บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 ตกน้ำ

“ขอบคุณท่านพ่อเจ้าค่ะ” น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นท่าทางนั้นปิดไม่มิดดีอกดีใจกระโดดโลดเต้นหลังจากที่บิดานั้นออกจากห้องนอนไปแล้ว

หารู้ไม่ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของซูฉี นางมารร้ายยืนแยกเคี้ยวจ้องจะเขมือบหัวสองแม่ลูก อสรพิษในคราบสาวงามผู้อ่อนแออน่าทะนุถนอม

ส้นเท้าน้อย ๆ ลอยขึ้นมาหมายจะยกมายันใบหน้างาม ๆ ของนังเด็กเหลือขออย่างเมิ่งซูเม่ย คำพ่นที่เอ่ยออกมาจากปากเล็กจิ้มลิ้มของซูฉี มีแต่คำหยาบคายฟังไม่ได้สักคำ

ถ้อยวาจากล่าวต่อว่า พ่นไฟใส่แบบไม่ยั้ง หากอีกฝ่ายได้ยินคงจะต้องตกตะลึงจนตาค้างเป็นแน่ เธอพ่นคำด่ายังกับร้องแร็ปแข่งกับแร็ปเปอร์ อย่างไรอย่างนั้น

อีกทั้งแขนทั้งสองข้างยกขึ้นเท้าเอวเหมือนแจกันมีหู แต่เปลี่ยนจากแจกันเป็นดวงจิตที่ดันโผล่มายุคโบราณเช่นนี้ ซูฉีค่อนขอดอยู่นาน ถ้อยคำสุดท้ายที่ออกจากปากคือ

‘ฝากเอาไว้ก่อน แค้นนี้ต้องชำระ’ ก่อนที่ทุกอย่างที่เห็นเบื้องหน้าจะจางหายไป พร้อมกับได้ยินเสียงของคนด้านนอกที่ตะโกนเข้ามาอีกครั้ง

ซูฉี สะดุ้งตื่นมาในเช้าอีกวันหนึ่ง หลังจากได้ล้มตัวนอน มือของเธอยังมีเครื่องมือสื่อสารอยู่ แต่เธอนั้นเผลอหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมา สายตามองไปยังรอบ ๆ ห้อง พลางถอนหายใจแบบเหนื่อยหน่าย

มือเรียวยกกำปั้นขึ้นและทุบลงที่ฟูกนอนของตนเองด้วยความคับแค้นใจ ที่ช่วยคนอ่อนแอ อย่างเมิ่งลู่หลินกับคุณแม่คนสวยไม่ได้

ไม่นานเสียงด้านนอกก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นเสียงของผู้หญิงและคุ้นหูเป็นอย่างดี ก่อนจะตื่นนอนมีความแค้นกับสองแม่ลูกนั่นนึกไม่ถึงเหยื่อก็มาโผล่หัวหน้าห้อง เห็นทีว่าจะต้องประเคนอะไรให้สักหน่อยจะได้เลิกมาวุ่นวายกับเธอ

ซูฉีเปิดประตูออก ก็เห็นกับน้องสาวจอมตอแหล ยืนยิ้มแป้น ยั่วให้เธอโกรธ “เสนอหน้ามาทำไม หรืออยากจะกิน...ตี...น ของพี่รึอีตอแหล”

เรื่องราวหลังจากที่ซูฉีได้พูดคุยกับน้องสาวต่างแม่ไป ไม่นานก็พบกับร่างไร้วิญญาณของเธอใกล้กับแม่น้ำสายหลักของเมือง สภาพร่างกายของเธอถูกพันธนาการด้วยเชือกหนา ทั้งมือและข้อเท้า น่าเวทนาไม่น้อย ร่ากายมีร่องรอยถูกของแข็งตี บาดแผลทั่วเรือนร่างที่เปลือยเปล่า เธอถูกย่ำยี และถูกทารุณอย่างโหดร้าย

ไร้เสื้อผ้าสักชิ้นติดร่างกายของเธอ ตอนนี้เธอกลายเป็นดวงวิญญาณเร่ร่อน มีแต่แรงอาฆาตพยาบาทมาดร้ายอย่างแรงกล้า นังน้องสาวนั่นหลอกเธอไป บอกว่าพ่อป่วยหนัก

เธอจึงยอมเชื่อใจอีกฝ่ายไม่คิดว่านังน้องสาวตัวดี วางแผนให้เธอถูกรุมโทรมจนตาย นำเอาศพเธอมาทิ้งอำพรางคดี ใครจะช่วยเหลือเธอได้ ในเมื่อกล้องวงจรปิดก็ไม่มี หลักฐานต่าง ๆ ก็ไม่มี สุดท้ายเธอก็ต้องไม่ได้รับความเป็นธรรมจะเรียกร้องกับใครได้

ดวงตาแดงก่ำเหมือนมีโลหิตสีแดงอยู่ในนั้น เธอเหมือนราวกับภูตผีปีศาจร้ายช่างน่ากลัวยิ่ง ไม่นานดวงวิญญาณของเธอก็ถูกดึงไปยังยุคโบราณ ภาพเบื้องหน้าที่เห็นนั้น เธอไม่รู้ว่าที่นี่ผ่านมากี่วันแล้ว แต่เธอมายืนอยู่ระหว่างหญิงสาวสองคนที่พูดกัน และดูเหมือนจะสนิทสนมแนบแน่นกันขึ้นกว่าเดิม

เมื่อเห็นเช่นนั้นซูฉีอยากจะร้องไห้ออกมาเสียเหลือเกิน ยังจำเหตุการณ์วันที่ถูกผู้ชายพวกนั้นย่ำยีและทำร้ายเธออย่างแสนสาหัส เธอขอร้องพวกมัน แต่...เหมือนแค่เสียงลมพัดผ่านไป

พวกมันเป็นไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บปวดทรมานขนาดไหน อีน้องเลวนั้นยังมีหน้ายืนมองแถมยังหัวเราะราวกับคนบ้า อีนังแม่เลี้ยงอีกคน ที่นั่งหน้ายิ้มแย้ม คนพวกนี้สมควรตายอย่างยิ่ง

“พี่สาว มาดูปลากับข้าสักครู่นะเจ้าค่ะ ข้าเพิ่งได้ปลาสีสวยมาใหม่” เมิ่งซูเม่ย แสร้งพูดเสียงอ่อนหวาน เรียกทุกคำมีแต่พี่สาวและน้องสาว

หลังจากที่เมิ่งลู่หลินกลับมาอยู่ในเรือนของนาง เมิ่งซูเม่ยก็เทียวแวะเวียนไปหา สอบถามอาการเจ็บที่หัวเข่า ของพี่สาวอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้เมิ่งลู่หลินใจอ่อนและคิดว่าน้องสาวคนนี้ไม่ได้เลวร้ายอะไร

เป็นนางเองที่ตั้งแง่รังเกียจน้องสาวจนเกินไป และเป็นลูกที่อกตัญญูยิ่งนัก ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายเพราะตนเอง ดังนั้นนางจึงได้พูดคุยและเข้าใจน้องสาวมากขึ้น จนกระทั่งไว้เนื้อเชื่อใจ

“อืมก็ได้” พี่สาวตอบกลับ พร้อมกับเดินมายังสระบัวที่น้องสาวพูดขึ้น

เมิ่งซูเม่ยยิ้มเข้าทางทันที เมื่อสบโอกาส คนในจวนส่วนมากอยู่ที่เรือนใหญ่กันหมด ทางนี้ก็ปลอดโปร่งโล่งสบายจะได้จัดการกลั่นแกล้งพี่สาวสักเล็กน้อย

สาวใช้คนหนึ่งแอบดูต้นทางอีกคนประกบกับคุณหนูรองเอาไว้ อาจินสาวใช้ของเมิ่งลู่หลินนำขนมเข้าไปในห้องรับรองที่มีท่านแม่ทัพ และพี่ใหญ่อยู่ในนั้นด้วยอีกคน

เมิ่งลู่หลินชะโงกหน้าไปดูตัวปลาเล็ก ๆ ที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำที่สระบัว มันดูใสสะอาดจนมองเห็นตัวปลา แต่แล้วเมื่อชะโงกลงไป กลับมีมือของใครบางคนกดที่ศีรษะของตนเองลงไปในสระบัวขนาดใหญ่ นางพยายามเอาตัวรอด ยกมือขึ้นปัดไปมาหลายครั้ง แต่ก็ไร้ที่ยึดเหนี่ยวกายให้เงยหน้าขึ้นมา

ซูฉีพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ใบหน้าซีดและมีเส้นเลือดสีม่วงคล้ำดูน่ากลัวนั่น พยายามอย่างสุดแรง แต่ก็ไม่อาจจะทำอันใดได้ ดวงวิญญาณของซูฉี ทั้งพูดด่าต่อว่า กระชากคนพวกนั้นออก แต่ก็เหมือนเช่นเดียว คว้าได้เพียงแค่ความว่างเปล่าเท่านั้น ยิ่งเพิ่มความโกรธแค้นอย่างบ้าคลั่ง

ในจังหวะนั้นเองมือเรียวของเมิ่งลู่หลินหยิบปิ่นปักผม ที่เหมือนกันกับของซูฉีในตอนนี้ นางดึงมันออกมาและปักเข้าที่มือของใครคนหนึ่งอย่างสุดแรง เรี่ยวแรงทั้งหมดของนาง

สาวใช้ผู้ที่มีจิตใจต่ำช้า มิได้ต่างจากนายตนเอง รู้สึกเจ็บปวดจนและมีเลือดไหลซึมออกมา แผลนั้นเป็นรูกลมโบ๋แต่ทว่ามันตัดเข้าให้ที่เส้นเลือดพอดี จึงส่งผลให้สาวใช้รีบปล่อยมือจากร่างกายอ่อนปวกเปียก ทำให้คุณหนูรอง ลงไปอยู่ในสระบัวเสียแล้ว

ซูฉี เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ท่ามกลางความสิ้นหวัง มาเห็นจุดจบที่คงจะไม่ได้ต่างกัน คนหนึ่งถูกย่ำยีจนตาย อีกคนก็ถูกน้องสาวแกล้งจนตาย ช่างน่าอนาถใจเหลือเกิน

เมื่อเมิ่งซูเม่ยเห็นตกใจว่าพี่สาวนั่นแน่นิ่งไปแล้ว พื้นผิวน้ำนิ่งเรียบนางจึงได้วิ่ง เข้าไปขอความช่วยเหลือด้านในห้องโถงใหญ่ นางพูดอย่างร้อนรนและร้อนใจยิ่งนัก ไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะผิดพลาดขึ้นมาได้

“ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ช่วยพี่สาวด้วย พี่สาวตกน้ำเจ้าค่ะ” เมิ่งซูเม่ย ตื่นตระหนกตัวสั่นงันงกน้ำเสียงสั่นเครือเจือสะอื้นไห้อยู่เป็นระลอก น้ำตาที่ไหลอาบแก้มสองข้างนั้นดูเหมือนว่านางกลัวพี่สาวจะได้รับอันตราย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel