บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 16 มิใช่ความผิดของเจ้า เป็นเพราะนางถูกลอบทำร้าย

อีกด้านมีหญิงสาวนางหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากลานฝึกเช่นกัน นางจ้องฟางเหนียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตรมากนัก ฝ่ามือของนางกำเข้าหากันด้วยความอิจฉาพร้อมมองฟางเหนียงสลับกับท่านรองเจ้าสำนัก 'ข้าฝึกตนและตั้งใจร่ำเรียนเพื่อวันหนึ่งข้าจะได้รับรางวัลผู้ที่มีคะแนนสูงสุด หากรางวัลนั้นเป็นข้า รองเจ้าสำนักจะเป็นผู้ฝึกพลังวิญญาณให้ข้าเอง แต่เจ้าเป็นใครกันใช้สิทธิ์อะไรกัน ขนาดแค่ฝึกยังไม่แสดงสัตว์วิญญาณของตัวเองด้วยซ้ำ เหตุใดถึงได้ฝึกกับเจ้าสำนัก' เมื่อคิดมาถึงตรงนี้มือของนางที่กำเข้ากันแน่นก็แบออก จากนั้นเกิดพลังแสงสีฟ้าและมีลูกนกตัวน้อยบินออกมา เพียงนางปัดมือเล็กน้อย นกตัวเล็กก็บินด้วยความรวดเร็วไปทางฟางเหนียงเหมือนอย่างกับเข็มธนู ฟางเหนียงที่กำลังตั้งรับการโจมตีจากรองเจ้าสำนัก ไม่ทันได้สังเกตกว่าที่นางจะรู้ตัวก็เกือบเข้าประชิดตัวแล้ว เวลาไม่กี่วินาทีหากให้นางเลือกว่าจะรับการโจมตีของผู้ใดนั้นเพราะเช่นไรนางก็ไม่มีทางหลบได้ทั้ง 2 การโจมตีนี้เป็นแน่ เวลาเพียงเสี้ยววิ นางเลือกที่จะหลบการโจมตีของแสงสีฟ้าที่มีรูปร่างคล้ายธนู โดยการพุ่งทะยานตัวขึ้นจังหวะนั้นทำให้ถูกพลังของหยงอี๋ที่ปล่อยออกมา ฟางเหนียงหลับตารอรับกับความเจ็บนั้น

"ฟางเหนียง..."

หยงอี๋ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เขาชะล่าใจที่เห็นนางรับมือกับการโจมตีของเขาได้ จึงเพิ่มพลังโจมตีของเขามากขึ้นแต่ไม่คิดว่านางจะไม่เพียงไม่หลบหรือตั้งรับ แต่ยังพุ่งเข้าหาพลังที่เขาส่งไปเสียอีก

เสียงระเบิดดังสนั่นและเป็นแสงสีขาวจนมองไม่เห็นว่านางเป็นเช่นไร หลังจากแสงนั้นจางหายไปจึงพบกับนกฟินิกซ์เพลิงวิหคขนาดใหญ่ มันใช้ปีกคลุมร่างกายของหญิงสาวไว้ ทำให้หยงอี๋ที่เห็นเช่นนั้นถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก หญิงสาวในมุมมืดที่เห็นว่าแผนของตนที่ลอบทำร้ายฟางเหนียงไม่สำเร็จก็รีบออกจากบริเวณนั้นในทันที ปีกฟินิกซ์ร่างใหญ่กางปีกมันออกจากนั้นรูปร่างก็ค่อยๆ เลือนรางไป ฟางเหนียงที่ลอยอยู่เหนืออากาศก็ค่อยๆ แตะที่พื้นดินอย่างช้าๆ

"เป็นเช่นไรบ้าง"

รองเจ้าสำนักหยงอี๋รีบเข้ามาหาหญิงสาวในทันที พร้อมประคองนางให้ยืนด้วยท่าทางสบายๆ

"ข้ามิเป็นอันใดมากเจ้าค่ะ"

ฟางเหนียงเอ่ยเสียงเบา เพราะถึงแม้ว่านกฟินิกซ์เพลิงวิหคของเจ้าสำนักหนิงเฟิ่งจะสามารถปกป้องนางได้ทันท่วงที แต่ขึ้นชื่อว่าพลังวิญญาณกลิ่นอายของพลังถึงตัวนางก่อนที่พลังจะถึงเสียอีก ทำให้นางได้รับพลังนั้นด้วย จังหวะนี้เองเป็นช่วงที่หนิงเฟิ่งเดินเข้ามาพอดี

"วันแรกก็เจ็บหนักเช่นนี้ หากเจ้าทนมิได้ก็ถอดใจเสียตอนนี้ยังทันข้าจะไม่ถือสากับคำพูดของเจ้าก่อนหน้านี้"

เสียงทุ้มเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่สายตาไม่ได้มองมาที่หญิงสาวแต่กลับมองไปทางอื่นแทน

"ที่ข้าเจ็บหนักเช่นนี้มิใช่ว่าข้ามิตั้งใจ แต่เพราะว่ามีคนตั้งใจลอบทำร้า...."

"แล้วอย่างไร นั่นเป็นเพราะเจ้ามิตั้งใจมากพอ หนักไม่เอาเบาไม่สู้โทษทุกอย่างที่ไม่ใช่โทษตัวเอง หากวันหนึ่งแม้แต่รวบรวมพลังวิญญาณเจ้าก็ไม่สามารถทำได้"

ฟางเหนียงยังเอ่ยไม่จบ ก็ถูกหนิงเฟิ่งเอ่ยขึ้นแทรกเสียก่อน นางกำมือแน่นและจ้องหน้าเขาอย่างหักห้ามไม่ให้ตนเองโมโหไปมากกว่านี้

"ได้! เช่นนั้นท่านมาคอยดูว่าท่านหรือข้าที่ใครจะทนได้มากกว่ากัน"

หญิงสาวเอ่ยจบก็เดินกระเผกออกไปในทันที หนิงเฟิ่งมองตามหลังหญิงสาวจนลับตา

"ปล่อยไปเช่นนี้จะไม่เป็นอันใดหรือขอรับ เป็นข้าเองที่พลั้งมือทั้งที่นางก็ตั้งรับมาได้ทุกครั้ง"

เป็นหยงอี่เอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วง

"มิใช่ความผิดของเจ้า เป็นเพราะนางถูกลอบทำร้าย"

"ถูกลอบทำร้ายเช่นนั้นหรือ"

"เหยี่ยวเพเรกริน"

"เป็นนางหรือ.."

หยงอี่เอ่ยด้วยใบหน้าที่ยากจะเชื่อ แต่คนที่บอกเขาคือท่านเจ้าสำนักจึงทำให้เขาเองก็ไม่สามารถเอ่ยถามอย่างสงสัยได้ว่าอาจจะดูผิด เขาเองก็ชื่นชมนางอยู่ไม่น้อยที่ตั้งใจฝึกฝนและอีกทั้งผลการเรียนของนางยังก้าวนำคนอื่น และสงสัยว่าเพราะเหตุใดกันถึงทำให้นางกระทำเช่นนี้

"เหยี่ยวเพแรกรินเป็นนกที่บินได้เร็วมาก โดยทำความเร็วที่ได้ 321-563 ลี้ต่อชั่วยาม ด้วยความเร็วนี้ทำให้ปากของมันที่พุ่งมากลายเป็นหัวธนู"

เป็นอาเหยาที่เงียบไปนานเอ่ยขึ้น หนิงเฟิ่งที่ได้ยินก็พยักหน้ารับ

"ท่านเจ้าสำนักมิต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ข้าจะจัดการให้เรียบร้อย"

หยงอี๋เอ่ยจบก็ทำท่าคารวะและเดินออกไปทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel