2
“โอ๊ย!” เสียงร้องของคนบนเตียงดังขึ้น พร้อมด้วยอาการขยับตัว และกะพริบตาปริบ ๆ ทำให้ปานแก้วรีบหันไปตะโกนบอกสามีในทันที
“คุณคะ ลูกฟื้นแล้วค่ะ”
“นัทธ์เป็นไงบ้างลูก” ประณตเอ่ยถามลูกชาย
คนป่วยบนเตียงกะพริบตาปริบๆ งุนงงกับคำถามนั้น ทำไมบิดามารดาของนัทธ์ถึงได้ถามว่าเธอเป็นยังไงบ้าง
“หนูเป็นอะไรไปคะ” ประโยคคำถามนั้นสร้างความประหลาดใจให้กับประณตกับปานแก้วยิ่งนัก เพราะนัทธ์ไม่เคยแทนตัวเองว่าหนูเลยสักครั้ง ส่วนมากจะแทนตัวเองว่าผมหรือแทนตัวเองว่านัทธ์ซึ่งเป็นชื่อของตัวเอง
สองสามีภรรยามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย นั่นทำให้อะตอมที่อยู่ในร่างของนัทธ์ทำหน้างง
“เมื่อกี้ลูกแทนตัวเองว่ายังไงนะจ๊ะ” ปานแก้วถามซ้ำ เพราะคิดว่าตัวเองหูแว่วไป
“หนูไงคะ ทำไมเหรอคะ”
“ทำไมลูกพูดคะขาล่ะ คุณคะแย่แล้ว หรือเพราะลูกขับรถไปชน จนสมองได้รับการกระทบกระเทือน จำเพศตัวเองไม่ได้” ประโยคของผู้ใหญ่ทั้งสองทำให้อะตอมกะพริบตาปริบๆ เธอว่ามันต้องมีอะไรแน่ ๆ เธอก็เลยก้มมองตัวเอง ทั้งแขน ทั้งมือ ทั้งตัวเอง นี่มันร่างบึกบึนของนัทธ์นี่นา เธอจำได้ เพราะอาบน้ำแก้ผ้าด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ร่างที่เธออาศัยอยู่ไม่ใช่ร่างของตัวเองที่มีทรวงทรงองเองของผู้หญิง ไม่มีหน้าอก ไม่มีความคอดของเอว ไม่มีช่วงขาเพรียวสมส่วน
“หนูขอกระจกหน่อยได้ไหม” อะตอมเบิกตากว้าง ก่อนจะเอ่ยขอกระจก
ประณตกับปานแก้วทำหน้างง แต่ก็ยอมไปหยิบกระจกมาให้แต่โดยดี
อะตอมรับกระจกมาส่องดู พอเห็นว่าเป็นหน้าของนัทธ์ เธอก็อ้าปากค้างตาโต ก่อนจะหลับตาปี๋ คิดในใจว่าเธออาจจะฝันไปก็ได้ เธอจึงลืมตามองกระจกใหม่ แต่ยังเหมือนเดิม ใบหน้าที่เห็นในกระจกคือใบหน้าของนัทธ์
เธอทำท่าจะกรีดร้องแต่ก็เอามืออุดปากของตัวเองเอาไว้ ลองหยิกตัวเองดูก็ปรากฏว่าเจ็บ
“โอ๊ย!”
“ลูกหยิกตัวเองทำไม” ปานแก้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะว่าตั้งแต่ลูกตื่นขึ้นมา ก็เอาแต่ทำอะไรแปลกๆ งงๆ เหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง
“หนู เอ๊ย! ผมขอไปเยี่ยมนัทธ์ เอ๊ย เยี่ยมอะตอมหน่อยได้ไหมคะ เอ๊ย! ครับ” อะตอมพูดผิดพูดถูก ทำเอาสองสามีภรรยามองหน้ากันอย่างเป็นกังวล ต่างคิดว่าต้องให้หมอเช็กสมองกันอีกสักรอบ เพราะสมองของลูกอาจจะได้รับการกระทบกระเทือน
“ลูกเพิ่งฟื้น จะไปเยี่ยมอะตอมแล้วเหรอ พักผ่อนก่อนไม่ดีกว่าเหรอจ๊ะ”
“ไม่ได้ค่ะ เอ๊ย! ครับ ต้องไปเดี๋ยวนี้นะ นะคะ เอ๊ย! นะครับ ๆ” อะตอมในร่างนัทธ์เอ่ยขอร้อง ปานแก้วไม่อยากขัดลูกชายจึงช่วยประคองลูกขึ้นนั่งรถเข็น พาไปยังห้องข้าง ๆ
เพียงแค่เปิดประตูเข้าไป เสียงของคนป่วยบนเตียงก็ร้องออกมาเสียงหลง
“พี่ปานคะ ลูกเป็นอะไรก็ไม่รู้ ตื่นขึ้นมาก็ร้องโวยวายเสียงดัง”
“หุบปากก่อน จะร้องโวยวายอะไรของแกนี่” อะตอมตวาดลั่น ทำเอานัทธ์ที่อยู่ในร่างของอะตอมชะงักกึก มองอีกฝ่ายตาปริบ ๆ เขาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองมีนม เอวคอด ซิกซ์แพ็กหาย และล้วงเข้าไปเจอจิ๊มิ๊เขาก็ตกใจ คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เอาเจ้าน้องชายสุดที่รักไปคลอเคลียกับน้องสาวของผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว
“นัทธ์ ตวาดอะตอมแบบนั้นได้ยังไง อะตอมเป็นผู้หญิงนะ” ปานแก้วตำหนิลูกชาย อะตอมที่อยู่ในร่างของนัทธ์ได้แต่เอ่ยขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
“ผมขอคุยกับอะตอมสองต่อสองได้ไหมครับ” อะตอมพูดขึ้น พยายามทำเสียงขรึมๆ เข้าไว้
“ทำไมต้องคุยกันสองต่อสองด้วยจ๊ะ” รดาเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ญาติคนไข้ไปเบิกยาที่ห้องยาด้วยนะคะ” เสียงของพยาบาลสาวสวย ทำให้แม่ ๆ ทั้งสองต้องรับเอกสารไปเบิกยาที่ห้องยา ส่วนคนเป็นพ่อก็ตามภรรยาลงไป ปล่อยให้ลูก ๆ ได้คุยกัน
“เราสองคนสลับร่างกัน” อะตอมพูดขึ้น มองหน้าตัวเองที่ตอนนี้มีวิญญาณของเพื่อนอาศัยอยู่
“แล้วเราจะทำยังไง”
“นั่นสิ ฉันคิดไม่ออก ปวดหัวไปหมดแล้วนี่” อะตอมหน้าเครียด
“ฉันไม่อยากอยู่ในร่างของเธอหรอกนะ”
“ทำยังกับฉันอยากอยู่ในร่างของนายงั้นแหละ ชิ!”
“สรุปจะเอายังไง”
“นายกลับไปอยู่บ้านนาย ฉันกลับไปอยู่บ้านฉัน”
“บ้าน่ะสิ พ่อแม่ของพวกเราได้ตกใจตาย”
“ฉันไม่อยากอยู่ในร่างนายหรอกนะ”
“ร่างฉันเป็นยังไง ซิกซ์แพ็กอย่างล่ำ ไขมันส่วนเกินไม่มีเลย ฉันออกกำลังกายตลอด”
“ใครสนใจหุ่นนายกันย่ะ ชิ!” เธอย่นจมูกใส่เขา
“เราอาจจะต้องอยู่แบบนี้กันไปก่อน เธอก็ไปอยู่บ้านฉัน และฉันก็คงต้องไปอยู่บ้านเธอ”
“เราจะบอกพ่อกับแม่ดีไหม” อะตอมกัดปากตัวเอง ด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“อย่าเพิ่งบอกดีกว่า เดี๋ยวพวกท่านจะตกใจ”
“ขนาดฉันเองยังตกใจ พ่อกับแม่จะตกใจแค่ไหน ดีไม่ดีเขาได้หาว่าเราสองคนเป็นบ้าน่ะสิ” อะตอมอยากจะร้องไห้เหลือเกิน
“เอาแบบนี้แหละ” นัทธ์สรุปเสร็จสรรพ
“รอออกจากโรงพยาบาลค่อยว่ากัน” เขายังบอกเธอให้คลายใจ นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว วิญญาณหลุดออกจากร่างแล้วไปอยู่ในร่างคนอื่น จะทำยังไงดีล่ะนี่ แต่จะโวยวายก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา เลยต้องมีสติ
“แล้วฉันจะใช้ชีวิตยังไง” อะตอมเป็นกังวลไม่น้อย
“ก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม ฉันก็กินข้าว นอน แล้วก็เรียนเหมือนเธอนี่แหละ”
“ฉันหมายถึง” เธออึกอัก
“เป็นอะไร ทำไมหน้าแดง” นัทธ์เอ่ยถามมาจากบนเตียง
“คิดลามกกับฉันอยู่ล่ะสิ”
“บ้า! ใครจะไปคิดทะลึ่งกับนายกัน” เธอย่นจมูกใส่เขา ไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกันอีก เสียงประตูห้องพักก็เปิดเข้ามา บรรดาแม่ๆ หิ้วของกินเข้ามาหลายอย่าง ในขณะที่คนเป็นพ่อไม่ได้ตามมาด้วย
“พ่อเขาไปนั่งดื่มกาแฟกันน่ะ แม่เลยขึ้นมาก่อน” รดาพูดขึ้น พลางหันไปมองลูกสาวบนเตียง
“นัทธ์จะกลับห้องหรือยังจ๊ะ” ปานแก้วหันไปถามลูกชาย อะตอมในร่างของนัทธ์ก็พยักหน้าให้มารดาเข็นกลับห้อง ก่อนกลับเธอหันไปมองนัทธ์ที่นอนอยู่บนเตียงแต่ไม่ได้พูดอะไร เป็นอันรู้กันว่าออกจากโรงพยาบาลค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง
อะตอมนอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยา เธอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกปวดปัสสาวะ จึงเอ่ยบอกมารดาเพื่อนทันที
“ผมอยากเข้าห้องน้ำน่ะครับ” เธอทำเสียงขรึมๆ เข้าไว้ ทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็นก็ได้ แต่เพราะว่ากลัวจะหลุดให้บิดามารดาของนัทธ์รู้ความจริงเข้า โดนจับได้ว่าเธอไม่ใช่นัทธ์
“เดี๋ยวแม่ประคองไป” ปานแก้วตอบรับเสียงหวาน ก่อนจะประคองร่างลูกชายนั่งรถเข็นไปยังห้องน้ำ
“เดี๋ยวแม่รออยู่ตรงนี้นะ มีอะไรก็เรียกแม่นะ”
“ค่ะคุณแม่”
“เมื่อกี้ลูกว่าอะไรนะ”
“อ้อ... ครับ ครับ” อะตอมรีบปิดประตูห้องน้ำ ก่อนจะตบหน้าผากของตัวเอง เธอหลุดอีกแล้ว ปานแก้วจะสงสัยเธอไหมนะ
อะตอมถลกผ้าถุงโรงพยาบาลขึ้นเพื่อที่จะไปนั่งที่โถส้วมเพื่อปัสสาวะ แต่เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นอวัยวะเพศของตัวเอง
“กรี๊ด!!!!!” เสียงกรีดร้องของลูกชายทำให้ปานแก้วตกใจ รีบเปิดประตูเข้าไป เพราะประตูไม่ได้ล็อก