ตอนที่ 4 เจ้าบาดเจ็บหรือไม่
"ไหนผู้ใดบอกว่านางไม่มีพลังวิญญาณอย่างไรเล่า"
ชายที่มีพลังวิญญาณอีแร้งเอ่ยขึ้นพร้อมกุมที่ท้องด้วยความบาดเจ็บ
"มีแล้วอย่างไร มันมีแค่คนเดียว เจ้าอย่าได้กลัว รีบๆ ฆ่ามันซะแล้วรีบไปทำเรื่องที่เจ้าสำนักสั่งให้เรียบร้อย"
ขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น พลังวิญญาณของฟางเหนียงได้หายไปแล้ว และอาการบาดเจ็บที่แขนก็ทำให้นางไม่มีแรงที่จะเรียกมันมาอีก และนางเองก็ไม่รู้วิธีการปลดปล่อยพลังวิญญาณอะไรนั่นอีกด้วย เมื่อสักครู่จู่ๆ มันออกมาได้เช่นไรก็ไม่รู้ นางพึ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วันเองนะ นี่มันยากเกินไปที่นางจะทำมันได้ การโจมตีในรอบสุดท้ายพุ่งมาทางนาง และครั้งนี้ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง หญิงสาวหลับตารอรับความเจ็บปวด
ตู้ม~~~
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวที่หลับตาอยู่เมื่อได้ยินระเบิดก็โล่งใจ นี่ข้าปล่อยพลังออกมาอีกแล้วหรือ ดวงตางามค่อยๆ ลืมขึ้นแต่ครานี้ทุกอย่างไม่ใช่อย่างที่นางคิด เพราะสิ่งที่มาปกป้องนางไม่ใช่นกอะไรนั่นที่เป็นพลังวิญญาณของนาง แต่ดูเหมือนจะเป็นของคนอื่นผู้คนนับ 10 คนกรูเข้ามาหานาง
"เป็นท่าน"
ฟางเหนียงเอ่ยออกมาเมื่อเห็นคนที่ช่วยตนคือ หนิงเฟิ่งเจ้าสำนักแห่งนี้ ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวด้วยหางตาเมื่อถูกเอ่ยถึง แต่ก็ไม่ได้สนใจจากนั้นเขาใช้พลังคล้ายเชือก และเชือกเส้นนั้นมีไฟลุกโชนไปทั่วทั้งเส้น เพียงแค่เขาตวัดแขนเชือกเส้นนั้นก็มัดคนร้ายทั้งคู่ไว้ด้วยกันอย่างง่ายดาย
"นำตัวไปขัง"
เสียงทุ้มเอ่ยสั่งเสียงเข้ม ไม่นานรองเจ้าสำนักหยงอี๋ก็ตามมา เขาคุกเข่าลงข้างฟางเหนียงและจับหญิงสาวที่สลบให้นอนราบกับพื้น จากนั้นปลดปล่อยพลังวิญญาณ แต่กลับไม่ปรากฏสัตว์ชนิดใดออกมา และถ่ายทอดไปที่หญิงสาวที่สลบ แสงสีขาวถูกส่งไปยังหญิงสาวไม่นานก็ฟื้น ศิษย์ที่เหลือก็มาพานางไปรักษาต่อ
"เหตุใดเวลาท่านปลดปล่อยพลังวิญญาณถึงไม่ปรากฏ..." ฟางเหนียงเอ่ยถามหยงอี๋ไปตามตรง
"แค่รักษา เหตุใดต้องปลดปล่อยพลังวิญญาณ"
หยงอี๋เอ่ยตอบด้วยเสียงอ่อนโยนขณะที่ลุกขึ้น ฟางเหนียงเองก็ลุกขึ้นเช่นกัน 'ก็นึกว่าทำเหมือนกันหมด' หญิงสาวกล่าวกับตนเองในใจโดยที่ไม่ได้ถามต่อ
"เจ้าบาดเจ็บหรือไม่
"ไม่เจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นก็ดีแล้ว เหตุใดถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ไหนว่าเจ้าจะกลับเรือนพักไม่ใช่หรือ"
"แค่หลงเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นก็รอสักครู่ เดี๋ยวข้าเดินไปส่งเจ้าที่เรือน"
หยงอี๋เดินเข้าไปหาหนิงเฟิ่งเจ้าสำนักที่ยืนดูทหารคุ้มกันคุมตัวคนร้ายที่ลักลอบเข้าสำนัก ก่อนที่จะถูกพาตัวไป ตอนนี้เหลือเพียง 3 คน คือ หนิงเฟิ่งเจ้าสำนัก หยงอี๋รองเจ้าสำนักและหญิงสาว หนิงเฟิ่งไม่ได้สนใจหญิงสาวมากนักเพราะไม่ชอบนางอยู่แล้ว ฟางเหนียงเองก็รู้ตัวจึงไม่เข้าไปใกล้เขาอีกเพียงเดินเงียบๆ ไปอยู่ที่หลังของหยงอี๋ เหมือนลูกน้อยที่คอยหลบหลังพ่ออย่างไรอย่างนั้น แล้วจะให้นางทำเช่นไรอยู่นี่คนทั้งสำนักเกลียดนางไปหมด ไม่เว้นแม้แต่เจ้าสำนัก มีเพียงแค่รองเจ้าสำนักที่ดีกับนาง
อยู่ๆ หญิงสาวก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ไหล่ขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะคิดว่าอาจแค่ฟกช้ำธรรมดา แต่ตอนนั้นโลหิตสีแดงกลับออกมาที่ฝ่ามือไปตามนิ้วและสุดท้ายหยดลงพื้น หนิงเฟิ่งที่อยู่ไม่ไกลตัวหญิงสาวนักกลับสังเกตเห็นก่อนนาง ชายหนุ่มตรงเข้ามาทางหญิงสาวจากนั้นจับที่ข้อมือเพื่อพลิกหาบาดแผล
"ท่านกำลังทำอันใด....โอ๊ยย"
หญิงสาวสะบัดแขนออกจากฝ่ามือใหญ่ และทำให้เห็นว่าแขนที่ตนเองคิดว่าฟกช้ำนั้นกลับมีเลือดออก หนิงเฟิ่งปล่อยหญิงสาวแต่โดยดีเมื่อสักครู่เขาเพียงแค่ตกใจเท่านั้น
"เมื่อสักครู่ ขออภัยเจ้าสำนัก"
"เช่นนั้นเดี๋ยวข้าพาเจ้าไปที่ห้องรักษาก่อนก็แล้วกัน"
หยงอี๋เอ่ยกับหญิงสาวแล้วเดินนำไป ฟางเหนียงเดินตามไปแต่โดยดีโดยที่ไม่ได้หันมาสนใจหนิงเฟิ่งอีก
