ตอนที่ 7 ข้ามาแล้ว
เมิ่งซูเม่ย ถึงกับเข่าอ่อน ไม่อาจจะเดินไหว ท่าทางหมดแรงต่อหน้าต่อตาท่านแม่ทัพใหญ่ เขาจะเพิกเฉยมิช่วยเหลือสตรีได้หรือ
เมิ่งเพ่ยเสียนเป็นคนแรกที่รู้ว่าน้องสาวตกน้ำ เขาก็รีบแตะปลายเท้าเพียงน้อยนิดเท่านั้นด้วยความเร่งรีบ เกรงว่าดวงใจน้อย ๆ จะได้รับอันตราย
อาจิน สาวใช้กระโดดลงไปในน้ำที่เย็นจัดแทบจะแข็งตายให้ได้ นางรีบคว้าตัวของเจ้านายเข้ามาในอ้อมกอด มองเห็นใบหน้านั้นซีดมากและริมฝีปากม่วงคล้ำ ด้วยที่ว่าเริ่มมีหิมะโปรยปราย
น้ำในสระบัวจึงได้เย็นจัดและมีไอเย็นเป็นหมอกจาง ๆ อยู่โดยรอบสระนี้ นางไม่เข้าใจเหตุใดจู่ ๆ คุณหนูของนางลงไปอยู่ในสระบัวนี้ได้อย่างไร
ไม่มีใครมาช่วยสักคน อาจิน อุ้มเจ้านายตะเกียกตะกายขึ้นมาจากสระที่กว้างและลึกนั้นอย่างทุลักทุเล ขึ้นมาได้แล้ว อาจินตัวสั่นไปหมด แต่เห็นสีหน้าของคุณหนู อาจินถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาไม่หยุดหย่อน
“คุณหนู! คุณหนู! คุณหนู!” สาวใช้ร่างเล็ก ๆ อย่างอาจิน ส่งเสียงเรียกเจ้านายด้วยความเจ็บปวดใจ
ทั้งเขย่าตัวเพื่อให้น้ำที่เข้าไปได้สำลักออกมา
แต่ก็ไร้วี่แวว มือเรียวของนายสาวกำปิ่นหยกเนื้อดีเอาไว้แน่น ชีพจรของนางเริ่มอ่อนแรง ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด ริมฝีปากม่วงคล้ำหนักขึ้นกว่าเดิมมากนัก
“ฟื้นสิเจ้าค่ะ คุณหนูฟื้นขึ้นมาสิ! อย่าให้ข้าเป็นห่วง” น้ำเสียงนี้บ่งบอกเป็นอย่างดีว่านางร้อนใจขนาดไหน ที่เห็นเจ้านายที่น่ารักและใจดีมีเมตตาต่อบ่าวไพร่ นอนแน่นิ่งอยู่เช่นนี้
ฮูหยินเอกได้ยินเสียงเอะอะของอาจิน นางก็รีบทิ้งของในมือวิ่งพรวดพราดมายังต้นทางของเสียง เมื่อเห็นร่างเปียกชุ่มเต็มไปด้วยน้ำ นางถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่ได้
“ลูกแม่! ลูกแม่! เจ้าฟื้นสิ!” หลีม่าน ฮูหยินเอก มารดาของเมิ่งลู่หลิน โอบกอดลูกสาวเข้าแนบอก ก้อนเนื้อของนางแทบจะแตกสลายไม่เหลือเศษเสี้ยวเดียวเสียด้วยซ้ำไป
“ใครกันที่มันกล้าทำร้ายลูกข้า!” น้ำเสียงกรุ่นโกรธไม่เบา ส่งผลให้อาจินร้องไห้หนักขึ้นมาทันใด เป็นความผิดของนางเองที่ไม่ดูแลให้ดี ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา
“ท่านแม่ปล่อยน้องรองก่อน ข้าจะอุ้มนางกลับห้อง อาจินเจ้าพาท่านแม่ไปพักผ่อน แล้วให้พ่อบ้านไปตามท่านหมอมาด้วย” พี่ชายที่แสนดีช้อนก้นน้องสาวขึ้นอุ้มนางเข้าแนบอก แม้ว่าเนื้อตัวของนางจะเปียกชุ่มก็ตามที
สายตาเขียวเข้มดุดันมองไปยังสตรีร่างเล็กที่หลบอยู่เบื้องหลังบิดา ทำทีว่าหวาดกลัวยิ่งนัก น้ำเสียงที่เขาสั่งการ อาจิน แม้จะเรียบแต่ทว่าดูทรงอำนาจยิ่ง
จากนั้นจึงได้เอ่ยน้ำเสียงเหี้ยมและคำชี้ขาดขึ้นอย่างไม่เกรงใจบิดาที่กำลังปกป้องสตรีน้อยนางนี้เอาไว้ เขามิอยากจะถือสาหาความ แต่ครั้งนี้มันเกินไป จะเอาชีวิตน้องสาวของเขานะรึ มันง่ายไปหรือไม่
คนอย่างเขามิยอมให้ใครมารังแกน้องสาวเพียงคนเดียวหรอก บิดาก็บิดาเถิด“ท่านพ่อ เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้สาสมหากเป็น คุณหนูสามละก็! ข้าจะไม่ละเว้นแน่! นางต้องชดใช้!”
ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมนั่น มีสตรีบอบบางที่จมน้ำไปนานอาการย่ำแย่กึ่งเป็นกึ่งตายหายใจรวยรินอยู่บนเตียงนอนเปลือกตาของนางยังคงปิดสนิทอยู่เช่นเดิม
ผิดเพียงแค่ใบหน้างดงามยามนี้กำลังซีดออกจะม่วงคล้ำ คล้าย ๆ ราวกับว่านางกำลังจะจากไป ริมฝีปากก็ไม่ต่างกัน เนื้อตัวของนางเย็นเฉียบ
ขนาดมีกระถางไฟตั้งอยู่ใกล้ ๆ ร่างกายให้ความอบอุ่น แต่ทว่าคนตัวเล็กร่างกายอ่อนแอ เพิ่งจะฟื้นไข้ได้ไม่นาน วันนี้ก็ตกน้ำไปอีก
ท่านหมอมาตรวจชีพจรแล้ว เขาไม่แน่ใจยังจะจับเส้นชีพจรที่ข้อมือของนางหลายครั้งหลายหน สีหน้าของท่านหมอชราดูจะมีความกังวลติดอยู่ คิ้วกระบี่ขมวดมุ่นอย่างเสียใจ
จนท่านหมอจำต้องเอ่ยพูดกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า สตรีผู้นี้อาภัพนัก ยังไม่ทันได้ออกเรือนชีวิตก็หาไม่แล้ว
“ขออภัยพวกท่านด้วย ชีพจรของนางเต้นช้ามาก เกรงว่าจะอยู่ได้ไม่นาน” น้ำเสียงของท่านหมอเบาบางแต่ทว่า ทำให้คนข้างในห้องที่รอคอยความหวังแทบจะเป็นลมล้มพับ
มารดาที่แสนจะรักลูกสาวมากเพียงใด ได้ยินเช่นนั้นแล้ว หัวใจนางแทบแตกสลาย ไม่อาจจะต่อติดได้ จึงลุกขึ้นพร้อมกับใบหน้างามที่ติดซีดเซียวเล็กน้อย
เข้าไปสวมกอดลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าข้างในยังมีความหวัง แต่ก็คงเข้าใจเป็นอย่างดี นางกอดแนบแน่นอยู่เช่นนั้น พร่ำเพ้อเรียกชื่อของเมิ่งลู่หลินแทบจะสิ้นลมลงไป
อาจินรีบเข้ามาประคองฮูหยินเอาไว้ เมื่อเห็นสีหน้าที่ซีดเผือดนั้นแล้วจึงได้แจ้งให้สาวใช้อีกคนพานางกลับไปพักผ่อนที่ห้อง
อาจินสาวใช้ผู้รักนายยิ่งกว่าชีวิต ยามนี้เองนางก็ป่วยเพราะลงไปช่วยเจ้านายให้ขึ้นมาจากน้ำ ถึงจะตัวร้อนจับไข้ ไอคอกแคกทรมานเพียงใด
หน้าที่ของนางคือดูแลคุณหนูที่แสนดีผู้นี้ มือเรียวของอาจิน จับกุมมือที่เย็นเฉียบของคนหลับเอาไว้ ท่ามกลางสายตาของบ่าวในจวนมากมาย ที่นั่งเรียงรายรอคุณหนูที่มีจิตใจเมตตาให้ฟื้นขึ้นมา
“คุณหนู ท่านตื่นขึ้นมาสิเจ้าคะ” น้ำเสียงแหบแห้งพร้อมน้ำตาที่ไหลรินราวกับทำนบแตก
เมิ่งเมิ่งเพ่ยเสียนพี่ชายที่รักน้องสาวมากที่สุด เขาไม่อาจจะทำใจได้ น้องสาวของเขาเพียงแค่คนเดียว ยังดูแลไม่ได้ ปล่อยให้สตรีหน้าด้านไร้ยางอายกลั่นแกล้งจนถึงแก่ชีวิต
เรื่องเช่นนี้มีหรือเขาจะปล่อยวาง หันมองไปยังคนตัวต้นเรื่องผู้ก่อเหตุยืนเกาะแขนบิดาแน่น ยังมีน้ำตาไหลร่วงหล่นลงมา ทำให้เมิ่งเพ่ยเสียนเดือดดาลไม่น้อย
โทสะอันแรงกล้าทำให้เขาดูราวกับมัจจุราชที่กำลังจะเอาชีวิตของใครคนหนึ่ง ชดเชยกับสิ่งที่เขากำลังจะเสียไป สายตาเขม็งจ้องไปยังคุณหนูสาม เขาก้าวย่างสามขุมเข้าไปประชิดตัวนาง
กระชากร่างบอบบางของนางจนตั้งหลักไม่ทันล้มลงต่อหน้าต่อตาบิดา ขุนนางเมิ่งอ้าปากค้างดวงตาเบิกกว้าง ไม่นึกว่าบุตรชายจะฉุนเฉียวถึงเพียงนี้
มันเป็นอุบัติเหตุ นางไม่ได้ตั้งใจเท่านั้น
“บอกมา เจ้าทำอะไรน้องสาวข้า!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดดังลั่นห้อง พร้อมกับยืนกอดอก จ้องมองเหมือนจะบีบคอนางให้ตายคามือ สีหน้าของเขาทำให้เมิ่งซูเม่ยหวาดกลัวจนลนลานทำอันใดไม่ถูก
นางคลานเข่าเข้าไปกอดขาของบิดา ร้องไห้อย่างน่าเวทนาสงสารยิ่งนัก “พี่ใหญ่ข้าไม่ได้ทำอะไร พี่สาวนะเจ้าคะ” เสียงสั่นเครือพร้อมกับเอ่ยออกมากับพี่ชาย ถึงเขาจะไม่เคยเรียกนางสักครั้งว่าน้อง