บทที่ 6 เนื้อหอม
“งั้นมามี้ขอกำลังใจหน่อยครับสุดหล่อของมามี้ จุ๊บๆๆ..” อรินดาก้มลงให้ลูกชายหอมแก้มแล้วหอแก้มลูกชายด้วยความรักใคร่และไม่เสียใจเลยที่เธอเลิกกับอดีตสามีเพราะน้องอินคือของขวัญที่วิเศษที่สุดของเธอ เพราะหลังจากเธอแท้งลูกก็มีความสัมพันธ์กับอดีตสามีแค่สองสามครั้งไม่คิดว่าลูกจะกลับมาอยู่กับเธอเร็วแบบนี้แล้วไม่ใช่ว่าเธอไม่เสียใจที่เสียลูกชายคนแรกไปและอยากแก้ตัวกับครอบครัวของเขาที่กล่าวหาเธอทำร้ายลูกชายตัวเองจึงไม่คิดจะคุมกำเนิดแล้วก่อนจะห่างกันเพราะเขามีผู้หญิงคนใหม่แล้วก็หย่ากันในที่สุด และเขาไม่มีวันรู้ว่าเขามีลูกชายที่น่ารักฉลาดหลักแหลมคนหนึ่งอยู่บนโชกใบนี้
“จุ๊บๆ สู้ๆค้าบมามี้”
“สู้ๆครับ จุ๊บๆ มามี้มีกำลังใจไปทำงานแล้วครับ” อรินดาโบกมือให้ลูกชายก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อไปทำงานและเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเพื่อความสะดวกไม่ต้องกลัวรถติดแค่สิบนาทีก็ถึงที่ทำงานแล้วไม่เหมือนที่ทำงานเก่าเธอต้องฝ่ารถติดไปทำงานและต้องขอบคุณพี่สาวของเพื่อนที่ทำให้เธอได้งานนี้และเจ้านายสาวก็ใจดีมากด้วยและเธอก็บอกเจ้านายสาวว่ามีลูกชายหนึ่งคนและอาจจะมีกิจกรรมของโรงเรียนซึ่งเธอจำเป็นต้องไปและเจ้านายก็ไม่มีปัญหาทำให้เธอทำงานอย่างมีความสุข
บริษัทเท็กไทล์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์สิ่งทอรายใหญ่ของเมืองไทยที่บริหารโดย พัชรวลัย วัชระรังสรรค์ หลานสาวคนโตของคุณรนภพนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการบ้านจัดสรรระดับไฮเอ็นด์ที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ห้าสิบล้านขึ้นไปแต่ก็มีระดับกลางและคอนโดเพนท์เฮ้าส์อีกมากมายเรียกว่าเป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ดูแลบริหาร ส่วนบริษัทไทยแลนด์ ดีเวล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ครอบคลุมการก่อสร้างครบวงจรและอสังหาริมทรัพย์มากมายที่ปู่ย่าของเขาได้ซื้อสะสมไว้มากมายมีพฤทธิ์ วัชระรังสรรค์ หลานชายคนโตดำรงตำแหน่งประธานบริษัทมาตั้งแต่เรียนจบปริญญาโทจากแคลิฟอร์เนียจนมาถึงตอนนี้ก็หกปีกว่าแล้ว ซึ่งหลานทั้งสองต่างก็บริหารงานในบริษัทของตัวเองไม่มีการก้าวก่ายงานของกันและกันแต่มีปรึกษากันเป็นเรื่องปกติ แต่ก็มีปัญหากับญาติพี่น้องของพ่อแม่ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เครื่องบินตกขณะไปเจรจาธุรกิจที่ประเทศอังกฤษตอนพฤทธิ์อายุสิบห้าปีและพัชรวลัยอายุสิบแปดปี
"พู่กลับก่อนนะคุณอิ๋น พอดีนัดแอนดี้ไว้ไปแจกการ์ดกันต่อค่ะ"
"สวัสดีค่ะคุณพู่" อรินดายกมือไหว้เจ้านายสาว
เมื่อพัชรวลัยเดินไปที่ลิฟต์อรินดาก็ทำงานต่อจนกระทั่งได้เวลาเลิกงานเก็บของและตรวจดูความเรียบร้อยในห้องทำงานของเจ้านายปิดไฟเก็บเอกสารสำคัญเข้าตู้แล้วล็อคไว้ก่อนจะออกไปจัดการงานเอกสารบนโต้ะเมื่อเรียบร้อยก็ดับไฟแล้วลงลิฟต์กลับบ้าน
“ก๊อกๆๆ..”
“อินไปเปิดประตูเองครับ” น้องอินลุกขึ้นวิ่งไปที่ประตูห้องเพราะมีแค่ไม่กี่คนที่มาหา "มามี้มาแล้ว.." เสียงเล็กร้องออกมาอย่างดีใจเมื่อเห็นมามี้กลับมาแล้ว
"วันนี้ดื้อกับพี่พันมั้ยครับ จุ๊บๆๆ.." อรินดาหอมแก้มลูกชายด้วยความรักสุดหัวใจ
"อินโตแล้วไม่ดื้อครับ"
"ลูกชายมามี้เก่งมากครับ งั้นรอมามี้แป๊บหนึ่งเดี๋ยวมามี้เปลี่ยนชุดก่อนแล้วเราไปออกกำลังกายด้วยกัน"
"เย้ๆ อินจะไปวิ่งๆๆค้าบ"
สองแม่ลูกก็ทำกิจกรรมยามว่างด้วยกันบ่อยหากมีเวลาแต่ช่วงนี้เธอจะงานเยอะหน่อยเพราะเจ้านายสาวจะแต่งงานและจะไปฮันนีมูนต่อหนึ่งอาทิคตย์จึงรีบเคลียร์งานให้เสร็จ หลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้วก็กลับคอนโดอาบน้ำแล้วทานอาหารก่อนจะดูทีวีด้วยกันและวางแผนไปช้อปปิ้งด้วยกันในวันพรุ่งนี้
เช้าวันถัดมา
สองแม่ลูกก็ตื่นสายเพราะเป็นวันหยุดและวางแผนกันไว้ว่าจะไปช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จทั้งสามก็รับประทานอาหารเช้าด้วยกันอิ่มแล้วก็เตรียมตัวไปช้อปปิ้งโดยเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่สะดวกสบายเพราะสถานีรถไฟฟ้าเชื่อมต่อกับห้างสรรพสินค้าชื่อดังหลายแห่ง
"มามี้ค้าบ อินปวดฉิ้งฉ่องค้าบ" น้องอินบอกแม่ขณะที่เดินซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต
"พันรอพี่ที่นี่แป๊บนะจ้ะ พี่พาตัวยุ่งไปฉี่ก่อน"
"ค่ะพี่อิ๋น"
อรินดาก็พาลูกชายเดินไปห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากซุปเปอร์มาร์เก๊ตพอไปถึงน้องอินก็ไม่ยอมเข้าห้องน้ำของผูหญิงกับแม่เหมือนทุกครั้ง
"อินเป็นผู้ชายไม่เข้าห้องน้ำผู้หญิงค้าบมามี้"
"แต่มามี้เป็นผู้หญิงเข้าห้องน้ำผู้ชายไม่ได้นะครับ" อรินดาเริ่มปวดหัวกับลูกชายที่เริ่มโตขึ้นเพราะควา่มแตกต่างเรื่องผู้หญิงผู้ชาย
"อินไปฉิ้งฉ่องคนเดียวได้ค้าบม่ามี้" น้องอินบอกแม่เพราะไปโรงเรียนเขาก็ไปห้องน้ำเอง
"น้องอินเป็นเด็กเข้าห้องน้ำผู้หญิงได้ครับลูก" อรินดามองลูกชายยืนบิดไปมาทั้งขำทั้งเอ็นดู
"ใช่จ้ะหนุ่มน้อย หนูยังเด็กเข้าห้องน้ำผู้หญิงได้แต้ถ้าตัวโตแบบนั้นก็ต้องเข้าห้องน้ำผู้ชายค่ะ" ลูกค้าที่มาซื้อของยืนฟังสองแม่ลูกคุยกันแล้วอดยิ้มขำไม่ได้จึงช่วยพูดให้เด็กน้อยเข้าใจ
"จริงเหรอค้าบคุณป้า"
"จริงสิคะ" ลูกค้าสาวพูดยืนยันแล้วอดขำเด็กน้อยไม่ได้ที่ยืนบิดตัวไปมาเพราะปวดฉี่
"งั้นไปครับมามี้ น้องอินจะฉี่ราดแล้วค้าบ"
"ขอบคุณมากนะคะ" อรินดายิ้มให้สาวใหญ่ก่อนจะเดินไปห้องน้ำพร้อมกับลูกชายที่ลากมือเธอไปเพราะปวดฉี่มาก
หลังจากที่อรินดากับลูกชายและพันนีซื้อของเสร็จก็แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ห้องก่อนจะพากันหิ้วของพะรุงพะรังขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้านแล้วพักผ่อนจนบ่ายก็พากันไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำส่วนกลางของคอนโดเป็นกิจกรรมของสองแม่ลูกกับพันนีจนกระทั่งเย็นก็พากันกลับบ้านอาบน้ำกินข้าวและพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้อรินดาต้องไปทำงานน้องอินไปโรงเรียนและพันนีจะไปทำงานที่ร้านกาแฟ
วันเวลาหมุนเปลี่ยนไปทุกวันและใกล้ถึงวันแต่งงานของพัชรวลัยทำให้อาทิตย์นี้อรินดาทำงานเลิกคำทุกวันเพราะต้องไปดูแลจัดการเตรียมงานที่โรงแรมส่วนที่บ้านของเจ้านายสาวก็มีคนของท่านเจ้าสัวดูแลเธอจึงไม่ได้ไปยุ่งด้วยและงานเช้าเธอไม่ได้ไปร่วมงานเพราะต้องดูแลแขกที่มาร่วมงานของเจ้านายและเจ้าบ่าวที่โรงแรมและวันนี้เป็นวันหยุดจึงใช้เวลาอยู่กับลูกชายทั้งวัน
"ก๊อกกๆๆ.."
"อินไปเปิดประตูเองค้าบ" คนตัวเล็กพูดจบก็วิ่งไปเปิดประตูห้องเพราะคนที่มาบ้านของเขาก็มีแค่ไม่กี่คน
"จ้ะเอ๋.."
“น้าบุษมาค้าบมามี้” น้องอินเห็นเพื่อนของแม่ก็ร้องบอกแม่เสียงดังด้วยความดีใจเพราะจะได้ของฝากจากน้าบุษที่แสนใจดีของเขาอีกแล้ว
“ว่าไงตัวแสบ ทำอะไรอยู่ครับ” บุษบาเดินตามหลานชายเข้าในห้องรับแขกที่เพื่อนั่งอยู่กับพี่เลี้ยงของน้องอิน
“อินกำลังวาดรูปอยู่ค้าบ นี่ไง อินวาดรูปครอบครัวด้วยค้าบ” น้องอินหยิบรูปภาพที่เขาวาดมาอวดน้าบุษ
“นี่ครอบครัวของน้องอินเหรอครับ”
“ใช่ครับ”
“แล้วมีใครบ้างคะบอกน้าบุษหน่อยสิครับ”
“คนนี้มามี้ แล้วนี่คุณยาย นี่น้าบุษ นี่น้าเนตร นี่น้ารามและนี่พี่พันครับ” น้องอินชี้ให้น้าบุษดูคนในครอบครัวว่ามีใครบ้างและคุณยายที่พุดถึงคือแม่ของบุษบาที่อรินดามักจะเอาลูกชายไปฝากท่านเลี้ยงตอนที่เธอไปทำงานต่างจังหวัดและมีพันนีตามไปดูแลเพราะเธอเป็นห่วงไม่อยากทิ้งทั้งสองไว้ที่คอนโด
“น้องอินวาดรูปสวยมากเลยครับ”
“แต่เพื่อนวาดสวยกว่าอินอีกค้าบ และเขาก็มีพ่อด้วย”
“แล้วน้องอินทำยังไงลูก” อรินดาถามลูกชายและมองสบตาเพื่อน
“อินไม่มีพ่อไม่เป็นไรค้าบ แต่อินมีมามี้ น้าบุษน้าเนตรน้ารามพี่พันเยอะแยะแล้วค้าบ” น้องอินรู้ความก็รู้ว่าเขามีแค่แม่และยายกับน้าๆและพี่เลี้ยงเขาไม่เคยเห็นพ่อแต่ไม่เป็นไรเขามีขออยู่กับมามี้ก็พอแล้ว
“ลูกชายมามี้เก่งมากครับลูก” อรินดายิ้มให้ลูกชายแล้วลูบศีรษะเบาๆ
“อินเป็นเด็กดีแล้วอินจะได้กินไอติมมั้ยค้าบมามี้”
“เจ้าเล่ห์นะเรา นี่ไงรางวัลสำหรับคนเก่ง” บุษบาล้วงของเล่นออกมาจากกระเป๋าสะพายให้หลานชาย
“ขอบคุณค้าบน้าบุษ น้าบุษใจดีที่สุดในโลกเลยค้าบ จุ๊บๆๆ..” น้องอินยกมือไหว้ขอบคุณแล้วลุกขึ้นกอดน้าบุษหอมแก้มซ้ายขวาแล้วบุษบาก็หอมแก้มหลานชายคืนแล้ววิ่งไปแกะของเล่นในอนาเขตของตัวเองที่แม่แบ่งไว้ให้สำหรับเล่นของเล่นที่มีอยู่เต็มสองตู้ใหญ่