ชดใช้
ปิ่นปัก....
"เธอไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้นปิ่นปัก"
"พี่นนท์!!!!"
"ฉันไม่ใช่พี่เธอเธอไม่ใช่ลูกสาวของพ่อฉันฉะนั้นอย่ามาสะเออะเรียกฉันว่าพี่เพราะฉันไม่มีน้องสาวอย่างเธอเธอมันก็แค่ลูกของผู้หญิงสารเลวหน้าด้านไร้ยางอายเพราะแม่ของเธอทำให้พ่อของฉันต้องตายเธอต้องชดใช้ อยู่เป็นคุณหนูมาตั้งแต่เกิดแล้วนี่ลองมาเป็นขี้ข้าดูบ้างจะเป็นไรไป"
ฉันยอมรับว่าตกใจและใจเต้นแรงไปพร้อมกันเมื่อเห็นคนตรงหน้า พี่ชานนท์พี่ชายของฉันไม่สิเขาไม่ใช่พี่ชายของฉันเราสองคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยเพราะฉันไม่ใช่ลูกสาวของคุณพ่อ สายตาของเขาที่มองมาที่ฉันมันมีแต่ความเกลียดชังมันเป็นสายตาที่ฉันเห็นมาตั้งแต่เกิดฉันรู้มาตลอดว่าเขาเกลียดฉันเกลียดแม่ของฉันมากแค่ไหน ตอนที่ฉันยังเป็นเด็กตอนที่เขายังไม่ได้ไปเรียนต่อฉันพยายามทำทุกวิถีทางให้เขายอมรับว่าฉันเป็นน้องสาวแต่เขาก็ไม่เคยยอมรับว่าฉันเป็นน้องเลยฉันถูกเขากลั่นแกล้งหลายต่อหลายครั้งแต่ฉันก็ไม่เคยบอกใครเพราะฉันรู้ว่าถ้าคุณแม่หรือคุณพ่อรู้เรื่องเขาจะต้องโดนทำโทษ แต่แทนที่เขาจะหยุดรังแกฉันเปล่าเลยพอเขาเห็นว่าฉันไม่บอกใครเรื่องที่เขารังแกเขาก็ยิ่งแกล้งฉันแม้ว่าตอนนั้นฉันจะยังเด็กมากอายุแค่ห้าขวบแต่ฉันก็จำได้ไม่เคยลืม
หลายสิบปีก่อน
ฉันในตอนนั้นอายุเพียงห้าขวบได้ทำการ์ดวันเกิดให้กับเขา หลังจากทำเสร็จฉันก็รีบวิ่งเอาไปให้เขาทันที
"พี่นนท์ขา" ฉันเรียกเขาว่าพี่ตามที่คุณพ่อบอกเพราะเขาคือพี่ชายของฉันแม้ว่าเราสองคนจะคนละแม่ก็ตาม
"ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ใช่พี่เธออย่ามาเรียกฉันว่าพี่" พี่นนท์ตะคอกใส่ฉันเสียงดังมาก
"แต่คุณพ่อบอกให้เรียกนี่คะแล้วอีกอย่างเราก็เป็นพี่น้องกัน" ฉันอธิบายแต่ดูเหมือนเขาจะโกรธฉันมากกว่าเดิม
"ฉันไม่มีน้องและไม่คิดอยากจะมี"
"แต่ว่า..."
"เลิกวุ่นวายกับฉันสักทีจะได้ไหม เดี๋ยวแม่เธอมาเห็นก็จะหาว่าฉันรังแกเธออีก"
"พรุ่งนี้วันเกิดพี่นนท์เอ่อคุณนนท์ใช่ไหมคะ นี่ค่ะ ปิ่นทำการ์ดอวยพรวันเกิดมาให้ค่ะ" ฉันยื่นการ์ดวันเกิดที่ทำด้วยตัวเองให้กับเขาแต่...
แคว่ก!!! แคว่ก!!!!! แคว่ก!!!!!!
เขาฉีกการ์ดวันเกิดที่ฉันทำให้เขาเป็นชิ้นๆแล้วทิ้งลงพื้นฉันมองไปที่พื้นด้วยความน้อยใจเสียใจที่เขาทำแบบนั้นกับสิ่งที่ฉันตั้งใจทำ
"อ้าปาก!!!" เขาบอกฉันด้วยน้ำเสียงดุจนฉันตกใจ
"ทำไมต้องอ้าปากด้วยคะ" ฉันถามกลับไปด้วยความสงสัย
"ฉันบอกให้อ้าปากก็ทำตามที่ฉันสั่ง" ฉันในตอนนั้นก็ยอมทำตามที่เขาบอกแต่โดยดีเพราะกลัวเขาจะโกรธฉันมากกว่าเดิม จากนั้นฉันก็เห็นเขาก้มลงไปเก็บเศษกระดาษพวกนั้นขึ้นมาแล้วยัดใส่ปากของฉันแล้วบังคับให้ฉันเคี้ยวแล้วก็กลืนมันลงไป ฉันยืนร้องไห้น้ำตาคลอแต่ก็ยอมทำตามที่เขาสั่งฉันเคี้ยวไปร้องไห้ไป
"เคี้ยวแล้วก็กลืนลงไปด้วยห้ามคายออกมาเด็ดขาด"
"ฮึก ฮึก ฮึก อึก อึก" ฉันจำใจกลืนสิ่งที่อยู่ในปากลงคอด้วยความยากลำบาก
"จำใส่หัวเอาไว้ว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันอีกไม่อย่างนั้นจะเจอหนักกว่านี้แน่" พูดจบเขาก็เดินเข้าห้องแล้วก็ปิดประตูใส่หน้าฉันอย่างแรง ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันรีบวิ่งไปอาเจียนในห้องโดยไม่ให้ใครเห็น สิ่งที่เขาทำมันจำฝังใจฉันมาตลอดจนถึงวันนี้
"ลุงทนายครับให้ใครก็ได้มาจัดการเอาโลงศพของผู้หญิงสารเลวคนนี้ไปตั้งไว้ที่อื่นหรือจะเอาไปเผาเลยก็ได้เพราะผมไม่อยากเห็นคนที่ทำให้พ่อผมตาย" เขาหันไปพูดกับลุงทนายที่กำลังเดินเข้ามาฉันรีบลุกไปยืนขวางหน้าโลงศพของแม่ทันที
"ไม่ได้นะคะปิ่นไม่ยอม" ฉันไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้นเป็นอันขาดถึงฉันจะรู้อยู่เต็มอกว่าแม่ของฉันเป็นต้นเหตุแต่ตอนนี้ท่านก็จากไปแล้ว
"เธอมีสิทธิ์อะไรมาไม่ยอมห๊ะ เธออย่าลืมว่าเธอกับแม่ของเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวของฉัน
"แต่แม่ของปิ่นก็จดทะเบียนแต่งงานกับคุณพ่อนะคะ"
"คุณพ่อ??จนถึงตอนนี้เธอยังหน้าด้านเรียกที่ว่าคุณพ่ออยู่อีกงั้นเหรอห๊ะ โคตรหน้าด้านเลยหน้าด้านเหมือนแม่ของเธอ"
เพี๊ยะ!!!! ฉันไม่รู้ว่าอะไรถึงทำให้ฉันกล้าตบหน้าเขา ถึงฉันจะโกรธเขาที่เขาว่าแม่แต่ฉันก็ไม่ควรไปตบหน้าเขาต่อหน้าคนทั้งงาน
"เธอกล้ามากที่กล้าทำแบบนี้ เธอเตรียมรอรับผลกรรมที่แม่เธอทำไว้ได้เลยปิ่นปัก ชีวิตของเธอต่อไปจากนี้จะไม่รู้จักคำว่าความสุขอีกเลยไม่เชื่อคอยดู!!!" เขาบอกกับฉันด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นชิงชัง จากนั้นโลงศพของแม่ก็ได้ถูกย้ายไปตั้งอีกศาลานึงเพราะเขาไม่ยอมให้โลงของแม่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับโลงของคุณพ่อฉันซึ่งทำอะไรไม่ได้ เขาเกลียดแม่ฉันมากแค่ไหนเขาก็เกลียดฉันมากเท่านั้น ฉันไม่รู้เลยว่าชีวิตของฉันหลังจากนี้มันจะเป็นยังไงต่อไปแต่ฉันก็จะทนเผื่อว่าความเกลียดชังที่เขามีมันจะบรรเทาเบาบางลงไป ฉันรู้ว่าแม่ของฉันทำผิดกับครอบครัวของเขาเอาไว้มาก ฉันซึ่งเป็นลูกก็ต้องชดใช้
หลังจากพิธีฌาปนกิจผ่านพ้นไปพี่แจ่มพี่เลี้ยงของฉันก็ถูกให้ออกส่วนฉันก็ถูกให้ย้ายลงมาอยู่ห้องด้านล่างซึ่งเป็นห้องรับแขก ตอนแรกเขาจะให้ฉันไปนอนอยู่ที่เรือนคนใช้แต่ไม่รู้เพราะอะไรจู่ๆเขาก็เกิดเปลี่ยนใจให้ฉันมานอนที่ตึกใหญ่แต่ให้นอนที่ห้องรับแขกซึ่งอยู่ด้านล่างแทน ห้องนี้จะเล็กกว่าห้องนอนเดิมของฉันมากแต่ฉันก็อยู่ได้เพราะฉันไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรในเมื่อเขาสั่งให้อยู่ตรงไหนฉันก็ต้องอยู่ ถามว่าทำไมฉันต้องอยู่ทำไมไม่ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นนั่นเป็นเพราะฉันต้องชดใช้ในสิ่งที่แม่ของฉันได้ทำลงไปเขาบอกว่าตราบใดที่เขายังไม่เจอแม่ของเขาฉันก็ไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น
"จำเอาไว้ตราบใดที่ฉันยังหาแม่ของฉันไม่เจอเธอก็ต้องอยู่ชดใช้ความผิดแทนแม่ของเธออยู่ที่นี่!!!" นั่นคือคำพูดของเขาในวันนั้น
หลังจากนั้นเป็นต้นมาชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เคยเป็นคุณหนูมีพี่แจ่มคอยดูแลมีแม่ครัวทำอาหารให้กินมีแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องให้มีคนเอาผ้าไปซักเอาไปรีดให้แต่ตอนนี้ฉันต้องทำเองหมดทุกอย่าง ตอนแรกฉันก็ไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่เง๊อะๆง๊ะๆเพราะทำอะไรเองไม่เป็น แต่สุดท้ายฉันก็ทำได้ ซึ่งตอนนี้พอทุกคนรู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกสาวของคุณพ่อทุกคนก็ไม่เคยเรียกฉันว่าคุณหนูปิ่นอีกเลยทุกคนเรียกฉันว่าปิ่นเฉยๆซึ่งฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรใครอยากเรียกยังไงก็เรียกไป
"ปิ่นคุณนนท์ให้ไปพบ" พี่ดวงแม่บ้านเดินมาบอกฉันที่ในครัว
"ค่ะ" ฉันรีบล้างมือแล้วไปหาเขาที่ห้องรับแขก
"คุณนนท์เรียกปิ่นมามีอะไรหรือเปล่าคะ"
"มีถ้าไม่มีฉันคงไม่เรียกเธอมาหรอกเพราะเธอก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่ได้อยากเห็นหน้าเธอ"
"ค่ะปิ่นทราบ" ฉันก้มหน้าตอบ อยากจะบอกว่าตั้งแต่เขากลับมาแล้วสั่งให้ฉันอยู่ที่นี่ในฐานะคนรับใช้ในบ้านฉันจะต้องคอยหลบหน้าเขาตลอดเพราะเขาสั่งเอาไว้ว่าถ้าเขาอยู่บ้านก็อย่ามาให้เขาเห็นหน้า
"เดี๋ยวลุงทนายจะมาเปิดพินัยกรรมซึ่งในพินัยกรรมนั้นมันมีชื่อเธอกับแม่ของเธออยู่ด้วย"
"ค่ะ"
"เธอน่าจะรู้ว่าในพินัยกรรมพ่อได้แบ่งอะไรให้เธอกับแม่เธอบ้างซึ่งตอนที่ท่านทำท่านยังไม่รู้ความจริงที่แม่เธอปกปิด"
"ค่ะ"
"จากภาพและเสียงในกล้องบนรถที่บันทึกเอาไว้พ่อของฉันท่านบอกกับแม่เธอว่าท่านจะเปลี่ยนพินัยกรรมทั้งหมดโดยที่เธอกับแม่ของเธอจะไม่ได้อะไรเลยแต่แม่ของเธอไม่ยอมก็เลยเป็นสาเหตุให้ทะเลาะกันจนเกิดอุบัติเหตุ"
"ค่ะ"
"ฉันต้องการให้เธอเซ็นต์คืนทุกอย่างกลับมาเพราะเธอไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้น"
"ได้ค่ะปิ่นจะคืนทุกอย่างให้คุณนนท์แต่ปิ่นมาข้อแลกเปลี่ยนหนึ่งข้อ"
"อะไร"
"ปิ่นขอแค่คุณนนท์ให้ปิ่นได้เรียนต่อปิ่นขอแค่นี้"
"เธอยังกล้ามาต่อรองกับฉันอีกงั้นเหรอ เหอะ เธอรู้ไหมว่าค่าเทอมเธอมันแพงขนาดไหนฉันจะต้องใจดีส่งเสียเธออีกงั้นเหรอห๊ะไม่ทุเรศไปหน่อยรึไง"
"ถ้าคุณนนท์ไม่ทำตามที่ปิ่นขอร้องเรื่องพินัยกรรมปิ่นก็จะไม่คืนค่ะ" ฉันแค่ขู่เขาไปอย่างนั้นเองเพราะถึงยังไงฉันก็ต้องคืนให้เขาอยู่แล้วเพราะมันไม่ใช่ของฉัน แต่ฉันขอแค่อย่างเดียวขอแค่เขายอมให้เรียนต่อจนจบมอหกแค่นั้นเอง อีกแค่ปีเดียวฉันก็จะเรียนจบแล้ว
"ปิ่นปัก!!! เธอนี่มันเลวเหมือนแม่เธอไม่มีผิด" ฉันก้มหน้ายอมรับคำด่าจากเขาไม่โต้แย้งใดๆ