บทนำ 2
พลอยขวัญยิ้ม ล้วงหยิบสายวัดตัวออกมาวัดตัวให้ “เพิ่งจะมีเราเป็นคนแรกเลยนะที่ตอบแบบนี้”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะเป็นนายแบบ จะได้ใส่ชุดของพี่เยอะๆ”
“ด้วยความยินดีเลย” พลอยขวัญยิ้มกว้างขึ้นไปอีก ดวงตาเป็นประกาย ก่อนจะหัวเราะเมื่อได้ยินคำตอบของหนุ่มน้อย
“ถ้าจะเป็นนายแบบก็ต้องบุคลิกดี กล้าแสดงออก รู้วิธีโพสท่าทางนำเสนอเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ แล้วถ้าจะโกอินเตอร์ก็ต้องเก่งภาษา” พลอยขวัญจับแก้มเด็กชายแล้วพินิจพิจารณาใกล้ๆ “ว้าว หล่อจัง พี่ว่าพี่เห็นแววในตัวเราแล้วนะ ไหนยิ้มให้ดูหน่อย ยิ้มแล้วหล่อขึ้น 300%”
“อื้อ!”
“โอเค พี่จะรอนะสุดหล่อ”
“อื้อ!!”
“ถึงจะไม่ชินเพราะเพิ่งย้ายโรงเรียนมา แต่น้องจะหาเพื่อนใหม่ได้แน่ๆ อย่าเพิ่งท้อนะ” พลอยขวัญสอนวิธีหาเพื่อน นั่นคือรอยยิ้มและคาถา ‘ขอเราเล่นด้วยได้มั้ย’ ถ้าลองใช้คาถาวิเศษนี้ รับรองเลยว่าไม่เหงาอีกแน่นอน
“ตั้งใจเรียนนะหนุ่มหล่อ” เธอต้องกลับแล้วจึงยกมือไหว้คุณป้าก่อนจะโบกมือบ๊ายบายให้ เด็กชายจึงคว้าชายแขนเสื้อพี่สาวคนสวยไว้แล้วถามเสียงอ่อยๆ
“ผมจะได้เจอพี่อีกมั้ยครับ”
“แน่นอนสิ เราต้องได้เจอกันอีกแน่ๆ” พลอยขวัญก้มตัวลงมาพลางลูบศีรษะเด็กชายอย่างเอ็นดู “พี่ชื่อพลอย ถ้าเจอกันคราวหน้าให้เรียกพี่พลอยสุดสวยนะ”
“ครับพี่พลอยสุดสวย”
เด็กชายโบกมือให้พลอยขวัญสุดแรง น่าร๊าก!! พลอยขวัญหัวเราะพลางโบกมือตอบ ก่อนจะเดินไปขึ้นรถซึ่งมีคนขับรออยู่ แต่บังเอิญสมุดวาดรูปของเธอหล่น เด็กชายจึงรีบเก็บแล้ววิ่งไล่ตามรถ แต่รถวิ่งไปไกลเสียแล้ว เขาจึงเก็บสมุดเล่มนั้นไว้ดุจของล้ำค่าตลอดมา
“แต่นแต๊น”
หลายวันถัดมาพลอยขวัญแวะไปที่แผงในตลาด เจอหนุ่มน้อยนั่งอ่านหนังสืออยู่ เธอจึงเคาะโต๊ะเรียก พอเด็กชายเงยหน้าขึ้นเจอเธอก็ยิ้มกว้างสุดกำลัง กระโดดลุกขึ้นมาและจูงมือเธอเข้าไปนั่งหลังแผงขายของด้วยกัน
“พี่พลอยสุดสวย”
“อ่านหนังสืออยู่เหรอ” พลอยขวัญนั่งลงข้างๆ เมื่อครู่นี้เธอเจอคุณป้าของหนุ่มน้อยที่หน้าตลาด ป้าเล่าให้ฟังว่าพ่อของเด็กคนนี้ติดเหล้า ดื่มหนักทุกวันไม่มีลดลงเลย สุดท้ายก็เกิดเรื่องน่าเศร้าที่เด็กคนหนึ่งไม่ควรต้องเจอ ป้าบอกว่าไม่มีใครต้องการเด็กคนนี้เลย ป้าจึงต้องพามาอยู่ด้วยความสงสาร แย่หน่อยที่วันนี้เป็นวันพบผู้ปกครองที่โรงเรียน แต่ป้าต้องขายของก็เลยไม่ได้ไป ทำให้พลอยขวัญรู้ทันทีว่าเขาต้องซึมอยู่แน่
“วันนี้ผลการเรียนออกเหรอ”
พลอยขวัญยิ้ม เห็นคะแนนแต่ละวิชาในสมุดพกแล้วถือว่าไม่เลวเลย แต่เด็กชายอับอาย สองมือกำแน่นและเอาแต่ก้มมองพื้น เธอเห็นเขาคอตกแบบนั้นจึงประคองแก้มแล้วมองตา “มันไม่ใช่ความผิดของเราหรอกนะที่พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่กับเรา”
เด็กชายเบิ่งตามองเธอ ค้นพบสิ่งที่เขาไม่ค่อยมีโอกาสรู้จัก นั่นคือความเมตตาและอ่อนโยน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครพูดกับเขาแบบนี้เลย พลอยขวัญหยิบสมุดพกของเด็กชายขึ้นมาอ่านคะแนนแต่ละวิชาอย่างตั้งใจ และชมเขา
“ต่อให้ไม่มีใครไปรับสมุดพกพร้อมกับเรา แต่รู้มั้ย เราควรจะได้รับคำชมว่าเรียนดีและน่ารักแค่ไหน” พลอยขวัญหยิบการบ้านของเขามาเปิดดู “ว้าว ลายมือสวยมากเลย ไม่แปลกใจเลยที่ได้คะแนนเต็ม... เก่งมากเลยนะ”
เด็กชายน้ำตาซึม นั่งฟังพลอยขวัญชมเชยเงียบๆ พลอยขวัญจึงลูบศีรษะและรับฟังเขาอวดภาพวาดระบายสีที่ชนะรางวัลประกวด เป็นรูปท้องทะเลสดใส มีกุ้งหอยปูปลาและเงือกแสนสวยแหวกว่ายรื่นเริง พลอยขวัญจึงชี้ไปที่ไข่มุกซึ่งอยู่ในมือของนางเงือก
“รู้มั้ยว่าไข่มุกเกิดขึ้นมาได้ยังไง”
“หนังสือบอกว่าเกิดจากมีทรายเข้าไปทำให้หอยมุกระคายเคือง ก็เลยเคลือบด้วยมุกไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นมุกครับ”
“เก่งมาก” พลอยขวัญมองเขาอย่างอ่อนโยน “เศษทรายที่สร้างความระคายเคือง แปรเปลี่ยนมาเป็นอัญมณีแสนงามและล้ำค่า มันน่าทึ่งมากเลยว่ามั้ย”
“...”
“เพราะงั้น ต่อให้จะมีอะไรแย่ๆ เข้ามา ให้รู้ไว้ว่าเราจะยิ่งเปล่งประกาย”
“ครับ”
แววตาของเด็กคนนี้กลับมาสดใสอีกครั้ง พลอยขวัญโคลงศีรษะไปมา แบบนี้แหละยอดเยี่ยม ไม่ว่าเด็กคนไหนก็ไม่ควรต้องเสียเวลาไปกับการนั่งหดหู่และเศร้าซึม
“พี่แวะมาร่างแบบเสื้อที่เราอยากได้นะ มีแบบไหนที่ชอบเป็นพิเศษมั้ย”
“ไม่มีครับ” หนุ่มน้อยส่ายหน้า ก่อนจะนึกขึ้นได้จึงรีบรื้อหาสมุดวาดภาพที่พี่สาวลืมไว้ แต่ไม่รู้ว่าป้าย้ายไปเก็บไว้ไหน “วันก่อนพี่พลอยสุดสวยทำสมุดหล่นไว้ครับ ผมเก็บไว้ให้แต่ไม่รู้ไปวางไว้ตรงไหน เดี๋ยวผมหาให้นะ”
“เดี๋ยวค่อยหาก็ได้ มาๆ มาดูแบบที่พี่ร่างไว้ให้ก่อนนะ” พลอยขวัญหยิบสมุดสเก็ตซ์ภาพออกมาเปิดให้ดู มีภาพร่างเสื้อผ้าของเด็กชายหลากหลายแบบ ดูสดใสและเท่เหมือนหลุดออกมาจากในการ์ตูนที่เด็กชายชอบดูเลย
“ผิวโทนเหลืองลออ ใส่ชุดโทนสีน้ำตาลคาราเมลจะขึ้นมากเลยนะ แต่สิ่งที่คิดกับสิ่งที่ทำได้ มันมักจะสวนทางกันไปหน่อย ตอนนี้พี่ทำเป็นแค่แพทเทิร์นไม่กี่อย่าง ถ้าแบบนี้ล่ะชอบมั้ย”
พลอยขวัญชี้ไปที่แบบแจ๊กเกตแฮริงตัน แต่งซิปโลหะบริเวณด้านหน้าแจ๊คเก็ต และมีซับในลายสก็อตหรือลายกราฟฟิค ช่วงเอวจะจั๊มสั้น แต่งแขนแนวแร็กแลน (Raglan) ข้อมือจะมีความยืดหยุ่น มีกระเป๋าทั้งสองข้าง ตัวแบบเรียบๆ เพราะยังรอไอเดียจากเจ้าตัวอยู่
“อยากให้พี่ใส่อะไรลงไปเพิ่มมั้ย”
“...” เด็กชายคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดูพี่สาววาดรูปอย่างตั้งอกตั้งใจ “ผมแอบเปิดดูสมุดของพี่ มีชุดสวยๆ หลายชุดเลย พี่พลอยชอบชุดไหนที่สุดเหรอครับ”
“ลองเดาดูสิ”
“...ชุดที่มีดาวสีเหลืองประดับ”
“รู้ได้ยังไงนี่ เก่งจัง”
“ก็พี่พลอยวาดชุดนั้นเยอะที่สุดเลยนี่ครับ” พลอยขวัญหัวเราะ ชุดประดับดาวนั้นเป็นชุดที่เธอร่างไว้หลายมุมมอง เป็นเดรสเกาะอกสีขาว เอวเข้ารูป กระโปรงบานพลิ้วไหว ประดับลวดลายดวงดาวห้าแฉกสีเหลืองสดใสเล็กบ้างใหญ่บ้าง ไล่เฉดสีจากชายกระโปรงขึ้นบนอย่างสวยงาม
“พี่ตั้งใจว่าจะตัดชุดนั้นใส่ไปงานพรอม ตอนนี้ก็ฝึกฝีมือไปก่อน ปีหน้าพี่คงจะมั่นใจพอรับออกแบบและตัดเย็บชุดงานพรอมให้รุ่นพี่”
“งานพรอมคืออะไรเหรอครับ”
“เป็นงานเลี้ยงเต้นรำที่นักเรียนมัธยมปลายจัดก่อนที่พวกเขาจะเรียนจบและแยกย้ายกันไป ผู้หญิงจะแต่งตัวสวยจัดเต็ม ริบบิ้นกับช่อดอกไม้เล็กๆ ผูกข้อมือ ส่วนผู้ชายจะใส่สูททักซิโด้หรือสูททางการ จะมีสตอรี่กุ๊กกิ๊กๆ ตรงที่หนุ่มๆ จะต้องพยายามชวนสาวไปเป็นคู่เดตงานพรอม แต่พี่เรียนโรงเรียนหญิงล้วน เพราะฉะนั้นก็เลยจะมีแค่สาวๆ จ้ะ”
“ผมก็อยากได้แจ๊กเกตที่มีดาวบ้าง จะได้ใส่คู่กับพี่พลอย”
“โอเค งั้นเพิ่มดาวตรงข้อมือดีมั้ย แล้วก็ปักลายดาวไล่เฉดสีแบบชุดเดรสของพี่ อืมม สีเสื้อก็ตรงปรับจากน้ำตาลคาราเมลเป็นสีครีมนะ จะได้เข้ากัน วันที่พี่เรียนจบม.ปลาย พี่จะให้เราเป็นคนพาพี่ไปงานพรอมนะ”
“อื้อ!” เขาชูกระปุกออมสินใบย่อมๆ ออกมาวาง “ผมจะรีบๆ โตครับ ผมขอจ่ายค่าเสื้อเป็นเหรียญได้มั้ยครับ”
“ฮะๆๆ ตกลง” พลอยขวัญขยี้ผมเด็กชาย ยินดีที่ได้รู้จักนะลูกค้าคนแรกในชีวิตของฉัน