ตอนที่ 4 อาบน้ำ 2
เพลงพิณเอื้อมมือไปกดสบู่เหลวมาใส่มือแล้วถูให้เป็นฟองก่อนที่จะชโลมลงไปบนผิวกายของเขาพยายามทำให้เหมือนเป็นปกติที่สุดทั้งที่มือเธอแทบจะสั่น ผิวละเอียดสีเกือบจะขาวแต่ก็ไม่ถือว่าขาวมาก อุดมไปด้วยมัดกล้ามทุกสัดส่วน เธอจะไม่ประหม่าขนาดนี้เลยถ้าเขาจะหล่อน้อยกว่านี้อีกสักหน่อย เธอเริ่มจากที่ถูหลังให้เขาก่อน เมื่อมันทั่วแล้วเธอก็ลูบมาตามแขนเขา เธอเดินหมุนมาข้างหน้าเขา มือน้อยๆ ที่ลูบสบู่ไปที่อกเขาออกจะสั่นๆ จนเธอเริ่มรู้สึกได้ มัดกล้ามแน่นที่หน้าอกนั่นทำเอาใจเธอไม่อยู่กับตัว ไหนจะสายตาคมของเขาที่คอยจ้องมอง เมื่อสบู่ที่ต้องถูต่ำจากอกลงมาที่หน้าท้องของเขา เพลงพิณก็หน้าแดงระเรื่อขึ้นทันที เธอทำท่าเก้ๆ กังๆ ไม่กล้าถูให้เขา ฉัตรพงษ์คว้าแขนเธอจะให้เธอถูสบู่ให้เขาให้เสร็จเร็วๆ เพราะตอนนี้เขาก็เริ่มร้อนวูบวาบไปหมดแล้ว แต่เพลงพิณตกใจที่เขายื่นมือมา เธอเลยรีบก้าวถอยหลังอย่างไม่ทันระวังตัว ทำให้เธอลื่นฟองสบู่ที่อยู่ที่พื้นจนจะหงายหลัง ฉัตรพงษ์รีบคว้าตัวเธอไว้ก่อนจะหงายหลังลงพื้น กลายเป็นเพลงพิณต้องมานั่งอยู่บนตักเขาอีกครา มือที่คว้าหาที่จับเพราะจะล้มทำให้เพลงพิณไปโดนก๊อกฝักบัว น้ำที่พุ่งออกมาจนเธอและเขาที่อยู่ใต้ฝักบัวอันใหญ่ที่ติดผนังนั้นเปียกชุ่มจนเสื้อสีขาวของเธอ เมื่อมันเปียกน้ำ บราเซียลูกไม้ตัวสวยก็โผล่ลายออกมาให้เห็นอีกทั้งเนินอกอิ่มแนบกับเสื้อขาวที่เปียก ฉัตรพงษ์เผลอชายตาไปมองเพียงแว๊บก็ละสายตาออกเพราะมันช่างยวนตาเสียกระไร
เพลงพิณได้สติรีบลุกออกจากตักเขา เอื้อมมือจะไปปิดก๊อกน้ำ แต่ฉัตรพงษ์คว้าข้อมือเธอไว้แล้วดึงลงมานั่งที่ตักเขาอีกครั้ง พลางกระซิบที่ข้างหูเธอ
"อยากรู้ไม่ใช่หรือ ว่าไอ้นั่นมันยังใช้ได้หรือเปล่า" เสียงกระซิบแหบพร่าที่ข้างหู ลมหายใจอุ่นๆ รดรินต้นคอ เพลงพิณถึงกับขนลุกจนหน้าออกสีระเรื่อ เธอพยายามดันตัวจะลุกออกจากตักเขา แต่ฉัตรพงษ์กระชับแขนเธอไว้ในอ้อมกอดแน่น เสื้อที่เปียกจนเห็นข้างใน เมื่อยามที่นั่งตักเขาแบบนี้ยิ่งทำให้อกสล้างของเธอแนบไปกับอกเปล่าเปลือยของเขา ผ้าบางๆ แทบจะไม่สามารถกั้นเนื้ออิ่มอวบนั้นไว้ได้เลย
"มะ..ไม่ อยาก..." เพลงพิณเอ่ยออกมาได้แค่นั้น ฉัตรพงษ์ก็ใช้มือรั้งต้นคอเธอให้เข้ามารับจูบจากเขา เพลงพิณเบิกตาโพลงด้วยความตกใจจนเผลอเผยอปากออก ฉัตรพงษ์ก็เลยยิ่งจูบเธอถนัดมากขึ้น ลิ้นร้ายออกมายั่วริมฝีปากของเธอ เพียงครู่เดียวเพลงพิณก็หลับตาลงเผลอรับจูบจากเขาอย่างลืมตัว สองแขนของเธอเผลอยกขึ้นไปรั้งคอเขาไว้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
จ๊อกกกกก จ๊อกกกก
ฉัตรพงษ์คลายปากออกพลางขมวดคิ้วมองคนที่ยังหลับตาพริ้ม เพลงพิณได้สติลืมตาขึ้นมา
"ออกไป ท้องมาร้องอะไรตอนนี้ หมดอารมณ์" เสียงเขียวๆ ของเขายิ่งทำให้สติเธอกลับมาจนครบ เธอรีบลุกจากตักเขา แล้วเผ่นออกจากห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งฉัตรพงษ์ที่ยังนั่งให้น้ำจากฝักบัวไหลอาบตัว เพื่อช่วยให้เขาสงบลง
กว่าที่เขาจะสงบลงได้ ถ้ายัยเด็กเพลงนั่นท้องไม่ร้องจนเรียกสติเขา มีหวังเขาต้องได้ขย้ำหล่อนแน่ ยิ่งเวลาที่เนินเนื้อแนบกับเสื้อขาวเปียกน้ำ มันช่างยวนตา หน้าตาสวยๆ ออกแววดื้อรั้นทำท่าเป็นใจดีสู้เสือของเธอ ยามเมื่อมันเรื่อสีแดงขึ้นที่ใบหน้าทำให้เขายิ่งอยากแกล้งเธอ
นานเท่านานกว่าที่เขาจะออกจากห้องน้ำพร้อมด้วยชุดนอน เมื่อออกมาถึงห้องอาหารก็เห็นยัยเด็กหน้าแดงนั่น กำลังเตรียมอาหารให้เขา ดีที่เธอยังไม่ถึงขนาดทิ้งหน้าที่การงาน
"ชงเหล้าให้ฉันแก้วนึง" เพลงพิณเงยหน้ามองเขาอย่างแปลกใจ
"มีกฎข้อไหนห้ามคนพิการกินเหล้า" ฉัตรพงษ์เอ่ยถามเพลงพิณด้วยใบหน้าหงุดหงิด เพราะสายตาที่เธอมองเขาระคนแปลกใจนั่น มันน่านัก
"เอ่อ ค่ะ" เมื่อรับคำสั่งเพลงพิณเดินเข้าไปในส่วนเคาน์เตอร์บาร์ ขวดเหล้าหลายขวดเรียงรายจนเธอนึกสับสน จะกินขวดไหนวะ
"ขวดที่เหลืออยู่ครึ่งขวดวางริมสุดน่ะ ใส่น้ำแข็งก้อนเดียว" ฉัตรพงษ์เอ่ยบอกเธอเพราะเห็นอาการยืนงงของเธอด้วยไม่รู้ว่าจะหยิบขวดไหน
ขวดเหล้าแปลกตายี่ห้ออะไรเพลงพิณก็ไม่รู้จัก เพียงแต่หยิบขวดตามที่เขาบอก น้ำแข็งหนึ่งก้อน เธอทวนคำสั่งเขาในใจพลางรินเหล้าใส่น้ำแข็งลงไป แก้วเหล้าถูกใส่ถาดใบหรูมาเสิร์ฟให้เขาตรงผนังกระจกหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นทิวทัศน์ยามค่ำคืนของไร่ฉัตรไพศาลอย่างสวยงาม
ฉัตรพงษ์ทอดตามองแก้วเหล้า น้ำแข็งก้อนเดียวตามที่เขาสั่ง แต่ไอ้เหล้าเกือบเต็มแก้วราวกับน้ำเปล่า แถมแก้วเหล้ายังเป็นแก้วน้ำดื่มเสียอีกด้วย นี่มันหมายความว่าอะไร เขากัดฟันจนเห็นเป็นสันกราม เพลงพิณยังยืนมองเขาตาแป๋ว
"จะให้กินเหล้าแทนน้ำเปล่าหรือไง" เสียงโทนต่ำของฉัตรพงษ์ ทำเอาเพลงพิณนึกขยาดแต่เธอก็ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด
"ใครเขาชงเหล้ามาเต็มแก้วแบบนี้" เสียงโทนต่ำ เริ่มสูงตามตามอารมณ์ของผู้พูด ที่เกือบจะเป็นความดันสูงอยู่แล้วเชียว
"ไม่ชงแบบนี้หรือคะ เห็นพ่อฉันเขาก็ใส่แบบนี้ แต่เขาจะใส่โซดาด้วย" เสียงใสซื่อตอบเขาด้วยความที่เคยเห็นพ่อทำมาแบบนี้
"ใช้แก้วทรงเตี้ยในตู้ชั้นล่างนั่น ใส่น้ำแข็งหนึ่งก้อน แล้วก็รินเหล้าพอปริ่มๆ น้ำแข็ง" เสียงสั่งพยายามสะกดอารมณ์โมโห ฉัตรพงษ์นึกอยากจะขว้างแก้วเหล้านั่นให้แตกเสียจริง แต่ไอ้ใบหน้าซื่อๆ มองเขาประหนึ่งว่าตัวเองทำอะไรผิดยังไม่เข้าใจ ทำให้เขาพยายามลดความโมโหลง จากที่นึกอยากขว้างแก้วเหล้าให้แตกกระจาย กลายเป็นอยากสั่งสอนอย่างอื่นแทน