บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

ภายในห้องพักของคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพ มีร่างบอบบางของจันทร์ฉายนั่งทอดถอนใจอยู่ร่วมชั่วโมง สามวันแล้วหลังจากที่เธอได้บอกสงกรานต์ว่าท้องไป คนที่เอ่ยปากว่าจะรับผิดชอบกลับหายหน้าหายตาไปทำงานไม่มาดูดำดูดี ได้แต่บอกกล่าวให้เธอพักผ่อนอยู่ที่ห้อง ส่วนงานก็ให้หยุดพักชั่วคราวไม่ต้องทำแล้วเช่นกัน

กริ๊ง... กริ๊ง...

เสียงเรียกเข้าของสมาร์ตโฟนยี่ห้อดังของเธอดังขึ้น ทำให้จันทร์ฉายหลุดจากภวังค์ความคิด หญิงสาวหยิบมือถือนั้นขึ้นมาตั้งใจว่าจะกดรับ ทว่าเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอสี่เหลี่ยมกลับทำให้ชะงัก จันทร์ฉายใจกระตุก

‘พี่อร’

ชื่อที่ปรากฏอยู่หน้าจอสมาร์ตโฟนเครื่องหรูทำให้ร่างบอบบางของจันทร์ฉายตัวแข็งค้าง ใจสั่นสะท้านมองชื่อที่ปรากฏอยู่นิ่งนานก่อนจะทำใจกดรับสายและยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู

“สวัสดีค่ะพี่อร” เสียงหวานกรอกไปตามสายโดยพยายามทำให้ตัวเองร่าเริงที่สุด

(สวัสดีค่ะน้องฉาย น้องฉายสบายดีไหมคะ)

ความห่วงใยที่แฝงมาพร้อมประโยคคำถามจากคนปลายสายนั้น ทำเอาร่างบางถึงกับสะอึก เธอเงยหน้าขึ้นกะพริบตาถี่ ๆ หลายครั้ง เพื่อไล่หยาดน้ำตาที่กำลังจะรินไหล

“สบายดีค่ะพี่อร พี่อรล่ะคะสบายดีไหม”

(พี่สบายดี นี่พี่คิดถึงเรามาก ๆ เลยนะ แล้วทำงานเป็นยังไงบ้าง สงไม่ได้ใช้งานฉายหนักเกินไปใช่ไหม)

“ไม่ค่ะ ไม่เลย”

(ดีแล้วล่ะ ถ้าสงใช้งานฉายหนักมากเกินไป ฉายต้องบอกพี่ทันทีเลยนะ พี่จะจัดการสงให้เอง)

“ค่ะพี่อร ว่าแต่พี่อรจะกลับไทยเมื่อไหร่คะ” หญิงสาวถามกลับ

(คงอีกสักระยะเลยน้องฉาย พี่คิดถึงเรานะ จำเอาไว้ว่าเราเป็นน้องสาวของพี่ หากมีอะไรที่ไม่สบายใจสามารถปรึกษาพี่สาวคนนี้ได้เสมอ)

“ฮึก! ค่ะพี่อร ฉายจะจำไว้ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวพยายามกลั้นเสียงสะอื้น

(จ้า งั้นพี่ไม่กวนเราแล้ว บายนะจ๊ะ)

“สวัสดีค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ”

(จ้า เช่นกันนะคะคนเก่ง)

จบคำพูดของอรอุมาหญิงสาวก็วางสายไป

จันทร์ฉายกำโทรศัพท์ในมือแน่นก่อนจะปล่อยโฮออกมาในที่สุด

ร่างบางทรุดลงไปนั่งกอดเข่าที่พื้นหลังพิงเตียงไว้ ความใจดีความเอาใจใส่ของอรอุมาประเดประดังเข้ามาในมโนสำนึกจนทำให้เธอไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้

“ฮึก! พี่อร... ฉายขอโทษ ฮือ ฉายขอโทษ”

หญิงสาวร่ำไห้พร่ำพูดว่าขอโทษไม่หยุด เธอรู้สึกเสียใจมากที่ทำลายความหวังดี ความไว้เนื้อเชื่อใจที่อรอุมามีให้

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิด...

“ฉายขอโทษ ฮึก! ฮือ... พี่อร ฉายขอโทษ”

ร่างบางยังคงนั่งกอดเข่าหลังพิงเตียงร้องไห้อยู่อย่างนั้น กระทั่งผ่านไปหนึ่งชั่วโมงถึงได้หยุด

มือบางของจันทร์ฉายยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้มอย่างลวก ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว กลืนความรู้สึกผิดนั้นไว้ก่อน เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญเกี่ยวพันถึงชีวิตของเด็กคนหนึ่ง เนื่องจากหญิงสาวตั้งใจจะไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล

ด้วยความที่มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อหยุดร้องไห้และตั้งสติได้ หญิงสาวก็รีบจัดการกับเอกสารต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับฝากครรภ์ทันที โชคดีที่เธอจัดเตรียมเอกสารเหล่านั้นไว้ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา วันนี้เพียงหยิบซองเอกสารและตรวจเช็กเท่านั้น

เมื่อเช็กเอกสารที่ต้องใช้เรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็ยิ้มออกมา เอกสารสำคัญเหล่านี้จะทำให้เธอฝากครรภ์ได้ หากจะขาดก็ขาดแค่เพียงเอกสารพ่อของลูกเท่านั้น

เดิมทีสงกรานต์บอกกับเธอว่า เขาจะเป็นคนพาเธอไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอง ซึ่งจันทร์ฉายก็รู้สึกดีที่เขาจะทำแบบนั้น หากแต่เมื่อคุยโทรศัพท์กับอรอุมาจบเธอก็รู้สึกผิดจนไม่สามารถพูดคุยหรือสนทนากับสงกรานต์ได้

หญิงสาวคิดเพียงว่าหากไม่มีชื่อของสงกรานต์ในสมุดฝากครรภ์อะไร ๆ ก็คงจะง่ายขึ้นเมื่ออรอุมากลับมา เธอและสงกรานต์จะได้ไม่มีเรื่องอะไรต้องยุ่งยากใจ สิ่งที่เธอกำลังทำนี้แน่นอนว่าคือการขัดคำสั่งของเขา

คำสั่งที่ว่า ห้ามเธอไปฝากครรภ์คนเดียว!

จันทร์ฉายคว้าหยิบกุญแจรถและคีย์การ์ดของคอนโดฯ จากนั้นก็ออกจากห้องไป หญิงสาวตรงไปยังรถที่จอดเอาไว้ก่อนจะขับไปโรงพยาบาลที่หมายมาดไว้ในใจ

ตลอดระยะเวลาในการขับรถหญิงสาวครุ่นคิดเรื่องของเธอกับสงกรานต์ตลอดเวลา และเธอก็ตัดสินใจแล้วว่าเธอจะทำอะไรต่อไปหลังจากนี้

จันทร์ฉายตั้งใจว่าจะกลับบ้านต่างจังหวัดไปหาครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ ผู้เป็นดั่งร่มโพธิ์ร่มไทรทั้งสอง ตากับยายสุดที่รักของเธอ กลับไปสารภาพความผิด ที่เธอประพฤติตัวไม่ดีจนทำให้ตัวเองต้องตั้งท้อง กลับไปขอโทษที่ทำผิดจากคำสั่งสอนของผู้เป็นยาย และความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้เป็นตา เมื่อทั้งสองคนให้อภัยเธอแล้วหญิงสาวก็จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น

ที่บ้านของเธอ...

ณ โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง

“คุณจันทร์ฉายค่ะ” เสียงเรียกชื่อของพยาบาลทำให้เจ้าของชื่ออย่างจันทร์ฉายหลุดจากภวังค์ความคิด เธอยกมือแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของชื่อ ก่อนจะเดินตามร่างของพยาบาลที่เดินนำเธอเข้าไปในห้อง

จากนั้นพยาบาลวัยกลางคนก็เริ่มกรอกรายละเอียดส่วนตัวและซักถามประวัติของเธอคร่าว ๆ เสร็จแล้วจึงทำการตรวจปัสสาวะของหญิงสาว เมื่อผลออกมาว่าท้องก็ให้เธอเข้าพบคุณหมอเป็นลำดับต่อไป

“เชิญเข้าไปพบคุณหมอด้านในได้เลยค่ะ” พยาบาลพูดก่อนจะบอกให้หญิงสาวเดินเข้าไปในห้อง

“สวัสดีค่ะ มาฝากครรภ์ใช่ไหมคะ”

ภายในห้องตรวจมีคุณหมอหญิงวัยกลางคนหน้าตาดีคนหนึ่งนั่งรออยู่ เธอส่งรอยยิ้มพร้อมเอ่ยถามอย่างใจดี

“ค่ะ เอ่อ คือ” หญิงสาวไม่รู้ว่าควรพูดอะไร คุณหมอที่เข้ามานั่งส่งยิ้มให้หญิงสาวเพราะเข้าใจอาการของจันทร์ฉายได้อย่างดี แน่นอนว่าคนที่มีอาการประหม่าแบบนี้เธอเจอมานับไม่ถ้วน

“ท้องแรกใช่ไหมคะ” คุณหมอสาวเอ่ยถามเครื่องหน้ายังคงประดับรอยยิ้มจาง ๆ ไม่ขาดหาย

“ค่ะ” หลังจากได้เห็นรอยยิ้มของคุณหมอ จันทร์ฉายก็รู้สึกดีขึ้น ไม่ได้เกร็งเหมือนตอนที่เธอเดินเข้ามาภายในห้องครั้งแรก

“ประจำเดือนมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่คะ”

“เดือนที่แล้วค่ะ”

คุณหมอพยักหน้ารับ ก่อนจะให้จันทร์ฉายขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วเริ่มการตรวจท้องของหญิงสาวด้วยวิธีการคลำ ระหว่างนั้นก็ชวนหญิงสาวคุยไปด้วยเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกเกร็งจนเกินไป เสร็จแล้วคุณหมอก็ยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

“ดีใจด้วยนะคะ คุณจันทร์ฉายตั้งครรภ์ได้สองอาทิตย์แล้วค่ะ”

จันทร์ฉายยิ้มรับอย่างมีความสุข ก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความกังวล

“ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะคะ มีข้อมูลคุณแม่มือใหม่อยู่ คุณจันทร์ฉายสามารถหยิบไปอ่านได้ค่ะ มาค่ะ เดี๋ยวหมอจะจัดยาให้”

จันทร์ฉายจะพยักหน้ารับ ก่อนจะลงจากเตียงตรวจและไปนั่งที่เก้าอี้ รอคุณหมอจัดยาให้

“นี่เป็นยาทั้งหมดนะคะ มีทั้งยาบำรุงต่าง ๆ คุณจันทร์ฉายทานตามที่หมอเขียนแนะนำได้เลย ส่วนอาการแพ้ท้องที่คุณแม่ทุกคนจะมี หมอก็ได้จัดยาแก้แพ้ไว้ให้เรียบร้อยแล้วเช่นกันค่ะ”

“...”

“เนื่องด้วยครรภ์นี้เป็นครรภ์แรกของคุณจันทร์ฉาย ดังนั้นคุณจันทร์ฉายที่เป็นคุณแม่มือใหม่ต้องระวังให้มาก ๆ นะคะ โดยเฉพาะครรภ์อ่อน ๆ แบบนี้ พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารให้ครบห้าหมู่ รวมถึงห้ามยกของหนักด้วยนะคะ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะส่งผลกระทบกับเด็กในท้อง”

“ค่ะคุณหมอ” หญิงสาวรับคำอย่างตั้งใจ

คุณหมอมองหน้าจันทร์ฉายพลางครุ่นคิดกับตัวเองก่อนจะมองหน้าหญิงสาวด้วยความจริงจัง ก่อนจะกล่าวคำแนะนำออกมา

“หมอไม่รู้นะคะว่าคุณจันทร์ฉายมีเรื่องอะไรให้ต้องกังวล แต่ว่าสิ่งที่คุณจันทร์ฉายต้องระวังมาก ๆ อีกหนึ่งอย่างเลยคือความเครียดค่ะ พยายามอย่าเครียดนะคะ”

จันทร์ฉายฟังที่คุณหมอแนะนำก็หน้าเสียเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา พร้อมทั้งตอบรับด้วยเสียงแผ่วเบา เสร็จแล้วเธอก็กลับออกมาจากห้องตรวจ

จันทร์ฉายสัญญากับตัวเองว่าจะต้องไม่เครียดเธอจะต้องอารมณ์ดีอยู่เสมอ เพื่อลูกในท้องของเธอ ลูกที่เธอรักแม้ยังไม่เห็นหน้า ลูกที่เธอสาบานว่าจะเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุด

จันทร์ฉายเผยรอยยิ้มบาง รอยยิ้มแห่งความสุขใจ เพียงพูดถึงลูกก็ทำให้เธอสามารถสงบจิตใจได้ หญิงสาวยกมือลูบหน้าท้องตัวเองไปมาเบา ๆ ก่อนจะตรงไปที่รถแล้วจึงขับรถกลับคอนโดมิเนียมเป็นลำดับต่อไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel