บทนำ 3
“ย้ายไปแล้วหรือคะ”
เดือนถัดมา พลอยขวัญมาที่ตลาด ตั้งใจจะนำเสื้อแจ๊กเกตที่เธอตัดเย็บและปักลวดลายเองมาให้เด็กชาย แต่แผงขายของนั้นมีแม่ค้าเจ้าใหม่มาแทนที่เสียแล้ว แม่ค้าแผงข้างๆ บอกว่าตลาดเงียบเหงา ขายของแทบไม่ได้ ผู้เป็นป้าจึงพาหลานหนีหนี้กลับต่างจังหวัด
“ตอนนั้นนะ เจ้าหนูมาอาละวาดไม่ยอมไป จะรอหนูท่าเดียว ร้องจนเสียงแหบเสียงแห้งเชียวล่ะ”
“แล้วคุณน้าพอจะมีที่อยู่ของคุณป้าเขามั้ยคะ”
“ไม่มีน่ะสิ รู้แค่ว่าย้ายกลับไปชลบุรีโน่น ส่วนเบอร์ที่ป้ามี เขาก็เปลี่ยนเบอร์หนีเจ้าหนี้ไปแล้ว” เมื่อไม่รู้จะติดต่อได้อย่างไร พลอยขวัญจึงก้มดูเสื้อในถุงกระดาษอย่างหงอยๆ ถ้าเธอมาเร็วกว่านี้อีกสักนิดก็คงจะดี พลอยขวัญจึงเก็บเสื้อตัวนั้นไว้อย่างดี หวังว่าจะมีโอกาสได้พบเด็กคนนั้นอีกสักครั้ง
วันเวลาผ่านไปจนกระทั่งพลอยขวัญเรียนจบมัธยมปลาย ตัดชุดเดรสประดับดาวไปงานพรอมตามที่ตั้งใจ ชุดของเธอสวยแพรวพราว เทคนิคการตัดเย็บดีเยี่ยมจนได้รับคำชมมากมาย รวมไปถึงชุดแสนสวยที่เธอออกแบบให้เพื่อนสามสี่คนก็ถูกพูดถึงด้วย พลอยขวัญยิ้มสดใสโดยในใจก็ยังคงนึกถึงเจ้าของเสื้อแจ๊กเกตตัวนั้นอยู่ เธอแขวนมันคู่กับชุดเดรส เทียบฝีมือรุ่นแรกๆ กับฝีมือเธอตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าพัฒนาขึ้นมาก แม่เห็นเธอเก็บเสื้อเด็กตัวนี้มาสองปีแล้วจึงอดถามไม่ได้
“จะเก็บแจ๊กเกตตัวนี้ไว้เหรอลูก”
“ค่ะ”
“บริจาคไปไม่ดีกว่าหรือลูก ป่านนี้เด็กคนนั้นก็คงจะโตขึ้นแล้ว เก็บไว้ให้ก็ใส่ไม่ได้หรอก”
“พลอยขอเก็บไว้ก่อนนะคะ มันเป็นเสื้อตัวแรกที่คนจ้างพลอยออกแบบ พลอยอยากเก็บไว้เป็นที่ระลึกค่ะ อีกอย่างถ้าเกิดลูกค้ามารับเสื้อแล้วพลอยไม่มีให้ พลอยก็เสียเครดิตแย่เลยนะคะ” พลอยขวัญยิ้ม บรรจงพับเสื้อตัวนั้นลงถุงซิปล๊อกเก็บไว้อย่างดี วันไหนว่างๆ ก็นำออกมาตากแดดรับอากาศบ้างเป็นประจำ
“งั้นก็ตามใจแล้วกัน อันที่จริงแล้วแม่ก็ต้องขอบคุณเด็กคนนั้นนะ”
“ทำไมหรือคะ”
“ไม่รู้ตัวเลยหรือ ตั้งแต่เจอเด็กคนนั้น เป้าหมายในชีวิตของพลอยก็ชัดเจนขึ้น ตอนแรกแม่ก็แค่คิดว่าพลอยชอบขีดๆ เขียนๆ เล่นไปเรื่อย อ้อนขอซื้อจักรเย็บผ้ามาตัวนึงก็ไม่ได้เย็บอะไรออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน เสื้อตัวนี้เป็นจุดเริ่มต้นลงมือทำของพลอยจริงๆ นั่นแหละ”
แม่บ่นไปตามประสาเพราะชุดต้นแบบที่พลอยขวัญตัดเย็บไว้มีเป็นพะเนิน แต่แม่ก็คอยดูแลให้เมื่อเธอไม่อยู่ พลอยขวัญบินลัดฟ้าไปเรียนต่อแฟชั่นดีไซน์ที่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยความที่เข้ากับคนง่ายและมีพื้นฐานด้านการตัดเย็บอยู่แล้ว เธอจึงไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวมากนัก พอเห็นเด็กชายอายุไล่เลี่ยกับเด็กคนนั้น พลอยขวัญก็อดมองและจินตนาการถึงชุดที่อยากจะออกแบบให้เขาใส่ ดังนั้นจึงกลายเป็นว่าพลอยขวัญชอบออกแบบเสื้อผ้าเด็กและวัยรุ่นเป็นหลัก และเธอก็ทำได้ดี
พลอยขวัญส่งผลงานเข้าประกวด International Contest For Young Designers ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นงานประกวดครั้งแรกในชีวิต มีผลงานของนักศึกษาจากหลายๆ มหาวิทยาลัยทั้งในยุโรปและเอเชีย พลอยขวัญได้รางวัลที่สอง จากนั้นเธอก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะชนะการประกวดเวทีต่างๆ รวมถึงเข้าร่วมแสดงผลงานแฟชั่นวีคโดยได้ทีมสปอนเซอร์อย่าง SWAROVSKI JAPAN ให้การสนับสนุนผลงาน ใครที่รู้จักเธอต่างคิดว่าพลอยขวัญคือลูกรักของสวรรค์ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำได้สำเร็จ รูปร่างหน้าตา ชาติตระกูล ระดับการศึกษา กิริยามารยา ทุกสิ่งล้วนสมบูรณ์แบบ กลายเป็นดาวรุ่งของวงการในระยะเวลาอันสั้น
หลังจากพลอยขวัญเรียนจบกลับมาเมืองไทย เธอเข้าทำงานบริษัทแฟชั่นดีไซเนอร์ชั้นนำ พลอยขวัญถ่อมตัวเสมอว่ามีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก ด้วยมือใหม่มากๆ สำหรับอาชีพนี้ เธอจึงจำเป็นต้องหาความรู้ตลอดเวลา แต่ทว่าก็มีเรื่องผิดพลาดจนได้
“คอลเล็กชั่นซัมเมอร์ที่เรามีแผนจะวางขายเดือนหน้า ทำไมคู่แข่งถึงมีแบบเหมือนของเราเป๊ะ แถมยังชิงขายตัดหน้าก่อนอีกต่างหาก”
พี่บุ้ง เจ้าของบริษัทโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง สั่งตามทีมออกแบบทุกคนให้มาประชุมด่วน พี่บุ้งโยนชุดของคู่แข่งลงกลางโต๊ะ พลอยขวัญนิ่งอึ้งไปเพราะชุดน่ารักตัวนี้เธอเป็นคนออกแบบจัดลายผ้าเอง แล้วทำไมคู่แข่งถึงมีแบบตัดเย็บ ปรับเปลี่ยนแค่เนื้อผ้ากับลายดอกไม้เล็กน้อยเท่านั้นเอง
“อธิบายเรื่องนี้มาซิ!”
“อะไรกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ งานของเราสั่งโรงงานตัดเย็บไปแล้วด้วย” ยี่หวาคว้าเสื้อบนโต๊ะขึ้นมาพลิกดูด้วยสีหน้าหงุดหงิด “เราต้องเร่งทางโรงงานให้รีบผลิตออกมาวางขายโดยเร็วแล้วค่ะ”
“ไม่ได้นะคะ ทำแบบนั้นจะทำให้มูลค่าของแบรนด์เราเสียหาย ลูกค้าจะมองว่าเราก๊อปปี้คู่แข่ง” พลอยขวัญทักท้วง ยี่หวาซึ่งทำงานตำแหน่งแฟชั่นดีไซเนอร์เหมือนกันจึงแหววใส่
“งั้นนางฟ้าคนสวยเรียนจบจากญี่ปุ่นช่วยคิดหน่อยสิว่า ถ้าเราไม่ทำออกขาย จะทำยังไงต่อดี พี่บุ้งจ่ายค่าผ้าแถมสั่งตัดไปแล้ว ห้ะ เจ้าหญิงตอบมาหน่อย”
“เรื่องนั้น...”
“แสดงว่าเรื่องนี้จะต้องมีหนอนบ่อนไส้แน่นอนเลยค่ะพี่บุ้ง” ยี่หวาฮึดฮัดพลางจ้องหน้าพลอยขวัญตาเขม็ง “พี่บุ้งดูสิคะ ชุดที่ถูกก๊อปปี้มีแต่ชุดที่พลอยขวัญคนสวยออกแบบทั้งนั้นเลย”
“ใครเป็นคนดูแลแบบ”
“พลอยเองค่ะ แต่พลอยยืนยันได้ว่าพลอยไม่เคยส่งข้อมูลให้คนนอก”
“นี่เป็นความลับของบริษัทนะจ๊ะเจ้าหญิง อาจารย์ที่ญี่ปุ่นไม่ได้สอนเรื่องนี้เหรอ เธอเพิ่งจะเริ่มทำงาน พี่บุ้งอุตส่าห์เห็นฝีมือยอมให้เธอรับผิดชอบโปรเจคนี้เต็มที่ แล้วดูผลงานเธอสิ พี่บุ้งเห็นมั้ยคะ ยี่หวาบอกพี่บุ้งหลายครั้งแล้วว่าเด็กคนนี้ไว้ใจไม่ได้”
คนที่ทำงานออกแบบสร้างสรรค์ การถูกกล่าวหาว่าจงใจทำข้อมูลความลับของบริษัทรั่วไหล ขายผลงานให้คู่แข่งเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากต้องโทษประหาร พลอยขวัญพยายามชี้แจงทุกอย่างแล้ว แต่ทุกอย่างยิ่งแย่ลง วงการออกแบบแคบแค่นี้เอง ไม่นานนักข่าวเรื่องนี้ก็เป็นที่รู้กันทั่ว คนที่รู้จักเธอในฐานะเจ้าหญิงของวงการต่างก็ค้นพบว่าที่แท้แล้วเธอไม่ได้เก่งจริงอย่างที่คิด ขนาดงานออกแบบของตัวเองยังกล้าขายให้คู่แข่งจนทำให้บริษัทเสียหาย แสดงว่าผลงานรางวัลที่ผ่านๆ มาก็น่าสงสัยเช่นกัน
“โปรไฟล์สวยหรูเวอร์วังขนาดนั้น สุดท้ายก็โป๊ะแตก”
“ก็ไม่เห็นจะเก่งอย่างที่โม้เลย แล้วนี่รู้มั้ย เด็กที่จบรุ่นเดียวกับแม่นั่นน่ะ เขาลือกันว่าแม่นั่นก๊อปแบบของเพื่อน ถึงได้เรียนจบมาได้ แต่คนโดนก๊อปนี่สิ แก้งานไม่ทัน ถูกปรับตกไปเลย น่าสงสารมาก”
“รางวัลประกวดอะไรนั่น คงจะให้ป๊ะป๋าใส่ซองให้กรรมการอยู่แล้ว นี่แหละนะ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ แอบขโมยแบบไปขาย คงจะทำมานานแล้วแน่ แค่โดนสั่งพักงานไม่มีกำหนดนี่ถือว่าพี่บุ้งใจดีมากเลยนะ”
สังคมการทำงานขับเคลื่อนด้วยการเหยียบย่ำ แม้พลอยขวัญจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลับมาได้
ชีวิตมีขึ้นแล้วก็ย่อมมีลง เพียงแต่เวลาลง มักจะลงวูบจนยากจะปีนกลับขึ้นมา
พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในช่วงที่พลอยขวัญถูกพักงานพอดี ทำให้ยิ่งมีข่าวลือว่าพ่อกับแม่ของเธอเสียใจมากจนขอขับรถคว่ำตายหนีอาย พลอยขวัญยังก่อเรื่องซ้ำด้วยการลอบกลับเข้าไปที่บริษัท บุกเข้าไปหาพี่บุ้งเพื่อโวยวาย เธอถูกจับตัวขึ้นโรงพักเป็นครั้งแรกในชีวิต คนที่รู้ข่าวต่างสมน้ำหน้าเพราะทำผิดแล้วยังไม่สำนึก แถมยังฟาดงวงฟาดงาใส่เจ้านายอีก ใครจะกล้าจ้างงาน ใครจะกล้าใส่ชุดที่เธอออกแบบ ชื่อเสียงของพลอยขวัญเสียหายในชั่วข้ามคืน คนรู้จักต่างเมินหนีทำเหมือนไม่เคยรู้จักกัน
นับจากนั้นมาพลอยขวัญยิ้มให้ใคร คนคนนั้นก็เดินหนี หรือไม่ก็มองเมินไปทางอื่น พลอยขวัญถึงได้เข้าใจว่าคนที่ไม่มีใครคบเป็นเช่นนี้นี่เอง