ตอนที่ 2 งานใหม่ 2
พร๊วดดด!!!!!!!
คราวนี้ไม่ใช่แค่สำลักน้ำ ฉัตรพงษ์ต้องพ่นน้ำที่กำลังกินออกมา กับคำถามของเธอ
"จะทดลองดูก่อนไหมล่ะ" เอ่ยจบฉัตรพงษ์ก็แอบมองหน้าเธออีกครั้ง คราวแรกที่หน้าระเรื่อขึ้นสี แต่ครานี้หน้าเธอเริ่มแดงไปจนแทบจะถึงใบหู
"ค่ะ ฉันขอทดลองงานก่อนได้ไหมคะ" ฟังคำต่อรองของเธอ กลายเป็นฉัตรพงษ์ที่เริ่มทำหน้าไม่ถูก
"เอ่อๆ หมายถึงทดลองว่าจะทำงานกับคุณได้หรือเปล่าน่ะค่ะ ถ้าฉันสามารถทำงานกับคุณได้ เราค่อยตกลงเรื่องอื่นกัน" เพลงพิณเอ่ยออกไปแล้วก็ได้แต่ยืนรอฟังคำตอบจากเขา อีกใจก็กลัวเขาจะไล่ออก
"นานแค่ไหน"
"เอ่อ สี่เดือนเป็นไงคะ ตามจำนวนที่เขาใช้ทดลองงานกัน"
"อื้อ" คำตอบของฉัตรพงษ์ ทำให้เพลงพิณถึงกับลอบถอนหายใจ อย่างน้อยก็พอมีเวลาตั้งตัวล่ะวะ แล้วเดี๋ยวค่อยหาหนทางเอาข้างหน้าใหม่แล้วกัน เธอพยายามปลอบใจตัวเอง
ฉัตรพงษ์ก็ยังนึกโกรธตัวเอง ที่ไม่น่าไปเสนอแบบนั้น เพราะเขาคิดว่าเจ้าหล่อนยังเด็กนัก คงจะรีบเก็บกระเป๋ากลับบ้านทันทีแน่ ที่ไหนได้ยัยตัวเล็กนี่ใจสู้ชะมัด แต่ก็ทำให้เขานึกอยากลองดูเจ้าหล่อนจะทำยังไง ถ้าถึงเวลานั้น
กว่าที่เธอจะส่งฉัตรพงษ์เข้าห้องนอนไปได้ เพลงพิณก็เริ่มท้องร้องเสียแล้ว งานของเธอคือรอเขาทานข้าวให้เสร็จส่งเขาเข้าห้อง แล้วก็จะได้เป็นเวลาส่วนตัวของเธอ เธอลงไปที่ห้องครัวตามที่ป้านิ่มบอกไว้ว่า ถ้าส่งคุณฉัตรเข้าห้องแล้วก็ให้ลงมาหาข้าวเย็นในครัวกินเองได้เลย จะมีส่วนที่ทำไว้ให้พนักงานอยู่
"เป็นไงมั่ง พอไหวไหม" เสียงป้านิ่มร้องถามที่เห็นเธอเดินเข้ามาในครัว ป้านิ่มเลยช่วยจัดหาอาหารให้เธอทาน
"ต้องไหวแหละค่ะป้า" เพลงพิณเอ่ยตอบพลางเดินไปช่วยป้านิ่มตักกับข้าว
"อ่ะ กินข้าวเถอะได้ไปพักผ่อน พรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้า คุณก็ลงมากินข้าวก่อน แล้วค่อยยกของคุณฉัตรขึ้นไปให้ แล้วก็ดูแลเรื่องการแต่งตัว สายๆ คุณฉัตรอาจจะไปที่ออฟฟิศในไร่ หรือบางทีก็จะอยู่ทำงานที่บนห้องนั่นแหละ"
กระเป๋าเดินทางที่มีแต่ฝุ่นของเธอเพิ่งจะได้รับการเหลียวแลจากเจ้าของของมัน เพราะตั้งแต่เธอมาถึงก็เรียกได้ว่าเริ่มงานทันที มือน้อยๆ พยายามใช้ผ้าปัดฝุ่นออก กลับยิ่งทำให้ฝุ่นที่เกาะอยู่คละคลุ้งไปจนทั่วห้อง เธอเลยรีบไปเปิดกระจกบานเลื่อนบริเวณหลังห้อง ด้านนอกเป็นนอกชานที่กว้างพอสมควร เพลงพิณมองไปจนสุดชานด้านนอกเห็นมันทอดยาวไปจนหลายห้องตลอดทางเดิน เธอลากกระเป๋าออกมาปัดฝุ่นด้านนอก แล้วก็เลยนั่งเล่นที่โต๊ะม้าหินที่วางไว้ใกล้ๆ กับห้องของเธอ ทิวทัศน์ของท้องฟ้ายามค่ำคืนช่างสวยงามนัก ยิ่งห่างไกลจากตัวเมืองเช่นนี้ แสงจากไฟฟ้าจึงมีน้อย ทำให้เห็นดวงดาวที่ท้องฟ้าที่นี่เยอะกว่าในเมือง เลยทำให้เธอพลอยคิดถึงที่บ้านนาของเธอ ก็เป็นเช่นนี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เข้ามา" เสียงอนุญาตที่เอ่ยออกมาอย่างรำคาญ ทำเอาเพลงพิณต้องถอนหายใจหนักๆ เมื่อได้ยินเสียงประตูอัตโนมัติดังเป็นสัญญาณว่าถูกเปิด เธอก็ผลักประตูเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของเขา เพลงพิณแอบคิดในใจประตูอย่างกับร้านทอง ถึงขนาดต้องติดประตูอัตโนมัติกันเลยทีเดียว คงเพราะความพิการของเขาที่จะได้สะดวกไม่ต้องเดินมาเปิดปิด และความเป็นส่วนตัวด้วยกระมัง
"ฉันเอาอาหารเช้ามาให้แล้วค่ะ มาดูช่วยคุณแต่งตัว" เพลงพิณเดินเข้าห้องเขามาก็จัดการเปิดม่าน เปิดหน้าต่างเพื่อระบายลม ตามคำสั่งของป้านิ่มว่าต้องทำอะไรบ้าง
"ฉันยังไม่ได้อาบน้ำ" ร่างสูงใหญ่ที่นั่งทิ้งขาลงข้างเตียงเอ่ยพูดอย่างหน้าตาเฉย
มือที่กำลังจับผ้าม่านเปิด หยุดชะงักลงทันที เธอหันมามองหน้าฉัตรพงษ์แล้วยิ้มให้ พลางละมือจากผ้าม่านเดินมาช่วยเขาประคองขึ้นนั่งบนรถเข็น
"เห็นป้านิ่มบอกว่า คุณชอบอาบน้ำเองมากกว่าที่จะมีคนช่วย" ใบหน้าเปื้อนยิ้มเอ่ยคล้ายเตือนเขากลายๆ แต่ในใจเพลงพิณก็นึกว่าเขาอยู่ในใจว่าเขาต้องหาเรื่องเธอแน่นอน เพราะป้านิ่มบอกว่าตอนเช้าเขาจะอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้า ไม่ชอบให้คนดูแลไปยุ่งวุ่นวายด้วย ฉัตรพงษ์แอบยิ้มในหน้า ยัยเด็กนี่ถ้าจะเอาเรื่อง
ฉัตรพงษ์ขึ้นนั่งบนรถเข็นได้ก็บังคับมาที่ห้องน้ำ เพลงพิณเดินมาส่งเขาในห้องน้ำ พลางหยิบผ้าขนหนูและชุดสำหรับวันนี้นำไปวางไว้ในห้องน้ำ เธอลอบมองห้องน้ำของเขาที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้พิการโดยเฉพาะ เพราะใต้ฝักบัวอาบน้ำมีแท่นสำหรับนั่งอาบ ที่วางสบู่ตลอดจนเครื่องใช้ต่างๆ ถูกจัดวางให้เตี้ยลง เหมาะสำหรับคนที่ต้องนั่งทำธุระส่วนตัว ถัดจากห้องอาบน้ำที่เป็นกระจกมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ทุกการออกแบบล้วนเอื้ออำนวยความสะดวกให้แก่เขาแทบทั้งสิ้น เพลงพิณนึกชื่นชมที่เขาจัดการสำหรับทุกอย่างเพื่อที่จะไม่อยากให้คนอื่นมาวุ่นวายด้วยมากนัก
"เดี๋ยวฉันไปรอด้านนอกนะคะ" เพลงพิณจัดเตรียมของในห้องน้ำให้เสร็จแล้ว เธอก็เลยขอตัวออกไปก่อน เพื่อที่จะให้เขาอาบน้ำทำธุระส่วนตัวได้อย่างสบาย
ผ้าม่านที่ถูกเปิดไว้เพียงครึ่ง เพลงพิณกลับมาเปิดมันออกให้หมดอีกครั้ง ผ้าห่มที่ถูกกองไว้บนเตียงเธอก็จัดการเก็บพับ พร้อมเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่และดึงให้ตึงเรียบ ตามที่ป้านิ่มบอกเธอมาว่าต้องทำอะไรบ้าง พักใหญ่ๆ กว่าที่ฉัตรพงษ์จะออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับที่เขาแต่งตัวออกมาเรียบร้อยแล้ว ฉัตรพงษ์บังคับรถเข็นของเขาไปที่ห้องอาหารทันทีโดยมีเพลงพิณเดินตามเขาไปติดๆ
"เดี๋ยวเธอไปเอาเอกสารที่สำนักงานให้ฉันด้วยนะ ไปถามที่คุณบังอร" ฉัตรพงษ์เอ่ยบอกเธอขณะที่เขารับประทานอาหารเช้า
"ค่ะ" เพลงพิณขานรับคำสั่งของเขา เธอกำลังจะถามเขาว่าสำนักงานอยู่ที่ไหน เขาก็ชิงคว้าโทรศัพท์กดโทรออกโทรหาใครบางคน เธอเลยต้องออกมาพร้อมกับความงวยงง
ป้านิ่มดูจะเป็นที่พึ่งเดียวของเธอในเวลานี้ เมื่อได้รับคำบอกกล่าวว่าจะต้องไปทางไหน ป้านิ่มให้เธอยืมมอเตอร์ไซค์เพราะว่าระยะทางจากบ้านไปสำนักงานถ้าเดินก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เมื่อเธอได้มอเตอร์ไซค์ จุดหมายปลายทางคือสำนักงานของไร่ฉัตรไพศาล ระหว่างทางเพลงพิณเลยได้พลอยแอบชื่นชมธรรมชาติที่สวยงามของไร่ไปในตัว
"อื้ม ถึงจะตากแดดหน่อยแต่ก็ดีกว่าอยู่กับเขาให้อึดอัดใจ" เมื่อปลอบใจตัวเองได้ เธอก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปอย่างอารมณ์ดี