่อน/04.ข้อต้องห้าม18+
เขามะเหงกใส่หน้าผากเธอหนึ่งที
"โอ้ยคุณ ฉันเจ็บน่ะ คอยดูเถอะ ฉันจะฟ้องแม่คุณ"
เธอขู่เขา ทำให้เขาหัวเราะขึ้นหน้า ดูหล่อนสิ กล้ามากที่จะไปฟ้องแม่เขา
"หัวเราะอะไรย่ะ ฉันเจ็บจริงๆน่ะ"
ชญาพัตรลูกหัวตัวเองปอยๆ เขกเข้ามาได้เจ็บจริงๆ
"อะแฮ่ม! ทำอะไรกันจ๊ะเด็กๆ"
มะลิรีบเดินมาหาลูกชายทันทีเมื่อทำอาหารครบตามที่ลูกค้าสั่งแล้ว เมื่อเห็นหน้าตาหน้ารักจิ้มลิ้มของผู้หญิงที่ลูกชายหิ้วมาด้วยยิ่งนึกเอ็นดู เพราะนางอยากมีลูกสาวแต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างจึงตัดสินใจมีลูกชายเพียงคนเดียว
"คุณแม่ สวัสดีครับ คิดถึงจังเลย"
เมื่อคาวิวล์รู้ว่าเป็นเสียงของมารดา ชายหนุ่มก็ดีดตัวปึ๋งลุกขึ้นไปหอมแก้มและสวมกอดมารดาทันที
" ปากหวานจริงๆเลยลูกคนนี้"
ชญาพัตรยิ้มเหยๆให้กับภาพที่เห็นเวลาผู้ชายคนนี้อยู่กับแม่ความน่าเกรงขามของเขาหายไปใรพริบตาเลยแหะ เหลือก็แต่ความน่ารักที่เปล่งออร่าออกมา
"แม่ครับนี่พัตร"
คาวิวล์ไม่ลืมที่จะแนะนำเธอให้มารดาได้รู้จัก
"เอ่อ สะสวัสดีค่ะ"
หญิงสาวรู้สึกประหม่าเล็กน้อยยามที่แม่ของเขาจ้องมา ผู้หญิงอะไรขนาดอายุเยอะแล้วยังสวยกว่าเธออีก ชญาพัตรคิดในใจ
"สวัสดีจ้ะหนู นี่แฟนใหม่ลูกหรอ ไหนบอกว่าสเป๊คไม่ใช่สาวไทยไง"
มะลิหันไปถามลูกชายอย่างเคืองๆ ในฐานะที่เป็นหญิงไทยเหมือนกัน มันคงดูไม่งามหากลูกชายจะไปฉกลูกคนอื่นมา เพราะคนไทยถือเรื่องนี้มาก
"พัตรไม่ใช่แฟนผมครับแม่ แม่ก็รู้ว่าถ้าผมไม่ชอบคือไม่ชอบนี่ครับ"
คาวิวล์พูดจบก็ประคองมารดาให้นั่งลงข้างๆ
"อ้าว แล้วทำไมถึงพาหนูพัตรมาแนะนำให้แม่รู้จักล่ะ แม่ก็นึกว่าเป็นคนพิเศษของแกซะอีก"
มะลิพูดพร้อมยิ้มให้สาวน้อยน่าใสที่นั่งตรงข้ามกัน
"ผมเห็นเธอเป็นคนไทยนี่ครับ ก็เลยพามาหาแม่"
ชญาพัตรเอาแต่นั่งเงียบปล่อยให้สองแม่ลูกนั่งคุยกัน
ตื๊ดด ตื๊ดดด ตื๊ดดดด
"ผมขอตัวไปรับโทศัพท์ก่อนนะครับแม่ มีอะไรก็ลองถามพัตรเอาเองล่ะกัน"
พูดจบชายหนุ่มก็เดินออกไปนอกร้านอาหารเพื่อที่จะไปรับโทรศัพท์ ปล่อยให้ชญาพัตรทำหน้าไม่ถูกเมื่อถูกทิ้งให้อยู่กับมารดาของเขา
"น้าชื่อมะลิน๊ะจ๊ะ แล้วหนูเป็นลูกเต้าเหล่าใครล่ะ ทำไมถึงมาเจอกับตาวิวล์ได้"
มะลิถามน้ำเสียงอ่อนโยน จากนั้นชญาพัตรก็คลี่ยิ้มและเล่าทุกอย่างให้ฟังจนหมดเปลือก
"ตายจริง หนูจะมาเป็นคนรับใช้ของวิวล์หรือหนูพัตร"
มะลิใช้มือทาบอก ถึงเรื่องราวที่ชญาพัตรบอกเล่ามามันจะแปลกพิกล แต่ทว่าเป็นตัวนางนางอาจจะหนีมาเหมือนกัน แต่ทำไมชญาพัตรถึงได้บังเอิญมาเจอกับคาวิวล์ล่ะ แบบนี้เขาเรียกว่าอะไร
"ใช่ค่ะ คุณน้ามีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ หรือคุณน้าระแวงที่หนูต้องอยู่คอนโดเดียวกันกับคุณวิวล์"
ชญาพัตรเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา นี่ก็บุญแค่ไหนแล้วที่มะลิไม่ได้คิดว่าเธอจะมาจับลูกชายเขาน่ะ
"ก็จ้ะ แต่น้าไม่ได้ระแวงหนูหรอก
น้าระแวงตาวิวล์มากกว่า บอกตรงๆว่าน้าไม่ไว้ใจ.."
"คุณน้าหมายความว่ายังไงคะ"
ชญาพัตรถามอย่างไม่เข้าใจ
"ก็น้ากลัวว่าลูกชายน้าจะทำมิดีมิร้ายอยู่น่ะสิ ยิ่งรายนั้นน่ะใช้ผู้หญิงเปลืองยิ่งกว่าอะไรดี"
มะลิส่ายหัวให้กับบุตรชายที่ตนรัก ตั้งแต่อายุยี่สิบปีมาคาวิวล์ก็กลายเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ ยิ่งซื่อใสแบบชญาพัตรไม่มีวันรู้เหลี่ยมลูกชายนางหรอก ถึงแม้ปากจะบอกว่าไม่ชอบแต่สายตาที่นางมองเห็นนั้นดูเหมือนคาวิวล์จะถูกใจชญาพัตรไม่น้อย
"คุณน้าไม่ต้องห่วงหรอกคะ พัตรเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว เชื่อใจพัตรเถอะคะ"
"น้าก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี เอ้อ แล้วที่มาอยู่กับตาวิวล์หนูรู้หรือยังว่าลูกชายน้าทำงานอะไร"
มะลิเอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้ งานมาเฟียของคาวิวล์นับเป็นจุดเสี่ยงเหมือนกัน เพราะลูกชายนางเป็นคนเก่งมักมีศัตรูอยู่รอบด้าน คนที่อยู่รอบตัวพลอยโดนไปด้วย
"ไม่รู้ค่ะ เขาอาจจะเป็นนักธุรกิจจอมปราดเปรียวหรือไม่ก็นายแบบค่าตัวแพงสูงลิ่ววหรือ...."
"เขาเป็นมาเฟียจ้ะ"
"อะอะไรนะคะ!"
ความคิดอันไกลโพ้นของชญาพัตรต้องเป็นอันสงบนิ่งเมื่อสิ่งที่ได้ยินมันเกือบทำให้เธอช็อค มาเฟีย! เธอมาอยู่กับมาเฟีย! ชาตินี้ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าตนเองจะมายืนตรงนี้ได้ เพราะเท่าจากที่รู้มามาเฟียไม่ได้มีความหมายว่าเป็นคนดีเลยสักนิด งื๊อออ แล้วยังงี้เธอจะอยู่รอดปลอยภัยครบสามสิบสองประการไหมเล่า
"ว่าไงเดวิด"
คาวิวล์พูดกับโทรศัพท์เสียงเรียบ
"มีข่าวมารายงานครับเจ้านาย"
"ว่ามาเลย"
"งานแต่งของจอหน์ล้มไม่เป็นท่าครับเจ้านาย"
"หึ ทำไมล่ะ แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นยังคงมีบุญอยู่"
คาวิวล์กระตุกยิ้มอย่างลืมตัว ก็ดี! คนที่อยากได้อะไรก็ได้หมดทุกอย่างอย่างจอหน์ลองผิดหวังดูเสียบ้าง เผื่อสมองด้านการทำดีจะเจริญเติบโตขึ้นมาสักหน่อย
"คงงั้นครับนาย"
"แล้วมันจะกลับมาที่นี่เมื่อไร"
"ประมาณอาทิตย์หน้าครับ"
"อืม ก็ดี"
"แล้วเราจะเล่นมันเลยดีไหมครับ"
"ไม่ดีกว่า ฉันเปลี่ยนใจ"
คาวิวล์พูดอย่างไม่ค่อยสนใจนัก ทำไมเขาต้องไปสนใจเรื่องของไอ้หน้าปลาร้านั่น ทั้งๆที่เขาก็มีเรื่องอื่นให้ทำตั้งเยอะ
"ทำไมครับนาย แต่นี่มันเป็นโอกาสดี"
"นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบทำใครก่อน"
"ไหนๆทุกวันนี้หนูก็ได้อยู่ใกล้กับคาวิวล์มากที่สุดแล้ว
มารดาของเขาเอ่ยกับเธอ
"น้าอยากขอให้หนูช่วยทำให้เขาเลิกเป็นมาเฟียได้ไหม"
นางเอ่ยออกมาหน้าตาเศร้า
"หนูหรอคะ?"
ชญาพัตรใช้นิ้วชี้ชี้มาที่ตนเองอย่างงงๆ
"ใช่ น้ารู้น่ะว่าลูกชายน้ามันชอบหนูพัตร"
มะลิเอ่ยโพล่งไปอย่างที่ใจคิด ตอนนี้นางชอบชญาพัตร และเชื่อมั่นว่าคนที่จะปราบเสืออย่างคาวิวล์ได้ต้องเป็นแม่หนูคนนี้แหละ
"เอ่อ คะคุณน้ารู้ได้ยะยังไงคะ"
ชญาพัตรเอ่ยถามหน้าแดง
"ลูกชายน้าทั้งคนน่ะ ทำไมจะมองไม่ออก น่ะ หนูช่วยทำให้ตาวิวล์เปลี่ยนใจจากเรื่องนี้สักที"
มะลิขอความเห็นใจ นางไม่เคยเห็นดีเห็นงามด้วยเลยสักนิดที่จะให้ลูกชายทำอาชีพที่เสียงอันตรายอยู่ทุกวัน
"ตะแต่หนูไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง"
"หนูแค่อยู่เฉยๆก็พอจ้ะ เรื่องนี้น้ารับรองว่าหนูจะได้ผลประโยชน์ด้วย ขอแค่หนูพัตรร่วมมือกับน้า"
คำพูดของมะลิคล้ายกับมนตร์สะกดที่ทำให้ชญาพัตรตกลงปลงใจลงเรือด้วย จากนั้นอาหารน่าตาน่ารับประทานก็มาวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ
"คุยอะไรกันอยู่ครับสาวๆ"
และคาวิวล์ก็เดินตามมาพอดี หลังจากนั้นทั้งสามคนก็นั่งรับประทานอาหารกันอย่างสนุกสนาน เพราะคาวิวล์ชวนคุยนู่นนี่นั่นตลอด เวลาอยู่กับครอบครัวเขาจะเป็นคนที่ดูสนุกสานร่าเริง แต่เมื่อกลับไปอยู่กันสองคนเขากลับกลายเป็นคนเงียบ และเย็นชา ...
"ตาวิวล์ แน่ใจน่ะว่าจะรับประกันความปลอดภัยของหนูพัตรได้ แกจะไม่ล่วงเกินหนูพัตรแน่ใช่ไหมลูกรัก"
มะลิเริ่มต้นเเผนการกฎต้องห้ามที่ตนตั้งไว้ในใจ
‘ได้สิครับแม่เรื่องแค่นี้เองชิวๆ’
‘แม่ยังพูดไม่จบ ถ้าแกล่วงเกินหนูพัตรเมื่อไหร่ แกจะต้องเลิกเป็นมาเฟีย! เข้าใจมั้ยลูกรัก’
ข้อต้องห้ามข้อนี้เป็นข้อที่ทำให้คาวิวล์เหว๋อได้เป็นข้อแรก ชญาพัตรก็เช่นกันเธอไม่คิดว่าจะเจอกับกฎบ้าๆนี่ แล้วสรุปแม่ของเขาคิดอะไรกันอยู่แน่ หากคาวิวล์อยากเลิกเป็นมาเฟียแล้วเธอจะทำยังไงกันเล่า
"แม่ครับ!"
คาวิวล์เริ่มมีอาการขุ่นมัวออกมาให้เห็น เขาไม่เคยคิดจะคัดค้านกฎของแม่เพราะเขาไม่เคยคิดว่าจะทำตาม แต่ครั้งนี้มันคือความเป็นความตายของชีวิต
"อะไร แม่พูดอะไรผิดไป นี่แหละคือข้อต้องห้ามระหว่างเรา คราวนี้จะทำอะไรก็คิดให้มันดีๆด้วยน่ะลูกชาย เพราะว่าถ้าลูกทำผิดกฎขึ้นมาแสดงว่าลูก..."
มะลิเว้นวรรคไว้ แล้วหันไปกระซิบที่หูลูกชายตนเอง
"รักหนูพัตรเข้าแล้วล่ะ"
มะลิหัวเราะชอบใจให้กับแผนการร้ายกาจของตนเอง สิ่งที่นางพูดคือความจริงทั้งหมด เพราะนางรู้ว่าคาวิวล์จะต้องแหกกฎแน่นอน แต่ก็ไม่เป็นไรถึงลูกชายจะยังหัวดื้ออยากเป็นมาเฟียอยู่ก็ตามแต่ ขอแค่นางได้ชญาพัตรมาเป็นสะใภ้ของเฮอร์รี่คัทนางก็สามารถนอนตายตาหลับได้ หรือจะเรียกว่านางกำลังจับลูกคลุมถุงชนก็ได้น่ะ
คาวิวล์ยังคงเงียบหลังจากที่เดินออกมาจากร้านของมารดา ชายหนุ่มกำลังอึ้งกับข้อต้องห้ามที่ทำให้เขาอยากกระอักเลือดตาย
"คุณ! แม่คุณกระซิบอะไรกับคุณหรอ"
คนที่อยากรู้อยากเห็นเอ่ยถาม
"เรื่องของผู้ใหญ่น่า เด็กอย่ายุ่ง"
มีหรือเขาจะบอก หากบอกไปก็เสียฟอร์มแย่น่ะสิว่าเขากำลังจะตกหลุมรักเธอในเร็วๆนี้น่ะ
"แต่ฉันเป็นน้องคุณแค่สองปีเองน่ะ ไม่เด็กหรอกน่าบอกหน่อยเหอะ"
เธอสะกิดเขาราวกับเด็กน้อยอยากรู้อยากเห็น
"เธออยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม"
เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปเสียดื้อๆ
"เชอะ ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร ไม่อยากรู้ก็ได้"
หญิงสาวบุ้ยปากน้อยๆ เรื่องแค่นี้บอกกันสักนิดก็ไม่ได้ ในขณะที่สาวเจ้ากำลังเซ็งๆอยู่นั้นสายตาก็พลันหันไปเห็นสิ่งที่เธอรอคอยมาทั้งชีวิต
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด"
**** อ้าวซวย กรี๊ดอะไรคะลูก ใครเดาถูกว่ากรี๊ดอะไร ไรท์มาต่อให้พรุ่งนี้เลย**** 555555555