บทย่อ
"ถ้าพูดว่าเจ้าชู้อีกคืนนี้คงไม่ได้ลุกจากเตียง"
Intro
เสียงเพลงภายในสถานบันเทิงที่เพิ่งเปิดให้บริการได้เพียงไม่กี่วันดังกระหึ่ม ลูกค้านักท่องราตรีแน่นจนแทบไม่มีที่ยืน
ชายหนุ่มเดินหนีออกจากความวุ่นวายไปทางหลังร้าน ที่มีป้ายบอกทางว่าด้านหลังนั้นมีพื้นที่ให้สูบบุหรี่ ทิ้งเพื่อนอีกสองคนกับผู้หญิงที่พามาด้วยไว้ที่โต๊ะ เมื่อมาถึงเขตอนุญาตให้สูบบุหรี่ เขาก็หยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วจุดไฟ ก่อนจะสูดควันเข้าเต็มปอด
"เพิ่งรู้ว่าสูบบุหรี่ด้วย" เสียงหวานของใครบางคนที่เขาไม่คุ้นดังขึ้นจากด้านหลัง
เขาหันไปมอง สาวสวยที่อยู่ในชุดเดรสสั้นสีดำ รูปร่างส่วนเว้าส่วนโค้งตรงตามสเปคไม่ผิดเพี้ยน ไหนจะใบหน้าที่สวยยั่วจนทำให้หัวใจแกร่งรู้สึกวูบวาบนั้นอีก
เขาย่นคิ้วแล้วจึงกระตุกยิ้มที่มุมปากเหมือนกำลังตกใจหรือประหลาดใจเธอเองก็เดาไม่ออก
"หน้าคุ้น"
"คุ้นมากไหม" ร่างอรชรเดินเข้ามาใกล้ร่างสูงที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงมุมด้านหลังของร้าน ก่อนจะยกแขนของเธอขึ้นมากอดอกตัวเองอย่างหลวม ๆ มองใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าอย่างยียวน
"ก็คุ้น เหมือนเคยเห็นผ่านตาทุกวัน" เขาเอ่ยแล้วกระตุกยิ้มมุมปากอีกครั้ง ก่อนจะพ่นควันสีเทาโพยพุ่งออกมาจนคละคลุ้ง พร้อมส่งสายตาที่เป็นอันตรายต่อสาว ๆ ทุกคนมาให้ แต่คำว่าอันตรายมันใช้ไม่ได้กับเธอแน่ ๆ
"มาเที่ยวร้านนี้ด้วยเหรอ"
"ก็ได้ยินจากไอ้คีตะว่าร้านพี่สาว เพิ่งนึกออกว่ามันหมายถึงคนนี้"
เขาใช้คำว่า 'คนนี้' แทนการใช้สรรพนามแทนตัวเธอ เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ต่อหน้าแบบนี้ควรใช้แบบไหน คงต้องให้เธอเป็นคนเริ่มก่อน
เพราะคีตะไม่เคยรู้ว่าเขาติดต่อกับเธอผ่านไลน์ ถึงแม้จะคุยกันแค่ไม่กี่คำ ในฐานะ 'เพื่อน' ที่นาน ๆ ครั้งจะถามไถ่เรื่องราวของกันและกันสักครั้ง
"รู้แล้วก็มาอุดหนุนบ่อย ๆ แล้วกัน" เธอพูดแล้วยิ้ม ดวงตาคู่สวยมองดูผู้ชายตรงหน้าที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ความเจ้าชู้แบบเด็กมัธยมในตอนนั้นมันหายไปแล้ว แต่ดูเหมือนจะกลายเป็นตัวอันตรายของสาว ๆ มากกว่า
"ขอดูบริการก่อนแล้วกัน" เขาเอ่ยจบก็ยิ้มแล้วทิ้งมวนบุหรี่ลงในช่องทิ้งของมัน
"สงสัยเราต้องบริการเองแล้วมั้ง ถึงจะได้เงินจากนายทุกวัน"
เธอใช้สรรพนามที่ไม่ต่างจากการคุยผ่านข้อความเท่าไหร่ เพียงแต่มันดูห่างเหินไปอีกนิด จากที่เรียกเขาด้วยชื่อมาใช้คำว่า 'นาย' แทน
"ถ้ามาบริการเองรับปากว่าจะมาเสียเงินให้ทุกวัน"
ทั้งคู่หัวเราะใส่กันเบา ๆ ดวงตาคมเข้มสบกับดวงตาคู่สวยอยู่ครู่หนึ่งอีกฝ่ายก็เลือกที่จะเบือนสายตาไปมองทางอื่นแล้วหันไปยิ้มให้ลูกค้า
"ไม่เจอตั้งนานเลย" เขาชวนคุยอีกครั้ง เพราะดูเหมือนว่าเธอจะไม่รีบไปไหน
"สวยขึ้น?"
"ก็เหมือนเดิม เหมือนในรูป" เขาไม่ได้ตอบตรงคำถามเธอเลยไม่รู้ว่าความหมายของมันคืออะไร แต่ดูจากสีหน้าของคนที่ยิ้มแบบกวน ๆ นั่นแล้วคงไม่ใช่คำตอบที่ดี
จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เธอเจอเขาก็ตอนสี่ปีที่แล้ว ตอนกลับมาจากญี่ปุ่นและอยู่บ้านที่ไทยแค่สองอาทิตย์ วันนั้นเป็นงานจบการศึกษาของคีตะ ลูกผู้น้องของพ่อ เธอจึงไปมอบของขวัญให้เขาถึงโรงเรียน
"ใครวะ ไม่แนะนำให้กูรู้จักหน่อยเหรอ"
"ไม่จำเป็น" คีตะบอกเพื่อนอย่างเย็นชาตามนิสัย
"ชื่อแคท อยากรู้จักก็แค่ถาม" ใบหน้าสะสวยที่ถูกทุกสายตาของใครหลายคนบริเวณนั้นจ้องมองเอ่ยขึ้น เธอมองหนุ่มรุ่นน้องที่อายุคงห่างกันแค่นับเดือนตรงหน้าแล้วยิ้มอย่างกวน ๆ ส่งไปให้
"แล้วถ้าอยากรู้จักมากกว่านี้ต้องทำยังไง"
"แลกไลน์กัน"
เขาหัวเราะในลำคอเหมือนถูกใจคำพูดนั้นก่อนจะหยิบมือถือไปให้คนตรงหน้า สำหรับเธอแล้วมันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะตัดสินว่าผู้ชายในชุดนักเรียนคนนี้ 'เจ้าชู้' เพราะทั้งสายตา คำพูด และท่าทางของเขามันแสดงออกชัดเจน
เรียกได้ว่าเจ้าชู้แบบเปิดเผยเลยก็ว่าได้
"พอ ๆ เลย อย่าไปยุ่งกับมัน" คีตะตวัดแขนกอดคอพี่สาวของตัวเองออกมาห่าง ๆ เพราะเขารู้จักเพื่อนตัวเองดี
มันเคยจริงจังกับใครที่ไหน หลอกสาวมาครึ่งค่อนโรงเรียนแล้ว อาศัยแค่ความหล่อก็ทำสาว ๆ ร้องไห้มาไม่รู้กี่คน
"ไหนล่ะ ไลน์"
เธอกำลังจะกลับแต่อีกคนก็ยังตามตื้อ แล้วมีเหรอคนที่ชอบความท้าทายอย่างเธอจะไม่ให้ อยากรู้นักว่าจะหลอกกันยังไง ในเมื่ออีกไม่กี่วันเธอก็จะกลับญี่ปุ่นแล้ว
"ขอมือถือ"
เธอกดพิมพ์ไอดีตัวเองลงไปในช่องก่อนจะยื่นมันกลับมาให้เขา เจ้าตัวยิ้มอย่างพอใจแล้วทั้งคู่จึงโบกมือลากัน เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้นเธอก็ได้รับข้อความจากอีกฝ่ายส่งมาให้
"ขอบคุณครับ"
นั่นแหละคือจุดเริ่มต้น คำว่า 'เพื่อน' ระยะไกลของเธอและเขา
จากที่เขาคิดจะหลอกให้เธอตกหลุมพราง ใช้คารมและความหล่อเป็นเครื่องมือ สุดท้ายก็ถูกเธอหลอกให้คุยอย่างเดียวไม่ได้เห็นแม้แต่เงาหลังจากวันนั้น
"แล้วนั่งแถวไหน"
"โต๊ะ บีสี่ กับเพื่อนอีกสามคน"
"ออ ขาดเหลืออะไรบอกได้นะ ถ้าไม่ยุ่งจะแวะไปหา" เธอยิ้มแล้วก้มมองดูนาฬิกาเรือนหรูของตัวเอง "เราไปก่อน ไว้เจอกัน"
"อือ"
เธอยิ้มให้เขาอีกทีก่อนจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้อีกคนมองตามอยู่ตรงด้านหลัง เขามองเธออยู่จนเกือบสุดสายตาก่อนที่รอยยิ้มตรงมุมปากจะผุดขึ้นในแบบที่ชอบทำ