2.ยัยสมองใส
สามีแดนเถื่อน/02.ยัยสมองใส
เขาถามเธอ ตอนหลับยังว่าน่ารักแล้วตอนตื่นยิ่งหน้ารักเข้าไปอีก นี่เขาเห็นแก่ความน่ารักของเธอหรอกน่ะถึงยอมเลิกหงุดหงิดง่ายๆ
"เอ่อ ฉันชื่อ ชญาพัตร เรียกฉันว่าพัตรเฉยๆก็ได้ คือเมื่อคืนฉันหนีออกจากบ้านมา"
หญิงสาวตอบตะกุกตะกัก ทำไมเขาต้องมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นน่ะมันประหม่า
"อ๋อ.. เธอก็เลยแอบกระโดดขึ้นรถฉันมานี่นะ"
ชายหนุ่มคาดเดา และก็ถูกเผงด้วย เมื่อเธอพยักหน้ารับ
"แล้วไง หนีออกจากมางั้นหรอ เพราะอะไรล่ะ"
ชายหนุ่มซักไซร้ ทั้งๆที่มันไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยสักนิด
"พ่อจะจับฉันแต่งงาน ฉันก็เลยหนีมา"
เธอตอบแบบทำหน้าอยากลาโลกยามนึกถึงเรื่องพวกนี้
"ทำไมล่ะ ใครๆเขาก็อยากมีสามีกันทั้งนั้น"
"แต่ฉันไม่นี่นา"
"แล้วเธอจะเอายังไงต่อ"
คำถามของเขาทำให้เธอหันมามองสายตาพราว ถ้าเธออยากขออยู่กับเขาเขาจะอนุญาติไหมน่ะ
"ฉัน......เอ่อ"
จ๊อก จ๊อก กรรม! เธอกำลังทำใจจะบอกเขาอยู่เเล้วเชียว แต่ท้องเจ้ากรรมก็ยังดันมาร้องก่อน ชายหนุ่มกระตุกยิ้มให้คนข้างๆ สงสัยเธอคงจะหิวข้าว
"ไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วไปรอฉันที่ห้องอาหาร"
เขาบอกเสร็จก็เดินดุ่มๆ ออกไป ชญาพัตรไม่ขัดข้องแต่อย่างใด เธอไม่อยากจะเอ่ยว่าตอนนี้หิวมากเพียงใด
ร่างบางเดินลอยวิ่วเข้าไปในห้องอาหารที่คาวิวล์กำลังยืนยุกยิกยุกยิกอยู่
"มาแล้วหรอ"
คนตัวโตหันมาถาม ยัยนี่ตอนหน้าสดน่ารักเป็นบ้าเลย แต่ช้าก่อน น่ารักใสๆมันไม่ใช่สไตล์เขาหรอก ชญาพัตรพยักหน้ายิ้มๆให้เขา หล่อชะมัด นี่แหละชายในฝันของเธอ
"นี่โจ๊ก ฉันซื้อมาตั้งแต่เมื่อคืนแต่ไม่ได้กิน"
เขาว่าพลางวางชามโจ๊กที่ดูหน้ากินลงบนโต๊ะ
"แล้วๆๆ คุณไม่กินหรอคะ"
เธอถาม
"ไม่เป็นไร ฉันไม่หิว รีบๆกินล่ะ"
"คุณจะพาฉันไปไหน"
คำว่า 'รีบๆกินล่ะ' ทำให้เธอสงสัย นี่เขาจะรีบไปไหนกัน
"กลับบ้านสิ ฉันไม่มีเวลาว่างมานั่งดูแลเธอหรอกน่ะชญาพัตร"
เขาพูดน้ำเสียงจริงจัง ส่งผลให้ใบหน้าสวยงอง่ำ ก็เธอไม่อยากกลับบ้านนี่นา
"ไม่เอา ฉันไม่กลับ เอ่อ ฉันขออยู่กับคุณสักพักได้ไหม คือฉันขอหาที่พักให้ได้ก่อน รับรองเมื่อถึงตอนนั้นฉันจะไปจากคุณ"
เธออ้อนขอ โธ่! เจ้าชายในฝันในร้ายชะมัด
"บอกแล้วว่าฉันไม่มีเวลาให้เธอ ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่แบบถาวรหรอกน่ะ วันนี้เย็นฉันต้องไปอเมริกา"
เขากอดอกแล้วพูดจ้องหน้าเธอ พร้อมส่งสายตาบอกให้รู้ว่าเขาจริงจัง
"เอ่อคือ ฉัน ฉันขอไปด้วยคนได้ไหม"
เธอตัดสินใจพูดออกมาอย่างลืมอาย นี่เธอคงบ้าไปแล้วใช่ไหม ถึงได้กล้าขอไปอยู่กับผู้ชาย
"ตลก! บอกแล้วว่าไม่ว่างมานั่งเล่นด้วย"
เขาพูดเสียงดุ ยัยบ้านี่คิดยังไงมาขออยู่ด้วย หารู้ไม่ว่าเขามันเสือผู้หญิงดีๆนี่เอง ถ้าไม่แน่พออย่าเอาชีวิตมาเสี่ยงกับเขาดีกว่า
"ก็ได้ งั้นฉันไปล่ะ ขอบคุณที่เสียสละเวลามาเล่นตลกกับฉัน"
ชญาพัตรพูดหน้าบึ้ง วางช้องที่ยังไม่ทันจะได้ตักโจ๊กเข้าปากลงทันที ความหิวเมื่อกี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง ใจร้ายจริงเลยผู้ชายบ้า! จากนั้นร่างบางก็เตรียมตัวจะไปลากกระเป๋าเป้ของตนเองมา
"อ้าว ไม่หิวแล้วหรอ"
คาวิวล์แปลกใจ เมื่อเห็นคนที่บ่นว่าหิววางช้อนง่ายๆ
"ไม่! ฉันจะไม่ขอความช่วยเหลือจากคุณแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง"
ตอนนี้โลกของเธอกำลังมืดแปดด้าน ไม่รู้จะไปทางไหนดี คาวิวล์เมื่อเห็นอาการขี้น้อยใจของหญิงสาวก็โคลงศรีษะไปมา เฮ้อ! ว่าจะไม่สงสารแล้วน่ะ
"เดี๋ยว! อย่าเพิ่งไป"
เขาเอ่ยเรียกเสียงเครียด เมื่อเห็นเธอกำลังจะเดินออกไป
"ฉันเปลี่ยนใจแล้ว"
เธอหันมามองคนเอาแต่ใจอย่างเซ็งๆ นี่เขาจะมาไม้ไหนอีกล่ะ
"อะไรอีกล่ะคุณ ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับคุณหรอกน่ะ ชีวิตฉันกำลังเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย"
เธอพูดย้อนเขา ชิ! ไอ้หน้าหล่อปากร้าย ใจร้าย ใจดำ
"อ้าว พูดแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่เปลี่ยนใจซะเลยดีไหม"
ชายหนุ่มกอดอกยืนมองคนที่สะพายกระเป๋าเป้หน้าเง้างอด แต่เมื่อทั้งสองหูของหญิงสาวได้ยินดังนั้น ตาที่โตอยู่แล้วยิ่งโตขึ้นไปอีก ไม่อยากจะบอกว่าเธอดีใจจนจะกระโดดเตะฟ้าได้แล้ว
"วะวะว่าไงน่ะ นี่คุณจะให้ฉันอยู่ด้วยจริงใช่ไหม! จริงใช่ไหม"
ชญาพัตรวิ่งปรี่มากอดเเขนเขาไว้และสั่นงึกงักๆราวคนเสียสติ
"จริงสิ คนแบบฉันไม่ชอบพูดเล่น"
เขากระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่เธอไม่รู้หรอก ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
"ไชโย! ขอบคุณน่ะ ขอบคุณมาก"
เธอกระโดดกอดเขาอย่างลืมตัว ทำให้หน้าอกอวบๆที่เด้งดึ๋งไปถูไถกับอกแกร่งอย่างจัง
"อื้ม อะแฮ่ม! แต่ฉันไม่ได้ให้อยู่ด้วยฟรีๆหรอกน่ะ ต้องมีอะไรตอบแทนด้วย"
คาวิวล์พยายามดึกสติออกมาจากอกอวบๆนั่นให้ตาย ใหญ่ชิบ!! เขากำลังจะคลั่งแล้ว
"ว้าวว! ได้สิ คุณช่วยฉันทั้งที แล้วอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ"
เธอถอยกรูออกมาจากอกแกร่ง เมื่อกี้ลืมตัวไปนิด แฮะๆ คาวิวล์กระตุกยิ้ม หึ! อย่าว่าเขาใจร้ายเลยน่ะ ให้เรียกว่าผลพลอยได้ดีกว่า
"แล้วคิดว่าผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกันสองคน ควรจะตอบแทนด้วยอะไรดี....."
เขาพูดเพื่อให้เธอคิดตาม สายตากรุ่มกริ่มของเขาน่าจะบอกได้ดีที่สุดว่าตอนนี้ในหัวเขากำลังมีแต่เรื่องหื่นๆ หวังจะจับเธอกิน ชญาพัตรทำท่าครุ่นคิดอย่างหนัก ทำไงดีล่ะ เธอไม่เคยอยู่กับผู้ชายด้วยสิ ......ปิ๊งงง! คิดออกแล้ว
"อ้อ! ฉันรู้แล้ว"
เธอส่งยิ้มยิงฟันไปให้เขา นั่นแหละทำให้เขาชอบใจมาก รู้งานแบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องอ่อยอิ่งให้เสียเวลา
"แล้ว...เธอจะยอมตอบแทนฉันไหม"
"แน่นอน เรื่องแค่นี้ฉันไม่ถือ"
เธอตอบหนักแน่น กะอีแค่ทำงานบ้านจะหนักหนาอะไร
"งั้น.. ขอตอนนี้เลยได้ไหม"
เขาพูดพลางเดินสาวท้าวยาวๆไปหาเธอ ส่งผลให้คนตัวเล็กต้องก้าวท้าวหนี
"ได้สิ แต่..ทำไมคุณต้องเดินมาใกล้ฉันด้วย"
เธอถามอย่างไม่เข้าใจ
"จะได้ทำสิ่งที่เธอจะตอบแทนถนัดๆไง"
เขายิ้มร้าย
"คะคะแค่ ทำงานบ้านตอบแทน ฉันต้องอยู่ใกล้คุณด้วยหรอ"
ชญาพัตรเริ่มใจคอไม่ดี ทำไมเขาถึงได้ทำหน้าตาหื่นปานนั้น
"อะไรน่ะ! เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร"
ฟิวส์ขาด ยัยบ๊องเอ้ย อย่าบอกน่ะว่าสิ่งตอบแทนคือทำงานบ้าน
"กะก็ทำงานบ้านตอบแทนไง คุณอยู่คนเดียวคงไม่มีแม่บ้านใช่ไหม"
เธอตอบตะกุกตะกัก ทำไมเขาดูน่ากลัวจังเลยแฮะ คิดดีแล้วหรอจะมาอยู่ด้วยเนี่ย
"ยัยสมองใสเอ๊ย! คิดลึกๆไม่เป็นหรือไง อารมณ์เสียชะมัด นั่งรอฉันอยู่นี่แหละ เดี๋ยวขอไปเก็บกระเป๋าก่อน"
พูดเสร็จเขาก็เดินดุ่มๆเข้าห้องนอนไปเลย ปล่อยให้คนคิดลึกไม่เป็นยืนงงอยู่งงนอกห้อง
"เป็นอะไรของเขาน่ะ"
ชญาพัตรบ่นงึมงำกับตนเอง คาวิวล์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แล้วเธอจะอยู่กับเขาได้ไหมเนี่ย ชญาพัตรเกาหัวแกรกๆ พร้อมปลอบตนเองในใจว่า อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องไปอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย
ณ สนามบิน สุวรรณภูมิ
ชญาพัตรกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามคาวิวล์ไป ตั้งแต่ครานั้นเขายังไม่พูดหาเธอเลย เธอพยายามคิดทบทวนคำพูดทุกคำเธอก็ไม่สามารถเดาได้ว่าเธอพูดอะไรผิดเขาถึงบึ้งตึงใส่เธอขนาดนี้ สมองน้อยๆยังหมกมุ่นอยู่กับท่าทางเฉยชาของเขา เมื่อคนตัวโตหยุดเดินชญาพัตรจึงเดินชนหลังแกร่งอย่างแรง
"โอ้ยยย จะหยุดก็ไม่บอก"
ชญาพัตรทำหน้าบูดเมื่อเขาทำเพียงหันมามองเธอแว๊บเดียวแล้วก็หันกลับคืน ทำราวกับเธอไม่มีตัวตนงั้นแหละ
คาวิวล์กำลังมองหาเดวิดที่บอกว่าถึงแล้วแต่ก็ยังไม่โผล่หัวมาสักที แถมยัยตัวเล็กข้างๆนี่ก็มาทำตัวน่ารักอยู่ได้ เขาจึงได้เเต่ขรึมเพราะรู้สึกเสียฟอร์มยังไงไม่รู้ มีของดีอยู่ใกล้ตัวแท้ๆ แต่ทำได้แค่มอง ให้ตายเหอะ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น
"มาแล้วครับนาย ขอโทษทีผมมัวแต่ท้องเสีย"
เดวิดรีบวิ่งมาหาเจ้านายที่ชะเง้อคอรอ
"อืม แล้วดีขึ้นหรือยัง"
เขาตอบกลับเสียงเรียบ
"ไม่เป็นไรแล้วครับ เอ๋! ผู้หญิงคนเมื่อคืน"
เมื่อเดวิดหันไปเจอผู้หญิงตัวเล็กที่เจอเมื่อคืนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงมาที่นี่ด้วย
"คนรับใช้ฉันเอง รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะตกเครื่อง"
พูดเพียงเท่านี้เขาก็เดินไปเลย น้ำเสียงที่เขาพูดดูประชดประชัน เพราะในเมื่อเธออยากเป็นคนรับใช้มากนักเขาก็จะให้เป็น ส่วนคนตัวเล็กก็ทำหน้างอหนักกว่าเดิม เหอะ! เเนะนำดีกว่านี้จะตายหรือไงกัน
"อ้าว คุณผู้หญิงไม่ไปหรือครับ"
เดวิดรู้สึกว่าเจ้านายตัวเองอารมณ์ไม่ค่อยดีถึงได้เดินนำหน้าไปโถ่งๆอย่างนั้น เขาจึงหันไปถามผู้หญิงแปลกหน้าที่ยืนนิ่งราวรูปปั้น
"ฉันไม่ไปหรอกค่ะ คุณไปเถอะ"
ชญาพัตรพูดปลงๆ เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปกับเขา ในเมื่อไม่อยากให้ไปเธอก็จะไม่ไป น้ำตาเจ้ากรรมก็ดันจะไหลอยู่รอมร่อ
"อ้าวแต่เจ้านายบอกว่าคุณเป็นคนรับใช้..."
เดวิดสงสัยอย่างหนัก สรุปเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่
"ฉันไม่ใช่หรอกค่ะ เขาเข้าใจผิดนิดหน่อย คุณไปเถอะเดี๋ยวจะตกเครื่องเอา"
เมื่อเห็นว่าชญาพัตรไม่ค่อยอยากจะคุยด้วยเท่าไหร่ เดวิดจึงเลือกที่จะถอยออกไปแต่โดยดี
คาวิวล์ยืนมองนาฬิกาอยู่ที่หน้าทางขึ้นเครื่อง สองคนนั้นหายไปไหนกัน เครื่องจะออกอยู่แล้วยังไม่มากันอีก และเมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นว่าเดวิดเดินมาคนเดียว
"พัตรล่ะ"
คาวิวล์ถามลูกน้องเสียงเข้ม
"ใครครับพัตร อ้อ คุณผู้หญิงนะหรือครับ"
เดวิดผู้ไม่รู้อะไรเลยใช้ความสามารถในการเดา ทำไมเจ้านายของเขาต้องทำหน้าตาร้อนรนขนาดนั้นด้วย นี่สรุปสองคนนี้เป็นอะไรกันแน่
"เธออยู่ไหน"
"เธออยู่ที่เดิมครับ"
"แล้วทำไมแกไม่เอาเธอมาด้วย"
น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นดุโดยอัตโนมัติ
"อ้าว ก็เธอบอกว่าไม่อยากมะ"
เดวิดยังไม่ทันพูดจบ คาวิวล์ก็เดินพรวดออกไปเสียเเล้ว ชายหนุ่มจึงเกาหัวแกรกๆ สองคนนี้นี่มันแปลกๆอยู่น่ะ
*** มาแล้วจ้าา รักชอบคอมเม้นต์น้าา***