บทที่ 2
“ก็คงเป็นพี่น้องของปู่สมปองนั่นแหละที่เป็นคนบอก แต่ละคนปากสว่างทั้งนั้น หิวเงินอีกต่างหาก” เพื่อนสนิทพูดเสริม
“ก็คงจะเป็นอย่างนั้นว่าแต่วันนี้มีแขกพิเศษเหรอ”
“อืมใช่เห็นพวกพี่ก้อยบอกว่าเป็นว่าที่หุ้นส่วนใหม่ของที่นี่น่ะ จะมาดูการทำงานและศึกษาระบบงานก่อน ถ้าถูกใจแล้วค่อยตัดสินใจซื้อหุ้นมั้ง” บัวบุษยาเอ่ยตอบ พร้อมกับจัดเรียงตู้เอกสารของบริษัทให้เป็นระเบียบ
“มันก็จริงเนอะ จะซื้อหุ้นทั้งที่มันก็คงต้องดูรายละเอียดกันลึกๆ หน่อย อีกอย่างคุณสันติไม่ได้ขายหุ้นส่วนตัวแค่หมื่นสองหมื่น แต่ขายเป็นสิบๆ ล้าน มันก็ต้องศึกษาผลได้ผลเสียกันหน่อย”
“ใช่คุณสันติก็ไม่ได้เดือดร้อนเงินอะไร อีกอย่างบริษัทก็ไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน แต่ทำไมต้องขายหุ้นด้วยก็ไม่รู้ เป็นเจ้าของคนเดียวน่าจะดีกว่า ไม่ต้องแบ่งผลกำไรให้ใครด้วย รับคนเดียวเต็มๆ” บัวบุษยาอดสงสัยไม่ได้ กิจการของที่นี่ไม่มีปัญหาอะไรน่าหนักใจ ทุกอย่างราบรื่น ผลกำไรก็อยู่ในระดับที่ดีมาก มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาใช้บริการและเป็นสมาชิกสปอร์ตคลับแห่งนี้เป็นจำนวนมาก จนต้องขยายให้ใหญ่ขึ้นด้วยซ้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า แล้วเหตุใดจึงคิดจะขายหุ้น
“เมียสั่งมาแน่นอน” หยาดน้ำค้างพูดอย่างไม่สงสัย เพราะสันติกลัวภรรยาอย่างกับอะไรดี ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้
“ช่างเถอะ เรื่องของเจ้านาย เรามันลูกจ้างไม่เกี่ยวกัน บัวไปก่อนนะ” บัวบุษยาขอตัวไปทำหน้าที่ของตน ปล่อยให้หยาดน้ำค้างเจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับลูกค้า จัดเรียงแฟ้มเอกสารของลูกค้าต่อจากเธอ
“ขอบใจมากนะที่เข้ามาช่วย ตอนเที่ยงกินข้าวพร้อมกันนะ”
“จ้ะ” สองสาวต่างแยกไปทำงานของตัวเอง เหลือเวลาอีกสี่สิบนาทีเท่านั้น ว่าที่หุ้นส่วนคนใหม่ก็จะเดินทางมาถึง อีกสามสิบนาทีต่อมาทุกอย่างจึงเรียบร้อย
รถเบนซ์รุ่นใหม่ล่าสุดเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าสปอร์ตคลับตรงเวลา ร่างสูงใหญ่ของบุรุษงามสง่าก้าวเดินลงมาจากรถ สะกดสายตาของพนักงานทุกแผนก ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายให้หยุดมองมาที่เขา ความหล่อเหลาราวกับเทพบุตรกรีกโบราณ ร่างกายที่สูงใหญ่ตามแบบฉบับของนักรบโรมัน ดวงตาที่คมกริบสีดำสนิทชวนหลงใหล ริมฝีปากหนาได้รูปสวยแย้มยิ้มเล็กน้อยชวนฝันยิ่งนัก
“ยินดีต้อนรับสู่ทรีสปอร์ตคลับค่ะ” น้ำเสียงอันไพเราะของหยาดน้ำค้างเอ่ยบอก พร้อมกับช่อดอกไม้ช่อโตที่ถูกยื่นให้กับเหมันต์ บุรุษผู้มาเยือน ชายหนุ่มมองสตรีตรงหน้าอย่างตะลึงในความสวยใส รอยยิ้มที่สวยงามแจ่มชัดบนใบหน้า ถ้อยคำที่เพราะพริ้ง รูปร่างที่บอบบางอรชร ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม ยิ่งเพ่งพิศยิ่งชวนมองมากนัก
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มเอื้อมมือมารับช่อดอกไม้ มือหนาสัมผัสกับหลังมือบางอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เกิดพลังงานไฟฟ้าอ่อนๆ ไหลวนเข้าไปในร่างกายของทั้งสองโดยไม่ทันตั้งตัว หยาดน้ำค้างรีบชักมือกลับทันควัน หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่ากลองชุดใหญ่ เดินถอยหลังไปยืนที่เดิม
“คุณเหมันต์ครับ ผมจะพาคุณเดินชมตามชั้นต่างๆ ของสปอร์ตคลับนะครับ” สันติพูดขึ้นหลังจากที่พาชายหนุ่มเดินเข้ามาภายในสปอร์ตคลับ พนักงานทุกคนจึงกลับไปทำตามหน้าที่ของตน
“ผมอยากให้ผู้หญิงที่มอบช่อดอกไม้ให้ผมเมื่อสักครู่ เป็นคนพาผมเดินชมสปอร์ตคลับแห่งนี้ดีกว่าครับ ผมจะได้ทดสอบการทำงานของพนักงานที่นี่ไปในตัวด้วย ประกอบกับการตัดสินใจว่าจะร่วมลงทุนด้วยดีหรือไม่” เหมันต์ให้เหตุผลที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก ‘ทดสอบการทำงานของพนักงานที่นี่’ ช่างเป็นข้ออ้างที่หาคำค้านไม่ได้เลย
“ได้ครับหากคุณเหมันต์ต้องการแบบนี้ ก็ดีเหมือนกันครับ คุณเหมันต์จะได้รู้ว่าพนักงานของที่นี่ทำงานมีประสิทธิภาพมากแค่ไหนคุณบงกช ไปตามหยาดน้ำค้างมาที่นี่ด่วนเลยครับ” สันติสั่งการบงกชผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้า ซึ่งเป็นเจ้านายสายตรงของหญิงสาว เหมันต์กระตุกยิ้มเล็กน้อย พึงพอใจกับชื่อเสียงเรียงนามของเธอยิ่งนัก ดวงหน้าที่สวยพริ้งเกลี้ยงเกลา ยังไม่เทียบเท่ากับชื่อนามที่แสนไพเราะและไม่เหมือนใครหยาดน้ำค้าง
“คุณหยาดน้ำค้าง ผมรบกวนคุณช่วยพาคุณเหมันต์เดินชมตามชั้นและส่วนต่างๆ ของสปอร์ตคลับด้วยนะ พอพาคุณเหมันต์เดินชมเสร็จแล้ว พาคุณเหมันต์ไปพบผมที่ห้องรับรองชั้นสาม” หญิงสาวผู้ถูกเรียกใจสั่นรัว นี่เธอต้องพาเขาเดินชมทั่วสปอร์ตคลับหรือนี่ เหตุการณ์ที่ไม่ได้ตั้งใจที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ หยาดน้ำค้างเองยังไม่หายใจสั่น นี่ต้องมาเดินเคียงข้างเขาพาเดินทั่วสปอร์ตคลับ ที่ต้องใช้ระยะเวลาประมาณยี่สิบถึงสามสิบนาทีกว่าจะดูหมดทุกสถานที่ มีหวังหัวใจดวงนี้ได้กระเด็นออกมาเต้นข้างนอกแน่ ตื่นเต้นดีแท้