ตอนที่9 นอนกับผู้หญิงอื่นในคืนเข้าหอ
“ คุณหนู คุณหนูคิดดีแล่วหรือเจ้าคะที่จะประลองกับฮ่องเต้ ”
“ ทำไม เขาเก่งมากหรือเจ้าไม่มั่นใจในตัวข้า ”
“ ้ขาเป็นถึงฮ่องเต้ ทั้งเจ้าเล่ห์ร้อยเล่กล ผ่านสมรภูมิรบมากมายชื่อเสียงเลื่องลือรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งเชียวนะเจ้าคะแบบนี้ไม่เรียกว่าเก่งจะเรียกว่าอะไรเจ้าคะ อีกทั้งชื่อเสียงด้านโหดเหี้ยมอำมหิตไร้ผู้เทียมทานปรารถนาหญิงใดมไม่อาจมีผู้ใดกล้าปฏิเสธเจ้าค่ะอีกทั้งรูปร่างหน้าตาหล่อเหลางดงามนั้นหญิงสาวทั่วใต้หล้านี้ต่างสยบให้เจ้าค่ะ ”
“ ใครๆก็รู้ฮ่องเต้กลั่นแกล้งตระกูลหวังเพราะต้องการเอาชนะใจคุณหนูที่ดื้อรั้นไม่สนใจฮ่องเต่ เมื่อก่อนคุณหนูบอกว่าคุณกนูเกลียดการแย่งชิงกันในวังหลัง คุณหนูหลีกเลี่ยงฮ่องเต้มาตลอดแล้วเหตุใดวันนี้คุณหนูถึงได้ตกลงรับการประลองกับฮ่องเต้ละเจ้าคะ รู้ทั้งรู้ว่าต้องแพ้ฮ้องเต้ ”
จางจิ้งก้มหน้าพูดด้วยสีหน้าหงอยและไม่เข้าใจคุณหนูของตนเอง
“ สรุปคือฮ่องเต้ชอบข้าเหรอ ” ไป่เซถาม
“ เจ้าค่ะ เขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ว่าคุณหนูปฏิเสธฮ่องเต้ ”
“ จริงเหรอมีเรื่องแบบนี้ด้วย ”
จางจิ้งอึ้งและงงเอามากๆจึงถามออกไปว่า
“ คุณหนูเป็นอะไรเจ้าคะ ทำไมคุณหนูดูแปลกๆไป เหมือนจำอะไรไม่ได้ ”
“ เมื่อเช้าข้าไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้น่ะเกิดล้มแล้วหัวกระแทกกับก้อนหินเลยสลบไปความจำเสื่อมนิดหน่อย ”
จู่ๆไป่เซนึกขึ้นได้
“ อ้อ ที่เจ้าบอกว่าข้าตกลงรับคำท้าประลองข้ายังไม่ได้พูดหนิ ”
“ ไม่ทันแล้วเจ้าค่ะ ”
“ ข้านี่โง่จริงๆเลย ตอนนั้นข้ามัวทำอะไรอยุ่นะ ”
“ คุณหนูไม่ได้มัวทำอะไรเจ้าค่ะ เพียงแต่คุณหนูแค่บอกว่า เจ้าต้องการอะไรกันแน่ พูดจบฮ่องเต้ก็ออกไป ”
จางจิ้งพูดอย่างเคืองคุณหนูของตัวเอง
“ แบบนี้ก็ถือว่ารับประลองแล้วเหรอ เจ้าเล่ห์จริงๆ แต่ถ้าเราช่วยคนของเราออกมาได้ก็ไม่ต้องประลองแล้วสิจริงมั้ย ”
“ จะช่วยยังไงล่ะเจ้าคะ พวกเขาอยู่ในมือฮ่องเต้หมดแล้ว มีทหารองครักษ์เฝ้าอยู่แถมฝีมือก็ไม่ธรรมดา ”
“ ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง คืนนี้ไปช่วยพวกเขากัน เจ้าล่อทหารพวกนั้นออกมาส่วนข้าจะเข้าไปช่วยคน ”
“ เจ้าค่ะ ”
จางจิ้งลึกๆก็เชื่อมั่นในคุณหนูของเขาอยู่เพียงแต่ไม่อยากให้คุณหนูเสี่ยงอันตรายแต่เมื่อคุณหนูพูดเขาก็ต้องฟัง
ตกดึก ทั้งสองวางแผน เข้าไปช่วยเหลือคน สวมชุดสีดำวิ่งไปเท้าแตะพื้น ลอยตัวหายวับอย่างรวดเร็วไป่เซเห็นพ่อแม่เขาถูกขังอยู่ในห้อง
“ จางจิ้งเจ้าล่อพวกเขาออกไปทางอื่น ข้าจะเข้าไปช่วยท่านพ่อกับท่านแม่ แล้วเจ้าก็ไปดักรอนอกประตู ”
“ เจ้าค่ะ ”
พูดจบจางจิ้งก็บินหายวับออกไปล่อคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกออกไปไป่เซรีบพังประตูเขาไปพาพ่อแม่เขาออกมาไปยังจุดนัดพบ
“ ซิ่วเอ๋อร์ลูกทำแบบนี้มันอันตรายนะพ่อว่าลูกยอมแต่งงานกับฮ่องเต้เถอะ ”
“ ใช่แม่เห็นด้วย หนีไปก็หนีไม่พ้น ฮ่องเต้ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆหรอก ”
“ ท่านพ่อท่านแม่วางใจเถอะ ลูกมีแผนรับมือฮ่องเต้แล้วแค่ช่วยพ่อแม่ออกมาได้พอ ”
ก่อนหน้านี้จางจิ้งบอกว่าครอบครัวของเธอเป็นเศษรฐีทำการค้าร่ำรวยที่สุด
ในใจของไป่เซคิดจะใช้ผลประโยชน์ของฐานะทางบ้านเธอต่อกรกับฮ่องเต้
“ รีบไปกันเถอะเจ้าค่ะคุณหนู ทหารตามมาแล้ว ”
“ เจ้าพาท่านพ่อกับท่านแม่ข้าไปก่อนข้าจะบุกไปช่วยกลุ่มโจรที่ถูกจับตัว ”
“ ไม่ได้เจ้าค่ะคุณหนู มันอันตรายเกิน ”
“ ไม่ต้องพูดมากความแล้วข้าตัดสินใจแล้ว พวกเขาถูกจับเพราะข้า ภายในสองชั่วยามถ้าข้ายังไม่ออกมาเจ้าค่อยมาช่วยข้า ”
“ เจ้าค่ะ ”
“ ซิ่วเอ๋อร์ทำไมลูกดื้ออย่างนี้ ” หวังเหอหรงพ่อของไป่เซพูด
“ ไปกันเถอะเจ้าค่ะ ”
จางจิ้งจับมือทั้งสองกระโดดลอยออกไปทันที
ไป่เซ เข้าไปแอบสังเกตการณ์อยู่บนต้นไม้มองเห็นพวกทหารลากตัวโจรภูเขาไปทรมานเสียงร้องโอดโอยดังมาแต่ไกล
ทำเอาไป่เซอกสั่นสะท้านแม้เขาจะเป็นวรยุทธแต่เขาไม่เคยทรมานคนฆ่าก็ฆ่าเฉพาะจำเป็นเกิดฉุกเฉินเท่านั้นเห็นแบบนี้เธอรับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด เธอกระโดดลงมาจากต้นไม้บุกเข้าไปต่อสู้กับทหารพวกนั้นแต่ตรงที่คุมขังของกลุ่มโจรนี้คิดไม่ถึงว่าทหารไม่มีวรยุทธแกร่งกล้าเลยสักคนแต่เธอไม่เสียเวลาคิดอะไรมากบุกเข้าไปเปิดประตูแก้มัดให้คนกลุ่มนั้น
“ พวกเจ้ารีบออกไป ” คนกำลังจะออกไปข้างนอกก็มีเสียงดังขึ้น
“ ฮ่องเต้เสด็จ ”
ทหารถือดาบล้อมรอบกลุ่มโจรอีกครั้งกลุ่มโจรนั้นไม่มีอาวุธคิดจะสู้กับทหารมากมายก็เท่ากับเอาชีวิตมาทิ้ง
ไป่เซไม่เชื่อหรอกว่าตราบใดที่ยังมีชีวิตจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ช่วยวันนี้ไม่ได้วันหน้าต้องช่วยได้ขณะที่กลุ่มโจรจะสู้เสียงไปเซก็ดังขึ้น
“ หยุด พวกเจ้าไม่ต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ ”
กลุ่มโจรหันมามองเธอ
“ คุณหนู ! ถึงอย่างไรพวกเราก็ไม่รอดอยู่ดี สู้ฆ่าพวกมันให้ตายให้มากที่สุดไม่ดีดว่ารึ ”
“ ไม่ได้ ! ” “ ฆ่าเขาตายพวกเราก็ตายใช่น้อยๆสู้เก็บแรงมีชีวิตอีกวันหนึ่งยังพอมีเวลาคิดหาวิธีรอดออกไป ”
กลุ่มโจรเมื่อได้ยินไป่เซพูดเช่นนั้นจึงค่อยๆถอยกลับมาทางไป่เซ เขารู้ดีว่าไป่เซนั้นฉลาดหลากแหลม
แม้จะเก่งด้านวรยุทธก็ไม่ฆ่าคนทิ้งให้เปล่าประโยชน์และยังมีจิตใจเมตตา เพราะเหตุนี้ฮ่องเต้จึงอยากได้เธอมาครอบครองใต้หล้านี้เห็นจะมีเพียงเธอเท่านั้นที่เพรียบพร้อมแบบนี้
“ แปะๆๆๆ! ”
เสียงตบมือดังขึ้น ฮ่องเต้ตบมือแล้วกระโดดลงมาอยู่ต่อหน้าไป่เซ
“ เจ้านี่ช่างกล้าเสียจริง บุกฆ่าทหารข้าไปเยอะ จะรับผิดชอบยังไง ”
ฮ่องเต้กล่าวอย่างเจ้าเล่ห์ยิ้มมุมปากเดินรอบตัวไป่เซจากนั้นก็ดึงผ้าคลุมหน้าไป่เซออก
“ กล้าไม่กล้าก็ฆ่าไปแล้วช่วยไม่ได้ ไม่ใช่ข้าที่ต้องรับผิดชอบ เจ้าขังคนของข้า ข้าฆ่าคนของเจ้าที่จะรุมฆ่าข้า สมเหตุสมผลที่ข้าต้องป้องกันตัว หรือถ้าเป็นเจ้าจะโง่ยืนอยู่นิ่งๆให้คนมารุมฆ่างั้นเหรอ ”
“ ฮึๆ ก็ถูกของเจ้า เจ้านี่ช่างเป็นดอกกุกลาบที่ต้องจับอย่างระมัดระวังจริงๆ ”
“ แล้วแต่จะคิด ”
ไป่เซพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบสายเย็นชา
“ เจ้าบุกมาไม่กลัวข้าจะฆ่าเจ้าเหรอ ”
“ เจ้าหรือจะฆ่าข้าเจ้ามีจุดประสงค์อะไรมีหรือที่เจ้าจะฆ่าข้าลง ”
“ เจ้ารู้ก็ดีไปก่อน คืนนี้ข้าจะจับเจ้าเข้ามาอยู่ใต้ร่างของข้า ดูซิว่าเจ้าจะพูดอะไรได้อีก ”
“ ร้ายยางอาย ”
ไป่เซโมโหมากฮ่องเต้ร้ายยางอายหยามศักดิ์ศรีเธอจนเธอทนไม่ไหว เธอหมุนตัวเข้าต่อสู้กับฮ่องเต้ทันที
ทหารจะเข้ามาแต่ฮ่องเต้ยกมือหยุดเอาไว้ ฮ่องเต้ต่อสู้กับไป่เซ ทุกสายตาจับจ้องไปที่ทั้งสองคน
จางจิ้งที่หลบอยู่บนต้นไม้จ้องมาที่ไป่เซระหว่างที่ไป่เซต่อสู้อยู่นั้นกำลังจะแพ้ฮ่องเต้แต่สายตาดันหันไปเห็นจางจิ้งที่อยู่บนต้นไม้ไป่เซส่ายหัวให้เธอหนีไปแต่ฮ่องเต้ตาไวรู้จุดอ่อนไป่เซจึงสั่งองครักษ์ลับ
“ ตามจับเป็น ” ฮ่องเต้ออกคำสั่ง
ไป่เซโมโหคว้าดาบหมายจะฆ่าฮ่องเต้เสีย จังหวะที่นางพุ่งเข้ามาอย่างเร็วฮ่องเต้หลบตีลังกาลอยขึ้นไปลงมาอยู่ด้านหลังเธอและกอดเธอไว้ไป่เซใช้ศอกทุบเข้าที่อกของฮ่องเต้ส่งพลังลมปรานออกไป ฮ่องเต้จุกอกออกไปไกลเพราะถูกพลังลมปรานของไป่เซเข้า
ฮ่องเต้โมโหมาก นางผู้หญิงสมควรตายใช้พลังลมปรานคิดจะฆ่าข้าเหรอ ไม่มีทาง
ไป่เซพุ่งมาพร้อมดาบในมืออย่างเร็วฮ่องเต้หลบเพราะได้รับบาดเจ็บไป่เซถูกความโมโหกดดันครอบงำ เธอสู้อย่างบ้าคลั่ง
ดาบพุ่งไปจะแทงเข้าที่อกฮ่องเต้ทันใดนั้น องค์ครักษ์จับตัวจางจิ้งกระโดดลงมาดาบสองเล่มจ่ออยู่ที่คอจางจิ่งมือถูกมัดไว้ข้างหลังไป่เซเห็นถึงกับหยุดมือชะงัด ฮ่องเต้ยิ้มเยาะเบาๆแล้วเอ่ยว่า
“ เจ้าแพ้แล้ว ” นี่คือการประลองของเจ้ากับข้า "
ไป่เซอึ้งตกใจ จนดาบตกหล่นลงไปบนพื้น
“ เจ้าว่าอะไรนะ ”
“ ข้าบอกว่า เจ้าแพ้แล้ว ”
“ เจ้านี่มันเจ้าเล่ห์เลือดเย็นไร้หัวใจ หลอกให้ข้าบุกเข้ามาสู้กับทหารเอาชีวิตทหารมาทิ้งเปล่าๆเจ้ามันเลวจริงๆ ”
