ตอนที่ 1 ไม่ชินจริงๆ ที่ฉันสวยขนาดนี้
ในช่วงปลายฤดูสารท สายลมอ่อนๆ พัดเอาใบไม้แห้งมาตามแรงลม ผ่านหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้เข้ามายังห้องนอนใหญ่ ด้านในถูกตกแต่งอย่างหรูหรา บนเตียงไม้กว้างมีหญิงสาวรูปร่างบอบบางนอนอยู่ นางกระชับผ้าห่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อสายลมพัดผ่าน และความหนาวเหน็บนี้กลับทำให้นางไม่สามารถนอนต่อได้อีกแล้ว ดวงตางามกะพริบตาช้าๆ ไล่ความง่วง จากนั้นลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยและเดินหยิบเมล็ดข้าวโพดที่เธอเตรียมไว้ทุกวันมาวางไว้ข้างหน้าต่าง ไม่นานนกน้อย 2 ตัวก็บินเข้ามากินอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนไม่กลัวหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย มันจิกกินแบบไม่รีบเหมือนอย่างเคยชิน
"เฮ้อ~~~"
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และเหม่อมองออกไปด้านนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย วันนี้ครบ 1 อาทิตย์แล้วที่นางมาอยู่ที่นี่ โลกที่คล้ายดั่งจีนโบราณไม่ว่าจะผู้คน การแต่งตัว การพูดจาก็แปลกไปจากโลกที่เคยอยู่ นางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ หญิงสาวตัดสินใจจบชีวิตและยุติปัญหาทุกอย่างแต่ใครจะคิดว่าชีวิตหลังความตายกลับต้องมาอยู่ในร่างของใครก็ไม่รู้ หญิงสาวไม่มีความทรงจำหรือรู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับร่างนี้เลยด้วยซ้ำเพื่อนสักคนก็ไม่มี แถม 1 อาทิตย์ที่ผ่านมานางยังสัมผัสได้ว่าร่างที่มาอยู่นั้น ยังเป็นคนที่คนทั่วทั้งเมืองคงไม่ชอบเป็นแน่ เดิมทีคิดว่าในร่าง ถิงถิง โลกเก่าโดดเดี่ยวแล้ว ในร่างของ ฟางเหนียงโลกนี้กลับโดดเดี่ยวเสียกว่า หญิงสาวคิดได้เท่านี้ก็เดินเข้าห้องอาบน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว
ในกระจกบานใหญ่สะท้อนภาพหญิงสาวใบหน้ารูปไข่ ผิวขาวเนียนไปทั้งตัว ผมยาวดกดำครึ่งบนถูกจัดทรงเล็กน้อยและปักด้วยปิ่นหยกรูปใบไม้เล็กๆ คิ้วดำถูกแต่งทรงจนสวยงาม ดวงตาโตสีน้ำตาลอ่อน ขนตางอนยาวทำให้หญิงสาวดูน่ารัก จมูกโด่งเข้ากับใบหน้าที่ปลายเชิดขึ้นเล็กน้อยอย่างดื้อรั้น ปากบางเล็กดูชุ่มชื่นอมชมพู หญิงสาวยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างพอใจเมื่อเห็นผลลัพธ์ในกระจก
"มองกี่ครั้งก็ตะลึงทุกครั้ง ไม่ชินจริงๆ ที่ฉันสวยขนาดนี้ ไม่สิข้าสวยขนาดนี้"
ฟางเหนียงเอ่ยกับตนเองในกระจก จากนั้นหมุนตัวตรวจดูความเรียบร้อย วันนี้เธอเลือกสวมชุดเรียบๆ สีเขียวมิ้นต์ นี่เป็นชุดที่สีเบาที่สุดในชั้นเสื้อผ้าแล้ว เพราะตัวอื่นๆ นั้นมีแต่สีฉูดฉาด ไม่สีชมพูบานเย็น ก็เหลือง ส้ม แดง สงสัยเจ้าของร่างเก่าจะชอบดูงิ้ว มือเรียวยาวเปิดประตูออกจากห้องพัก หญิงสาวมองบรรยากาศด้านนอกก็รู้สึกหนักอึ้ง เพราะ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมานางไม่สบายจนไม่สามารถที่จะออกจากห้องได้เลย ข้าวและยาก็มีคนนำมาส่งและออกไป ไม่มีแม้แต่คนดูแลเหมือนว่านางนั้นเป็นโรคร้ายอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อ 3 วันก่อนตอนที่นางฟื้นมาอีกครั้งและได้รู้ว่าตัวเองเข้ามาอยู่โลกนี้ และเมื่อวานมีคนมาบอกว่าวันรุ่งขึ้นให้ไปพบท่านรองเจ้าสำนัก หยงอี๋ แต่นางจะไปอย่างไรล่ะในเมื่อหญิงสาวก็ไม่รู้จักที่นี่เลยด้วยซ้ำ
'เอาว่ะเดินไปมั่วๆ ก่อน เจอคนค่อยถามก็ได้'
หญิงสาวกล่าวกับตัวเองในใจและเดินไปตามทางเชื่อมเรื่อยๆ ไม่นานก็ได้ยินคล้ายเสียงผู้คนโห่ร้องมากมาย หญิงสาวจึงยิ้มกว้างออกมาเพราะนั่นหมายความว่าจะมีคนให้นางถามทางแล้ว และเป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อเดินมาถึงก็พบกับกลุ่มชายที่กำลังเตะลูกที่ทำจากไม้สาน มีรูปร่างคล้ายฟุตบอล
"นั่นมันคุณหนูฟางเหนียงหนิ วันนี้นางแต่งตัวแปลกไป สงสัยจะไปงานศพเป็นแน่ ฮ่าๆๆๆ"
ชาย 1 ในนั้นตะโกนออกมาทางหญิงสาวและตามด้วยเสียงหัวเราะของคนบริเวณนั้น ฟางเหนียงจากที่กำลังก้าวเท้าเดินไปหา ต้องหยุดฝีเท้าลงและรอยยิ้มบนหน้าก็หุบลงเช่นกัน
"นั่นสิ วันนี้หิมะคงตกเป็นแน่ แม้แต่เครื่องประดับนางยังไม่สวมใส่เหมือนทุกวัน ได้ยินว่าจมน้ำจนป่วยสติคงเลอะเลือนไปแล้วเป็นแน่ ฮ่าๆๆ"
หญิงสาวที่อยู่บริเวณนั้นเอ่ยขึ้นเสริม เรื่องที่ฟางเหนียงจมน้ำเมื่อ 1 อาทิตย์ที่แล้วเป็นที่รู้กันไปทั่วทั้งสำนัก ว่านางเรียกร้องความสนใจจากเจ้าสำนัก แต่เจ้าสำนักกลับไม่สนใจกว่าคนจะเข้าไปช่วยได้ทัน นางถึงขนาดที่หยุดหายใจไปแล้วแต่ปฏิหาริย์กลับเกิดขึ้นกับคนอย่างนาง ที่จู่ๆ ก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งและนั้นคือตอนที่ ถิงถิง ได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้ หญิงสาวกำมือแน่นอย่างอดกลั้นอารมณ์ตนเองไม่ให้โมโหและกำลังจะหันหลังกลับ แต่ในจังหวะนั้นลูกบอลที่ทำจากไม้สานกลับตกมากระแทกที่ตัวนางอย่างแรง ฟางเหนียงไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ล้มลงไปกับพื้นทันที และเป็นอย่างที่คาดเมื่อนางล้มลงกับพื้นดิน เสียงหัวเราะของคนบริเวณนั้นก็ดังขึ้น นางน้ำตาแทบร่วงให้กับตนเองในตอนนี้ แต่ทำได้เพียงอดกลั้นไม่ให้หยาดน้ำตาไหลลงพื้นเพื่อไม่ให้ตนเองต้องดูน่าสมเพชไปมากกว่านี้ แต่จังหวะที่นางกำลังจะหยัดกายลุกขึ้นกลับมีมือหนึ่งยื่นมา หญิงสาวมองไปตามมือและพบเข้ากับรอยยิ้มที่นางเคยเห็น เมื่อ 3 วันที่แล้วนางตกใจที่ฟื้นขึ้นมาบนโลกใบใหม่ ก็คือเขาที่เข้ามาช่วยและนี่ก็เป็นเขาอีก หญิงสาวน้ำตาแทบร่วงอีกครั้งเมื่อเห็นชายหนุ่ม นางยิ้มและยื่นมือให้เขา
"ข้ารอเจ้าอยู่นาน เหตุใดถึงได้มาอยู่ที่นี่"
เสียงนุ่มเอ่ยอย่างอ่อนโยนถามหญิงสาว ฟางเหนียงใบหน้ามึนงงเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รู้ได้ทันที 'รอข้าเช่นนั้นหรือ นั่นก็แสดงว่าท่านผู้นี้คือรองเจ้าสำนัก หยงอี๋ ที่ข้าตามหา' หญิงสาวเอ่ยกลับตนเองในใจและยิ้มกว้างให้ชายหนุ่ม
"ข้าเพียงหลงทางเจ้าค่ะ ขออภัยท่านที่ทำให้รอนาน"
หญิงสาวจำเป็นต้องโกหก เพื่อให้เขาพาออกไปจากที่ตรงนี้เร็วๆ
"หลงเช่นนั้นหรือ เจ้าอยู่ที่นี่มา 3 ปีแล้วมิใช่หรือ"
"เจ้าค่ะ"
ฟางเหนียงเอ่ยเพียงสั้นๆ หยงอี๋ที่เห็นนางตอบเช่นนั้นก็ไม่อยากเซ้าซี้อีก เขาเดินหันหลังนำนางไปแต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดฝีเท้าลง
"พวกเจ้าที่เหลือฝึกตั้งสมาธิปลดปล่อยลมปราณเป็นเวลา 2 ชั่วยามซะ" หยงอี๋เอ่ยสั่งเสียงดังไปทางศิษย์ที่หัวเราะและเตะลูกบอลที่ทำจากไม้สานใส่ฟางเหนียงเมื่อสักครู่
"ขอรับ/เจ้าค่ะ ท่านรองเจ้าสำนัก"
เสียงเหล่าศิษย์เอ่ยอย่างไม่เต็มใจมากนัก ฟางเหนียงเดินตามแผ่นหลังกว้างอย่างอบอุ่นหัวใจ 'นับว่าท่านรองเจ้าสำนัก หยงอี๋ ผู้นี้ก็ไม่เลวเห็นทีข้าคงต้องผูกมิตรกับเขาไว้เยอะๆ แล้วล่ะ'
