บทย่อ
“กลัวทำไม ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย คุณเคยผ่านมาแล้วไม่ใช่เหรอ เรื่องแบบนี้น่าจะเป็นเรื่องที่คุณชอบนะ” เขากระซิบบอกที่ริมหูของเธอ แต่คราวนี้เพียงฟ้าทนไม่ได้กับคำพูดดูถูกของเขา ร่างบางหันมาแล้วฟาดฝ่ามือบางลงไปบนใบหน้าคมเข้มของเจ้าชายหนุ่ม “เผียะ!” จนใบหน้านั้นหันไปตามแรง จากนั้นเพียงฟ้าก็รีบขึ้นมาจากอ่างแล้วคว้าเสื้อคลุมมาสวมเอาไว้วิ่งออกจากห้องน้ำไป เจ้าชายโอมาร์ยกมือลูบคลำที่ข้างแก้ม ไม่เคยมีใครมาตบหรือทำร้ายร่างกายของเขาได้ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่คนธรรมดากล้าดียังไงมาตบเขา ฟันกรามขบเข้าหากันแน่น มือทั้งสองข้างกำแน่น ร่างสูงรีบก้าวขึ้นจากอ่างอาบน้ำแล้วเดินตามหญิงสาวไป ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธสุดขีด“ปึก!” เสียงบานประตูเปิดออกอย่างแรงพร้อมกับร่างสูงของโอมาร์ที่ก้าวเข้าหาเพียงฟ้าอย่างไร้สติ เขาตามไปกระชากตัวหญิงสาวเข้ามา ก่อนจะฉุดลากไปยังเตียงแล้วเหวี่ยงร่างบางขึ้นไป “อยากรู้นักว่าคุณมีดีอะไรถึงได้ทำให้ราฟีคหลงเสน่ห์ของคุณได้” เขาเน้นเสียงลอดไรฟันแล้วกระโจนขึ้นไปบนเตียง จับข้อเท้าหญิงสาวลากให้มาอยู่กึ่งกลางแล้วโถมทับลงไปด้วยร่างหนาหนักของเขา เพียงฟ้าดิ้นรนเอาตัวรอดสุดชีวิต แต่ร่างบอบบางของหญิงสาวหรือจะสู้แรงอันมหาศาลของชายหนุ่มได้ “อย่านะเพคะ หม่อมฉันไม่..” หญิงสาวส่ายหน้าไปมา“ไม่ใช่อะไร จะปฏิเสธหรือไงว่าไม่ใช่ผู้หญิงหากิน” แววตาของเขาแดงก่ำผิดกับเจ้าชายโอมาร์คนเดิม ชายหนุ่มซุกใบหน้าลงที่ต้นคอหอมกรุ่นของหญิงสาว“หม่อมฉันขอร้องเพคะ อย่าทำแบบนี้เลย หม่อมฉันขอประทานอภัยเพคะ ฮือออออ” เธอพูดปนร้องไห้ แต่ก็ไม่ทำให้โอมาร์หยุดการกระทำที่ป่าเถื่อนกับเธอได้ เสื้อคลุมถูกเขาดึงออกจากร่างของเพียงฟ้าอย่างง่ายดาย แล้วเหวี่ยงมันไปกองอยู่กับพื้นเบื้องล่าง ร่างบางเปล่าเปลือยเผยเด่นชัดต่อสายตาของเจ้าชายหนุ่ม “ไม่มีที่ติจริงๆ มิน่าล่ะพี่ชายของผมถึงได้ตกหลุมพรางของคุณได้อย่างง่ายดาย” เขายิ้มเยาะแล้วกดจมูกลงไปตรงที่เดิมอีกครั้ง แล้วไล้ขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงริมฝีปากอิ่มคู่สวย เขาพยายามจะประกบริมฝีปากลงกับเรียวปากบาง แต่อีกฝ่ายก็ส่ายหน้าหนี เขาเงยหน้าขึ้นแล้วใช้มืออีกข้างขึ้นมาจับใบหน้าเนียนให้อยู่นิ่งๆ“หนียังไงก็หนีไม่พ้นหรอก คุณอยู่ในเงื้อมือของผมแล้ว ต่อให้หนีไปสุดหล้าก็ไม่มีทางหนีพ้น” สายตาของเขาไร้ซึ่งความปราณีใดๆทั้งสิ้น เพียงฟ้าคิดอยู่อย่างเดียวว่าเธอคงแหลกเหลวคามือเขาในวันนี้แน่ น้ำตาแห่งความเสียใจไหลออกมาไม่ขาดสาย“อย่าทำอะไรหม่อมฉันเลยเพคะ หม่อมฉันขอร้อง” มือทั้งสองข้างของเธอยันหน้าอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อเอาไว้แต่มันก็เหมือนเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงเสียมากกว่า “มาขอร้องตอนนี้มันสายไปแล้ว ผมเตือนคุณแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำให้ผมโกรธ แต่คุณก็ไม่เชื่อเอง” “อย่า!” เสียงของเธอขาดหายเข้าไปในริมฝีปากของชายหนุ่ม ที่ก้มลงมาประกบกับริมฝีปากของเธออย่างแรง ไรหนวดที่เพิ่งขึ้นของเขาทำให้หญิงสาวแสบร้อนไปทั่วบริเวณปากและคาง กำปั้นเล็กๆทุบลงไปบนแผ่นหลังของเขาเต็มแรงของเธอ แต่ก็ไม่ทำให้ชายหนุ่มสะเทือนแม้แต่น้อย เขายังคงควานหาความหวานจากเกสรดอกไม้จากเธออย่างไม่รู้เบื่อ
ตอนที่ 1 ลูกพี่ลูกน้อง
ตอนที่ 1 ลูกพี่ลูกน้อง
ราชอาณาจักร บารูบัน
ร่างซูบผอมของเจ้าผู้ครองแคว้นนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงกว้างสีทองอร่ามตา ข้างเตียงมีนางกำนัลและหมอหลวงยืนก้มหน้าสงบนิ่งอยู่ ร่างสูงสง่าของเจ้าชายโอมาร์ทรุดนั่งลงที่ข้างเตียง มือหนาเอื้อมไปจับมือเหี่ยวย่นของพระบิดาเอาไว้
“ข้าต้องการให้เจ้า..แค่ก...”เสียงไอดังแทรกขึ้น “ไปพาลูกของราฟีคมาเลี้ยงที่นี่...อย่าปล่อยให้อยู่กับหญิงโสเภณีพวกนั้น..แค่ก แค่ก” น้ำเสียงแหบพร่าแต่แฝงเอาไว้ด้วยอำนาจ
“ครับท่านพ่อ” โอมาร์ก้มศีรษะรับคำบิดา
“องค์รัชทายาทจะต้อง...ไม่อยู่ในที่..ต่ำๆ แบบนั้น...แค่ก แค่ก แค่ก” อารีฟไอออกมาติดๆกัน
“อย่าทรงรับสั่งมากไปกว่านี้เลยพระเจ้าค่ะ” หมอหลวงถามอย่างเป็นห่วง
“ข้าจะต้องพูด” กษัตริย์เฒ่าหันมาส่งสายตาดุดัน แล้วหันมาทางบุตรชาย “พี่เจ้าจากไปแล้ว มีเพียงลูกของเขาเท่านั้น...ที่จะเป็นตัวแทนได้ เจ้าช่วยพา..แค่ก...หลานมาหาพ่อด้วยนะ พามาให้ได้นะ แค่ก แค่ก”
“ข้าให้สัญญาว่าจะพาหลานกลับมาหาท่านให้ได้ ข้าสัญญา” โอมาร์ลุกขึ้นแล้วโค้งต่ำให้พระบิดา ก่อนจะเดินออกไปด้วยสีหน้ากังวล พี่ชายของเขาเสียชีวิตไปเมื่อเดือนก่อน ในสนามรบที่ชายแดน ตอนที่ปะทะกับกลุ่มก่อการร้าย และเขาก็ได้สั่งเสียเอาไว้ว่าให้ตามหาและดูแลบุตรชายให้ด้วย ตอนแรกเขาเองก็ตกใจไม่แพ้บิดา ที่รา
ฟีคแอบไปมีภรรยาเอาไว้ที่อื่น โดยที่ลักเซเรน่าไม่รู้ และงานที่บิดามอบหมายให้เขาทำมันก็ไม่ง่ายเช่นกัน
ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เพียงฟ้านั่งมองร่างน้อยในเปลด้วยแววตาที่อ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความรัก ภาพเมื่อ 2 ปี ที่แล้วย้อนกลับมาอีกครั้ง เธอมาอาศัยอยู่กับลูกพี่ลูกน้องของเธอที่ชื่อ เอริก้า หลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไป เพียงฟ้ามีเชื้อสายไทยและอังกฤษ บิดาของเธอเป็นชาวลอนดอน เอริก้ามีอาชีพนางแบบ แต่ไม่โด่งดังเหมือนนางแบบแถวหน้า และอยู่มาคืนหนึ่งเอริก้าก็กลับมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและร่าเริง ผิดกว่าทุกวัน
“อารมณ์ดีผิดปรกตินะวันนี้” เพียงฟ้าเอ่ยถามพร้อมกับวางหนังสือหางานลงกับโต๊ะ
“แน่ล่ะสิจ้ะ เธอรู้ไหมว่าฉันไปเจอใครมา” เอริก้าพูดอย่างตื่นเต้นแล้วเดินมานั่งลงตรงข้ามกับญาติสาว
“ไม่รู้สิ” เพียงฟ้าส่ายหน้าไปมา
“ฉันไปเจอกับเจ้าชายมา” หญิงสาวยิ้มหวาน
“เจ้าชาย!” เพียงฟ้าอุทานอย่างตกใจ “แล้วไปเจอที่ไหน? เจอเมื่อไร?”
“ที่ร้านอาหาร ทรงสง่างามมาก พระองค์เข้ามาขอฉันเต้นรำแล้วก็พาไปดื่มกันเล็กน้อย จากนั้นพระองค์ก็พาฉันไปที่ห้อง” เอริก้าเอนตัวลงพิงเก้าอี้พร้อมกับยิ้มอย่างฝันหวาน
“เธอไปห้องผู้ชายทั้งที่พบกันครั้งแรกเนี่ยนะ...แล้วมีอะไรกันหรือเปล่า” เพียงฟ้าถามอย่างตกใจ
“เธอก็คิดเอาเองสิว่าผู้หญิงอย่างฉันจะยอมปล่อยผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างเจ้าชายราฟีคไปได้ยังไง หึ หึ ใครจะไปเหมือนเธอล่ะ นั่งอยู่แต่ในห้องชาตินี้จะเจอผู้ชายดีๆกับเขาหรือเปล่า” หญิงสาวบอกแล้วก็รีบลุกขึ้นเดินหนีเข้าห้องไป ทิ้งให้เพียงฟ้ามองตาค้าง อ้าปากหวออยู่กับที่ เธอไม่คิดว่าญาติสาวจะทำตัวไวไฟได้มากขนาดนี้ และแล้วเรื่องที่เพียงฟ้ากลัวก็เกิดขึ้นเมื่ออีก 1 เดือนต่อมา เอริก้ามาบอกกับเธอว่าท้อง
“ฉันท้องกับเจ้าชายโอมาร์ และเด็กในท้องของฉันก็คือเจ้าชายหรืออาจจะเป็นองค์รัชทายาทก็ได้” เอริก้าลูบท้องอย่างดีใจ
“แล้วเขาจะยอมรับเธอเหรอ ในเมื่อเขาเป็นถึงเจ้าชาย ส่วนเธอเป็นแค่นางแบบธรรมดาๆคนหนึ่ง หรือไม่เขาก็อาจจะมีชายาอยู่แล้ว” เพียงฟ้าบอกอย่างกังวลใจ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่แยแสด้วยซ้ำ “เรื่องนั้นฉันไม่สนใจหรอก ถ้าฉันมีลูกชายก็เท่ากับว่าได้เปรียบ ชาวอาหรับนับเมียที่มีลูกชายเป็นเมียเอก ฉันถามเรื่องนี้กับคนที่รู้เรื่องมาหมดแล้ว”
“อะไรนะ! เป็นเจ้าชายอาหรับด้วยเหรอ” เพียงฟ้าตกใจอีกครั้ง
“โอ้ย! นี่เธอจะขยันตกใจไปถึงไหนต่อไปนี้เราไม่ต้องอดอยากกันแล้วนะ จะได้พักในห้องหรูๆ ทานอาหารดีๆ เธอน่าจะพอใจนะ” เอริก้าบอกอย่างคนที่คิดอะไรเข้าข้างตัวเอง และทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ตามที่เอริก้าบอก เงินทองถูกส่งมามากมาย จนกระทั่งเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ตอนที่คลอดลูก เอริก้าเสียเลือดมากจนเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าลูกด้วยซ้ำไป เพียงฟ้าจึงทำหน้าที่แทนเอริก้าทุกอย่างตั้งแต่นั้นมา เธอย้ายออกมาอยู่ห้องเช่าเล็กๆเพียงสองคนกับหลานชาย โดยที่ไม่ได้ติดต่อกลับไปทางพ่อของหลานชายอีกเลยตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เธอกลัว กลัวว่าจะมีใครมาแย่งหลานชายของเธอไป
“ราตรีสวัสดิ์นะจ้ะเบนลี” เพียงฟ้าลุกขึ้นแล้วก้มลงจุมพิตเบาๆที่หน้าผากน้อยของหลานชายที่หลับปุ๋ยอยู่ในเปล ซึ่งตอนนี้เบนลีก็มีอายุครบ 1 ขวบพอดี ก่อนจะหมุนตัวเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียง วันนี้เธอซื้อเค้กก้อนเล็กๆมาฉลองกับเด็กน้อยเพียงสองคน และซื้อกีตาร์ของเล่นที่เป็นเสียงดนตรีให้เขา เด็กน้อยพอใจมากเล่นจนไม่อยากนอน เธอจึงต้องใช่ลูกไม้เด็ดโดยการร้องเพลงกล่อมจึงได้ยอมละจากกีตาร์ดนตรีคลานมาหาเธอ
ท่ามกลางความมืดของยามราตรีในกรุงลอนดอน ร่างสูงสง่าในชุดสูทสีดำยืนแหงนเงยมองไปยัง
อพาร์ตเม้นต์ราคาถูกๆที่คนของเขาสืบมาได้ว่าหลานชายของเขาอยู่ที่นี่กับมารดาที่เป็นนางแบบ
“คนของกระหม่อมสืบมาแน่ชัดแล้วพระเจ้าค่ะ ว่าทั้งสองหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่” เซลิมโค้งต่ำพร้อมกับรายงาน
“ทำไมถึงมาอยู่ในที่ซอมซ่อแบบนี้ได้ ไหนเจ้าบอกว่า ราฟีคส่งเงินและสิ่งของมาให้ไม่ขาดไง” ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น
“ข้อนี้กระหม่อมเองก็ไม่ทราบพระเจ้าค่ะ ตามที่ได้รับข่าวมา คุณเอริก้าเป็นนางแบบที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรแต่ก็ติดที่จะรักความสุขสบาย กระหม่อมก็งงเช่นกันว่าทำไมถึงมาอยู่ในที่สกปรกๆเช่นนี้”
“คนของเจ้ามั่วเอานะสิ” โอมาร์หันมาส่งแววตาดุดันใส่องครักษ์หนุ่ม
“พระเจ้าค่ะ” เซลิมโค้งรับพร้อมกับก้มหน้ายอมรับความผิด
“ถ้าท่านพ่อรู้มีหวังได้สิ้นสติแน่” โอมาร์รู้สึกไม่พอใจพี่สะใภ้ของตนเองเป็นอันมาก เด็กน้อยคนนั้นเป็นถึงเจ้าชายแต่กลับพามาอยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้
“ฝ่าบาทจะเข้าไปเลยหรือไม่พระเจ้าค่ะ?” เซลิมราชองครักษ์หนุ่มเอ่ยถาม
“ไม่ รอเอาไว้พรุ่งนี้เช้า ข้าจะมาที่นี่แต่เช้า” เจ้าชายโอมาร์ทรงรับสั่งแล้วหมุนตัวเดินกลับไปขึ้นรถลีมูซีนสุดหรูตามเดิม เซลิมรีบเดินตามไปแล้วขึ้นไปประจำที่นั่งก่อนจะสั่งคนขับๆออกไปจากอพาร์ตเม้นต์แห่งนั้น
เสียงร้องอ้อแอ้ของเด็กน้อยปลุกให้ร่างบางบนเตียงงัวเงียตื่นขึ้น เพียงฟ้ารีบก้าวลงจากเตียงอย่างรีบร้อนก่อนจะวิ่งเข้าไปดูหลานชาย “ว่าไงเจ้าตัวยุ่ง” เธออุ้มเด็กน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน “ไหนขอดูหน่อยนะจ๊ะ” หญิงสาวใช้มือลูบไปที่ผ้าอ้อมที่ใส่เอาไว้ ตัวผ้าอ้อมหนักอึ้งเต็มไปด้วยน้ำ “ฉี่เยอะจังตัวแค่เนี่ย” หญิงสาวกดจมูกลงที่แก้มนุ่มอย่างหยอกล้อ เสียงเจ้าหนูน้อยหัวเราะชอบใจ “เอิ้ก....” “เดี๋ยวน้าเปลี่ยนผ้าอ้อมกับอาบน้ำให้เลยแล้วกัน วันนี้เบนต้องอยู่กับป้าข้างห้องก่อนนะ” เพียงฟ้าอุ้มเด็กน้อยลงมาจากเปล แล้วพาเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วเปิดน้ำอุ่นลงในอ่าง
“น้าจะออกไปหางานทำ เงินของคุณแม่เบนใกล้หมดแล้ว เบนห้ามอ้อนนะเด็กดี” เด็กน้อยยิ้มราวกับว่ารู้เรื่องที่หญิงสาวตรงหน้าพูด เพียงฟ้ามองดูเขาอย่างอ่อนโยน ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะต้องมาเป็นแม่ลูกอ่อนทั้งๆที่ยังไม่มีสามี แต่แบบนี้ก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องยุ่งยากใจกับใคร
“แบบนี้ดีแล้วเหนาะเบน อยู่กันสองคนสบายดีจะตายไป สบายตัวล่ะสิยิ้มแป้นเชียว” “แปะ! แปะ! แปะ!” เด็กน้อยเบนลีใช้มือตบน้ำเล่นอย่างสบายใจ
ติ๊งต่อง! เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น พอดีกับที่เพียงฟ้าอุ้มเด็กน้อยออกมาจากห้องน้ำ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน “ใครกัน? หรือว่าจะเป็นป้าลูซี่” หญิงสาวบอกตัวเองแล้วเดินยิ้มร่าออกไปเปิดประตูโดยที่ลืมไปว่าตัวเองมีเพียงชุดนอนบางเบาปิดกายเอาไว้เท่านั้น แต่เมื่อเธอเปิดออกก็ต้องขมวดคิ้วหนักเมื่อเห็นชายร่างสูง ใบหน้าคมเข้ม หล่อเหลาราวกับดาราหนังยืนอยู่ เพียงฟ้ามองอย่างตกตะลึงราวกับว่าเธออยู่บนสวรรค์แล้วเจอกับเทพบุตร ผิดกับความรู้สึกของโอมาร์ที่มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเหยียดๆ ดูจากการแต่งตัวเขาก็เดาได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้จัดจ้านมากเพียงใดกับเรื่องผู้ชาย เป็นอย่างที่คนของเขารายงานมา ว่าเอริก้าเป็นผู้หญิงนักเที่ยวแล้วก็คบหาผู้ชายไม่เลือกหน้า แล้วเด็กคนนี้จะใช้ลูกของพี่ชายของเขาจริงๆหรือไม่ เขายังต้องพิสูจน์ให้แน่ชัด
“แอ่ม!..” เซลิมกระแอ่มเมื่อเห็นต่างฝ่ายต่างจ้องมองกันนิ่ง เพียงฟ้ากระพริบตาถี่ๆเพื่อดึงสติของตัวเองกลับคืนมา
“พวกคุณมาหาใครคะ?” เธอถามพร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตร
“มาหาคุณนั่นแหละ” โอมาร์ตอบเสียงเรียบ
“มาหาฉันหรือคะ” เพียงฟ้าขมวดคิ้วอย่างฉงน
“ใช่ ถ้าคุณคือเอริก้า” ชายหนุ่มบอกแล้วเดินเข้ามาในห้องอย่างที่ไม่ต้องรอให้เจ้าของห้องเชิญเข้ามา เพียงฟ้ามองตาค้างกับความไม่มีมารยาทของชายหนุ่ม ก่อนจะเดินตามเขาเข้ามาแล้วมายืนดักหน้าชายหนุ่มเอาไว้
“เดี๋ยวสิคุณ มันจะมากไปแล้วนะ เดินเข้าห้องคนอื่นโดยที่เจ้าของห้องไม่อนุญาตมันเสียมารยาทมากนะคะ” หญิงสาวหยุดจ้องมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจก่อนจะพูดต่อ “เชิญพวกคุณออกไปได้แล้ว ฉันไม่รู้จักพวกคุณเลย”
“แต่ผมรู้จักคุณ แล้วก็รู้จักดีเสียด้วย” โอมาร์เดินเลี่ยงหญิงสาวมานั่งลงที่เก้าอี้ โดยมีเซลิมเดินมายืนตัวตรงอยู่ด้านหลัง ชายหนุ่มมองสำรวจร่างบางอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เพียงฟ้านึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองอยู่ในชุดที่ไม่เหมาะสมจะรับแขกแปลกหน้าเอาเสียเลย เธอจึงรีบเดินไปที่เตียงที่แล้ววางหลานชายลงก่อนจะคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับแล้วอุ้มเด็กน้อยขึ้นมากอดเอาไว้อีกครั้ง