บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 14 เข้าเรียนวันแรก ไม่เจียมตัวเอาเสียเลย

2 วันถัดมา

หลังจากที่ฟางเหนียงย้ายเรือนนอนและเก็บข้าวของเตรียมพร้อมสำหรับการเริ่มเรียนแล้ว วันนี้ก็เป็นวันที่นางเริ่มเรียนวันแรก 2วันที่ผ่านมานางเองก็ไม่อยู่เฉย หญิงสาวได้รับตำราที่จ้าวเย่วเคยจดบันทึกไว้สำหรับการเรียนมา ก็ทำการศึกษาและอ่านด้วยตนเองเบื้องต้นแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองดูโง่เขลาจนเกินไป ถึงมีบางจุดที่นางไม่เข้าใจแต่การเตรียมตัวมาก่อนล่วงหน้า นับว่าเพิ่มโอกาสให้ตนเอง ครั้งอยู่โลกใบก่อนหญิงสาวเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เชียวนะ เพราะฉะนั้นเมื่อมาอยู่ในโลกใบนี้จะให้ใครมาดูถูกนางไม่ได้ ในห้องเรียนขนาดใหญ่ โต๊ะไม้ไม่ต่ำกว่า 20 ถูกจัดเรียงรายอย่างเป็นระเบียบโดยบ่าวรับใช้ ตำราต่างๆ รวมถึงพู่กันก็ถูกจัดแจงเป็นชุดไว้บนโต๊ะอย่างครบครัน

"เจ้าไปเตรียมตัวเถอะ ข้าเองก็ต้องไปเรียนแล้วเช่นกัน หวังว่าเจ้าจะรีบไล่ตามข้ามาให้ทันนะ"

จ้าวเย่วเดินมาส่งหญิงสาวที่หน้าห้องโถงใหญ่ ตำหนักแห่งนี้ใหญ่สุดในบรรดาห้องเรียน เพราะไว้สำหรับศิษย์ที่เริ่มเรียนชั้นต้นเท่านั้น การเรียนที่นี่แบ่งเป็นห้องเรียนชั้นต้น ชั้นกลาง ชั้นสูง ทุกคนจะเริ่มเรียนชั้นต้นก่อน เมื่อมีความสามารถมากพอก็จะได้รับการทดสอบและเลื่อนชั้น จนสุดท้ายเมื่อผ่านชั้นสูงถึงมีคุณสมบัติในการสอบจบการศึกษาได้ เพราะเหตุนี้เองในชั้นเรียนแต่ละระดับจะมีคนหลากหลายอายุ เพราะนับกันที่ความสามารถไม่ใช่อายุ กล่าวคือ หากใครขยันฝึกซ้อม ขยันเล่าเรียนจนมีความสามารถก็สามารถเลื่อนชั้นและจบได้เร็ว หากใครเกียจคร้านก็ไม่สามารถผ่านไปได้เช่นกัน

"ขอบใจเจ้า ข้าจะรีบตั้งใจและตามเจ้าไปให้ได้"

ฟางเหนียงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ามั่นใจก่อนจะเดินเข้าห้องไปเรียนไป หญิงสาวเลือกที่นั่งไม่หน้าสุดเพื่อไม่ให้ตนเองเป็นจุดเด่นจนเกินไป และไม่นั่งหลังสุดจนฟังไม่ได้ยิน นางเลือกทำตัวให้กลมกลืนที่สุด เพราะรู้ดีว่าชื่อเสียงของนางแต่ก่อนนั้นไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่ อาจเป็นขี้ปากของศิษย์คนอื่นๆ ได้ ไม่นานชายอายุราวๆ 50 กว่าปีก็เดินเข้ามา ใบหน้าดูอบอุ่นแต่ก็แฝงไปด้วยความเข้มงวดและมีระเบียบ เขาเดินไปนั่งหน้าสุดในโต๊ะตำแหน่งของอาจารย์ เขามีนามว่าหยางมู่ชิน หรือที่ศิษย์คนอื่นๆ ต่างเรียกเขาว่าอาจารย์มู่ เหล่าศิษย์คนอื่นๆ ที่เห็นอาจารย์เดินเข้ามาก็รีบพากันนั่งในตำแหน่งของตนเอง

"คารวะอาจารย์มู่"

ศิษย์ทุกคนลุกขึ้นพร้อมเอ่ยและทำท่าคารวะพร้อมกัน และนั่งลงอย่างเรียบร้อย

"วันนี้จะมีการทดสอบ พวกเจ้าก็ทำตัวเรียบร้อยขึ้นมาเชียวนะ ขนาดเฉินตงยังแต่งกายเรียบร้อย"

อาจารย์มู่เอ่ยแซวเฉินตงที่ไม่ค่อยเข้าเรียน อีกทั้งยังชอบแต่งกายไม่เรียบร้อย ทำให้ศิษย์คนอื่นๆ หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน เฉินตงจึงเกาที่ท้ายทอยแก้อาการเขิน

"การทดสอบวันนี้ ข้าจะตั้งคำถามหากผู้ใดตอบได้ให้ยกมือขึ้นตอบ และหากตอบถูกจะนับเป็น 1 แต้ม ผู้ที่ได้แต้มมากที่สุดจะให้เลื่อนขั้นเป็นชั้นเรียนระดับกลาง"

อาจารย์มู่เอ่ยพลางหันมาทางฟางเหนียง หญิงสาวจึงจ้องกลับไปอย่างมิเกรงกลัว 'ดูจากสายตาอาจารย์มู่ที่มองข้าแล้ว เกรงว่าข้ากับเขาคงต้องเคยมีเรื่องกันเป็นแน่' ฟางเหนียงเอ่ยกับตนเองในใจ

"แม่นางฟางเหนียง วันนี้เจ้าพึ่งเข้าเรียนวันแรกเกรงว่าเจ้าคงทดสอบไม่ได้เป็นแน่ เจ้าจะออกไปก็ได้"

อาจารย์มู่เอ่ยกับฟางเหนียงเสียงดัง หญิงสาวที่พยายามทำตัวกลมกลืนก็กลายเป็นจุดสนใจในทันที 'ให้ตายสิ ข้าอุตส่าห์นั่งเงียบๆ ไม่เป็นจุดสนใจแล้วแท้ๆ เอ่ยกับข้าเช่นนี้คงเป็นเรื่องจริงสินะที่ร่างนี้เคยมีเรื่องกับเขาเป็นแน่' หญิงสาวเอ่ยกับตนเองในใจ

"เมื่อมาแล้ว ลองดูก็ไม่เสียหาย หากข้าไม่ได้แม้สักแต้ม สุดท้ายก็เรียนระดับชั้นต้นเช่นเคย"

หญิงสาวเอ่ยออกไปเสียงดังอย่างไม่ยอมออกไป

"หึ! เช่นเจ้ารู้จักคำว่าพลังวิญญาณหรือเปล่าก็ไม่รู้"

ศิษย์ชายคนหนึ่งเอ่ยออกมาอย่างดูถูกฟางเหนียง ใครๆ ก็รู้ว่าหญิงสาวไม่มีพลังวิญญาณ แล้วยังจะมาร่ำเรียนอีก เพราะเรื่องที่นางมีพลังวิญญาณระดับสูงยังไม่มีผู้ใดรู้และยังถูกปิดเป็นความลับ เพราะไม่นานมานี้เรื่องที่นางจะแต่งงานพึ่งถูกประกาศออกไป หากมีคนรู้ว่านางมีพลังของสัตว์วิญญาณระดับสูงที่น้อยคนนักบนแผ่นดินจะมี เกรงว่าผู้คนคงแห่มาทั่วสารทิศเพื่อขอแต่งงานกับนางเป็นแน่

"เอาล่ะ เช่นนั้นเจ้าก็ลองดู"

อาจารย์มู่เอ่ยเสียงดัง เขาเป็นคนที่มีเหตุผลพอและชอบคนที่มีความสามารถและขยัน หากนางทำให้เขาเห็นและชื่นชมได้เขาก็ไม่คิดเรื่องในอดีตอีก

"เอาละเริ่มต้นข้อแรกด้วยคำถามง่ายๆ พลังวิญญาณแบ่งออกเป็นกี่ระดับ"

อาจารย์มู่เอ่ยถามเสียงดัง

"พลังวิญญาณแบ่งได้กี่ขั้น"

เสียงอาจารย์ประกาศคำถามในข้อแรก ฟางเหนียงได้ยินถึงกับทำหน้าเหวอ 'ห๊ะ! ถามตรงๆ ง่ายๆ เช่นนี้เลยเหรอ ไม่มีการคิดวิเคราะห์เลยหรืออย่างไร คำถามแบบนี้ไม่คู่ควรให้ข้าตอบ และที่สำคัญข้าจำไม่ได้' ฟางเหนียงเอ่ยกับตนเองในใจ และแน่นอนคำถามแบบนี้ศิษย์หลายคนก็ยกมือแย่งกันตอบ

"พลังวิญญาณแบ่งออกเป็น 4 ระดับ นั่นคือระดับต่ำ เป็นพลังวิญญาณที่ไม่สามารถปลุกสัตว์วิญญาณได้ หรือหากปลุกได้ก็เป็นสัตว์ที่ไม่มีพลัง จำพวก นกพิราบ ระดับกลางเป็นพลังวิญญาณที่หาเจอได้ทั่วไปกว่าร้อยละ 60 ส่วนสัตว์วิญญาณจำพวกสัตว์ที่ช่วยให้การรักษาและป้องกันตัวเองได้ ระดับสูงเป็นระดับที่หายากแต่ก็มีให้พบเห็น สัตว์วิญญาณจำพวกที่สามารถรักษา ป้องกัน และแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และระดับสุดท้ายคือระดับสูงสุด ว่ากันว่ามีเพียงไม่กี่คนในแผ่นดินนี้ที่จะมีพลังวิญญาณเช่นนี้ ส่วนความสามารถข้าเองก็บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ รู้เพียงว่าแข็งแกร่งจนสามารถฆ่าคนนับแสนได้ในพริบตาเดียว"

แป๊ะๆๆ!!

เสียงปรบมือดังกึกก้องห้องโถง เมื่อมีศิษย์ชายคนหนึ่งเอ่ยตอบคำถามของอาจารย์มู่อย่างละเอียดถี่ถ้วน

"สมกับเป็นอาจารย์ห่าวหลานจริงๆ ถาม 1 ตอบ 10"

เสียงศิษย์หลายคนเอ่ยขึ้นอย่างชื่นชมเขา และตั้งฉายาให้เขาว่าเป็นอาจารย์ห่าวหลาน ที่จริงชายหนุ่มชื่อห่าวหลานเป็นศิษย์ที่นับว่าเป็นที่ 1 ในสำนักเลยก็ได้ เขาพึ่งเข้ามาศึกษาได้ไม่กี่เดือน แต่ความสามารถและความรู้ของเขา ทุกคนจึงพากันพนันว่าเขาจะต้องเป็นศิษย์ที่สำเร็จการศึกษาได้เร็วที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสำนักมาเป็นแน่ หลังจากคำถามแรกตอบออกไป ศิษย์คนอื่นๆ ก็พากันแย่งกันตอบ แต่ก็นับว่ายังมีแต้มน้อยกว่าห่าวหลานอยู่ดี

"เอาล่ะ ต่อไปคำถามสุดท้ายพวกเจ้าฟังให้ดี การใช้พลังวิญญาณในการเข่นฆ่าผู้อื่น นับว่าเป็นผู้ครอบครองพลังวิญญาณหรือไม่"

"ไม่เป็นขอรับ ผู้ที่เป็นผู้ครอบครองพลังวิญญาณจะต้องรู้จักผิดชอบ การฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หรือใช้พลังวิญญาณในทางที่ผิด เข่นฆ่าผู้อื่นไม่ว่าจะรูปแบบใด ก็ไม่นับว่าเป็นผู้ครอบครองพลังวิญญาณ"

เป็นห่าวหลานที่เอ่ยตอบอีกครั้ง

"คำตอบของเขาไม่ถูกต้อง"

เสียงหวานดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เสียงนั้นคือเสียงของฟางเหนียง หลังจากที่นางนั่งเงียบมานาน และฟังคำถามข้อสุดท้ายของอาจารย์มู่ ทำให้นางนึกถึงในสมุดบันทึกที่จ้าวเย่วให้นาง เมื่อคืนนางอ่านมันจนเข้าใจไม่ผิดแน่ ทำให้ทุกสายตาหันมาทางหญิงสาวเป็นตาเดียวและมองด้วยสายตาเหยียดหยาม

"นี่นางถึงขนาดคัดค้านคำตอบของห่าวหลานเชียวหรือ"

"นั่นสิคนเช่นนางรู้จักด้วยหรืออะไรคือสัตว์วิญญาณ พลังวิญญาณ"

"ไม่เจียมตัวเอาเสียเลย"

เสียงของศิษย์คนอื่นๆ พูดขึ้นอย่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างออกรสออกชาติ บางคนก็หัวเราะให้กับคำพูดของนาง ฟางเหนียงกำมือแน่นอย่างอดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ตัวเองระเบิดอารมณ์โมโหออกมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel