ตอนที่ 2 ข้าไม่แต่งได้หรือไม่เจ้าคะ
ณ หอผดุงคุณธรรม
ฟางเหนียงถูกพามายังด้านในหอ ด้านในถูกตกแต่งอย่างอลังการและสวยงาม ด้านในเป็นห้องโถง ตรงกลางเป็นทางเดินไปยังด้านหน้าสุดมีโต๊ะไม้ที่ถูกแกะสลักมาอย่างดี ข้างทางเดินมีโต๊ะเช่นเดียวกัน ภาพวาดและของตกแต่งสวยงามจนนางเองก็ไม่สามารถประเมินราคาได้ นี่ถ้าในโลกเก่านางหากนำไปขายคงสบายไปร้อยชาติเชียวล่ะ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะได้เพลิดเพลินกับสิ่งรอบข้างไปมากกว่านี้ก็ต้องรู้สึกเจ็บที่ปลายเล็บเท้า เมื่อตนเผลอเตะเข้าอย่างแรง
"โอ๊ย~~~"
หญิงสาวอุทานออกมาอย่างลืมตัว
"เจ้าเป็นอันใดหรือไม่"
หยงอี๋เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง วันนี้นางเปลี่ยนไปจากที่เขารู้จักจริงๆ นางดูเงียบมากขึ้นและการแต่งกายนางยังแปลกไปเสียด้วย
"ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นเจ้านั่งก่อนเถอะ"
หญิงสาวเดินเข้าไปนั่งกับที่ และมองไปทางรองเจ้าสำนัก เป็นการส่งสัญญาณว่าตนพร้อมแล้วกับเรื่องที่เขาเรียกนางมาวันนี้
"เจ้าหายป่วยดีแล้วใช่หรือไม่"
"หายดีแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านรองเจ้าสำนักที่เป็นห่วง"
หญิงสาวเอ่ยขอบคุณอย่างจริงใจ เขาคือคนแรกที่ช่วยและเอ่ยถามนางด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่มาอยู่ในโลกนี้
"เช่นนั้นก็ดี เอาล่ะเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ที่ข้าเรียกเจ้ามาพบในวันนี้ ก็คือเรื่องงานสมรสของเจ้า" หยงอี๋เอ่ยเข้าเรื่องอย่างไม่อ้อมค้อม
"งานสมรส..?"
"ใช่ งานสมรส ปีนี้เจ้าอายุ 24 ปีแล้ว เจ้าสำนักหนิงเฟิ่ง เห็นพร้อมให้เจ้าสมควรออกเรือนได้แล้ว"
หยงอี๋พยายามอธิบายให้หญิงสาวฟัง อันที่จริงหลายปีที่ผ่านมา หญิงสาวสร้างเรื่องตลอด เจ้าสำนักหนิงเฟิ่งเองก็จนปัญญาชายหนุ่มไม่ได้ชอบพอหญิงสาวเลย อีกทั้งยังเกลียดนางอีกต่างหาก แต่ที่เขาต้องรับนางไว้และดูแลอย่างดีเป็นเพราะคำสัญญาของเจ้าสำนักคนก่อน นั้นก็คือบิดาของเจ้าสำนักหนิงเฟิ่งคนปัจจุบัน ที่สัญญาว่าจะดูแลนางให้อย่างดีก่อนที่บิดา มารดา นางจะเสียไป พอบิดามารดานางเสียไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นางจึงถูกพามาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้อาศัย และเมื่อ 2 ปีที่แล้วเจ้าสำนักคนก่อนก็พึ่งเสียไป จึงทำให้หนิงเฟิ่งต้องขึ้นเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป และเป็นคนที่หญิงสาวชอบพอแต่ชายหนุ่มกลับไม่ หลายปีมานี้หญิงสาวสร้างเรื่อง ตามหึงหวงตลอดจนเจ้าสำนักหมดความอดทน ในที่สุดทางเดียวที่จะไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก นั้นก็คือนางตกแต่งกับผู้ชายสักคนและออกไปจากสำนักนี้ซะ
"เจ้ามิต้องห่วง เจ้าสำนักไม่มีทางปล่อยให้เจ้าแต่งกับคนไม่ดีเป็นแน่"
หยงอี๋เอ่ยขึ้นเสริมเมื่อเห็นท่าทางของนาง
"ข้าไม่แต่งได้หรือไม่เจ้าคะ"
ฟางเหนียงเอ่ยอย่างกังวล พึ่งเข้ามาอยู่ในโลกนี้ก็จะถูกจับแต่งงานแล้วอย่างนั้นหรือ หยงอี๋ส่ายหน้าเป็นคำตอบให้หญิงสาว เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าหญิงสาวต้องปฏิเสธ เรื่องที่นางชมชอบเจ้าสำนักทำไมเขาจะไม่รู้ เป็นไปได้ยากที่จะทำให้นางเห็นด้วย
"เช่นนั้นข้าขอเวลาหน่อยได้หรือไม่ ข้าพึ่งหายจากอาการป่วย อีกอย่างขอให้ข้าได้เลือกคนที่ท่านหามาให้ดีๆ หน่อยนะเจ้าคะ"
หญิงสาวเอ่ยออกไปเสียงเรียบ หยงอี๋ที่ได้ยินไม่อยากที่จะเชื่อหูตนเอง เขาเองก็ไม่คิดว่านางจะเชื่อฟังมากขนาดนี้ นิสัยหลายปีที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็น แต่นิสัยเช่นนี้เขาไม่เคยเห็นจริง ทั้งคู่เอ่ยกันต่อเล็กน้อยก่อนที่หญิงสาวจะออกมาจากหอผดุงคุณธรรม หญิงสาวมีใบหน้าไม่ดีนักหลังผ่านประตูใหญ่ คำว่าแต่งงานยังก้องอยู่ในหู ทุกอย่างในโลกใบนี้ทำไมมันดูวุ่นวายไปหมด ขนาดคนที่นางพึ่งรู้จักหน้าและรู้จักชื่อยังมีแค่คนเดียว
"เฮ้อ~~~"
หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินกลับห้องพักตนเอง แต่จังหวะนั้นกลับมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาเสียก่อน ใบหน้าของเขาทำให้หญิงสาวที่ได้เห็นถึงกับตะลึงนิ่งค้าง ชายหนุ่มรูปร่างสมส่วน สวมชุดสีขาวทั้งตัว ท่าทางการเดินดูสง่างาม ผมยาวดูสุขภาพดีครึ่งบนถูกมัดและปล่อยตัวสยายไปกับครึ่งล่าง คิ้วเข้มดกดำเรียงตัวสวย ดวงตาคมเข้มสีอิฐ จมูกโด่งเป็นสันเข้ารูป ปากหนาดูชุ่มชื่นสุขภาพดี ผิวขาวหน้าอกเต็มไปด้วยมัดกล้ามถึงแม้จะมีชุดปิดอยู่ก็ตาม เขาสง่างามเหมือนอย่างภาพวาดเดินได้อย่างไรอย่างนั้น
ชายหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวก็ไม่ได้สนใจ เพียงทำหน้านิ่งอย่างที่เคยทำและเดินเลยนางเข้าไปด้านในทันที
"คารวะเจ้าสำนัก"
บ่าวรับใช้หน้าหอผดุงคุณธรรมเอ่ยขึ้นเมื่อเจ้าสำนักเดินไป และเปิดประตูให้ชายหนุ่ม
"นี่สินะเจ้าสำนัก หนิงเฟิ่ง ที่ใครก็กล่าวหาว่าข้าชอบเขา รูปร่างหน้าตาเขาเป็นเช่นนี้ก็ไม่แปลกที่ร่างนี้จะชมชอบ ขนาดข้าเห็นเขาครั้งแรกยังต้องตกตะลึงเลย" หญิงสาวพึมพำกับตนเองเบาๆ ก่อนที่จะเดินออกไป
