จัดการ
ชานนท์....
ตอนนี้ผมบินกลับมาถึงไทยแล้วหลังจากที่ไม่ได้กลับมานานหลายสิบปีก็ตั้งแต่ผมอายุได้เจ็ดขวบนั่นแล่ะ ที่ผ่านมาผมต้องใช้ชีวิตตามลำพังเพียงคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องไม่มีใครเพราะผมไม่เอาใครพ่อส่งใครมาดูแลผมผมก็ไล่กลับไปหมดในเมื่อไม่อยากให้ผมอยู่ขวางหูขวางตาก็ไม่ต้องมาสนใจว่าผมจะอยู่ได้ไหมคนเดียวในประเทศที่ผมไม่คุ้นเคย ตอนแรกผมก็เหงามากแม้จะมีเพื่อนต่างชาติเข้ามาคุยด้วยแต่ผมก็ยังเหงาอยู่ดี ผมคิดถึงบ้านคิดถึงแม่คิดถึงครอบครัวที่เคยอบอุ่นที่มันไม่มีอีกต่อไปแล้วตั้งแต่วันที่พ่อผมพาปานวาดผู้หญิงสาระเลวคนนั้นเข้ามาในบ้าน
เรื่องที่ท่านเสียถามว่าผมเสียใจไหมผมก็ต้องเสียใจอยู่แล้วเพราะท่านคือพ่อของผมผมรักท่านนะไม่ใช่ไม่รักเพราะถ้าผมไม่รักท่านผมคงไม่กลับมาหรอกและที่ผมกลับมาคราวนี้ผมก็จะมาจัดการกับตัวปัญหาให้พ้นไปจากวงจรชีวิตของผมซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับคนๆนั้นก็คือน้องสาวนอกไส้ของผมเองน้องสาวที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผมเลยแม้แต่น้อย ผู้หญิงคนนั้นหลอกลวงพ่อผมมาตั้งแต่แรกหลอกว่าเด็กคนนั้นคือลูกของท่าน แต่สุดท้ายความจริงถูกเปิดเผยว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของพ่อผม ผมถามลุงทนายว่าพ่อผมรู้ได้ยังไง ลุงทนายเล่าให้ผมฟังว่าวันนึงมีข้อความส่งมาหาพ่อผมบอกว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของท่านตอนแรกพ่อผมก็ไม่เชื่อแต่ด้วยความสงสัยและไม่สบายใจท่านก็เลยพาเด็กนั่นไปตรวจดีเอ็นเอโดยหลอกว่าจะไปบริจาคเลือดโดยไม่ให้ผู้หญิงสารเลวคนนั้นรู้ ไม่นานผลตรวจดีเอ็นเอก็ออกมาว่าท่านกับเด็กนั่นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลยไม่ได้เป็นพ่อลูกกัน พอพ่อผมรู้ความจริงท่านก็โกรธและโมโหไปขอเลิกกับผู้หญิงคนนั้นทันที แต่ผู้หญิงสาระเลวนั่นไม่ยอมไปแต่โดยดีกลับมาขู่เอาเงินจากพ่อขอผมซึ่งพ่อของผมก็ยอมให้เพื่อตัดปัญหา ซึ่งระหว่างทางไปอำเภอเพื่อหย่าพ่อผมกับผู้หญิงคนนั้นทะเลาะกันซึ่งเรื่องที่ทะเลาะก็คือเรื่องเงินนั่นแล่ะเพราะพ่อผมจะเปลี่ยนพินัยกรรมทั้งหมดโดยจะยกทุกอย่างให้เป็นของผมเพียงคนเดียวเด็กนั่นจะไม่ได้อะไรเลยปานวาดก็เลยโกรธและทะเลาะกันและได้มีการแย่งพวงมาลัยกันจนทำให้รถเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตทั้งคู่ นั่นก็เท่ากับว่าพ่อผมกับปานวาดยังไม่ได้หย่ากัน ผมเมื่อได้รู้ความจริงผมยิ่งเกลียดผู้หญิงสารเลวนั่นมากกว่าเดิมผู้หญิงโกหกที่หวังแค่เงินจากพ่อผม จะว่าผมใจร้ายก็ได้นะผมคิดในใจในตอนนั้นว่าทำไมเด็กนั่นไม่ตายตามแม่สารเลวของมันไปซะจะอยู่ให้ผมต้องไปเจอหน้าอีกทำไม ถ้าให้ผมเดานิสัยก็คงไม่ต่างจากแม่หรอกแม่เลวยังไงลูกก็คงเลวไม่ต่างกันหรืออาจจะเลวมากกว่าก็ได้ใครจะรู้ เพราะเหตุนี้ผมถึงต้องกลับมาจัดการทุกอย่างให้มันถูกต้องในแบบฉบับของผม และพอผมจัดการเรื่องเด็กนั่นเสร็จผมก็จะจ้างคนตามหาแม่ของผมอีกครั้งเพราะจนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าแม่ผมอยู่ที่ไหนท่านเป็นยังไงบ้าง แต่ผมก็ภาวนามาตลอดว่าขอให้แม่ผมมีความสุขและผมก็ยังหวังอีกว่าสักวันผมกับแม่จะได้เจอกันอีกครั้ง
"คุณนนท์จะไปที่วัดเลยใช่ไหมครับ" ลุงทนายหันมาถามผม
"ครับ" ผมตอบลุงทนาย
เวลาต่อมา...
ตอนนี้ลุงทนายพาผมมาถึงวัดแล้วแต่ผมยังไม่ได้ลงจากรถผมมองดูทุกอย่างจากภายในรถซึ่งที่ศาลามีแขกเหรื่อมากหน้าหลายตาที่มางานศพพ่อของผมซึ่งก็ไม่แปลกหรอกเพราะพ่อผมเป็นนักธุรกิจใหญ่มีคนรู้จักมากมาย ผมกำลังใช้สายตามองหาใครบางคนอยู่
"คุณนนท์มองหาใครหรือครับ"
"มองหา...น้องสาวของผมครับ" ผมตอบลุงทนายไปแบบนั้นเพราะผมยังไม่ได้บอกใครว่าผมจะจัดการยังไงกับปิ่นปัก
"ลุงดีใจนะครับที่คุณนนท์ยังเอ็นดูหนูปิ่นไม่โกรธไม่เกลียดเธอเหมือนแต่ก่อน" ผมนั่งแสยะยิ้มภายใต้ความมืด
"อะไรถึงทำให้ลุงทนายคิดว่าผมเป็นคนดีขนาดนั้นล่ะครับ" ผมถามกลับไปแต่สายตาก็ยังคอยสอดส่องมองหาคนบางคนที่ผมไม่เจอหน้ามาหลายสิบปี
"ก็เพราะหนูปิ่นไม่รู้เรื่องอะไรที่คุณปานวาดทำเลยนี่ครับเธอไม่รู้อะไรเลย"
"แน่ใจเหรอครับว่าไม่รู้ เด็กนั่นอาจจะรู้แต่ไม่บอกหรือเปล่า"
"คุณนนท์"
"ผมจะบอกให้นะครับลุงว่าผมน่ะแม่งโคตรเกลียดเด็กนั่นเลย และที่ผมกลับมาที่นี่ผมก็จะกลับมาจัดการกับน้องสาวนอกไส้ของผมเป็นอันดับแรก"
"แต่คุณนนท์ครับลุงขอร้องอย่าทำอะไรหนูปิ่นเลยนะครับเธอเป็นเด็กดีมากแล้วที่สำคัญคุณท่านก็รักหนูปิ่นมาด้วย"
"เพราะตอนนั้นพ่อผมไม่รู้ความจริงไงแต่พอท่านรู้ท่านก็ไล่สองแม่ลูกนั่นออกจากบ้านไม่ใช่เหรอครับ"
"ก็ใช่ครับแต่ว่า..."
"ผมจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวของผมเองคุณลุงไม่ต้องเสนอความคิดอะไรทั้งนั้น เข้าใจตามนี้ด้วยนะครับ" พูดจบประโยคผมก็เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินเข้างานไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย
"คุณนนท์!!!ใช่คุณนนท์หรือเปล่าคะ" ผมหันไปมองหน้าหญิงชราที่เดินเข้ามาทักผม
"ป้าจิต ใช่ป้าจิตแม่ครัวใช่มั้ยครับ" ผมถามแกกลับไปเพราะผมก็พอจะจำคนเก่าคนแก่ที่บ้านได้บ้างแม้จะไม่ครบทุกคน
"ใช่ค่ะ ป้าเอง โอ๊ยป้าดีใจจริงๆที่คุณนนท์กลับมาเสียที ฮืออ ฮือออ คุณนนท์ป้าคิดถึงคุณนนท์เหลือเกินคุณนนท์ไปเรียนเมืองนอกตั้งหลายปีไม่กลับมาเยี่ยมบ้านบ้างเลยนะคะรู้มั้ยว่าป้าคิดถึง ฮืออ ฮืออออ" ป้าจิตแกกอดผมทั้งน้ำตาผมก็กอดแกกลับไป สักพักก็มีแม่บ้านแม่ครัวคนอื่นเข้ามาทักทายถามผมซึ่งบางคนผมก็จำได้บางคนผมก็จำไม่ได้บางคนผมก็ไม่รู้จัก
"ไม่ได้เจอคุณนนท์ตั้งหลายปีกลับมาคราวนี้เป็นหนุ่มหล่อเลยนะคะ^^"
"ใช่ค่ะตอนที่คุณนนท์ไปเรียนต่อยังเด็กอยู่เลยกลับมาคราวนี้หล่อมากด้วยหล่อเหมือนพระเอกซีรี่ย์เลยค่ะ" คนอื่นๆก็ชมผมกันใหญ่ผมก็ทำได้แค่ยิ้มเท่านั้น
"คุณนนท์ไปไหว้ศพคุณท่านกับคุณปานวาดก่อนนะคะมาค่ะเดี๋ยวป้าพาไป"
"ผมจะไหว้แค่พ่อผมคนเดียวคนอื่นผมไม่ไหว้"
"จะดีเหรอคะ"
"ป้าจุดธูปมาให้ผมไหว้แค่พ่อคนเดียวก็พอคนอื่นผมไหว้ไม่ลง"
"เอ่อก็ได้ค่ะ งั้นคุณนนท์ตามป้ามาทางนี้ค่ะ" ผมเดินตามป้าจิตเข้าไปด้านในจนกระทั่งมายืนอยู่ตรงหน้าโลงศพสองโลงที่วางข้างกันโลงนึงพ่อผมส่วนอีกโลง...ผมไม่อยากเอ่ยถึงเพราะมันเสนียดปาก
แต่ก่อนที่ผมจะนั่งลงไปที่พื้นเพื่อเคารพศพพ่อผมก็เพิ่งสังเกตเห็นผู้หญิงสองคนกำลังนั่งหันหลังให้ผมอยู่ มองจากด้านหลังคนนึงเป็นผู้หญิงผมยาวถึงกลางหลังสวมชุดสีดำนั่งพับเพียบอยู่ส่วนอีกคนสวมชุดเหมือนป้าจิตถ้าให้เดาน่าจะเป็นแม่บ้านหรือไม่ก็แม่ครัวเพราะคนงานทุกคนจะต้องใส่ชุดยูนิฟอร์ม ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นใครจนกระทั่งเจ้าตัวเอ่ยชื่อตัวเองขึ้นมา ผมก็เลยหันไปบอกให้ป้าจิตไปช่วยงานตรงส่วนอื่นต่อทางนี้ผมจะจัดการเอง พอป้าจิตไปผมก็เดินเข้าไปใกล้เพื่อจะได้ยินชัดๆว่าสองคนนั้นพูดอะไรกัน
"ถ้าเสร็จจากงานศพแล้วปิ่นคงจะต้องออกจากบ้านคุณพ่อนะคะเพราะปิ่นไม่ได้เป็นลูกสาวของท่านถ้าถึงตอนนั้นพี่แจ่มจะกลับไปอยู่ที่บ้านก็ได้นะคะ ปิ่นมีเงินเก็บอยู่ก้อนนึงปิ่นจะให้พี่แจ่มนะคะ" ผมยืนกอดอกมองคนสองคนนั่งคุยกันโดยที่ยังไม่เข้าไปขัด
"พี่ไม่รับค่ะพี่จะไปกับคุณปิ่นคุณปิ่นไปไหนพี่ก็ขอไปด้วย"
"แต่ปิ่นยังไม่รู้เลยว่าจะไปอยู่ที่ไหน"
"เธอไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้นปิ่นปัก" พอผมพูดจบประโยคยัยน้องสาวนอกไส้ของผมก็หันมาทันทีพอเห็นหน้าผมก็มีสีหน้าตกใจจนซีด
"พี่นนท์!!!!"
"ฉันไม่ใช่พี่เธอเธอไม่ใช่ลูกสาวของพ่อฉันฉะนั้นอย่ามาสะเออะเรียกฉันว่าพี่เพราะฉันไม่มีน้องสาวอย่างเธอเธอมันก็แค่ลูกของผู้หญิงสารเลวหน้าด้านไร้ยางอายเพราะแม่ของเธอทำให้พ่อของฉันต้องตายเธอต้องชดใช้ อยู่เป็นคุณหนูมาตั้งแต่เกิดแล้วนี่ลองมาเป็นขี้ข้าดูบ้างจะเป็นไรไป" ตอนแรกที่ผมคิดไว้ผมคิดว่าจะจัดการไล่ยัยนี่ให้ออกจากบ้านไปซะเพราะผมไม่อยากเจอหน้าไม่อยากเห็นหน้า แต่พอมาได้ยินว่ายัยนี่จะไปเองผมก็เลยไม่ยอมให้ไปง่ายๆ ในเมื่อไม่อยากอยู่แต่ผมจะให้อยู่