“ ข้าไม่ได้ให้เจ้าฆ่าพวกเขา แต่ถ้าเจ้าพอใจฆ่าก็ก็ไม่ว่าอะไร ทหารร้อยกว่าคนได้ตายอย่างสมเกียรติด้วยน้ำมือของพระชายา ข้าจะจัดงานศพให้พวกเขาอย่างสมเกียรติ เจ้าไม่ต้องห่วง ”
“ เจ้า เจ้ามันเลวชั่วช้า อำมหิตเลือดเย็นไร้หัวใจ คนเลว ข้าจะไม่เป็นชายาบ้าบออะไรนั่นของเจ้า ”
ไปเซไม่รู้โกรธจนไม่รู้จะโกรธจะด่ายังไงแล้วเธอตะโกนด่าฮ่องเต้ต่อหน้าทหารมากมายรวมถึงกลุ่มโจรยิ่งทำให้กลุ่มโจรนั้นนับถือในความกล้าและเด็ดเดี่ยวของเธอ
ฮ่องเต้ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ ขอบคุณพระชายาที่ชม ” ฮ่องเต้กลางอย่างใจเย็น
ฮ่องเต้นั้นฉลาดรู้ว่าจะต้องทำยังไงกับหวังซิ่งอิงผู้หญิงดื้อรั้นคนนี้
“ เจ้า ! ”
ทหารที่ยืนอยู่รอบๆนั้นยิ้มกับการหยอกของฮ่องเต้นานถึงจะได้เห็นเป็นบุญตาฮ่องเต้ผู้สูงส่งยิ่งใหญ่ดันลดตัวยอมให้ผู้หญิงคนหนึ่งนั้นยืนด่าได้ผู้หญิงคนนี้หนีไม่พ้นพระชายาในอนาคตแล้ว เหล่าทการก็ชื่นชมเคารพนับถือในฝีมือการต่อสู้ของไป่เซเช่นเพียงแต่ความเจ้าเล่ห์นั้นยังสู้ฮ่องเต้ไม่ได้
ฮ่องเต้เดินเข้ามาใกล้ไป่เซมือใหญ่อันแข็งแกร่งเข้าที่เอวของไป่เซปลายนิ้วชี้เสยคางไปเซขึ้นแล้วพูดเสียงเบาว่า
“ คืนนี้เจ้าไม่ต้องกลับแล้ว วังข้าเข้าแล้วออกไม่ได้ คืนนี้เจ้าอาบน้ำเป็นเพื่อนข้า ข้าจะทำให้เจ้าพอใจในตัวข้า ข้ารักเจ้า ”
“ ลามก ทะลึ่ง ร้ายยางอาย เจ้าฝันไปเถอะว่าจะได้แตะตัวข้า ”
ไป่เซจ้องเขม็งนัยตาแข็งกร้าว
“ เจ้านี่มันดื้อจริงๆ สงสัยเจ้าจะเป็นคนแรกและคนสุดท้ายที่กล้าแข็งกร้าวแบบนี้กับข้า ”
พูดกับไปเซจบฮ่องเต้ก็หันไปทางทหารของเขาแล่วออกคำสั่ง
“ คนคนไปขังไว้ในห้อง ส่งข้าว ส่งน้ำดูแลให้ทั่วถึงอย่าให้อดตายแม้แต่คนเดียว ”
“ รับทราบ ”
ส่วนไป่เซนั้นถูกฮ่องเต้พาไปยังห้องนอนส่วนตัวทันทีแล้ว ฮ่องเต้ก็ออกไปทำธุระข้างนอก เหล่าคนรับใช้เตรียมน้ำเตรียมเสื้อผ้ามาพร้อมอย่างกับรู้ว่าจะมีผู้หญิงมา ไป่เซอดไม่ได้ที่จะถาม
“ นี่ๆๆ ทำไมถึงเตรียมของพวกนี้ไว้พร้อมล่ะ ”
“ เรียนว่าที่พระชายา… ” ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกขัดซะก่อนสาวใช้แปลกใจเล็กน้อย
“ ข่าไม่ใช่พระชายา ” ไป่เซพูดอย่างไม่พอใจ
“ เรียนคุณหนูฮ่องเต้สั่งไว้ว่าวันนี้จะพาว่าที่พระชายาเข้ามาเจ้าค่ะ ”
“ อ่อ อย่างนี้นี่เอง เป็นแผนการของมันหมดเลยใช่มั้ย เจ้าคนเลือดเย็นนั่นเจ้าเล่ห์สิ้นดี ”
ไป่เซพูดด้วยความโมโหเหล่ารับใช้ตกตะลึงในคำพูดของเธอ
ฮ่องเต้เข้ามาเห็ไป่เซแช่น้ำหลีบตาอย่างสบายใจเขาตะลึงกับภาพที่งดงามตรงหน้า ผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆงดงามกว่าหญิงใดในใต้หล้านี้ ทั้งฉลาดจิตใจดีคนแบบนี้แหละเหมาะจะเป็นฮองเฮาของข้า ข้าจะต้องเอาชนะใจนางให้ได้ ฮ่องเต้ไม่อาจละสายตาไปได้ร่างกายร้อนรุ่มขึ้นมาทันทีเลือดภายในกายเดือดพล่านฮ่องเต้ลงไปในอ่างแช่น้ำ
ไปเซสะดุ้งลืมตาขึ้นพร้อมกระโดยลอยขึ้นเหนือน้ำฮ่องเต้ควาเอวเธอไว้ดึงลงมานั่งหว่างขาทั้งสองข้างของเขาไปเซรู้สึกว่าร่างกายฮ่องเต้มีการตอบสนองบางอย่างถูกกระตุ้นขึ้นมาไป่เซตกใจจะลุกขึ้นก็ลุกไม่ได้แขนสองข้างของฮ่องเต้รัดเธอแน่นมากเสียงแหบกระซิบข้างหูเธอเบาๆ
“ จะหนีไปไหน วิธีเดียวที่จะเอาเธออยู่หมัด มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ”
พูดจบฮ่องเต้ดัดหูเธอเบาๆทำเอาไป่เซขนลุกฟู่
“ คนบ้า อย่าทำอะไรข้านะไม่งั้นจะฆ่าเจ้า ”
“ ตายด้วยน้ำมือฮองเฮาข้าก็ยอม ”
ฮ่องเต้กล่าวเสียงเบาเซ็กซี่ไป่เซอธิบายอารมณ์ความรู้สึกไม่ถูกว่าเพราะแช่น้ำนานหรือเพราะกลัวจนขนลุกกันแน่
“ เจ้ามันบ้าไปแล้วเจ้าเป็นถึงฮ่องเต้ทำตัวให้มันสมกับเป็นฮ่องเต้หน่อยสิ ทำแบบนี้คนอื่นจะมองจะยังไง ”
“ ข้าไม่สนว่าคนอื่นจะมองยังไง แค่ข้าชอบเจ้าชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นภาพวาดเจ้าข้าก็ตกหลุมรักแล้ว ”
ไป่เซดิ้น ดิ้นยังไงก็ไม่หลุดเธอจึงตัดสินใจนิ่งเพราะดิ้นไปก็ไร้ประโยชน์เปลืองแรงเปล่าๆ สู้คุยเจรจากันดีๆน่าจะดีกว่าเยอะ ฮ่องเต้กอดเธอเอาไว้คางฮ่องเต้พิงบนไหล่เธอฮ่องเต้รู้สึกอบอุ่นมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
“ เพ้อเจ้อ ฮ้องเต้ฟังข้านะ ท่านทั้งหน้าตาดีหล่อเหลายังหนุ่มยังแน่นหญิงสาวทั่วใต้หล้านี้ล้วนต้องการเจ้า
เจ้าไปสนใจผู้หญิงพวกนั้นเถิด ข้าไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนในวังข้าอยากใช้ชีวิตอิสระข้าไม่อยากแก่งแย่งผู้ชายกับใคร
มันเสียศักดิ์ศรีข้ามากเจ้าไม่ใช่คนอัปลักษณ์ข้ากลัววันหนึ่งจะใจอ่อนแล้วต้องเจ็บข้าแค่อยากมีรักเดียวและต้องการแค่ผัวเดียวเมียเดียวเมียเดียวเท่านั้นนั่นเป็นสิ่งที่เจ้าให้ข้าไม่ได้ข้าอคติกับเรื่องวังหลังมาตั้งแต่เด็กท่านอย่าได้บังคับข้าเลยโปรดเข้าใจและเห็นใจข้าด้วย ปล่อยข้าไปตามทางของข้าเถิด "
ฮ่องเต้ครุ่นคิดตามเธอเหมือนโดนสะกดมือที่โอบกอดไป่เซค่อยๆคลายออก
ไป่เซพูดจบก็ลุกขึ้นมาจากน้ำแม้จะโป้แต่วินาทีนั้นเธอไม่สนอะไรแล้วเหมือนเธอได้ระบายสิ่งที่กลัวออกมาหมดแล้วเธอเปลี่ยนชุดเสร็จเตรียมตัวจะกลับ ก็มีเสียงดังออกมาจากด้านหลังของเธอ
“ เจ้าจะไปไหน ” ฮ่องเต้ถามขึ้น
“ ข้าจะกลับ ” น้ำเสียงเธอราบเรียบเฉยชามาก ใบหน้าขาวใสดวงตาเย็นชามองไปที่ฮ่องเต้
“ ข้าให้เจ้าไปแล้วรึ หรือเจ้าไม่ห่วงชีวิตคนของเจ้าแล้ว ”ฮ่องเต้เองก็เอ่ยอย่างราบเรียบ
“ ข้าคิดว่าเราคุยกันเข้าใจแล้ว เจ้าก็ควรจะปล่อยพวกเขาไป ”
“ ใครบอกว่าข้าเข้าใจ ใครบอกว่าข้าจะปล่อยพวกเขาไป ”
“ เจ้า เจ้านี่พูดไม่รู้เรื่องจริงๆหรือตั้งใจเห็นแก่ตัวกันแน่ ” ไป่เซเริ่มโมโห
“ ข้าบอกแล้วรอได้แต่งกับเจ้าก่อน พรุ่งนี้ข้าจะให้คนหาฤกษ์งานอภิเษกของเรา ” ฮ่องเต้พูดอย่างสบายใจ
“ ข้าไม่แต่ง ข้าไม่ได้รักเจ้า เจ้าจะมีความสุขได้อย่างไรถึงเจ้าได้ตัวข้าแต่ไม่ได้ใจข้า เจ้ารับความรู้สึกนี้ได้เหรอ
ข้าบอกแล้วเจ้าให้ในสิ่งที่ข้าต้องการไม่ได้ เจ้าอยากเห็นข้าทุกข์ใจตายมากเหรอ ”
ไป่เซยิ่งพูดน้ำตายิ่งเอ่อล้นไหลลงอาบแก้มขาวๆของเธอเธอรู้สึกสิ้นหวังและหมดคำจะพูด
ฮ่องเต้เข้ามาใกล้เธอใช้มือปัดคราบน้ำตาออกสัมผัสแก้มนุ่มๆของเธอเบาๆแล้วพูดว่า
" ข้าจะไม่มีความสุขได้ยังไง ข้าบอกแล้วข้ารักเจ้า ข้าจะให้ในสิ่งที่เจ้าต้องการทุกอย่างจะรักและมีเพียงเจ้าคนเดียว
จะไม่มีหญิงอื่น จะให้รักเดียวเป็นคู่ผัวเดียวเมียเดียวแก่เจ้าข้าสัญญาขอแค่เจ้ายอมแต่งกับข้า
ข้าจะไม่ทำให้เจ้าทุกข์ใจ " ฮ่องเต้กล่าวอย่างหนักแน่น
แต่ไป่เซไม่ใช่คนโง่รู้ว่าฮ่องเต้นั้นเจ้าเล่ห์ยังไงเธอก็ไม่ยอมแต่งงานเด็ดขาดเธอจึงคิดหาข้อเสนอที่ดีแก่ฮ่องเต้เผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ ใช้ไม้แข็งไม่ได้ก็ใช้ไม้อ่อนคุย
“ ตอนนี้ข้ายังไม่ได้รักท่าน ท่านให้เวลาข้าได้มั้ยสามเดือน ถึงสามเดือนแล้วข้าจะรักท่านได้หรือไม่นั้นแล้วแต่ท่านประสงค์จะให้ข้าแต่งข้าก็จะแต่ง ”
แต่เมื่อฮ่องเต้ได้ฟังกลับรู้สึกว่าสามเดือนนั้นผู้หญิงคนนี้ต้องหาเรื่องหลบหนีแน่นอนฮ่องเต้จึงตอบไปอย่างเฉยเมยว่า
“ อืม…ข่าให้เวลาเจ้าสามวัน ”
“ นี่เจ้า ข้าคุยกับเจ้าดีๆแล้วนะจะกลั่นแกล้งกันไปถึงไหน ”
ไป่เซโมโหเสียงแข็งขึ้นมาทันทีเพราะเธอข่มอารมณ์เธอไว้ตั้งนานแล้ว
“ สามวันวันแต่งงานข้าจะปล่อยคนของเจ้าให้เป็นของขวัญ ” ฮ่องเต้พูด
“ เจ้าพูดเองนะว่าหากวันใดข้ามีใจใเจ้าแล้วเจ้าจะให้ในสิ่งที่ข้าต้องการได้ทำให้ข้าได้ทุกอย่างโดยเฉพาะเรื่อง ผัวเดียวเมียเดียว ” ไป่เซกล่าว
“ ได้ข้ารักเจ้าข้าสัญญา ” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนโยน
“ หากเมื่อไหร่ที่เจ้าผิดคำพูดเจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะรักข้าอีกและข้าจะเกลียดเจ้าไปตลอดชีวิตทุกภพทุกชาติไป ”
เมื่อได้ฟังหญิงสาวพูดอย่างแน่วแน่หนักแน่นทำเอาฮ่อเต้อึ้งไม่น้อย
ผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมรักใครถ้ายอมเปิดใจให้ใครคนนั้นจะต้องรักมีเพียงนางแค่คนเดียวมันจะเป็นไปได้ยังยัง
ช่างเหอะยังไงเสียข้าก็รักนางแค่คนเดียวคนอื่นข้าไม่ได้มีใจให้อยู่แล้ว นางคงยังไม่รู้ว่าข้ามีสนมก่อนแล้วสองคน
ฮ่องเต้อึ้งไปสักพักจึงตอบไปว่า
“ อื้ม ข้าจะมีแค่เจ้าคนเดียว ”
ไป่เซมองฮ่องเต้ดวงตาแดงก่ำน้ำตาซึมออกมาเธอไม่ได้โง่แต่เธอทำอะไรไม่ได้แล้วใต้หล้านี้ฮ่องเต้ใหญ่สุดมีอำนาจสูงสุดแล้วเธอหันตัวจะออกไป
“ เจ้าจะไปไหน ”
“ กลีบบ้าน ”
“ ดึกแล้วคืนนี้เจ้านอนที่นี่เถอะ ”
“ ไม่อีกแค่สามวันข้าก็ต้องแต่งกับเจ้าแล้วข้าอยากกลับไปอยู่บ้าน ”
“ ไม่ได้ ข้าบอกไม่ได้ก็คือไม่ได้ ”
“ นี่เจ้ายังไม่ทันได้แต่งกับข้าก็มาสั่งห้ามข้าแล้วเหรอ ”
“ มานี่ ”
ฮ่องเต้ดึงมือเอาตัวเธอเข้ามากอดไป่เซขัดขืนผลักฮ่องเต้ออกแต่เธอตัวเล็กสูงแรงผู้ชายไม่ไหวอยู่แล้ว
" ปล่อยข้านะฮ่องเต้บ้า " เธอโมโห
" ปล่อยเหรอ หึ อย่างเจ้ากว่าข้าจะได้มาไม่ใช่ง่ายเลยทหารยอมสละชีวิตเกือบร้อยนาย
บาดเจ็บอีกหลายสิบคนเพื่อเราข้าจะปล่อยเจ้าไปโดยไม่ได้ตัวเจ้าก็คงจะไม่คุ้มค่ากับชีวิตที่พวกเขาทุ่มเท "
พูดจบฮ่องเต้ประกบจูบลงประทับบนริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธทันทีจูบอย่างดูดดื่มเร่าร้อนร้อนแรงขึ้นทุกที
กายแนบชิดเสื้อผ้าบนกายเธอถูกเปลื้องออกร่างกายฮ่องเต้หมดความอดทนกับเธอจับเธอกดทับลงไปทันที
ตอนเช้าไป่เซรู้สึกปวดเนื้อตัวไปหมดฮ่องเต้ทิ้งร่องรอยจูบบนตัวเธอไว้มากมายเธอลุกขึ้นมาชำระร่างกายเสร็จ
ก็หันไปพูดกับฮ่องเต้ที่หลับอยู่ว่า
“ หวังว่าท่านจะรักษาสัญญาและปล่อยคนของข้า ”
พูดจบเธอก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
คำพูดนี้ฮ่องเต้ไม่อาจปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่รู้สึกขนลุกฟู่แม้เมื่อคืนจะเหนื่อยทั้งคืนแต่คำพูดของไป่เซนั้นทำเอาฮ่องเต้นอนไม่หลีบอีกต่อไป
“ ซิ่วอิงนะหวังซิ่วอิง ”ฮ่องเต่พึมพำ
สามวันต่อมา วันแต่งงานผู้คนในเมืองครึกครื้นดันใหญ่ข่าวแพร่กระจายไปทัาวทุกสารทิศ
ฮ่องเต้อภิเษกกับพระชายาผู้ที่มีรูปโฉมงดงามทั้งชายและหญิงต่างพากันอิจฉาทั้งคู่เกี้ยวขนาดใหญ่หรูหราโองอ่า
ไปรับตัวเจ้าสาวเข้าวัง คืนเข้าหอ ฮ่องเต้กับเหล่าขุนนางและญาติๆร่วมกันดื่มฉลองฮ่องเต้เมามาก
เห็นบุตรสาวขุนนางคนหนึ่งที่มีหน้าตาสะสวยรูปร่างงดงามหญิงสาวนั้นก็ใช่ย่อย
ทำเอาฮ่องเต้หลงจนลืมเข้าห้องหอ ห้องเต้พาหญิงสาวไปยังห้องหนึ่งแล้วทำเรื่องชายหญิงอย่างเมามันส์
ไป่เซที่รออยู่ที่ห้องหอ ก็มีสาวใช้คนหนึ่งเข้ามารายงานต่อเธอว่าฮ่องเต้พาบุตรสาวขุนนางไป
คืนนี้เธอไม่ต้องรอให้นอนเลย วินาทีนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจของเธอเลยเธอทั้งโมโหทั้งโกรธทั้งเกลียดพูดกับคนที่มาส่งข่าวเพียงว่า
“ อืม เจ้าออกไปเถอะ ขอบใจมาก ” น้ำเสียงเย็นชาสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ของไป่เซ
ทำให้สาวใช้ที่มาส่งข่าวอดสงสารและเจ็บแทนเธอไม่น้อยและยังรู้สึกเคารพนับถือเธอเข้าไปใหญ่
โดนกระทำเจ็บขนาดนี้ ยังพูดขอบใจได้อีก ช่างเป็นผู้หญิงที่มีความอดทนจริงๆ
ไป่เซโกรธมาก วินาทีอยู่คนเดียวโดนหยามศักดิ์ศรีขนาดนี้เธอไม่ฆ่าฮ่องเต้ก็บุญแล้ว
เธอรู้สึกเจ็บ จึงร้องให้ออกมา เธอไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือเพราะตกหลุมรักคนที่ให้คำสัญญากับเธอหรือเปล่า
น้ำตาเธอไหลอาบแก้มเปียกไปทั้งหน้า ทางฝั่งฮ่องเต้ก็พลอดรักกับหญิงสาวเสพสุขกันอย่างมีความสุข
ไป่เซเธอถอดเครื่องประหัวออกโยนลงพื้นเธอทำลายทันทีจนพังยับเยินสาวใช้ได้ยินเสียงรีบวิ่งเข้ามาด้วยความตกใจแล้วถามอย่างตกใจว่า
“ พระชายา ท่านเป็นอะไรรึเปล่าเจ้าคะ ”
เหงื่อสาวใช้ซึมออกมาทั่วตัวรับรู้ถึงแรงโกรธของพระชายาว่ารุนแรงขนาดไหน
แต่ไป่เซก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาใบหน้าเรียบเฉยว่า
“ ข้าไม่ฆ่าฮ่องเต้ของพวกเจ้าก็บุญแค่ไหนแล้ว ความจริงคนเลือดเย็นไร้หัวใจเช่นฮ่องเต้สมควรตาย ”
สาวใช้สงสารพระชายาจับใจปล่อยโฮออกมาพูดด้วยน้ำตา
“ พระชายาท่านช่างน่าสงสารเหลือเกิน คืนนี้บ่าวขออยู่เป็นเพื่อนท่านนะเจ้าคะ ”
“ อืมได้เจ้านอนพักในห้องข้านี้แหละ อย่าให้ฮ่องเต้ไป๋ฉีอินเข้ามาเด็ดขาด ”
“ เจ้าค่ะ ”
ข่าวซุบซิบไปถึงหูพ่อแม่ของไป่เซได้ยินถึงจางจิ้งทุกคนต่างรู้สึกไม่พอใจสงสารไป่เซ
แม่ของเธอร้องให้สงสารลูกสาว พ่อของเธอนั้นก็โกรธจนหน้าดำหน้าแดง
“ จางจิ้งเจ้าไปอยู่ดูแลคุณหนูของเจ้าเถอะนางอยู่คนเดียวยามนี้คงจะทุกข์ใจยิ่งกว่าคนเป็นพ่อแม่อย่างพวกข้า ”
แม่ของไป่เซกล่าว
“ เจ้าค่ะ ”
จางจิ้งเองก็แค้นฮ่องเต้ไป๋ฉีอินมากเช่นกันเธอปัดน้ำตาใช้วิชาตัวเบารีบไปอย่างเร็ว
ไปถึงก็เคาะประตูห้องข้างในมีเสียงสาวใช้คนกนึ่งถามขึ้นว่า
“ ใคร ”
“ ข้าชื่อจางจิ้งคุณหนูอยู่ข้างในหรือเปล่า ”
สาวรับใช้มองหน้าพระชายาเห็นพระชายาพยักหน้าก็เดินออกไปเปิดประตู
จางจิ้งรีบวิ่งเข้าไปกอดคุณหนูของเขาจิ้งเหมือนพี่สาวคนหนึ่งของไป่เซเธออายุมากกว่าไป่เซสองปี
เมื่อเห็นดวงตาคุณหนูของเธอแดงก่ำก็รู้ทันทีว่าร้องให้เขาไม่เคยเห็นคุณหนูของเขาร้องใก้มาก่อนเลย
ทำให้เขารู้สึกปวดใจมาก
“ คุณหนู ท่านอย่าคิดมากเลยนะเจ้าคะ ผ่านคืนนี้ไปเราต้องแก้ปัญกาได้เจ้าค่ะ ”
จางจิ้งพูดปลอบสาวใช้อีกคนพูดเสริม
“ ใช่เจ้าค่ะพระชายานอนพักผ่อนเถอะนะเจ้าคะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา ”
ไป่เซไม่พูดอะไรเธอนอนลงไปจมอยู่กับความคิดต่างๆนาๆจนเผลอหลับไป มีจ้างจิ้งกับสาวใช้อีกคนเฝ้าอยู่ข้างเตียง
ล็อคประตูอย่างแน่นหนาที่สุด
****ฝากติดตามด้วยนะคะนามปากกา Paizay****