บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 กลั่นแกล้ง

สำนักงานไร่ฉัตรไพศาล

"มาหาคุณบังอรค่ะ คุณฉัตรเธอให้มารับเอกสาร" เพลงพิณแจ้งเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่นั่งอยู่ในส่วนหน้าของสำนักงาน

"คุณบังอร ออกไปในไร่ค่ะ เดี๋ยวพี่ลองโทรถามให้นะคะ" ประชาสัมพันธ์คนสวยแจ้งเธอ พร้อมโทรหาคุณบังอร เพลงพิณลอบมองหน้าคนกำลังโทรศัพท์ทันได้เห็นรอยขมวดที่คิ้ว

"พี่อรน่าจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วยน่ะค่ะ ไม่มีคนรับ คุณลองไปที่ไร่องุ่นนะคะ แล้วลองไปถามคนงานในไร่ดูค่ะ ว่าเห็นเธอหรือเปล่า" เพลงพิณเมื่อได้รับคำตอบเธอก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่ไร่องุ่นตามที่พี่คนสวยบอกเธอ พอเริ่มสายแดดก็เริ่มแรงขึ้น แต่ลูกชาวนาแบบเธอก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนใจเท่าไหร่หรอก ถึงแม้จะไม่ได้เคยทำนาเอง แต่ก็ต้องออกไปคอยช่วยพ่อเธอบ้างในบางครั้ง ยิ่งถ้าคนที่ไม่รู้จักเธอก็จะคิดว่าเธอก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป ที่มีแค่หน้าที่เรียนหนังสืออย่างเดียว เพราะด้วยผิวพรรณขาวผ่องดุจไม่เคยต้องแสงแดด ราวกับลูกผู้ลากมากดี

เมื่อมาถึงไร่องุ่น เพลงพิณพยายามมองหาผู้คนที่พอจะถามไถ่หาคุณบังอรได้ เธอก็ต้องขี่มอเตอร์ไซค์วนอยู่นาน กว่าจะได้เจอคุณบังอร เธอยกมือไหว้สวัสดีคุณบังอร พลางถามหาเอกสารตามที่คุณฉัตรสั่งมา

"พี่ให้นายมั่นเอาไปให้ตั้งแต่เช้าแล้วนะคะ" เสียงคุณบังอรมีความแปลกใจ แต่คนที่สีหน้าแปลกใจกลับเป็นเพลงพิณเสียมากกว่า

เพลงพิณกลับมาถึงที่บ้านก็เกือบจะเที่ยงพร้อมด้วยอาการหัวเสีย นึกพาลโมโหเจ้านายของเธอ แต่เมื่อมาถึงเธอก็ต้องเก็บอาการโมโหนั่นไว้อย่างมิดชิด พลางนึกเข่นเขี้ยวในใจ

"คุณบังอรแจ้งว่าให้นายมั่นเอามาส่งให้คุณฉัตรแล้วค่ะ ไม่ทราบว่าได้รับแล้วหรือยังคะ"

"ได้รับแล้ว พอเธอออกไปสักพัก นายมั่นก็เอามาให้ฉัน" ฉัตรพงษ์ตอบเธอพลางแอบลอบมองหน้างอๆ ของเธอคล้ายคนโกรธ

"คุณฉัตรจะรับข้าวกลางวันเลยไหมคะ"

"ให้เขาจัดมาให้สองที่ ฉันมีแขกตอนเที่ยง"

"ได้ค่ะ" เพลงพิณรับคำสั่งแล้วก็เลยออกไปเลย เพราะด้วยจะใกล้เวลาเที่ยง

เพลงพิณกลับขึ้นมาที่อาณาจักรชั้นสองของเขาอีกครั้งเมื่อเวลาเที่ยงตรงพร้อมอาหารที่เขาต้องการสองที่ แขกที่เขาว่ามาถึงแล้ว ชายหนุ่มรูปงามดูท่าทางสุภาพและใจดี ซึ่งแตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง คงจะเพราะด้วยดวงตาคมดุนั้นกระมัง เพลงพิณจัดการวางอาหารให้ที่โต๊ะอาหาร เสร็จแล้วเธอก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องของเธอ เพราะเห็นจะเป็นเวลาเที่ยง ป้านิ่มบอกว่าพวกจานชามค่อยเอาลงมาให้ในครัวตอนบ่ายๆ ก็ได้ เธอได้ข้าวกล่องจากในครัวมาแล้ว เลยคิดว่าไปกินในห้องของตัวเองจะดีกว่าเพราะเธอจะได้แอบพักผ่อนไปในตัวด้วย

"เฮ้ย สวยชะมัด คนดูแลคนใหม่ของมึง หามาจากไหนวะ" เสียงหมอเปรมถามพร้อมสายตากรุ้มกริ่ม

"คุณนายปัทมาไง ไปบังคับเด็กมาใช้หนี้ขัดดอก" ฉัตรพงษ์ตอบอย่างหงุดหงิด

"ไม่ใช่มึงจะจับเขาทำเมีย ขัดดอกล่ะ" หมอเปรมเอ่ยเย้าเพื่อนเพราะด้วยรู้นิสัยกัน

"ถ้าไม่ติดเป็นเด็กยัยคุณนายนั่นก็จะดีหรอก เสียดายเลยว่ะ นี่ก็กำลังหาทางไล่อยู่ แกล้งให้งานหนักๆ"

"มึงก็หาทางให้เป็นเด็กมึงซะซิ"

"เออ ทำอยู่ ถ้าไล่ไม่ไป ก็จับกินซะ"

"ระวัง ความลับมึงด้วยแล้วกัน" หมอเปรมเอ่ยเตือนฉัตรพงษ์ที่ทำสีหน้าคล้ายหนักใจหน่อยๆ พอดีกับที่เพลงพิณกำลังเดินเข้ามาในห้องอาหาร เธอได้ยินเขาพูดกันถึงความลับอะไรสักอย่าง แต่เธอก็ไม่คิดจะสนใจเรื่องของเขา

เพลงพิณเดินมาเก็บจานชามในห้องอาหารที่เจ้านายของเธอทานกันเสร็จเรียบร้อย เธอต้องเป็นคนเก็บลงไปข้างล่างเอง เพราะฉัตรพงษ์ห้ามให้คนข้างล่างขึ้นมาวุ่นวายกับเขาบนนี้

"เพลงพิณ เสร็จแล้วเดี๋ยวเธอตามฉันไปที่ห้องทำงานด้วยนะ" ฉัตรพงษ์เอ่ยบอกเพลงพิณที่กำลังเก็บจานบนโต๊ะอาหาร

"ค่ะ" เธอหันมาขานรับคำสั่งเขา ทันได้เห็นหมอเปรมที่กำลังจะกลับพอดี เธอเลยยกมือขึ้นสวัสดีเขา

ห้องทำงานของฉัตรพงษ์อยู่ถัดไปจากห้องนอนเขาเล็กน้อยภายในจะเหมือนห้องสมุดมากกว่าจะเป็นห้องทำงานเสียด้วยซ้ำ เพราะนอกจากตู้หนังสือจำนวนมาก ยังมีตู้เอกสารอีกหลายตู้ โต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งแบบตั้งโต๊ะ และแบบโน้ตบุ๊กอยู่บนโต๊ะเขา

"เคยทำงานธุรการมาใช่ไหม" ฉัตรพงษ์เอ่ยถามเธอ

"ใช่ค่ะ"

"เธอเอาแฟ้มพวกนี้ไปอ่านให้หมดแล้วสรุปให้ฉัน ให้เสร็จภายในวันนี้" เพลงพิณมองแฟ้มเอกสารใหญ่ๆ บนโต๊ะทำงานของเขาสามแฟ้ม ก็ได้แต่บ่นในใจ

ฉัตรพงษ์หยิบกระเป๋าโน้ตบุ๊กมาจากข้างโต๊ะทำงานเขาส่งให้เธอ เพลงพิณรับมาแล้วก็เดินไปนั่งที่โซฟา เธอเห็นเขานั่งเซ็นเอกสารอยู่อย่างนั้นสักพักใหญ่ ได้ยินเสียงเขาจิปากคล้ายหงุดหงิดอะไรสักอย่าง

"เพลงพิณ เธอไปหยิบเอกสารที่ชั้นบนสุดนั่นให้ฉันที" เมื่อได้ยินคำสั่งเพลงพิณละจากงานที่ทำอยู่มองตามมือเขาที่ชี้ไปที่ชั้นเอกสาร

"แฟ้มที่วางอยู่ด้านบนสีฟ้านั่นน่ะ หยิบให้ฉันหน่อย"

เพลงพิณมองแฟ้มด้านบนเธอลองเอื้อมมือจนสุดมันก็ยังไม่ถึง เธอหันไปเห็นเก้าอี้สำนักงานที่วางแอบอยู่เธอก็เลยเดินไปเข็นมันมากะว่าจะเอามาปีนหยิบแฟ้มให้เขา เมื่อเธอเข็นมันมาจุดที่ต้องการเธอก็ขึ้นไปยืนบนเก้าอี้แล้วเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มสีฟ้าที่เขาต้องการ พอดีกับที่ฉัตรพงษ์เงยหน้าจากเอกสารที่เขากำลังเซ็นอยู่ เห็นเธอปีนเก้าอี้ขึ้นไปเขาก็รีบบังคับวีลแชร์มาที่เธอ เพลงพิณเขย่งขาบนเก้าอี้เพื่อจะหยิบแฟ้มให้เขา เมื่อคนบนเก้าอี้ทรงตัวไม่ดี เก้าอี้ล้อเลื่อนมันก็เคลื่อนไปทางด้านหลัง ส่งผลให้คนบนนั้นเสียการทรงตัวหงายหลังหล่นลงมา ฉัตรพงษ์ที่บังคับวีลแชร์มาถึงพอดี เขารีบคว้ามือเธอไว้ ออกแรงดึงเพียงนิด ร่างบางก็ถลาลงมานั่งบนตักเขาพอดี ด้วยความตกใจเธอรีบกอดคอเขาไว้แน่นพลางซบหน้าลงที่ไหล่เขา เพราะตกใจที่หล่นลงมา

“จะกอดอีกนานไหม”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel