บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 คนตายไปแล้ว

เมิ่งซูเม่ยถูกมือหนาหยาบกร้านของพี่ชายกระชากออกมาอีกครั้ง จนนางล้มอีกเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้ดูจะรุนแรงมากจนเกินไป แม้บิดาจะทำท่าจะปกป้อง เพียงแค่เห็นสีหน้าของลูกชายคนโตก็ต้องล่าถอยไป ยืนอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์กล่าวหาลูกของข้าแบบนี้!” ซูหลิวตวาดเสียงดัง นางยอมไม่ได้ที่เห็นว่าคนพวกนี้รุมรังแกลูกสาวของนาง

แถมยังกระทำตัวเหนือกฎหมายเป็นกฎหมู่เสียอย่างนั้น เช่นนี้แล้วมารดาอย่างนางจะปล่อยให้คนอื่นมารังแกกันอย่างง่าย ๆ หรือ อีกทั้งบุรุษเบื้องหน้าของนาง

เป็นคุณชายใหญ่แล้วอย่างไร ในเมื่อเจ้าของจวนนี้เป็นของสามีนางและนั่นคือบิดาของคุณชายที่ยืนปั้นหน้าโกรธแค้นจะเป็นจะตาย

“คนก็ตายไปแล้ว จะอะไรนักหนา!” ซูหลิวรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะตายก็นึกสาแก่ใจนางจริง ๆ หมากตัวนี้กำจัดไปได้ ก็เหลือเพียงแค่หมากสองตัวเท่านั้น ความฝันของนางใกล้จะเป็นจริงเข้ามาทุกที

ตำแหน่งฮูหยินเอกก็คงจะหนีไม่พ้น หากกำจัดทั้งคู่ไปได้ น้ำเสียงที่ไม่สนคนจะตายนั้น ทำให้

สามีอย่างขุนนางเมิ่งต้องชะงักค้าง อึ้งไปทันใด แม้ว่าจะรักพวกนางเพียงใด แต่คำพูดนี้มิสมควรจะได้ยิน

คนที่นอนอยู่บนเตียงครึ่งผีครึ่งคนคือลูกสาวของเขานะ เช่นนั้นแล้วเขาจึงได้เดือดดาลและตวาดภรรยารองเข้าให้

“ซูหลิวเงียบปากของเจ้าเสีย!” น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ซูหลิวตกใจไม่น้อย เมื่อครู่นางเผลอปล่อยธาตุแท้ออกมา รู้สึกว่าตนเองประมาทไปแล้ว

เช่นนั้นางจึงได้เก็บปากของต้นเองเอาไว้ เม้มปากเข้าหากันแน่น ไม่ใช่เพราะโกรธสามีที่ตะคอกใส่นางอย่างเสียงดัง แต่นางกำลังจะหัวเราะอย่างดีอกดีใจต่างหากที่เห็นลูกเลี้ยงนั้นตายได้สักที

ผู้คนต่างไม่สนใจคนที่นอนหายใจรวยริน กึ่งวิญญาณกึ่งคนเป็น ยามนี้แพขนตาหนางอนงามกำลังขยับขึ้นอย่างเชื่องช้า รู้สึกปวดเมื่อยแถมยังหนาวจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว

ข้าง ๆ มีอาจิน ก้มหน้าก้มตาร้องไห้ตาบวมปูด เพราะคุณหนูของนางได้จากไปแล้ว

อาจินจับมือของเจ้านายที่ไร้การเต้นของชีพจร และมั่นใจแล้วว่าคุณหนูได้จากไปอย่างไม่มีทางหวนกลับมา ทำให้นางไม่สนใจว่า ไม่ถึงเสี้ยวอึดใจคุณหนูได้ฟื้นขึ้นมา

“ขอ...ขอน้ำหน่อย” คนที่เพิ่งจะฟื้นจากความตาย รับรู้ได้ทันทีว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้ว เพื่อแก้นแค้นสองคนนี้

ที่ทำให้นางจบชีวิต ชีวิตที่น่าสงสารและไร้หนทางต่อสู้ จากนี้ไปเมิ่งลู่หลินคนนี้จะจัดการให้เอง และแก้แค้นนังสตอเบอรี่อย่างนังน้องสาวจอมตอแหลคนนั้นให้เอง

ชาตินี้เธอกลับมาเพื่อแก้แค้น!

“คุณหนู คุณหนูฟื้นแล้ว” อาจินดีใจยกใหญ่ รีบปาดน้ำตา มองหน้าของเจ้านาย คราแรกนึกว่าหูฝาดเพราะน้ำเสียงนั้นเบาบางเหลือเกิน แทบจะไม่ได้ยินเสียงที่แผ่วเบา

เสียงของอาจินดังขึ้นท่ามกลางความเสียใจในวันนี้ เมิ่งเพ่ยเสียน หันตามเสียงของสาวใช้ เห็นดวงตากลมโตที่คุ้นเคย น้ำเสียงจะแหบแห้งไปบ้างก็ตามที

เพียงแค่น้องสาวระบายยิ้มเล็กน้อยมาให้เท่านั้น จิตใจของเขาก็ฟูฟ่องคับแน่น มีแต่ความระคนยินดีเป็นที่สุด ดวงตาหรี่เล็กของพี่ชาย อดไม่ได้ที่จะมีม่านน้ำตาเล็ก ๆ คลออยู่ที่หน่วยตาทั้งสองข้าง

“น้องรอง น้องรองเจ้าฟื้นแล้ว” พี่ชาย ละจากสตรีไร้ยางอายสองแม่ลูกนั่น มาประคองน้องสาวที่เขาทั้งรักและทั้งหวง เขาประคองให้นางลุกขึ้นมานั่งและป้อนน้ำชาดับกระหายให้นางด้วยตนเอง

“พี่ใหญ่ ท่านแม่ล่ะ” สิ่งแรกที่ถามหาคือแม่ กลัวว่านางจะเป็นอะไรไป เพราะตอนนั้นเธอแทบจะจำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่จำได้เป็นอย่างดีว่าใครเป็นคนทำนางให้ตายจากไป

ภาพที่เห็นไม่ได้ต่างจากการดูตัวเองตอนเสียชีวิตกระเสือกกะสนดิ้นรนหาทางรอด แต่ก็ว่างเปล่าและอ้างว้างโดดเดี่ยว เมื่อเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วซูฉีจะล้างแค้นให้เอง

คติพจน์สอนใจของเมิ่งลู่หลินคนใหม่

ต้องตบให้คว่ำ ขย้ำให้คามือ ‘อินังสองแม่ลูกอสรพิษ วันนี้ข้าเมิ่งลู่หลินไม่ตบพวกเจ้า อย่ามาเรียกข้าว่าคุณหนูรอง’

ดูเหมือนว่าทุกคนคงจะลืมใครบางคนไป ท่านแม่ทัพพิทักษ์แดนเหนือ เขาอยู่ที่จวนด้วย ในตอนเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ

สตรีที่เขาแอบหมายปองนางถูกทำร้ายด้วยฝีมือของใครบางคน และหนึ่งในความคิดของเขาคือ สตรีสองคนนั่น เป็นสาเหตุหลัก ๆ ในการแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจในเรือนนี้

เขาเจ็บปวดใจจนต้องแอบมาเช็ดน้ำตาของเขาเอง ที่ไม่อาจจะยื่นมือเข้าไปช่วยนางได้ทัน ช่วงที่นางต้องการใครสักคน

เขาอยากจะเป็นคนที่ได้อุ้มนาง ในช่วงสุดท้ายนี้เขาไม่อาจจะทนเห็นใบหน้างามล้ำที่เขาต้องการที่จะครอบครอง ความเสียใจนี้เขาไม่อาจจะรับได้ จึงทำได้เพียงแค่เร้นกายอยู่หลังต้นไม้เท่านั้น ด้วยความเศร้าเสียใจเช่นนี้

เมิ่งเพ่ยเสียนยิ้มอย่างยินดีอยู่ในห้องนอนของน้องสาว เมื่อครู่นางถามเขาถึงมารดา จึงได้เอ่ยตอบนางไป“ท่านแม่พักอยู่ที่เรือน เจ้าจำได้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น”

คำถามนี้ทำให้ผู้ที่บงการตกใจจนสะดุ้งเฮือก ซูหลิวมารดาของเมิ่งซูเม่ยตาถลึงใส่ลูกสาวเหมือนเชิงบอกว่าอย่าให้มีพิรุธอย่างเด็ดขาด

ซูฉีอยู่ในร่างของเมิ่งลู่หลินกำลังจับจ้องสองแม่ลูกอย่างไม่วางตา แถมยังมีสีหน้าราบเรียบมิได้แสดงออกว่าใครเป็นคนทำนางจนตาย

‘ตีงูต้องตีให้ตาย ถ้าไม่ตายมันจะแว้งกัด แต่นังสองแม่ลูกนี่ ตีให้ตายมันเร็วไป ต้องทรมานจนพวกมันตายให้สาแก่ใจกับสิ่งที่พวกใจเกินมนุษย์ช่างโหดเหี้ยม อำมหิต อย่าหาว่าฉันร้ายนะ ในเมื่อพวกแกมันเลี้ยงไม่เชื่องเอง’

ซูฉีสบถอยู่ในใจ แววตาของนางดูมีประกายเจิดจ้าขึ้น ถึงแม้จะรู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวก็ตาม ตัวเองต้องพยายามฝืนยิ้มไม่ให้พี่ชายที่อยู่ตรงนี้เป็นห่วง

แต่ทว่ารอยยิ้มนี้ช่างดูน่าหวาดกลัวพิกล

“น้องจำได้ จำได้ขึ้นใจ” สายตาที่ละจากดวงหน้าที่หล่อเหลาของพี่ชาย เธอเคยชินกับคำพูดของคนยุคนี้แล้ว เพราะฝันเห็นทุกคืน

“เป็นนาง ที่ทำร้ายข้าให้จมน้ำ นางกดหัวข้าลงสระบัว สาวใช้ของนางอีกคนด้วย” เมิ่งลู่หลินชี้มือที่ขาวซีดยังน้องสาวต่างมารดา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel