ตอนที่ 12 การปรากฏตัวของนางร้าย
ณ ตำหนักหลิวรุ่ย
จร๊อก~~~
เสียงน้ำชาจากกาไหลกระทบกับถ้วยชากระเบื้อง กลิ่นหอมอ่อนๆ จากใบชาลอยออกมาอย่างรู้ได้ทันทีว่านี่คือชาชั้นดี
"ข้ามารบกวนท่านอยู่ไม่เจ้าคะ"
เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าแห่งความกังวล หนิงเฟิ่งยกชาขึ้นดื่มอย่างใจเย็น จากนั้นวางลงและส่งยิ้มไปให้นางพร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ
"ว่าแต่เจ้ามาวันนี้มีเรื่องอันใดหรือ"
ชายหนุ่มเอ่ยเข้าเรื่องอย่างไม่อ้อมค้อม
"ต้องมีเรื่องเช่นนั้นหรือเจ้าคะถึงมาได้..."
หญิงสาวเอ่ยอย่างคนสนิทกัน แต่กลับพบว่าชายหนุ่มนั้นไม่มีปฏิกิริยาก็ได้แต่ใช้เล็บจิกนิ้วตัวเองอย่างเก็บอาการ
"ข้าเพียงล้อท่านเล่นเจ้าค่ะ ที่ข้ามาวันนี้เป็นเพราะเมื่อหลายวันก่อนท่านพ่อได้ใบชามาจากทางเหนือ ข้าลองดื่มดูแล้วคิดว่ารสชาติใช้ได้ และคิดว่าท่านคงชอบเป็นแน่"
หญิงสาวเอ่ยขึ้นพลางหันไปหาคนรับใช้ของตนให้ส่งของให้อาเหยาที่ยืนอยู่ข้างหลังด้วยเช่นไร
"รบกวนเจ้าแล้วที่อุตส่าห์นำมาให้ข้าด้วยตัวเองเช่นนี้"
หนิงเฟิ่งเอ่ยพร้อมล้วงไปที่แขนเสื้อของตน นำกำไลหยกสีขาวออกมา พร้อมยื่นมืออีกข้างไปทางหญิงสาว มือเรียวสวยรีบยื่นมาให้ชายหนุ่มอย่างรู้หน้าที่ ที่นิ้วของนางมีรอยเล็กที่ตนเองหยิกไปเมื่อสักครู่จนเกิดแผลเล็กน้อย ชายหนุ่มสวมให้นางอย่างเบามือ เหลียนฮวายิ้มและมองหน้าชายหนุ่ม ใบหน้าของนางแดงก่ำจนปิดไม่มิด
"หญิงงามมิควรมีบาดแผล"
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพลางชักมือของตนเองกลับ
"อาเหยานำยาชั้นดีมาให้คุณหนูเหลียนฮวาที"
"ขอรับ"
อาเหยาที่ยืนอยู่ข้างหลังรีบวิ่งออกไปหยิบยามาส่งให้คนรับใช้ทันที
"รบกวนคุณชายอีกแล้ว"
เสียงหวานเอ่ยขึ้นพลางส่งยิ้มให้หนิงเฟิ่งรวมถึงอาเหยาด้วย เพื่อแสดงให้รู้ว่าไม่ว่าจะคนรับใช้หรือคนระดับไหน นางก็จิตใจดีและไม่เคยรังเกียจ ปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเท่าเทียมกันไม่แบ่งแยก
"ได้เช่นไร เจ้าอุตส่าห์นำชาชั้นดีมาให้ข้า สิ่งของเล็กน้อยเช่นนี้ย่อมสมควรแล้ว"
หนิงเฟิ่งเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มและมองไปที่กำไล แต่ทันใดนั้นสายตาเขากลับมองเห็นผู้มาใหม่ นั้นก็คือหยงอี๋จึงพยักหน้าให้เขาเข้ามาได้ เหลียนฮวาที่เห็นเช่นนั้น นางก็รู้หน้าที่ของตนเองจึงรีบลุกขึ้น และย่อกายเล็กน้อยหยงอี๋เองก็ทำท่าคารวะตอบเช่นกัน
"ดูเหมือนว่าท่านจะมีแขกแล้ว เช่นนั้นเหลียนฮวาขอตัวก่อนนะเจ้าคะ"
"เช่นนั้น..."
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านมิต้องไปส่งเดี๋ยวข้าไปเองเจ้าค่ะ"
"เสียมารยาทแล้ว"
หนิงเฟิ่งเอ่ยสั้นๆ และยิ้มให้นาง เหลียนฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ย่อกายให้เขาและเดินออกไป หลังพ้นตำหนักหลิวรุ่ย เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดหญิงสาวถึงกลับสะบัดผ้าเช็ดหน้าในมือทิ้ง
"คุณหนูทำเช่นนี้ไม่งามนะเจ้าคะ หากมีใครมาเห็นเข้าจะไม่ดี"
เสียงบ่าวรับใช้เอ่ยเตือนคุณหนูขอตน
"แล้วอย่างไร เขามิเคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนนอกจากข้า แต่วันนี้เขาถึงขั้นอุ้มนางนั่น เจ้าคิดว่าข้าทนมาได้ถึงขนาดนี้มันง่ายหรืออย่างไร"
"นั่นสิเจ้าคะ ปกติเจ้าสำนักหนิงเฟิ่งเกลียดแม่นั่นขนาดที่แค่เดินผ่านกันยังไม่เหลียวมอง ไม่รู้ว่านางใช้มารยาอันใด ครานี้คุณชายถึงได้ทำเช่นนั้น"
"จะใช้มารยาอะไรก็ช่าง นางไม่มีทางเอาชนะข้าได้"
เหลียนฮวาเอ่ยจบก็เดินออกไปทันที
.
ทางด้านหนิงเฟิ่ง
ชายหนุ่มยืนล้างมือด้วยความตั้งใจ โดยมีหยงอี๋ยื่นผ้าไปให้เขา จากนั้นเดินไปนั่งที่โต๊ะ
"หากท่านมิชอบนางถึงเพียงนั้นเหตุใดยังต้องแสร้งทำอยู่อีก"
หยงอี๋เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย หากเพราะแต่ก่อนเขาต้องทำดีกับเหลียนฮวาเป็นเพราะนางเป็นบุตรสาวของโม่เฟยเทียนท่านเจ้าเมืองหนานซาง ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของสำนักแห่งนี้ หนิงเฟิ่งคิดว่าโม่เฟยเทียนผู้นี้มีส่วนในสาเหตุที่ทำให้เจ้าสำนักคนก่อนหรือบิดาของหนิงเฟิ่งต้องตาย
"รอให้ทางนั้นได้ใจไปก่อน คนโลภมากมักคิดว่าสิ่งที่ตนคิดถูกเสมอ"
หนิงเฟิ่งเอ่ยเสียงทุ้ม พร้อมรินชาให้ตนเองและหยงอี๋
"ตกลงเจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใด"
"เรื่องแม่นางฟางเหนียง"
"เช่นนั้นก็ไม่จำเป็น"
ชายหนุ่มปฏิเสธทันทีโดยที่ไม่ได้ฟังอะไร
"แต่ครานี้เกรงว่าท่านต้องฟังขอรับ"
