บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9 ปกป้องน้องสาว

เมิ่งซูเม่ยเมื่อรู้ว่าพี่สาวผู้นี้ไม่ได้สิ้นใจก็รู้สึกถึงลางร้ายมาเยือน แต่ทำใจดีเอาไว้คิดว่านางคงจะไม่กล้าพูดอะไรแน่ ที่ไหนได้ ไม่เพียงพูดลอย ๆ ยังกล่าวหานางอีก

แบบนี้เมิ่งซูเม่ยจึงรีบแก้ต่างให้ตัวเอง และรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองนั้นลงมือทำกับสาวใช้จึงได้แสร้งบีบน้ำตาเพื่อเรียกร้องให้บิดาของนางหันมาสนใจ และออกหน้าให้นาง

“พี่สาว ท่านโป้ปดอันใดกัน ข้ามิเคยทำร้ายท่าน ท่านช่างใจร้าย กล่าวหาข้าเช่นนี้ได้อย่างไร” เมิ่งซูเม่ยร้อนรนหน้าซีดอย่างเห็นชัด นางเอ่ยต่อว่าพี่สาวอย่างเมิ่งลู่หลิน

“เป็นข้าที่โกหก หรือเจ้ากันแน่ เมิ่งซูเม่ย! เจ้ามันอยากได้อยากเด่น อิจฉาข้าหรือไร เจ้าก็ได้บิดาของข้าไปแล้ว เจ้าต้องการอะไรอีก” คนป่วยที่เพิ่งจะฟื้นเว้นช่วงครู่หนึ่ง จึงได้เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทว่ายามนี้น้ำเสียงของนางนั้นดูจะเกรี้ยวกราดหนักขึ้นเล็กน้อย

“ตำแหน่งคุณหนูรองของจวนรึ! ช่างฝันเฟื่องจริง ๆ” เมิ่งลู่หลินคนใหม่หรือจะยอมหากเป็นคนเก่ามีหวังเก็บปากไว้ไม่กล้าพูดออกไป ถึงเสียงจะแหบแห้งไร้เรี่ยวแรงที่จะหยัดกายลุกขึ้น

สิ่งแรกที่จะทำคือตบนังน้องสาวสารเลวนี้ และเอาบาทาน้อย ๆ ทาบลงไปที่ใบหน้าของมันให้แนบที่พื้นและขยี้มัน

ให้สมกับสิ่งที่มันได้กระทำให้สมกับความคับแค้นทั้งหมด สิ่งใดใครก่อสิ่งนั้นย่อมคืนสนองมันเป็นสัจจธรรม แต่เวรกรรมนั้นมันชักช้า สู้สองมือของเธอไม่ได้

“เจ้ากล้าดีอย่างไร มากล่าวหาลูกข้า พวกเจ้ามันรวมหัวกันใส่ร้าย” ซูหลิวเดือดขึ้นทันใดที่เห็นเหตุการณ์ไม่ดีเอาเสียเลย จากคนที่ตายไปแล้วฟื้น

“ท่านพี่ ท่านพี่ช่วยลูกด้วยนะเจ้าคะ พวกมันใส่ร้ายลูกของเรานะเจ้าคะ” ซูหลิวรีบร้อน เกาะแขนหาที่ยึดเหนี่ยวหวังให้สามีออกหน้าช่วยสักครั้ง อย่างไรเขาก็ต้องเชื่อคำพูดของพวกนาง

“หลินเอ๋อร์ น้องสาวเจ้าไม่ใช่สตรีเช่นนั้นแน่” เมิ่งหย่งคัง ออกหน้าและเอ่ยขึ้น เขาเองก็ไม่แน่ใจแต่ก็อดที่จะคิดเข้าข้างบุตรีที่น่ารักอ่อนหวานและออดอ้อนไม่ได้ และก็เป็นอย่างที่ซูหลิวคิดเอาไว้

มีหรือสามีของนางจะไม่ออกโรงปกป้องลูกสาวที่น่ารักออดอ้อนราวกับลูกแมวน้อยแสนน่ารักน่าชัง ทุกอย่างนางสอนสั่งมากับมือ

“ท่านพ่อแน่ใจนะเจ้าคะ หากใช่อย่างที่ข้าพูดเล่า ท่านพ่อจะทำอย่างไร” ริมฝีปากซีดเซียวเป็นเส้นตรง ไม่มีรอยยิ้มให้เห็น แววตาของนางดูเย็นยะเยือกสุขมและแน่วแน่

เมิ่งลู่หลินออกตัวเช่นนี้แล้ว บิดาจึงได้ชงักงันนิ่งอึ้งไป ยามเมื่อเห็นว่าลูกสาวคนโตมีท่าทีสุขุมเย็นยะเยือกจนน่าหวาดกลัว นางเปลี่ยนไปราวกับคนละคน

“ท่านลุงขอรับ ที่นางกล่าวมามีเหตุผล คุณหนูรองก็ต้องรู้ว่าใครเป็นคนทำ มิเช่นนั้นไม่กล่าวหาคุณหนูสามแน่ ๆ ขอรับ” แม่ทัพพิทักษ์แดนเหนือเอ่ยขึ้น

เมื่อรู้ว่าสตรีที่เขาเฝ้ามองนั้นหายดีแล้ว จึงได้รีบเข้ามาในห้อง ทำทีไม่รู้สึกกับเรื่องราวใด ยามเห็นคนป่วยหน้าตาซีดเซียวเช่นนี้ ก้อนเนื้อน้อย ๆของเขาเต้นรัวหวั่นไหวระคนดีใจเป็นอย่างยิ่ง

ทว่าอยากจะตัดหัวสตรีหน้าด้านไร้ยางอายอย่างคุณหนูสามนี้เหลือเกิน ให้สาสมกับสิ่งที่นางได้กระทำ ช่างโหดเหี้ยมไร้ที่ติ ดังนั้นเขาเข้าข้างคนป่วยที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอย่างเต็มที่

มีพี่ชายโอบกอดตระกองด้วยความรัก เขารู้สึกอิจฉาที่พี่น้องคู่นี้นักที่รักใคร่กลมเกลียวกันเช่นนี้ และก็อยากจะเป็นคนที่เข้าไปกอดนางแทนสหายเหลือเกิน

“ขอรับ ท่านแม่ทัพ” เมิ่งหย่งคังเอ่ยขึ้นท่าทางนอบน้อมกับอีกฝ่ายไม่น้อย ตำแหน่งของเขานั้นแค่ขุนนางขั้นสี่

แต่ทว่าท่านแม่ทัพผู้นี้เป็นถึงขุนนางขั้นหนึ่งและยังมีฐานะเป็นเชื้อพระวงศ์อีกด้วย แม้จะไม่ยอมรับตำแหน่งนั้นก็ตามที

ทหารภายใต้สังกัดของเขานั้นมีเรือนแสน ใครจะกล้าต่อกรกัน เขาคงหนึ่งที่ไม่กล้า เพราะเขาโหดเหี้ยม อำมหิตอีกอย่างเขาเป็นคนเถรตรงยิ่งนัก หากออกปากแล้ว ไม่มีสิ่งใดไม่ได้

อาจิน นั่งอยู่เบื้องล่าง กระหยิ่มยิ้มเมื่อเห็นเจ้านายของนางเองตีฝีปากกล้า คิดว่านางหายดีแล้ว มีแต่ความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และคราวนี้คนที่ทำร้ายคุณหนูไม่รอดเป็นแน่

“ท่านแม่ทัพเจ้าคะ สาวใช้ของนางถูกข้า ดึงปิ่นปักเข้าให้ น่าจะเป็นฝ่ามือหรือไม่ก็แขนของนางเจ้าค่ะ” เมื่อครู่นางกำลังทบทวนอยู่ว่า สาวใช้หรือน้องสาวจอมตอแหลคนนี้

เมื่อนึกได้ว่าสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทีบาดเจ็บ เช่นนั้นจะต้องเป็นสาวใช้ของนางเป็นแน่ คิดหรือว่าจะรอดฝันไปเถิด วันนี้วันตายของนังงูพิษ

‘วันนี้แม่จะตีให้หลังหักคอยดูเถอะ แล้วนังสาวใช้ตัวดีวันนี้ต้องตายเท่านั้น ถ้าไม่ตาย ต้องขายไปหอนางโลม’ แผนร้ายได้ผุดขึ้นมาทันที ซูฉี คลี่ยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น

“ท่านพ่อ พี่สาวพูดเรื่องอะไร สาวใช้ของข้าหาได้ทำอะไรไม่ เมื่อเช้านางหกล้มมีเลือดออก หากเป็นเช่นนี้แล้ว พี่สาวใส่ความและยังกล่าวหาข้าอีก” เมิ่งซูเม่ยรีบแสร้งพูดทันที เมื่อเห็นว่าภัยนั้นกำลังคืบคลานเข้ามา

“พี่ใหญ่จัดการให้น้องด้วยนะเจ้าคะ ข้าเหนื่อยอยากพักผ่อน”

“พี่จะลากมันที่ทำร้ายเจ้าลงโทษให้สาสม หากมันไม่ตายพี่จะทำให้มันตายอย่างทรมาน”

สิ้นเสียงพี่ใหญ่ คุณชายใหญ่ของจวนหรือกุนซือข้างกายของท่านแม่ทัพ ได้เอ่ยเรียกสาวใช้ของจวนออกมาจนหมดไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าจะต้องเป็นสาวใช้ข้างกายของใคร

ผู้เป็นบิดาขุนนางเมิ่ง แม้มีใจรักและเอ็นดูบุตรสาวคนเล็ก แต่หากกลั่นแกล้งกันเกินไปเห็นทีจะต้องลงโทษบ้าง มิเช่นนั้นเขาจะกลายเป็นว่าให้ท้ายคนผิด

จุดนี้เมื่อคิดไตร่ตรองให้ถ้วนถี่แล้ว อย่างไรตนเองก็เป็นถึงผู้ใหญ่ในบ้าน ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ลึก ๆ แล้วมิอยากจะให้ลูกสาวคนเล็กนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องเลย พ่อบ้านที่ยืนเนื้อตัวสั่นนั่นก็เริ่มหวาดกลัวไม่น้อย

ด้วยเพราะคุณชายใหญ่ไม่ค่อยจะชอบวุ่นวายเรื่องในจวนสักเท่าไหร่

ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมารดา แต่เนื่องเพราะว่านางนั้นร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงหลังจากคลอดน้องสาวออกมา

เรื่องในจวนสี่ส่วนเลยเป็นหน้าที่ของพ่อบ้านที่ดูแล และแน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เป็นความผิดของเขาด้วยเช่นเดียวกัน

เมื่อได้รับคำสั่งก็เร่งไปเอ่ยเรียกสาวใช้ที่มีอยู่ออกมาให้หมด เรื่องร้ายแรงเช่นนี้เกรงว่าผู้กระทำความผิด คงจะถูกลงโทษอย่างแสนสาหัส ที่ทำให้คุณหนูรองได้รับอันตรายเกือบถึงแก่ชีวิต

สาวใช้เดินหน้าเศร้าสลดกันเข้ามา และนั่งลง ต่างคนต่างสงสัยกันและกันบางคนจำเป็นต้องหาพยานยืนยันว่าตนเองนั้นอยู่ที่ไหนกับใคร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel