EP.1 เสือร้าย
"ไปสูบบุหรี่ทำไมตั้งนานคะ แบมนึกว่าแอบไปหาสาวคน
อื่นแล้ว"
แบม คือสาวสวยดีกรีอดีตดาวมหาวิทยาลัยที่เขาควงมาด้วยในคืนนี้ ทั้งคู่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนและเธอก็เป็นฝ่ายตามมาด้วยเมื่อรู้ว่าเขามีนัดกับเพื่อน
"พอดีเจอเพื่อน"
เขาตอบแล้วนั่งลงที่ของตัวเองก่อนจะหยิบเอาแก้วเครื่องดื่มของตัวเองเทเหล้าเพียวลงจนเกือบครึ่งกรอกเข้าปากเพื่อล้างกลิ่นบุหรี่ เขาไม่ใช่คนชอบสูบอะไร ไม่ได้ติดหนัก วันนี้ไม่รู้อารมณ์ไหนถึงพกมันมาด้วยเหมือนกัน
"เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะคะ" หญิงสาวถามแต่เป็นคำถามที่ไม่รื่นหูสำหรับคนฟังเท่าไหร่
"ผู้หญิง" เขาตอบตามตรงพร้อมกับรอยยิ้มเพื่อบอกว่าไม่ได้โกหกแล้วหันไปคุยกับเพื่อนที่มาด้วยกัน เป็นเพื่อนในสาขาและคณะเดียวกัน
แต่เพื่อนสนิทที่เขาสนิทด้วยที่สุดคงเป็น 'คีตะ' ที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม ส่วนตอนนี้เรียนกันคนละมหาวิทยาลัย นาน ๆ ทีถึงจะนัดเจอกันสักครั้งเพราะต่างคนต่างเรียนหนักในคณะชื่อเดียวกันนี้
"มึงจะไปส่งน้องเขาก่อนใช่ไหม หรือยังไง"
"เอารถมาหรือเปล่า" เชนหันไปถามผู้หญิงคนข้าง ๆ ก่อนที่สายตาของเขาจะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่อยู่บนชั้นสองตรงระเบียงจนต้องเบือนหน้าไปมองตรง ๆ
คนที่อยู่ด้านบนนั้นยิ้มหวานส่งให้ เธอมองสาวที่นั่งข้างกายเขาแล้วหัวเราะในลำคอกับตัวเอง เขาก็ยังคงเจ้าชู้เหมือนเดิม มองยังไงก็รู้ว่าผู้หญิงที่นั่งข้างกายเขาไม่ใช่คนรักแน่ ๆ
แคทละสายตาจากด้านล่างแล้วหนีเข้ามาในห้องส่วนตัว เพื่อต่อสายหาผู้เป็นพ่อ หลังจากที่ท่านติดต่อเธอมาเมื่อชั่วโมงก่อนแต่ไม่ว่างรับ เธอพอจะเดาออกอยู่แล้วว่าท่านโทรมาหาเพราะอะไร
"ว่ายังไงคะพ่อ"
(ไม่ลืมใช่ไหม พรุ่งนี้มีนัด)
"ไม่ลืมค่ะ พรุ่งนี้หกโมงเย็น ที่บ้านของพี่ธาม"
(เดี่ยวพ่อจะรออยู่ที่บ้าน)
เพราะเธอมีคอนโดสุดหรูที่เพิ่งถอยมาหมาดจากเงินที่พ่อให้เป็นของขวัญวันเกิด เลือกที่ใกล้กับร้านที่สุดเพื่อให้เดินทางสะดวกและไม่ต้องขับรถไกล ๆ เวลาที่เข้าร้านตอนดึก ๆ
"ค่ะ พรุ่งนี้หนูจะรีบไป ราตรีสวัสดิ์นะคะ"
(ราตรีสวัสดิ์ ดูแลตัวเองด้วยล่ะอย่ากลับดึกนัก)
"ค่าพ่อ"
แล้วเธอก็กดวางสายก่อนที่จะเลื่อนจอไปยังหน้าต่างแชทของใครบางคนที่ไม่ได้คุยมาหลายวัน ล่าสุดก็ตอนที่ถามเขาว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาเที่ยวร้านใหม่ของเธอ
KATT : พรุ่งนี้จะได้เจอกันแล้ว ตื่นเต้นไหมคะ
เธอส่งข้อความนั้นเสร็จก็กดล็อคเครื่องมือสื่อสารราคาแพงจนหน้าจอดำมืด เดินไปนั่งบนโซฟากำมะหยี่สีแดงที่อยู่กลางห้องก่อนจะหยิบแก้วไวน์ที่เทไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาจิบ
ครืด~
T VETAS : ตื่นเต้นมาก ไม่เจอคนขี้เหร่มาตั้งนาน คิดถึงจะแย่แล้วตัวเล็ก
แคทหัวเราะให้กับข้อความนั้นที่โชว์ขึ้นมาบนหน้าจอก่อนจะหยิบมันขึ้นมาตอบชายหนุ่ม ว่าที่คู่หมั้นของตัวเอง
ธาม คือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เป็นเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวและสถานประกอบการหลายแห่ง ทายาทบริษัทนำเข้าและส่งออกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ขอประเทศ เขารวยล้นฟ้าจนเธอไม่รู้ว่าอะไรคือข้อบกพร่องของผู้ชายคนนี้ ที่หล่อ รวย หน้าตาดี แถมยังใจดีและเป็นที่ปรึกษาของเธอได้เกือบทุกเรื่อง
เธอกับเขารู้จักกันตั้งแต่เธอยังเด็กส่วนเขานั้นเข้าสู่วัยรุ่นอย่างเต็มตัวเพราะอายุห่างกับถึงสิบกว่าปี เธอสนิทกับเขาในฐานะพี่ชายที่แสนดีมาโดยตลอดและเพิ่งมาเข้าใจสถานะของตัวเองเมื่อหลายปีก่อนว่าต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้
ทั้งที่เขาไม่มีอะไรเป็นข้อเสียในสายตาเธอเลย แต่เธอกลับมองเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งไม่ได้ ความผูกพันที่เธอมีต่อเขาคือพี่ชายเท่านั้นจริง ๆ และเขาเองก็คงคิดไม่ต่างกัน
"แบมมากับเพื่อน แต่ตอนนี้เพื่อนกลับไปแล้วค่ะ" สาวสวยอดีตดาวมหาลัยเอ่ยกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้วยกัน วันนี้เขาเงียบไม่เหมือนกับครั้งก่อน ๆ ที่เคยเจอกันหรือนี่เป็นสัญญาณบอกว่าเขาเบื่อเธอแล้ว
"..."
"ไปส่งแบมหน่อยได้ไหม พี่เชน พี่เชน!"
"อืม พี่จะไปส่ง" เขาหันมามองเธอด้วยสีหน้าตำหนิ "ทำไมต้องเสียงดัง"
หัวใจดวงน้อยไหววูบเมื่อถูกเขามองแบบนั้น เธอแค่เรียกเขาเสียงดังเพราะกลัวว่าเขาจะไม่ได้ยิน หรือกังวลที่ถูกเมินอยู่เท่านั้นเอง แต่เขาทำเหมือนเธอกระทำผิด
ที่จริงเธอรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเขากับเธอมันมีเงื่อนไข ตอนแรกแค่ตื่นเต้นเพราะเขาน่าสนใจ ทั้งหน้าตา ฐานะ และยังเป็นหนุ่มฮอตรุ่นพี่ที่ถูกเล่าลือว่าไม่เคยคบผู้หญิงคนไหนจริงจัง
เธอมองว่ามันท้าทาย และอยากลองดูสักตั้ง เพราะเธอเป็นถึงอดีตดาวมหาลัยไม่มีทางแน่ ๆ ที่เขาจะปล่อยให้หลุดมือ และเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาร้องเรียกหาแต่ชื่อเธอคนเดียว
แต่เธอคงประมาทเกินไป เพราะนอกจากเขาจะไม่เป็นอย่างที่เธอต้องการ ตอนนี้กลายเป็นเธอเองที่เรียกร้องอยากเจอ อยากอยู่ด้วย
"จำได้ไหมว่าคืนนั้นเราตกลงวันว่ายังไง"
เขาเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางนิ่ง ๆ หญิงสาวรู้สึกร้อนรนทั้งที่บนรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำ เขาคงโกรธที่เธอเรียกชื่อเขาเสียงดังเมื่อตอนอยู่ในร้านแน่ ๆ
"ทำไมคะ"
"เราเองไม่ใช่เหรอบอกพี่ว่าอย่าคิดจริงจัง แล้วเราก็เมาทั่งคู่ แค่อยาก..."
"ค่ะ แล้วทำไม"
"พี่ไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเป็นเจ้าของ ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน"
"แต่พี่ได้แบมแล้วนะเว่ย พูดแบบนี้ก็เหี้ยดิ" เธอใส่อารมณ์ลงไปในน้ำเสียง มีเหตุผลเพียงข้อเดียวที่จะทำให้เขาอยู่กับเธอและไม่หนีไปไหน
"อยากให้พี่พูดตรง ๆ ไหมครับ"
"..." อดีตดาวมหาลัยกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
"คืนนั้นเราไปหาพี่ถึงห้อง แล้วจะให้พี่อยู่เฉย ๆ เหรอ" เขาเอ่ยเสียงเรียบ
เธอรู้ซึ่งแล้วว่า ไม่มีทางเปลี่ยน 'เสือ' ให้เป็นแมวได้ สิ่งที่เธอคิดอยากลองมันก็แค่ความคิดเพ้อฝัน ตั้งใจมาหลอกให้เขาติดพัน แต่กลายเป็นตัวเองที่ติดใจ
"แบมชอบพี่ พี่เชนลองคบกับแบมไหม"
"พี่ยังไม่อยากคบใคร" เขาตอบแล้วเบือนหน้ามามองเธอนิ่ง "คืนนั้นก็บอกเราแล้วไม่ใช่เหรอ"
"งั้นเราคุยกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็ได้ค่ะ"
"พี่ไม่ใช่คนดีนะ แต่พี่ก็รู้สึกแย่เหมือนกันที่ถูกด่าว่าเหี้ย" เขาหัวเราะในลำคอเหมือนชอบใจ แต่เปล่าเลย เธอรู้สึกได้ว่าทั้งเสียงหัวเราะและรอยยิ้มนั้นกำลังเชือดเฉือนใจเธอราวกับคมมีด
"แบมขอโทษค่ะ แต่แบมไม่ได้หมายความแบบนั้น"
"ไม่เป็นไรครับ พรุ่งนี้พี่ก็ลืม"
เชนเอ่ยแล้วส่งยิ้มให้เธอก่อนจะเคลื่อนรถออกจากลานจอด แต่เจ้าตัวกลับมองว่ามันเป็นรอยยิ้มที่เลือดเย็นเหลือเกิน เขาคงไม่ได้หมายถึงลืมเรื่องที่เธอพูด แต่กำลังจะสื่อว่าเขาจะลืมเธอไปเลยต่างหาก
"ไปสูบบุหรี่ทำไมตั้งนานคะ แบมนึกว่าแอบไปหาสาวคน
อื่นแล้ว"
แบม คือสาวสวยดีกรีอดีตดาวมหาวิทยาลัยที่เขาควงมาด้วยในคืนนี้ ทั้งคู่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนและเธอก็เป็นฝ่ายตามมาด้วยเมื่อรู้ว่าเขามีนัดกับเพื่อน
"พอดีเจอเพื่อน"
เขาตอบแล้วนั่งลงที่ของตัวเองก่อนจะหยิบเอาแก้วเครื่องดื่มของตัวเองเทเหล้าเพียวลงจนเกือบครึ่งกรอกเข้าปากเพื่อล้างกลิ่นบุหรี่ เขาไม่ใช่คนชอบสูบอะไร ไม่ได้ติดหนัก วันนี้ไม่รู้อารมณ์ไหนถึงพกมันมาด้วยเหมือนกัน
"เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะคะ" หญิงสาวถามแต่เป็นคำถามที่ไม่รื่นหูสำหรับคนฟังเท่าไหร่
"ผู้หญิง" เขาตอบตามตรงพร้อมกับรอยยิ้มเพื่อบอกว่าไม่ได้โกหกแล้วหันไปคุยกับเพื่อนที่มาด้วยกัน เป็นเพื่อนในสาขาและคณะเดียวกัน
แต่เพื่อนสนิทที่เขาสนิทด้วยที่สุดคงเป็น 'คีตะ' ที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม ส่วนตอนนี้เรียนกันคนละมหาวิทยาลัย นาน ๆ ทีถึงจะนัดเจอกันสักครั้งเพราะต่างคนต่างเรียนหนักในคณะชื่อเดียวกันนี้
"มึงจะไปส่งน้องเขาก่อนใช่ไหม หรือยังไง"
"เอารถมาหรือเปล่า" เชนหันไปถามผู้หญิงคนข้าง ๆ ก่อนที่สายตาของเขาจะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่อยู่บนชั้นสองตรงระเบียงจนต้องเบือนหน้าไปมองตรง ๆ
คนที่อยู่ด้านบนนั้นยิ้มหวานส่งให้ เธอมองสาวที่นั่งข้างกายเขาแล้วหัวเราะในลำคอกับตัวเอง เขาก็ยังคงเจ้าชู้เหมือนเดิม มองยังไงก็รู้ว่าผู้หญิงที่นั่งข้างกายเขาไม่ใช่คนรักแน่ ๆ
แคทละสายตาจากด้านล่างแล้วหนีเข้ามาในห้องส่วนตัว เพื่อต่อสายหาผู้เป็นพ่อ หลังจากที่ท่านติดต่อเธอมาเมื่อชั่วโมงก่อนแต่ไม่ว่างรับ เธอพอจะเดาออกอยู่แล้วว่าท่านโทรมาหาเพราะอะไร
"ว่ายังไงคะพ่อ"
(ไม่ลืมใช่ไหม พรุ่งนี้มีนัด)
"ไม่ลืมค่ะ พรุ่งนี้หกโมงเย็น ที่บ้านของพี่ธาม"
(เดี่ยวพ่อจะรออยู่ที่บ้าน)
เพราะเธอมีคอนโดสุดหรูที่เพิ่งถอยมาหมาดจากเงินที่พ่อให้เป็นของขวัญวันเกิด เลือกที่ใกล้กับร้านที่สุดเพื่อให้เดินทางสะดวกและไม่ต้องขับรถไกล ๆ เวลาที่เข้าร้านตอนดึก ๆ
"ค่ะ พรุ่งนี้หนูจะรีบไป ราตรีสวัสดิ์นะคะ"
(ราตรีสวัสดิ์ ดูแลตัวเองด้วยล่ะอย่ากลับดึกนัก)
"ค่าพ่อ"
แล้วเธอก็กดวางสายก่อนที่จะเลื่อนจอไปยังหน้าต่างแชทของใครบางคนที่ไม่ได้คุยมาหลายวัน ล่าสุดก็ตอนที่ถามเขาว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาเที่ยวร้านใหม่ของเธอ
KATT : พรุ่งนี้จะได้เจอกันแล้ว ตื่นเต้นไหมคะ
เธอส่งข้อความนั้นเสร็จก็กดล็อคเครื่องมือสื่อสารราคาแพงจนหน้าจอดำมืด เดินไปนั่งบนโซฟากำมะหยี่สีแดงที่อยู่กลางห้องก่อนจะหยิบแก้วไวน์ที่เทไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาจิบ
ครืด~
T VETAS : ตื่นเต้นมาก ไม่เจอคนขี้เหร่มาตั้งนาน คิดถึงจะแย่แล้วตัวเล็ก
แคทหัวเราะให้กับข้อความนั้นที่โชว์ขึ้นมาบนหน้าจอก่อนจะหยิบมันขึ้นมาตอบชายหนุ่ม ว่าที่คู่หมั้นของตัวเอง
ธาม คือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เป็นเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวและสถานประกอบการหลายแห่ง ทายาทบริษัทนำเข้าและส่งออกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ขอประเทศ เขารวยล้นฟ้าจนเธอไม่รู้ว่าอะไรคือข้อบกพร่องของผู้ชายคนนี้ ที่หล่อ รวย หน้าตาดี แถมยังใจดีและเป็นที่ปรึกษาของเธอได้เกือบทุกเรื่อง
เธอกับเขารู้จักกันตั้งแต่เธอยังเด็กส่วนเขานั้นเข้าสู่วัยรุ่นอย่างเต็มตัวเพราะอายุห่างกับถึงสิบกว่าปี เธอสนิทกับเขาในฐานะพี่ชายที่แสนดีมาโดยตลอดและเพิ่งมาเข้าใจสถานะของตัวเองเมื่อหลายปีก่อนว่าต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้
ทั้งที่เขาไม่มีอะไรเป็นข้อเสียในสายตาเธอเลย แต่เธอกลับมองเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งไม่ได้ ความผูกพันที่เธอมีต่อเขาคือพี่ชายเท่านั้นจริง ๆ และเขาเองก็คงคิดไม่ต่างกัน
"แบมมากับเพื่อน แต่ตอนนี้เพื่อนกลับไปแล้วค่ะ" สาวสวยอดีตดาวมหาลัยเอ่ยกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้วยกัน วันนี้เขาเงียบไม่เหมือนกับครั้งก่อน ๆ ที่เคยเจอกันหรือนี่เป็นสัญญาณบอกว่าเขาเบื่อเธอแล้ว
"..."
"ไปส่งแบมหน่อยได้ไหม พี่เชน พี่เชน!"
"อืม พี่จะไปส่ง" เขาหันมามองเธอด้วยสีหน้าตำหนิ "ทำไมต้องเสียงดัง"
หัวใจดวงน้อยไหววูบเมื่อถูกเขามองแบบนั้น เธอแค่เรียกเขาเสียงดังเพราะกลัวว่าเขาจะไม่ได้ยิน หรือกังวลที่ถูกเมินอยู่เท่านั้นเอง แต่เขาทำเหมือนเธอกระทำผิด
ที่จริงเธอรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเขากับเธอมันมีเงื่อนไข ตอนแรกแค่ตื่นเต้นเพราะเขาน่าสนใจ ทั้งหน้าตา ฐานะ และยังเป็นหนุ่มฮอตรุ่นพี่ที่ถูกเล่าลือว่าไม่เคยคบผู้หญิงคนไหนจริงจัง
เธอมองว่ามันท้าทาย และอยากลองดูสักตั้ง เพราะเธอเป็นถึงอดีตดาวมหาลัยไม่มีทางแน่ ๆ ที่เขาจะปล่อยให้หลุดมือ และเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาร้องเรียกหาแต่ชื่อเธอคนเดียว
แต่เธอคงประมาทเกินไป เพราะนอกจากเขาจะไม่เป็นอย่างที่เธอต้องการ ตอนนี้กลายเป็นเธอเองที่เรียกร้องอยากเจอ อยากอยู่ด้วย
"จำได้ไหมว่าคืนนั้นเราตกลงวันว่ายังไง"
เขาเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางนิ่ง ๆ หญิงสาวรู้สึกร้อนรนทั้งที่บนรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำ เขาคงโกรธที่เธอเรียกชื่อเขาเสียงดังเมื่อตอนอยู่ในร้านแน่ ๆ
"ทำไมคะ"
"เราเองไม่ใช่เหรอบอกพี่ว่าอย่าคิดจริงจัง แล้วเราก็เมาทั่งคู่ แค่อยาก..."
"ค่ะ แล้วทำไม"
"พี่ไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเป็นเจ้าของ ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน"
"แต่พี่ได้แบมแล้วนะเว่ย พูดแบบนี้ก็เหี้ยดิ" เธอใส่อารมณ์ลงไปในน้ำเสียง มีเหตุผลเพียงข้อเดียวที่จะทำให้เขาอยู่กับเธอและไม่หนีไปไหน
"อยากให้พี่พูดตรง ๆ ไหมครับ"
"..." อดีตดาวมหาลัยกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
"คืนนั้นเราไปหาพี่ถึงห้อง แล้วจะให้พี่อยู่เฉย ๆ เหรอ" เขาเอ่ยเสียงเรียบ
เธอรู้ซึ่งแล้วว่า ไม่มีทางเปลี่ยน 'เสือ' ให้เป็นแมวได้ สิ่งที่เธอคิดอยากลองมันก็แค่ความคิดเพ้อฝัน ตั้งใจมาหลอกให้เขาติดพัน แต่กลายเป็นตัวเองที่ติดใจ
"แบมชอบพี่ พี่เชนลองคบกับแบมไหม"
"พี่ยังไม่อยากคบใคร" เขาตอบแล้วเบือนหน้ามามองเธอนิ่ง "คืนนั้นก็บอกเราแล้วไม่ใช่เหรอ"
"งั้นเราคุยกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็ได้ค่ะ"
"พี่ไม่ใช่คนดีนะ แต่พี่ก็รู้สึกแย่เหมือนกันที่ถูกด่าว่าเหี้ย" เขาหัวเราะในลำคอเหมือนชอบใจ แต่เปล่าเลย เธอรู้สึกได้ว่าทั้งเสียงหัวเราะและรอยยิ้มนั้นกำลังเชือดเฉือนใจเธอราวกับคมมีด
"แบมขอโทษค่ะ แต่แบมไม่ได้หมายความแบบนั้น"
"ไม่เป็นไรครับ พรุ่งนี้พี่ก็ลืม"
เชนเอ่ยแล้วส่งยิ้มให้เธอก่อนจะเคลื่อนรถออกจากลานจอด แต่เจ้าตัวกลับมองว่ามันเป็นรอยยิ้มที่เลือดเย็นเหลือเกิน เขาคงไม่ได้หมายถึงลืมเรื่องที่เธอพูด แต่กำลังจะสื่อว่าเขาจะลืมเธอไปเลยต่างหาก